บทที่ 2618
“คนที่เกี่ยวข้อง ฉันก็ไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว”
“แต่คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ขอเพียงแค่ไม่ยั่วยฉัน ฉันก็จะไม่พุ่งเป้าไปที่เขาอยู่แล้ว”
“ถ้าในอนาคตคุณเป็นหัวหน้าตระกูลซู สิ่งที่ตระกูลซูได้ติดค้างเอาไว้ได้ชดใช้อย่างสาสมแล้ว งั้นฉันกับตระกูลซูก็ต่างคนต่างอยู่!”
ซูจือหยูพยักหน้าเบาๆ พูดเสียงต่ำ: “ขอบคุณผู้มีพระคุณ!”
สำหรับซูจือหยู แม้ว่าที่เยเฉินพูดดูเย็นชาไปหน่อย แต่อย่างน้อยบุญคุณความแค้นก็แบ่งแยกขัดเจน
เย่เฉินมองเวลา และพูดว่า: “วันนี้ตึกไปหน่อย ฉันจะให้คนพคุณสองคนส่งไปยังชานเมือง ถึงตอนนั้นจะใหมือถือ 1 เครื่องกับพวกคุณ
พวกคุณสามารถโทรแจ้งความได้ ถึงตอนนั้น ทั้งสองก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติได้”
ขณะที่พูด เขามองซูรั่วหลี และกล่าว: “ส่วนรั่วหลีค่อนข้างพิเศษหน่อย ยังไงซะเธอถูกซูโสว่เต้ายุยงเสี้ยมสอน ก่ออาชญากรรมที่ญี่ปุ่น
ตอนนี้ทั่วทั้งญี่ปุ่นตามหาตัวเธอ ดังนั้นที่อยู่ของเธอ ก็ยอให้ทั้งสองเก็บไว้เป็นความลับ ห้ามหลุดปากออกไปเต็ดขาด”
ตู้ให่ซิงพยักหน้ากล่าว: “เรื่องนี้วางใจได้ เรื่องของรั่วหลี ฉันจะไม่พูดกับใครแน่นอน”
ซูจือหยูมองชูรั่วหลี กล่าวอย่างจริงจังว่า: “ถึงในที่สุดรั่หลีก็ยังถือว่าเป็นน้องสาวของฉัน ฉันไม่มีทางให้เรื่องนี้หลุดไปข้างนอกได้”
ซูร่ำหลีได้ยินซูจือหยุพูด ในใจก็สัมผัสความอ่อนโยนของเธอได้ในทันที
ที่จริง เธอรู้มาตลอดว่าซูจือหยูเป็นพี่สาวของตัวเอง
ถึงแม้ว่าจะเป็นฟอเดียวกันแต่คนละแม่ แต่ก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน
ดั่งนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างญาติพี่น้องของเธอมีความสำคัญกว่าความสั่มพันธ์กับคนภายนอก
เพียงแต่ว่าที่ผ่านมานั้น เธออาศัยอยู่ในตระกูลซุในฐานะบอดี้การ์ด ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นซุโสวเต้า หรือจะเป็นซูจื่อหยู ซูจือเฟย ต่างก็รักษา
ระยะห่างไว้เสมอ
อีกอย่าง การเปิดเผยตัวตนของตัวเอง เธอไม่ค่อยกล้าเผชิญหน้ากับคนของตระกูลชู โดยเฉพาะซูจือเฟยและชูจือหยูน้องสาวสองคน
และก็แม่ของพวกเธอตู้ให่ซิง
ถึงอย่างไร แม่ของตนก็เป็นมือที่สามในตอนนั้น ในการเผชิญโลกนี้ การเข้าแทรกแซงครอบครัวของผู้อื่นเช่นนี้ ถึงขั้นที่มือที่สามมื
ลูกสาวนอกสมรสด้วยกัน เป็นที่น่รังเกียจที่สุต โดยเฉพาะประสบพบเจอกับความเรี้ยวโกรธของสมาซิกในครอบครัวเต้ม
แต่ว่า สิ่งที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ ซูจือหยูไม่ได้แสดงความรู้สึกตำหนิหรือโกรธเคืองตนเลย และเธอยังเป็นคนเรั่มพูดว่าตัวเองคือน้องสาวของ
เธอ ซึ่งมันทำให้เธอซาบซึ้งใจมากจริงๆ
ครั้นแล้ว เธอสะอีกสะอื้นและโค้งคำนับให้ตู้ให่ชิงและซูจือหยูตามลำดับ พูดด้วยความเคารพว่า: “ขอบคุณคุณผู้หญิง ขอบคุณคุณหนู…”
คุณผู้หญิง คุณหนู นี่คือสิ่งที่ซูรั่วหลีเรียกตู้ให่ชิงและซูจื่อหยูเสมอ
แม้ว่าก่อนหนำานี้เธอจะเป็นบอดี้การ์ดให้ตระกูลชู แต่เป็นบอดี้การ์ดที่ตระกูลซู และเป็นลูกน้องด้วย ดังนั้นจึงต้องเรียกสมาชิกโดยตรง
ของตระกูลซูอย่างยกย่องเคารพก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
ตู้ไห่ซิงได้ยินดังนั้น รีบพูดว่า: “รั่วหลี ต่อไปไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณผู้หญิงแล้ว เรียกฉันว่านำาแล้วกันนะ”
ซูจือหยุก็เดินก้าวมาข้างหน้า จัมแขนชูรั่วหลีเบาๆ กล่าวอย่างจริงจังว่า: “ถั่วหลี ในเมื่อเราเป็นสายเลือดเดียวกันครึ่งหนึ่งแล้ว งั้นคุณก็เป็น
น้องสาวของฉัน คุณหนูคำนี้ไม่ต้องเรียกแบบนี้อิกแล้วนะ ถ้าคุณก็เห็นด้วยกับสิ่งนี้ ตั้งแต่วันนี้ไปก็เรียกฉันว่าพี่สาว
ซูร่ำหลีประทับใจจนน้ำตาไหล มองซูจือหยู เริยกเธอพร้อมน้ำเสียงร้องไห้ว่า: “พี่สา…
ซูจือหยุยื่นมือมาเช็ดน้ำตาของเธอ ถอนหายใจเมาๆ และพูดอย่างจริงจังว่า: “โธ่…วหลี หลายปีมานี้ ตระกูลซูต้องขอบคุณคุณแล้ว ต่อ
ไปพี่สาวจะต้องตอบแทนคุณแน่นอน….