คนผู้นี้ไม่ได้พูดพร่ำทำเพลง รายงานตัวโดยตรงกับหวังตงเสวี่ยนทันที : “สวัสดีครับ รองประธานหวังแห่งตี้เหากรุ๊ปใช่ไหมครับ? ผมคือผู้ช่วยของซูจือเฟยคุณชายตระกูลซูแห่งเย่นจิง คุณชายของเราต้องการเจรจาร่วมมือกับตี้เหากรุ๊ปสักหน่อย ไม่ทราบว่ารองประธานหวังมีเวลาว่างมาพบคุณชายเราหรือเปล่า?”

“อะไรนะ? ตระกูลซูเย่นจิง?” หวังตงเสวี่ยนแสร้งทำเสียงประหลาดใจ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาด้วยการแสร้งทำน้ำเสียงราวกับตกใจอย่างยิ่ง: “อุ้ยตายจริง! ไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าคุณชายซูจะต้องตาตี้เหากรุ๊ปเราด้วย?! ช่างโชคดีจริงๆ เลย ไม่ทราบว่าคุณชายซูว่างตอนไหนคะ? ฉันไปเยี่ยมเยียนได้ทุกเมื่อเลย!”

ซูจือเฟยที่นั่งอยู่ข้างๆ รวมถึงผู้ช่วยของซูจือเฟย พึงพอใจกับความตื่นเต้นของหวังตงเสวี่ยนเป็นอย่างยิ่ง สีหน้าซูจือเฟยก็อบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย

ผู้ช่วยของซูจือเฟย เอ่ย: “ตอนนี้คุณชายของเราอยู่ที่จินหลิงพอดี เพราะงั้นถ้าทางรองประธานหวังไม่มีปัญหาละก็ คุณชายเราไปพบคุณตอนนี้เลยก็ได้ครับ”

“ถ้างั้นก็เยี่ยมไปเลยค่ะ!” น้ำเสียงของหวังตงเสวี่ยนตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด เอ่ยต่อว่า: “งั้นฉันจะเลื่อนนัดตอนบ่ายไปให้หมดเลยเดี๋ยวนี้ จะรอคุณชายซูที่นี่นะคะ!”

ผู้ช่วยของซูจือเฟยเอ่ยตอบรับ จากนั้นก็ถามหยั่งเชิง: “จริงสิ คุณชายของเราอยากถือโอกาสพบหน้าเจ้าของตี้เหากรุ๊ปของพวกคุณซะเลย ไม่ทราบว่าตอนบ่ายเขามีเวลาว่างหรือเปล่า?”

หวังตงเสวี่ยนรีบเอ่ย: “ต้องขออภัยจริงๆ ค่ะ สไตล์การจัดการของบอสเราเงียบๆ ไม่เหวือหวาโดยตลอด อีกทั้งยังสั่งการไม่ทำเอง ปกติแล้วจะมาบริษัทไม่ถึงสองสามครั้งเลย และไม่เข้าร่วมงานทางธุรกิจใดๆ ด้วย ไม่เจอหน้าคนในวงการธุรกิจใดๆ ด้วยค่ะ แม้แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ต้องขอให้คุณชายซูยกโทษให้ด้วยนะคะ”

เมื่อผู้ช่วยของซูจือเฟยได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเอือมระอาเป็นอย่างยิ่ง ทว่ายังดีที่อย่างน้อยก็ให้คุณชายไปพบหน้าหวังตงเสวี่ยนก่อน จึงได้เอ่ยตอบกลับ: “ในเมื่อเจ้านายของคุณไม่อยู่บริษัท งั้นก็รอมีโอกาสแล้วค่อยว่ากัน อีกสักพักผมจะไปที่ตี้เหากรุ๊ปพร้อมกับคุณชายก่อน ทางคุณช่วยเตรียมการต้อนรับและการคุ้มกันล่วงหน้าด้วยนะครับ”

หวังตงเสวี่ยนเอ่ยโดยไม่ลังเลสักนิด: “คุณไม่ต้องห่วง ฉันจะสั่งให้ลูกน้องเตรียมการทุกอย่างให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้เลยค่ะ ถึงเวลานั้นเมื่อคุณชายซูมาถึงแล้ว ก็ให้ขึ้นลิฟต์ส่วนตัวที่อยู่ชั้นใต้ดินเพื่อมายังชั้นบนสุดเลยก็ได้!”

“โอเคครับ” ผู้ช่วยของซูจือเฟยเอ่ย: “ถ้าอย่างนั้น พวกเราจะไปถึงในอีก 20 นาที”

หลังวางสาย ผู้ช่วยของซูจือเฟยก็เอ่ยกับซูจือเฟย: “คุณชาย เดี๋ยวผมให้บอดี้การ์ดเตรียมรถ คุณไม่ต้องขับรถไปเองหรอกครับ”

ซูจือเฟยพยักหน้า ที่เขาขับรถมาเอง ตอนแรกก็เพราะต้องการที่จะรับกู้ชิวอี๋แล้วจะได้มีพื้นที่ส่วนตัวกับเธอ ครั้นคิดไม่ถึงเลยว่า เขาได้จัดเตรียมอย่างตั้งใจ กลับกลายเป็นความว่างเปล่า เมื่อนึกถึงก็โมโหขึ้นมาจริงๆ เลย!

บอดี้การ์ดและลูกน้องของซูจือเฟยได้เตรียมขบวนรถเรียบร้อยในเวลาอันรวดเร็ว ผู้ช่วยของซูจือเฟยเปิดประตูให้เขาด้วยตัวเอง คุ้มกันส่งให้เขาเข้าไปนั่งแถวหลังของรถโรลส์รอยซ์ จากนั้นขบวนรถก็ออกเดินทางบึ่งไปยังตี้เหากรุ๊ปทันที

เพียงแต่ ซูจือเฟยไม่คิดไม่ฝันเลยว่า ในเวลานี้ เย่เฉินอยู่ในห้องทำงานของหวังตงเสวี่ยนเรียบร้อยแล้ว เพื่อรอให้เขาเข้ามาติดกับดักเอง

ส่วนหวังตงเสวี่ยนก็ยืนอยู่ข้างหน้าเย่เฉินด้วยความเคารพนอบน้อม เอ่ยถามว่า: “คุณชาย อีกสักครู่ซูจือเฟยเข้ามา ฉันควรรับมือกับเขายังไงดี?”

เย่เฉินอมยิ้ม พร้อมชี้ไปยังประตูหลังของห้องทำงานหวังตงเสวี่ยน เอ่ยว่า: “รอเขามาแล้ว ฉันก็จะไปพักผ่อนที่ห้องพักของเธอสักครู่ เธอคุยกับเขาไปก่อนสักพัก เมื่อโอกาสเหมาะเจาะฉันก็จะออกมาเอง”

หวังตงเสวี่ยนพยักหน้า อดไม่ได้ท่ีจะเอ่ยถามอีกครั้ง: “คุณชาย คุณจะจัดการซูจือเฟยยังไงเหรอ? เขาเป็นหลานชายคนโตของตระกูลซู ถ้าคุณจะจัดการเขา ตระกูลซูจะต้องไม่ลามือง่ายๆ แน่”

“อีกทั้ง เขาก็หายตัวไปจากตี้เหากรุ๊ปอีก ถึงตอนนั้นตระกูลซูจะต้องหาทุกวิถีทาง สืบเรื่องในตี้เหากรุ๊ปจนกระจ่าง ถึงตอนนั้นสถานะของคุณก็จะต้องถูกเปิดเผยไม่ใช่เหรอคะ?”

เย่เฉินยิ้มอ่อน: “ไม่เป็นไรหรอก เธอไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้เลย ฉันมีวิธีของตัวเอง!”