บทที่ 2723
“จริงหรอคะพ่อ! ดีจัง! มันดีมาก .จริงๆค่ะ! ”
เหออิงซิ่วที่ได้ยินแบบนั้น ถึงกับตื่นเต้นมาก เมื่อเห็นว่าพ่อมีท่าทางกระปรี้กระเปร่า จึงรู้สึกดีใจมาก ชั่วพริบตาเดียวน้ำตาก็เอ่อลันออกมา
เธอรู้ดี การบุกทะลวงเส้นลมปราณเส้นที่สี่ เป็นความหวังสูงสุดของพ่อ
เดิมที รวมถึงพ่อและคนอื่นๆต่างคิดว่าวันนี้จะไม่มีวันมาถึง แต่คิดไม่ถึงว่า วันนี้จะเกิดขึ้นจริงๆ!
เหออิงชิ่วน้ำตาไหลรินออกมา เหอหงเซึ่งเองก็ดวงตาเปียกขึ้น
เขาพูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า”คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าฉันเหอหงเซิ่งจะมีวันที่บุกทะลวงเส้นลมปราณเส้นที่สี่สำเร็จ ในที่ก็ไม่ทำให้บรรพบุรุษตระกูล
เหอของเราผิดหวัง
พูดจบ เขาก็รู้สึกตื่นเต้น และซาบซึ้งมากยิ่งขึ้น
เหออิงซิ่วรีบถามขึ้นมาว่า”พ่อคะ ตอนนี้เส้นลมปราณเส้นที่สี่ของพ่อบุกทะลวงไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้วคะ? !”
เหอหงเซิ่งกล่าว”บุกทะลวงไป10% แต่อนาคตจะต้องมีโอกาสทำให้สูงขึ้นอย่างแน่นอน! เรื่องจากตอนนี้เส้นเริ่นได้ทำสำเร็จแล้ว เส้นตูก็สูงขึ้น
จาก50%เป็น70%แล้ว ในการฝึกฝนเส้นลมปราณเริ่นและเส้นลมปราณตูเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด นี่เท่ากับกางวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการฝึกฝนใน
อนาคต จากนี้ไปการฝึกฝนจะเปลืองแรงน้อยแต่ได้ผลงานมาก! ”
เหออิงซิ้วพยักหน้า และพูดอย่างตื่นเต้นว่า”หนูว่าหลังจากที่พ่อกินยาเม็ดที่สองเข้ามา สภาพร่างกาย หน้าตาดูสดชื่นขึ้นมากเลยค่ะ คาด
ว่าการที่พ่อจะอายุยืนนานร้อยปีไม่ใช่ความฝันแน่นอนค่ะ นาคตจะต้องสามารถยกระดับกาฝึกฝนได้อย่างต่อเนื่อง ไม่แน่อาจจะสามารถบุกทะลวง
เส้นลมปราณเส้นที่ห้าสำเร็จก็เป็นได้ เป็นการยกระดับตระกูลเหอของเรา! ”
เหอหงเซึ่งพูดอย่างสะท้อนใจว่า”ถ้าพ่อมีวันนั้นจริงๆ ถึงตายก็ไม่เสียดาย! ”
พูดจบ เขาก็รีบพูดขึ้นมาว่า”อิงซิ่ว ตอนนี้ระดับการฝึกฝนในปัจจุบันของลูกก็ดีขึ้นมากเหมือนกัน อีกทั้งลูกมีพรสวรรค์ ถึงจะเสียแขนข้างหนึ่ง
ไป ทำให้มีผลต่อการต่อสู้ไม่น้อย แต่ช่องว่างการฝึกฝนไม่มีเรื่องลดทอนอะไรหรอก จากมุมมองของพ่อ ลูกอาจจะลุกขึ้นมาฝึกฝนใหม่ จะต้องมีความ
ก้าวหน้าแน่! ”
เหออิงซิ่วถึงกับตกอยู่ในภวังค์ความเงียบ
อันที่จริง เธอไม่ได้ละทิ้งการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้อย่างสิ้นเชิง
เพียงแต่ เธอไม่เหมือนตอนเด็กแล้ว ที่ทั้งตัวและจิตใจอยู่ที่การฝึกฝน
วิถีของศิลปะการต่อสู้นั้น คล้ายกับนักกีฬาอาชีพมาก
ถ้าอยากสร้างความแตกต่าง ก่อนอื่นจะต้องวางศิลปะการต่อสู้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต ตลอด24ชั่วโมงในทุกๆวัน จะต้องใช้ในระบบ
อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ตั้งใจฝึกฝน ถึงจะมีโอกาสทำสำเร็จได้
ก็เหมือนกับนักกีฬปิงปอง คนยังไม่ถึงโต๊ะแข่งก็เริ่มฝึกซ้อมอย่างบ้าคลั่งแล้ว จนถึงอายุยี่สิบกว่าถึงจะสามารถไปยืนจุดสูงสุดได้ ระหว่างนี้
จะต้องแน่ใจว่าลมฝนไม่อาจมาหยุดยั้งการฝึกซ้อมอย่างหนักได้
นับจากที่เหออิงซิ้วได้รับบาดเจ็บ จากสภาพนักฬาอาชีพ นถอนตัวออกจากการเป็นนักฬาอาชีพ ใช้เวลาส่วนใหญ่ในทุกๆวันดูแลรั่วหลี
เวลาที่ตนเองจะฝึกซ้อมจึงมีน้อยมากๆ
ถึงแม่ในทุกวันจะสามารถเจียดเวลาออกมาได้สองสามชั่วโมง แต่ก็ยังห่างไกลจากความต้องการของนักกีฬาอาชีพ
ในทุกครั้งที่พ่อของเธอให้เธอลุกขึ้นมาใหม่ สิ่งที่พูดถึงก็คือการให้เธอกลับมาในทิศทางของการฝึกซ้อมเป็นนักกีฬาอาชีพ
อันที่จริงเธอก็อยากตั้งใจฝึกซ้อมเหมือนที่พ่อของตนพูด แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่รับปากกับเยเฉินว่าจะไปจินหลิง อีกทั้งยังต้องเฝ้าดูแลซรั่วหลี จึง
พูดกับเหอหงเซิ่งไปว่า”พ่อคะ คุณชายเย่บอกแล้วว่า ถ้าตอบตกลงร่วมงาน จะต้องให้หนูพาสุดยอดฝืมือของตระกูลเหอสิบคนไปรับใช้เขาที่จินหลิง
อาจจะเป็นไปได้ยากที่หนูจะกลับไปฝึกซ้อมอย่างหนักเหมือนเมื่อก่อนได้”
พูดจบ เธอก็รีบพูดขึ้นมาว่า”แต่หนูจะพยายามหาเวลาออกมาให้ใช่ในการฝึกฝนให้ได้มากที่สุดค่ะ จุดนี้พ่อสบายใจได้เลย! “