หลังจากวางสายไป ซูรั่วหลีที่อยู่ข้างๆเย่เฉินก็รีบสอบถามว่า“คุณชายเย่คะ พี่จือหยูจะจัดงานแถลงข่าวหรอคะ?!”

“ครับ”เย่เฉินพูดอย่างยิ้มๆ“ไม่ได้แค่จัดงานแถลงข่าว อีกทั้งยังจะถ่ายทอดสดทั่วประเทศอีกด้วย ถึงเวลานั้นจะถ่ายทอดสดบนแพลตฟอร์มจำนวนมาก คาดว่าน่าจะมียอดคนดูออนไลน์ถึงสิบล้านคน”

ซูรั่วหลีถามอย่างไม่เข้าใจว่า“ทำไมคุณถึงคิดว่าเธอจะไม่ทำให้ซูเฉิงเฟิงลำบากใจคะ?นี่เป็นโอกาสทำให้ชื่อเสียงของซูเฉิงเฟิงป่นปี้นะคะ!”

เย่เฉินยิ้มเบาๆ“ดูท่าพี่สาวของคุณจะฉลาดกว่าคุณอีกนะ”

ซูรั่วหลีแลบลิ้นอย่างเขินๆ แล้วพูดอย่างน่ารักว่า“ฉันจะเทียบกับพี่จือหยูได้ยังไงล่ะ พี่จือหยูได้รับการอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังเป็นนักศึกษายอดเยี่ยมที่จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ เมื่อเทียบกันแล้ว ฉันได้รับการศึกษามาแค่9ปีเท่านั้น แม้แต่มัธยมปลายยังไม่ได้เรียนเลย……”

เย่เฉินส่ายหัวแล้วพูดอย่างยิ้มๆว่า“นี่ไม่เกี่ยวกับการที่เรียนสูงมามากแค่ไหน ประเด็นคือซูจือหยูรู้ว่าเธออยากได้อะไร”

ซูรั่วหลีถามอย่างแปลกใจว่า“คุณชายเย่คะ สามารถพูดรายละเอียดได้ไหมคะ?”

เย่เฉินอธิบายว่า“ทุกคนต่างคิดว่า พี่สาวของคุณจะใช้การแถลงข่าวในครั้งนี้ เป็นโอกาสทำให้ซูเฉิงเฟิงลำบากใจ อีกทั้งทุกคนคิดว่าขอแค่พี่สาวของคุณมีโอกาสในครั้งนี้ในครอบครอง จะต้องทำให้ชื่อเสียงของซูเฉิงเฟิงย่อยยับ ไม่สามารถพลิกตัวกลับมาได้อีก แต่คุณลองคิดดูดีๆสิ ถ้าทำแบบนี้สำหรับซูจือหยูแล้ว มันมีความหมายอะไร?”

ซูนั่วหลีไม่เข้าใจมากกว่าเดิม เธอมองไปที่เย่เฉินอย่างงุนงง แล้วพูดอย่างจริงจังว่า“อย่างน้อยก็แก้แค้นได้หนิค่ะ!จู่โจมไปที่ศัตรู ก็คือการแก้แค้นให้ตัวเองไม่ใช่หรอคะ?”

เย่เฉินมองไปที่เธอ แล้วส่ายหัวไปมา พลางกล่าวว่า“ถ้าซูจือหยูทำอย่างนี้ ก็ทำได้แค่แก้แค้นซูเฉิงเฟิงเท่านั้น มันจะไม่มีผลอะไรอีก กระทั่งยังไม่สามารถทำให้ซูเฉิงเฟิงเสียหายได้แม้แต่นิดเดียว ไม่มีความหมายอะไรเลย”

พูดจบ เย่เฉินพูดอีกว่า“สิ่งนี้แตกต่างจากตอนที่ผมเปิดเผยแผนการสมรู้ร่วมคิด ของซูเฉิงเฟิงก่อนหน้านี้ บุคลิกของซูเฉิงเฟิงค่อนข้างยอดเยี่ยม สามารถพูดได้เลยว่าเป็นคนที่ผู้คนนับไม่ถ้วนเคารพนับถือ หลังจากที่ถูกเปิดโปง มันจึงทำให้เขาตกลงมาจากแท่นบูชา และทำให้ให้ตระกูลซูต้องพบเจอกับความเดือดร้อนอย่างมาก”

“รวมถึงกิจการขนส่งทางทะเลที่ต้องหยุดชะงัก มันเป็นสิ่งที่เบื้องบนลงโทษเขา”

“แต่ว่า ซูเฉิงเฟิงล้มครั้งนี้ แม้ว่าซูจือหยูจะลุกขึ้นแล้วก่นด่าสาปแช่งซูเฉิงเฟิงได้ มันก็เป็นเพียงแค่การสาดน้ำเย็นใส่บนตัวของซูเฉิงเฟิงเท่านั้น ไม่สามารถทำให้เขาล้มได้อีกครั้ง”

“แทนที่จะสาดน้ำเย็น สู้ใช้โอกาสนี้ หาประโยชน์จากซูเฉิงเฟิงดีกว่า”

ซูรั่วหลีกล่าวอย่างตกใจ“คุณชายเย่คะ คุณว่าพี่จะเจรจาสงบศึกกับซูเฉิงเฟิงหรอคะ?!”

เย่เฉินโบกมือแล้วกล่าวว่า“ดูผิวเผินคือการเจรจาสงบศึก แต่ความเป็นจริงแล้ว เป็นการใช้มีดกรีดเฉือนเนื้อของซูเฉินเฟิง”

พูดจบ เย่เฉินก็พูดขึ้นมาอีกว่า“ซูเฉิงเฟิงในครั้งนี้จะต้องถูกซูจือหยูใช้มีดเฉือนอย่างโหดร้ายแน่ๆ หลังจากเฉือนเสร็จ พวกเขาสองคนดูเหมือนจะมีข้อตกลงสงบศึกกัน แต่ความเป็นจริงแล้ว ความสัมพันธ์ผู้กับหลานระหว่างพวกเขาทั้งสองคนก็จะถือว่าสูญเสียไป แม่เมื่อเจรจาสงบศึกเรียบร้อย ถึงจะกลายเป็นศัตรูที่แท้จริง”

ซูรั่วหลีอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้ว่า“ถ้าเป็นแบบนี้ จากนี้พี่จือหยูจะเป็นอันตรายไหมคะ?”

เย่เฉินส่ายหัวไปมาแล้วหัวเราะ“ไม่หรอก ซูเฉิงเฟิงกล้าทำทุกคน ยกเว้นทำกับเธอ คุณอย่าลืมนะ เบื้องหลังของซูจือหยู ยังมีผมอีกคนหนึ่ง ก่อนหน้าที่ซูเฉิงเฟิงยังกำจัดผมทิ้งไม่ได้ ไม่มีใครกล้าลงมือทำอะไรกับซูจือหยูอย่างเด็ดขาด”

พูดจบ เย่เฉินก็พูดขึ้นมาอีกว่า“ครั้งนี้พี่สาวของคุณสู้ขาดใจเพื่อตำแหน่งผู้นำตระกูลซู นี่เป็นเรื่องที่ดี ถ้าอนาคตเธอได้เป็นผู้นำของตระกูลซู ความบาดหมางระหว่างตระกูลซูกับตระกูลเย่ที่มีมานานกว่าสิบปี จะได้จบลงสักที!”

“อีกทั้ง อนาคตของคุณ กระทั่งแม่ของคุณรวมถึงทั้งตระกูลเหอ จะมีที่อยู่ที่ดีกว่านี้!”

“ถึงเวลานั้น คุณก็สามารถเปลี่ยนตัวตน คอยเคียงข้างช่วยเหลือพี่สาวของคุณ!”

“ถ้าเธอได้รับการช่วยเหลือจากคุณและตระกูลเหอ อนาคตข้างหน่า จะต้องไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน!”