เมื่อขบวนรถขับเข้าในลานจอดรถ หงห้านำหน้าพักงานทุกคนต้อนรับอยู่หน้าประตู

เย่เฉินเพิ่งจอดรถสนิท เขาก็รีบเดินเข้ามาทันที เปิดประตูสองบานด้านหลังก่อนรวมทั้งประตูที่นั่งข้างคนขับด้วย พูดกับคู่สามีภรรยากู้เย้นจงรวมทั้งกู้ชิวอี๋ว่า “ยินดีต้อนรับแขกพิเศษทั้งสามท่านมายังเทียนเซียงฝู่ครับ!”

จากนั้นค่อยไปเปิดประตูที่นั่งคนขับ แล้วพูดกับเย่เฉินว่า “อาจารย์เย่ครับ เตรียมห้องไว้เรียบร้อยแล้วครับ พวกเราเข้าไปกันเถอะครับ”

เย่เฉินพยักหน้า พูดว่า “ลำบากนายหน่อยนะ”

“สมควรครับ!”

เฉินจื๋อข่ายเดินลงรถในเวลานี้ พูดกับเย่เฉินว่า “คุณชายครับ ผมรออยู่ที่หน้าประตู มีอะไรคุณรับสั่งมาได้ตลอดเลยนะครับ”

เย่เฉินรีบพูดว่า “นายจะรอโง่ๆอยู่ที่หน้าประตูทำไมกัน ให้หงห้าจัดเตรียมสักหน่อย พวกนายหาห้องหนึ่งกินอะไรสักหน่อย เดี๋ยวฉันไปดื่มกับพวกนายสักหน่อย”

หงห้ารีบพูดว่า “ได้ครับอาจารย์เย่ ผมจัดการเองครับ!”

เฉินจื๋อข่ายได้ยินอย่างนี้ ในใจรู้สึกขอบคุณ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ เย่เฉินก็มักจะคิดถึงเขาและหงห้าลูกน้องพวกนี้เสมอ ดีกว่าพวกคุณชายเศรษฐีทั่วไปเยอะมากจริงๆ!

ดังนั้น เขาจึงพูดอย่างเคารพว่า “ทุกอย่างฟังตามที่คุณชายสั่งการครับ!”

เย่เฉินพยักหน้า หงห้าจึงเอ่ยปากพูดว่า “อาจารย์เย่ครับ พวกท่านทั้งสี่คนเชิญตามผมมาก่อนได้เลยครับ!”

จากนั้น ทั้งสี่คนก็เดินตามหงห้ามายังประตูเข้าสู่ด้านในของเทียนเซียงฝู่

กู้ชิวอี๋นึกถึงเรื่องเค้ก จึงรีบถามหงห้าว่า “คุณหงคะ เดี๋ยวจะมีพนักงานส่งเค้กสั่งทำมา รบกวนคุณจัดเตรียมรถเข็นอาหารที่เหมาะสมสักหน่อย เดี๋ยวช่วยเข็นเค้กเข้ามาในห้องหน่อยนะคะ เค้กนี่ล้ำค่ามาก ดังนั้นรบกวนตอนที่คุณจัดเตรียมพวกนี้สั่งให้พนักงานระมัดระวังหน่อยนะคะ อย่าได้ทำเค้กเสียหายเด็ดขาด ขอบคุณค่ะ!”

หงห้าพูดอย่างไม่ลังเลสักนิดว่า “คุณกู้เกรงใจไปแล้วครับ หงห้าจะจัดเตรียมให้อย่างเหมาะสมอย่างที่สุดแน่นอนครับ!”

จากนั้น หงห้านำทางทุกคน เดินมาจนถึงห้องเพชรของเทียนเซียงฝู่ ด้านในห้องในเวลานี้ ได้ถูกทำความสะอาดอย่างสะอาดมากแล้ว ใช้คำว่าไร้ที่ติมาบรรยายก็ไม่มากเกินไป

บนโต๊ะกลมที่ใหญ่ ได้วางอาหารไว้แปดเมนูแล้ว อาหารทั้งแปดเมนูนี้มีทั้งเนื้อและผัก การจัดทำขอทุกเมนูนั้นล้วนสง่างามอย่างมาก

ส่วนตรงกลางของโต๊ะกลมนั้น วางเหล้าหมาวถายระดับของสิ่งสะสมไว้สองขวด รวมทั้งไวน์ Romanee-Conti มูลค่าหลักหลายแสนไว้สองขวด

บนโต๊ะวางเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารสี่ชุดไว้อย่างละเอียดอ่อน ด้านข้างของทุกชุดเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ยังวางใบคัดสีทองไว้หนึ่งใบ ด้านบนใช้ตัวอักษรพู่กันที่สง่างามเขียนข้อมูลมากมายไว้

หงห้าพูดกับเย่เฉินพวกเขาว่า “ทางผมได้ทำการจัดเตรียมเมนูอาหารไว้ก่อนแล้วชุดหนึ่ง ขั้นตอนการเสิร์ฟอาหารทุกเมนู วัตถุดิบรวมทั้งคุณสมบัติ ล้นเขียนไว้บนรายการตรวจสอบแล้ว แขกพิเศษทั้งสี่ท่านสามารถลองดูด้านบนได้ ถ้าหากว่ามีอะไรที่ทานไม่ได้ หรือมีอะไรที่ต้องการ สามารถบอกกับผมได้ตลอดเลยนะครับ!”

กู้เย้นจงหยิบเอาใบคัดหนึ่งในนั้นขึ้นมาดู พูดว่า “ตัวอักษรเล็กนี่เขียนได้สวยจริงๆ!กระดาษก็สวยสง่างามมาก!”

พูดแล้ว เขาก็เอากระดาษวางไว้ใต้จมูกเพื่อดม พูดอย่างประหลาดใจว่า “กลิ่นหมึกนี่เข้มมาก ดมดูแล้วรู้สึกว่าจะไม่ใช่ของสมัยนี้ใช่มั้ย?”

หงห้าอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วโป้งให้ พูดอย่างชื่นชมว่า “คุณกู้นี่ฉลาดหลักแหลมจริงๆครับ ตัวอักษรนี้ ผมได้เชิญให้อาจารย์คัดลายมือท่านหนึ่งของเมืองจินหลิงเขียนครับ ใช้หมึกฮุยโม่ที่ผลิตขึ้นของราชวงศ์หมิงสมัยซวนเต๋อปี่ที่หนึ่งครับ”

กู้เย้นจงอดไม่ได้ที่จะชื่นชมว่า “เสี่ยหงทำหน้าที่ได้ละเอียดอ่อนดีงามมากจริงๆครับ บริการดีขนาดนี้ แม้ว่าจะอยู่เย่นจิงก็ยังไม่เคยพบเจอเลย!”

หงห้ารีบพูดว่า “ไม่ปิดบังคุณนะครับคุณกู้ โดยปกติแล้วเทียนเซียงฝู่ของผมก็ทำไม่ได้ถึงขั้นนี้ครับ แต่ว่าวันนี้อาจารย์เย่มาบอกไว้ก่อนว่าจะทำการต้อนรับแขกพิเศษ ดังนั้นหงโม่วจึงได้ใส่ใจมากขึ้นหน่อยครับ….”

กู้เย้นจงยกนิ้วโป้งขึ้น พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ลำบากคุณหงใส่ใจแล้วครับ!”

หงห้าพูดอย่างเคารพว่า “ที่ไหนกันครับ ล้วนเป็นสิ่งที่ผมสมควรทำครับ!”

พูดจบ เขาก็พูดกับเย่เฉินว่า “อาจารย์เย่ครับ หงโม่วก็ไม่อยู่นี่รบกวนคุณและแขกพิเศษทานอาหารแล้วนะครับ เดี๋ยวถ้าเค้กมาถึงแล้วผมจะส่งมาใ้ตามที่คุณกู้ต้องการนะครับ หากว่าพวกท่านมีความต้องการอะไรสามารถเรียกผมได้ตลอดเลยนะครับ!”

เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย พูดกับหงห้าว่า “หงห้า นายสั่งให้คนเตรียมน้ำแร่บริสุทธิ์สามแก้วส่งเข้ามาหน่อยนะ”