หลังจากนั้น พวกสวีต้านต้านถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคุ้มกัน และถูกพาขึ้นไปบนดาดฟ้าด้วยความเศร้า

ในไม่ช้า โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงแห่งจินหลิงก็เปิดตัวโครงการพิเศษ การสัมผัสประสบการณ์การเอาตัวรอดในถิ่นทุรกันดารทันที ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สวีต้านต้านและคนอื่นๆ ได้เซ็นสัญญาบริการการท่องเที่ยวที่เป็นธรรมโดยสมัครใจ กลายเป็นลูกค้าที่โชคดีกลุ่มแรกในการเข้าโครงการใหม่นี้แบบฟรีๆ

เซ็นสัญญาเสร็จ คนเหล่านี้ได้ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอัด และถูกส่งตัวไปที่เฮลิคอปเตอร์โดยตรง

ครัวด้านหลังของแผนกบริการอาหารและเครื่องดื่ม ส่งอาหารที่จะทิ้งแล้ว ใกล้จะหมดอายุแล้วมา รวมถึงน้ำประปาที่บรรจุกระป๋องอย่างรีบร้อนจำนวนหนึ่ง เหล่านี้นี่เป็นเสบียงทั้งหมดสำหรับสวีต้านต้านและคนอื่นๆ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ไม่ว่ายังไงก็เป็นโรงแรมที่ใหญ่มาก อาหารและน้ำประปาที่แผนกบริการอาหารและเครื่องดื่มจัดไว้ให้ มันมากพอที่จะให้อิ่มได้ จำนวนอาหารที่กินของคนหนุ่มสาวเหล่านี้ มันเพียงพอที่จะกินเป็นเวลาครึ่งเดือนแล้ว

ในขณะที่เย่เฉินกำลังรับประทานอาหารเย็นกับตระกูลอิโตะ เฮลิคอปเตอร์ก็บินไปที่ใจกลางของป่าลึกในเขตชานเมืองจินหลิงแล้ว

หลังจากนั้น เฮลิคอปเตอร์บินลง และโยนคนเหล่านี้ลงไปในหุบเขาที่ลึกที่สุด พร้อมกับอาหารและน้ำที่เตรียมไว้สำหรับพวกเขา

พวกสวีต้านต้านเริ่มต้นการเอาชีวิตรอดในถิ่นทุรกันดารอย่างเป็นทางการ ที่เย่เฉินจัดให้พวกเขา

ในเวลาเดียวกัน จงงเทียนหยู่ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในนักร้องชายที่โด่งดังที่สุดในประเทศจีน ไม่สามารถติดต่อลูกน้องทั้งหลายของเขาได้ และรู้สึกกระวนกระวายใจทันที

ติดต่อกับลูกน้องไม่ได้ เขาก็รู้ทันทีว่า พวกเขาคงจะถูกคนของป๋ายจินฮ่านกงจัดการแล้วแน่นอน ไม่แน่ก็อาจจะกักขังไว้

การกักขังคนเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา แต่การแสดงของเขาของวันมะรืนนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ส่วนเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการแสดง สวีต้านต้านเป็นคนจัดการทั้งหมด ตั้งแต่การเดินทาง ที่พัก และเครื่องแต่งกายไปจนถึงการแสดง ปกติสวีต้านต้านเป็นคนจัดการให้ หากสวีต้านต้านหายตัวไปในเวลานี้ งั้นต่อไปพอเขาถึงจินหลิงคงจะได้แต่ไม่รู้สถานการณ์รอบตัว

ทัวร์คอนเสิร์ตของกู้ชิวอี๋ในครั้งนี้ คือหลังจากที่เขาขอร้องอ้อนวอนพ่อ พ่อถึงทุ่มสุดตัวไปขอกู้เย้นจงเอง ถึงทำให้กู้ชิวอี๋พยักหน้าและตอบตกลง

ครั้งนี้เขาไม่เพียงแต่ต้องการใช้ประโยชน์จากความนิยมของกู้ชิวอี๋ เพื่อเพิ่มกระแสและผลกระทบของเขาไปอีกระดับหนึ่ง แต่หวังที่จะใช้ทัวร์คอนเสิร์ตนี้เพื่อแสดงประสิทธิภาพต่อหน้ากู้ชิวอี๋มากกว่า

เขาแอบชอบกู้ชิวอี๋มาหลายปี และฝันอยากจะขอกู้ชิวอี๋แต่งงานมาเป็นภรรยาของตน อีกอย่างตอนนี้ตระกูลกู้ก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่กู้เย้นจงฟื้นจากอาการป่วยหนัก อิทธิพลของเขาในตระกูลกู้ก็ใหญ่มากขึ้นด้วย ในตอนที่เจริญรุ่งเรืองดุจดั่งพระอาทิตย์กลางท้องฟ้า ถ้าตอนนี้ไปขอกู้ชิวอี๋แต่งงาน สามารถต่อสู้ได้น้อยลงเป็นเวลาหลายสิบปีจริงๆ

แม้ว่าความแข็งแกร่งของตระกูลจงจะดีเหมือนกัน แต่ก็ยังแย่กว่าตระกูลกู้เล็กน้อย

ที่หนักใจกว่านี้คือ คุณท่านของตระกูลจง ก็คือปู่ของจงเทียนหยู่ ตอนนั้นกลับมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนที่ติดทะเล และเขาไม่ใช่พลเมืองจีน เขามีนิสัยชอบอิสระมาทั้งชีวิต แค่สนมก็มีไป4 คน รวมภรรยาคนแรก ก็มีเมียทั้งหมด5คน

ภรรยาห้าคน มีลูกให้เขา 21 คน พ่อของจงเทียนหยู่ก็เป็นเพียงหนึ่งใน 21 คนนี้ แม้ว่าเขาจะได้รับความโปรดปรานมาตลอด แต่อสังหาริมทรัพย์ที่เขาสามารถควบคุมได้ยังคงเจือจางลงมากๆ และเทียบกับกู้ชิวอี๋ไม่ได้เลย ท้ายที่สุดกู้เย้นจงพ่อของกู้ชิวอี๋ ถือทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลกู้ และทรัพย์สินครึ่งหนึ่งนี้จะต้องตกเป็นของกู้ชิวอี๋อย่างแน่นอนในอนาคต

ดังนั้น จงเทียนหยู่ก็ตั้งตารอที่จะจีบกู้ชิวอี๋ให้ติดให้ได้

ถึงขั้นพูดได้ว่า จงเทียนหยู่ตั้งกู้ชิวอี๋ให้เป็นเป้าหมายของชีวิตมานานแล้ว ขอแค่สามารถแต่งงานกับกู้ชิวอี๋ได้ เขาจะได้ไม่ต้องต่อสู้อีกต่อไปทั้งชีวิต

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ สิ่งที่เขากลัวที่สุดในตอนนี้ก็คือ จะเกิดข้อบกพร่องใดๆ ในคอนเสิร์ต

ตอนนี้สวีต้านต้านขาดการติดต่อโดยสิ้นเชิง สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือต้องรีบไปถึงจินหลิงด้วยตัวเอง และจัดการงานทั้งหมดก่อนคอนเสิร์ตเข้าที่

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังต้องหาเฉินจื๋อข่ายเพื่อระบายความโกรธของเขา

ไม่ว่ายังไง คุณชายของตระกูลจง จะให้ลูกน้องถูกดูถูกเหยียดหยามได้เมื่อไรกัน?

การเสียหน้าไป ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องเอากลับมาให้ได้!