เย่เฉินกล่าวว่า“หงห้า ลูกน้องในมือของคุณมีเยอะ ตอนนี้คุณช่วยส่งลูกน้องมาให้ผมหน่อย”

หงห้าจึงถามว่า“อาจารย์เย่ครับ คุณอยากได้กี่คนครับ?ต้องการอะไรบ้างครับ?”

เย่เฉินจึงกล่าวว่า“สำหรับคน ขอเป็นผู้ชายทั้งหมด อีกทั้งเอาแบบที่ออกกำลังกายเป็นประจำ รูปร่างใหญ่ๆกล้ามเนื้อแน่นๆ ถ้าใบหน้ากับคอมีรอยแผลเป็นจะดีมาก สำหรับจำนวนคน สองถึงสามร้อยคนเป็นอย่างต่ำ ยิ่งเยอะยิ่งดี”

หงห้าถามด้วยใบหน้าแปลกใจ“อาจารย์เย่ครับ คุณจะพาคนไปฆ่าฟันกับคนอื่นหรอครับ?”

“ไม่ใช่”เย่เฉินโบกมือไปมา แล้วกล่าวว่า“ฉันจะให้พวกเขาไปรับคนที่สนามบิน”

“รับคนที่สนามบิน?!”เมื่อหงห้าได้ยินก็ถึงกับมึนงง ไม่เข้าใจว่าเย่เฉินต้องการทำอะไรกันแน่

แต่ว่า เฉินจื๋อข่ายที่อยู่ข้างๆเข้าใจในทันที เขาอดที่หัวเราะแล้วพูดขึ้นมาไม่ได้ว่า“คุณชายครับ คุณคิดจะให้นักเลงพวกนั้นไปเป็นแฟนคลับรับจงเทียนหยู่ที่สนามบินใช่ไหมครับ?”

“ใช่!”เย่เฉินหัวเราะ“เขาชอบความเอิกเกริกไม่ใช่หรอ?ถ้าอย่างงั้นก็ทำให้ครั้งนี้เอิกเกริกขึ้น!”

พูดจบ เย่เฉินก็นำรายละเอียดแผนการเล่าให้ทั้งสองฟัง

เฉินจื๋อข่ายพูดจบ ในขณะที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง แต่ก็หัวเราะอย่างชั่วร้ายว่า“คุณชายครับ วิธีลงโทษของคุณโหดร้ายจริงๆครับ ถ้าถูกคุณทำแบบนี้ ผมว่าจงเทียนหยู่จะต้องถอนตัวออกจากวงการแน่……”

เย่เฉินหัวเราะ“ทางที่เขาถอนตัวออกจากวงการดีๆเถอะ ไม่อย่างนั้นถึงเขาจะไม่ถอนตัวออกเอง ฉันก็จะหาวิธีทำให้เขาถอนตัวออกไปเอง”

พูดจบ สีหน้าของเย่เฉินพูดอย่างดูถูกว่า“ผมไม่ยอมให้เศษสวะแบบนี้ ปรากฏตัวขึ้นในงานคอนเสิร์ตของหนานหนาน และวันเกิดของผม”

……

หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง เครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งก็ลงจอดที่สนามบินจินหลิง

เมื่อเครื่องบินลงจอดก็ถูกรถนำทางพาเข้าไปจอดที่โรงเก็บเครื่องบินทันที

ช่างแต่งหน้าของจงเทียนหยู่ช่วยเขาเติมหน้า

ตอนนี้ ข้างๆเครื่องบินมีโตโยต้าโคสเตอร์จอดอยู่คันหนึ่ง ซึ่งเป็นรถบัสรับส่งแขกวีไอพีที่สนามบินโดยเฉพาะ

แต่ว่า จงเทียนหยู่ไม่ได้รีบลงจากเครื่องบินแต่อย่างใด แต่ส่องกระจก ตรวจสอบใบหน้าของตัวเอง พลางพูดกับเฉินเหมิงเหมิงว่า“ยืนยันกับเซียวเวยเวยคนนั้นหน่อยสิ ว่าแฟนคลับอยู่ในสถานที่รึยัง”

เฉินเฟมิงเหมิงรับตอบตกลง หลังจากนั้นก็โทรวิดีโอคอลให้เซียวเวยเวย

เซียวเวยเวยรีบรับสาย เมื่อเห็นเฉินเหมิงเหมิง เธอก็ยิ้มพลางถามว่า“คุณเฉินคะ คุณจงลงจากเครื่องรึยังคะ?”

เฉินเหมิงเหมิงพยักหน้า แล้วกล่าวว่า“เครื่องเราลงจอดแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้เข้าโรงเก็บเครื่องบินค่ะ ยังไม่ได้ออกไป อยากจะถามว่าคุณเตรียมพร้อมรึยังคะ?”

เซียวเวยเวยรีบหันกล้องโทรศัพท์ ใช้กล้องหลัง เพื่อถ่ายภาพบรรยากาศประตูทางออกของอาคารโดยสารที่มีสาวๆยืนต้อนรับสามร้อยกว่าคน พลางเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า“คุณเฉินดูสิคะ คนของเราอยู่ในสถานที่แล้ว อีกทั้งฉันยังให้พวกเธอเตรียมแบนเนอร์ไว้แล้ว สโลแกนต้อนรับฉันก็ได้คอนเฟิร์มกับพวกเธอแล้ว ถึงเวลานั้นจะต้องเสียงดังแน่ๆค่ะ”

จงเทียนหยู่ขยับเข้ามาดูแวบหนึ่ง พบว่าเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยมากมาย กำลังรวมตัวกันอยู่ที่ประตูขาเข้าของสนามบิน ซึ่งมันดูยิ่งใหญ่มาก

ดังนั้น เขาจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วพูดอย่างพอใจว่า“ในเมื่อเตรียมการเสร็จแล้ว งั้นผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละครับ น่าจะประมาณสิบนาทีก็ถึงแล้ว”

เซียวเวยเวยโพล่งออกไปว่า“ได้ค่ะคุณจง เราจะรอคุณที่อาคารผู้โดยสารนะคะ”

เฉินเหมิงเหมิงรีบย้ำเตือนว่า“ประธานเซียวคะ พวกคุณอยู่ที่โถงอาคารผู้โดยสารหลักใช่ไหมคะ?อย่าให้ผิดพลาดเด็ดขาดนะคะ!”

เซียวเวยเวยหันกล้องไปที่ป้ายสนามบิน แล้วพูดอย่างจริงจังว่า“อาคารผู้โดยสารหลักมีแค่อาคารเดียวค่ะ หลังออกมาจากโถงรับสัมภาระออกมาก็เห็นแล้วค่ะ วางใจเถอะ ไม่พลาดแน่ค่ะ!”

“งั้นก็ดีค่ะ”เฉินเหมิงเหมิงโล่งใจมาก

หลังจากวางสายไป เธอก็พูดกับจงเทียนหยู่ว่า“คุณชายคะ เราลงจากเครื่องได้แล้วค่ะ!