เพียงแวบเดียวซูจือเฟยก็มองออกแล้ว รูปรายละเอียดเกี่ยวกับออฟฟิเชียล 760 เหมือนกันกับรถที่ตนถ่ายได้เมื่อสักครู่นี้ทุกประการ
เรื่องนี้ก็แสดงว่า รถคันเมื่อครู่ก็คือรถ BMW 760 ที่เปลี่ยนสัญลักษณ์ท้ายรถจริงๆ
ในขณะเดียวกันก็แสดงว่า รถคันนั้นมาจากตี้เหากรุ๊ปจริงๆ
ซูจือเฟยขมวดคิ้ว ต่อสายโทรศัพท์ซักถาม: “นายรู้หรือเปล่าว่าเจ้าของที่อยู่เบื้องหลังตี้เหากรุ๊ปแห่งจินหลิงคือใคร?”
“ไม่แน่ใจครับ” ปลายสายตอบกลับ: “ตัวแทนกฎหมายของตี้เหากรุ๊ปชื่อว่าหวังตงเสวี่ยน เป็นรองประธานแห่งตี้เหากรุ๊ป แต่หุ้นส่วนของตี้เหากรุ๊ปไม่อยู่ภายใต้นามของเธอ”
เอ่ยจบ ปลายสายก็แนะนำต่อ: “แม้ว่าบริษัทนี้จะไม่ได้ลงทะเบียนอยู่ในจินหลิง แต่จากโมเดลโครงสร้างสิทธิ์หุ้นส่วนของตี้เหากรุ๊ปในจินหลิง ก็เหมือนกับธุรกิจอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ในประเทศเลย ในโครงสร้างระดับบนยังมีบริษัทแม่ที่อยู่ต่างประเทศด้วย”
“และที่โชคร้ายกว่านั้นก็คือ บริษัทแม่ที่อยู่ต่างประเทศนี้ลงทะเบียนบริษัทการค้านอกประเทศ ณ หมู่เกาะเคย์แมน บริษัทการค้านอกประเทศนี้ควบคุมหุ้นส่วนของตี้เหากรุ๊ปแห่งจินหลิง 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นต้องสืบให้แน่ชัดว่าเจ้าของบริษัทการค้านอกประเทศนี้คือใครกันแน่ จึงจะสามารถรู้ว่าเจ้าของที่แท้จริงของตี้เหากรุ๊ปคือใคร”
“ทำไมยุ่งยากขนาดนี้…” ซูจือเฟยซักถามต่อ: “สามารถสืบข้อมูลผู้ถือหุ้นของบริษัทการค้านอกประเทศนี้ได้ไหม?”
“สืบค้นไม่ได้” ปลายสายเอ่ยตามความจริง: “หมู่เกาะเคย์แมนได้ประกาศข้อบังคับตุลาการตั้งนานแล้ว ว่าธุรกิจที่จดทะเบียนอยู่ในหมู่เกาะเคย์แมนทั้งหมด จะมอบการคุ้มครองการเป็นส่วนตัวรอบด้าน ข้อมูลเกี่ยวกับผู้บริหาร และหุ้นส่วนจะเป็นความลับทั้งหมด ด้านนี้เหมือนกับกลยุทธ์ของธนาคารสวิสเปี๊ยบ เพราะฉะนั้นพวกเราก็ค้นหาข้อมูลอะไรไม่เจอเหมือนกัน”
“เวรเอ๊ย!” ซูจือเฟยสบถคำหยาบออกมา: “ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าบริษัทใหญ่ขนาดนี้ในจินหลิงอย่างตี้เหากรุ๊ป จะไม่มีใครรู้เลยว่าเจ้าของเป็นชายหรือหญิงกันแน่ หรืออายุเท่าไร?”
ปลายสายรีบเอ่ยตอบ: “คนที่เปิดเผยข้อมูลให้ผมรู้บอกผมว่า เจ้านายคนนี้ของพวกเขาสุดยอดมาก อายุยังน้อยแต่รวยระเบิด มีสติปัญญาล้ำเลิศ แถมยังลือกันแซดว่า เขาก็คือเศรษฐีผู้ลึกลับที่ชื่อเสียงโด่งดังมากในปีก่อนของจินหลิงคนนั้นอีกด้วย!”
“เศรษฐีผู้ลึกลับอะไรกัน?” ซูจือเฟยได้ยินปลายสายพูดถึงว่าเจ้าของตี้เหากรุ๊ป อายุยังน้อยแต่รวยระเบิด มีสติปัญญาล้ำเลิศ ก็ไม่พอใจทันที เอ่ยซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันที: “เศรษฐีผู้ลึกลับคนนี้ดังมากเลยเหรอ?”
ปลายสายตอบกลับ: “ตามแหล่งที่มาข้อมูลอันนั้นของผม ก็มีชื่อเสียงพอสมควรเลยนะ เคยใช้เงินสดจำนวนสิบกว่าล้านฟาดใส่พนักงานขายอย่างเกรี้ยวกราดที่ดูถูกคนอื่นในร้านขายเครื่องประดับหยก ตอนนั้นเป็นข่าวลือกันใหญ่โตในจินหลิงเลยทีเดียว”
ซูจือเฟยมีความโมโหขึ้นมาเล็กน้อย
เขาคิดว่า ถ้าตามที่ลูกน้องว่ามา เจ้าของตี้เหากรุ๊ปคนนี้ก็จะเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งมากผู้หนึ่ง
ประกอบกับกู้ชิวอี๋จงใจที่จะหลบหน้าตน แล้วมายังสนามกีฬาพร้อมกับเขา อีกทั้งยังโบกไม้โบกมือลาให้เขาอย่างสนิทสนมกันเช่นนี้อีก ดีไม่ดีเจ้าหมอนี่อาจนำเขาไปหนึ่งก้าวได้รับความรู้สึกที่ดีจากกู้ชิวอี๋ไปแล้ว!
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ภายในใจของเขาก็ยิ่งกระวนกระวายใจเพิ่มมากขึ้น เขาเอ่ยถามต่อ: “มีข้อมูลของคนที่ชื่อหวังตงเสวี่ยนไหม?”
“มีครับ!” ปลายสายเอ่ยอธิบาย: “ข้อมูลของหวังตงเสวี่ยนค่อนข้างใสสะอาด เธอเป็นคนจินหลิงมาแต่กำเนิด อดีตที่ผ่านมาล้วนมีร่องรอยให้เห็น ตอนเรียนหนังสืออยู่ก็เป็นเด็กเรียน เวลาต่อมาก็เข้าร่วมตี้เหากรุ๊ปในอดีต จากนั้นก็ช่วยตี้เหากรุ๊ปให้พัฒนายิ่งใหญ่ในเวลาอันรวดเร็ว จากนั้นก็ได้เลื่อนขึ้นมาเป็นตำแหน่งรองประธานตี้เหากรุ๊ป มาจนถึงตอนนี้ก็เป็นหัวหน้าระดับสูงสุดของตี้เหากรุ๊ปตามที่เห็น”
ซูจือเฟยพยักหน้า เอ่ยว่า: “แสดงว่าแบบนี้ หากต้องการทราบว่าเจ้าของตี้เหากรุ๊ปคือใคร ก็ต้องหาหวังตงเสวี่ยนคนนี้เพื่อสนทนากันดีๆ สักหน่อยซะแล้วสิ”
เอ่ยจบ ซูจือเฟยก็รีบเอ่ยกำชับ: “นายติดต่อหวังตงเสวี่ยนคนนี้ให้ฉันหน่อย บอกไปว่าฉันอยากหาเวลาไปเจอเธอที่ตี้เหากรุ๊ปสักหน่อย เพื่อเจรจาเรื่องการร่วมมือด้านธุรกิจกับเธอ”
ซูจือเฟยคิดว่า ในฐานะที่ตนเป็นหลานชายคนโตของตระกูลซู เพียงแค่เอ่ยนามของตัวเองว่าจะไปเยี่ยมเยียน ผู้ใดจะไม่อยากให้ตนเองไปเป็นแขกผู้มีเกียรติได้?
เมื่อถึงตอนนั้นได้เจอหวังตงเสวี่ยนแล้ว ค่อยคิดหาวิธีหลอกล่อให้เธอเผยตัวตนของเจ้านายเธอ
หากเธอไม่บอก งั้นก็โยนแนวทางการร่วมมือใช้เป็นเหยื่อล่อ เชื่อว่าหลังจากที่เจ้าของตี้เหากรุ๊ปได้ยินข่าวที่ว่าตระกูลซูต้องการร่วมมือกับเขา จะต้องออกมาเจอหน้าเขาอย่างอดใจรอไม่ไหวแน่นอน
หลังจากที่ลูกน้องของเขาได้ยินดังนั้น ก็รีบเอ่ยถาม: “คุณชาย คุณอยากไปพบหวังตงเสวี่ยนคนนั้นตอนไหนครับ?”
ซูจือเฟยเอ่ยอย่างไม่ลังเลสักนิด: “ตอนนี้แหละ!”