บทที่ 2739

ซูโสว่เต้าโกรธเป็นอย่างมาก เซาตะหมอนออกไปไกล หันหลังแล้วเต้นออกไป ยังห้องที่อยู่ด้านขวา

สุดท้ายพอเปิดประตูเข้ามา ก็ได้กลิ่นเหม็นลอยมาแต่ไกล

เมื่อกัมลงมองดู มันห้องอะไรกันเนี่ย นี่มันส้วมหลมที่มีหลังคาไมใช่หรอ!

ในห้องไม่มีอะไรเลย ยกว้นหลุมลึกตรงกลางที่ถูกขุตไว้ มีไม้กระตานถูกพาตไว้ระหว่างหลุม ตรงกลางมีรูโผล่ออกมาให้เห็นรูหนึ่ง ด้าน
ในเป็นปฏิกูล นอกจากนั้น ก็ไม่มีอุปกรณ์บำาบัดน้ำเสียใดๆทั้งสั้น คาดว่าก่อนหน้าที่จะข่าระเสร็จ ทำได้เพียงแค่นำออกไปด้วยตัวเอง…..
ซูโสว่เต้าเข่าแทบทรุต

“ต่อจากนี้ไปถ้าต้องกำจัดเป็นระยะๆ ใครมันจะไปทนไหววะ? ”

“ประเต้นคือ ป้านฟังๆกับบานหน้าต่างพังๆ การระบายอากาศก็ไม่ค่อยดี ถ้าเกิดถ่ายหนักขึ้นมา จะต้องใช้เวลาอีกกี่ชาติถึงจะทำให้กลิ่น
เหมืนหมดไปได้? ”

ชั่พริบตาเดียว ซูโสว่เต้าก็รู้สึกว่าอนาคตของตนเองจะต้องเต้มไปด้วยความมิดมน

ที่นี่ เขาไม่มีของใช้ส่วนตัว ไม่มีโทรศัพมือถือ ไม่มีตอมวตอร์ ไม่มีอินเทอร์เน็ต กระทั่งแม้แต่แก้วไว้สำหรับดื่มน้ำก็ไม่มี จากนี้ไปตัวเอง
จะต้องนอนอยู่บนกองหญ้าในทุกวัน และตื่นขึ้นมานั่งบนเก้าอี้ไม่เก่าๆ หรืออาจจะเหมือนนักโทษได้เวลาพักผ่อนในลานที่ว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย
คาดว่า นี่จะโหดร้ายกว่าการติดคุกเสียอีก

เนื่องจาก ตอนที่ติดคุก อย่างน้อยก็ยังได้ใช้ส้วมแบบซักโครก มีเพื่อนนักโทษด้วยกัน พูดคุยคลายเหงา และยังได้ดูที่วีบ้างในโรงอาหาร
เป็นบางครั้ง กลับไปนอนในห้องขังก็ยังได้อ่านหนังสือดูหนังสือพิมพั

แต่ว่าที่ฉี่จะทำอะไรได้? แม้แต่คนที่สามารถพูดคุยด้วยยังไม่มีเลย

เมื่อคิตถึงตรงนี้ ซูโสว่เต้าซายวัยกลางคนอายุห้าสิบกว่า ถึงกับน้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

เขาไม่ใช่ชายวัยกลางคนธรรมดาทั่วไป

คนวัยกลางคนได้รับความลำบากมาตั้งแต่เด็ก

แต่ซูโสว์เต้า50กว่าปีก่อน เป็นคนที่เกิดมาพร้อมกับคาบซ้อนทองซ้อนเงิน

ซิวิตนี้เขาไม่เคยลำบากมาก่อน ไม่เคยเหนื่อยตรากตรำ มากสุดก็แค่ถูกส่งไปอยู่ออสเตรเลีย

แต่ทว่า ถึงจะถูกส่งไปอยู่ออสเตรเลิยในช่วงเวลานั้น ในทุกวันเขายังได้พักอาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ริมทะเล

เมื่อเทียบกับสถานที่แห่งนี้แล้ว มันแตกต่างราวกับสวรรตั

ในขณะที่เขากำลังทุกข์ใจอยู่นั้น ก็มีคนเปิดประตูออก แล้วเข้ามาในลาน

ซูโสว์เต้ารีบเดินออกไป ก็เห้นจ้าวหยินเซ็งกับนายทหารหลายราย ก้าวเดินเข้ามาด้านใน

จ้าวหยินชิงเห็นซูโสว่เต้า จึงพูดออกมาว่”คุณซูตรับ เราเตรียมจะเดินทางกลัมประเทศแล้ว ก่อนจะไปอยากมาดูคุณหน่อย บ้านเตี่ยวที่
คุณชายของเราจัดเตรียมไว้ให้ ไม่หราบว่าคุณพอใจไหมครับ? ”

ซูโสว่เต้าพูดอย่างร้องไม่ออก”เองจ้าว สภาพที่นี่มันแย่เกินไ……

จ้าวหยินเซิงพูดอย่างจริงจังว่า”คุณซูคุณเองก็เป็นสหายเก่าแล้ว มีบางอย่างที่คุณต้องกัดฟันสู้จะต้องผ่านไปได้แน่ๆ ลิขิตฟ้าหรือจะสู้
มานะคน ถูกไหม? ”

ซูโสว่เต้ารีบกล่าวว่า”ไม่ใจ……องขา.ย……สภาพที่นี่มันแย่จริงๆนะ ไม่งั้นน้องขายนายเข้าไปดูก่อนก้ได้ ที่นี่มันใช่คนอยู่ที่ไหนกันล่ะ?

ถึงจะเป็นคอกลาในสมัยก่อน มันก็ดูดีกว่าสภาพของที่ฉันอยู่! ”

จำาวหยินเซ็งโบกมือไปมา แล้วพูดอย่างขอโทษขอโพยว่า”ขอโทษนะครับคุณซู ผมริบนะครับ ต้องรีบไปแล้วล่ะ ผมไม่เข้าไปแล้วกัน”
พูดจบ ก็ถามอย่างยิ้มๆว่า”ไม่ทราบว่าคุณมีอะไรอยากจะฝากบอกไหมครับ? ”

ซูโสว่เต้าอยากจะพูดประโยคหนึ่งมากว่ รบกวนกลับไปบอกกับเย่เฉิน บอกว่ฉันซูโสวเต้าเxดบรรพบุรุษมันแปดชั่วอายุคน!
แต่คำพูดแบบนี้ เขาไม่กล้ำพูดแกไปเด๊ดขาด

เขาทำได้เพียงแค่ถามอย่างสะอีกสะอื้น”น้องจ้าว รบกวนฝากนายไปบอกกับคุณชายเย่ได้ไหม? ”

จ้าวหยินเชิงพยักหน้า”คุณว่ามาได้เลย ขอแค่ไม่ใช่การโจมตีส่วนบุคคล ผมจะพยายามบอกให้ครับ”

ซูโสว่เต้ารีบพูดขึ้นมาว่า”ขอให้เขาพูดกับจอมพลคามมิตไส่ไหม ว่าอย่างน้อยก็หาเฟอจอร์ในบ้นมาให้ฉันหน่อย จะให้ฉันนอนบนกอง
หญ้าแบบนี้ตลอดคงไม่ไหวหรอกใช่ไหม……”

พูดจบ ก็รีบพูดขึ้นมาว่า”อีกอย่าง ที่นี่ฉันไม่มีของใช้ในชีวิตประจำวันเลย แม้แต่แก้วชา แปรงฟันก้ไม่มี ให้โอกาสฉันหน่อยได้ไหม บอกให้
ลูกสาวฉันส่งของใช้ส่วนตัวจากในประเทศให้ฉันหน่อยได้ไหม? ”

จ้าวหยินเชิงพูดอย่างเยาะเย้ยว่า”คุณชูครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีคุณนะ คุณก็ถือได้ว่าเป็นคนที่เห็นอะไรมาเยอะ แต่คุณเห็นบริษัท
ขนส่งในประเทศบริษัทไหน กล้าส่งพัสดุมาที่ซีเรีย? “