“แนะนำที่มาของตัวเองเหรอ?”ชายหนุ่มคนนั้นแสยะยิ้ม: “แกก็เป็นแค่คนใช้คนหนึ่ง ยังไม่มีสิทธิ์รู้ฐานะประมุขของพวกเรา!”

ซูอานสุ้นรู้สึกว่าถูกเหยียดหยามเป็นอย่างมาก และพูดอย่างโกรธเคืองว่า: “ฉันแม่งเป็นคนรับใช้ แกก็แม่งไม่ใช่งั้นเหรอ? ทุกคนก็เป็นคนรับใช้ แกมีสิทธิ์อะไรพูดจาแบบนี้กับฉัน?!”

ชายหนุ่มคนนั้นพุ่งไปตรงหน้าของซูอานสุ้นด้วยความเร็วที่เร็วมาก ตอนที่ซูอานสุ้นไม่ทันได้ตั้งตัว ก็คว้าคอของเขาไว้ในทันที และยกเขาขึ้นมา พูดอย่างเฉียบขาดว่า: “ฟังให้ดีนะ ฉันเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของประมุขพวกเรา หนึ่งในราชันสงคราม ไม่ใช่คนรับใช้!”

ซูอานสุ้นคาดไม่ถึงว่า อีกฝ่ายจะกล้าลงมือกับตัวเองที่นอกประตูของตระกูลซู และอ้าปากด่าว่าด้วยความโกรธในทันทีว่า: “ก่อเรื่องที่นี่ แกแม่งรนหาที่ตาย! เด็กๆ จับตัวเขาเอาไว้!”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ กลุ่มบอดี้การ์ดคุ้มกันข้างกาย ถึงขนาดเหออิงฉวนที่มาจากตระกูลเหอและคนอื่นๆในตระกูลเหอ ก็ได้ทำการเตรียมพร้อมที่จะลงมือ

แต่ในเวลานี้ ท่านเฮ่อก็ก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่ดูมีภูมิฐานอย่างกะทันหัน และพูดอย่างสุภาพว่า: “น้องชายอย่าได้โมโหมากขนาดนี้ อานสุ้นเขาเป็นพ่อบ้านอยู่ในตระกูลซู ปกติก็ค่อนข้างหยิ่งจนเคยตัว ขอให้นายเห็นแก่หน้าของตระกูลซู อย่าได้ขัดแย้งกับคนรับใช้คนหนึ่งเลย……”

เมื่อซูอานสุ้นได้ยินท่านเฮ่อพูดแบบนี้ ก็ค่อนข้างมึนงงในทันที และอ้าปากพูดว่า: “ท่านเฮ่อ นี่ท่านเห็นขี้ดีกว่าไส้เหรอ……”

ท่านเฮ่อยื่นมือไปขัดจังหวะการพูดของเขา แล้วก็เขม็งตาใส่เขา ต่อจากนั้นก็พูดกับชายหนุ่มคนนั้นว่า: “น้องชาย ในเมื่อประมุขของพวกนายต้องการพบคุณท่านของพวกเรา งั้นพวกนายโปรดรอสักครู่ ตอนนี้ฉันจะไปเรียนให้คุณท่านทราบ นายคิดว่าไง?”

เมื่อชายหนุ่มคนนั้นได้ยินสิ่งนี้ ถึงได้ปล่อยซูอานสุ้นออก และพูดอย่างเย็นชาว่า: “ทางที่ดีเร็วหน่อย พวกนายเหลือเวลาเพียงแค่สองนาทีเท่านั้น!”

ท่านเฮ่อพยักหน้าอย่างรวดเร็วและพูดว่า: “ได้! ฉันจะเร็วที่สุด!”

จากนั้น ก็พูดกับซูอานสุ้นที่ดูโกรธในทันทีว่า: “อานสุ้น นายตามฉันไปพบคุณท่าน!”

ซูอานสุ้นต่อหน้าคนรับใช้ของตระกูลซู ถูกคนทำให้เสียหน้า ในใจก็ย่อมไม่พอใจเป็นอย่างมากที่สุด

เขายังต้องการพูดเหตุผลกับชายหนุ่มคนนั้นอีก แต่ว่าเมื่อได้ยินท่านเฮ่อพูดแบบนี้ เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง ทำได้เพียงตามท่านเฮ่อเข้าไปในลานบ้านอย่างโกรธเคือง

ทันทีที่เข้าไปในลานบ้าน ซูอานสุ้นก็พูดอย่างหดหู่ใจเป็นอย่างมาก: “ท่านเฮ่อ ไม่ใช่ว่าผมซูอานสุ้นตั้งใจล่วงเกินท่าน แต่ท่านเกรงใจมากเกินไปหรือเปล่า เมื่อกี้นี้สถานการณ์แบบนั้นท่านไม่ช่วยผมก็ช่างเถอะ ทำไมยังห้ามผมด้วย? ยิ่งไปกว่านั้นท่านยังช่วยไอ้สารเลวนั้นพูดด้วย ไม่ให้ความสำคัญเกินไปแล้วนะ?”

ท่านเฮ่อลดเสียงลง พูดกับซูอานสุ้นว่า: “ฉันไม่ได้ห้านาย ฉันช่วยนายต่างหาก! นายรู้มั้ยว่า ไอ้หมอนั่น แข็งแกร่งเหนือกว่าฉันมาก!”

“อะไรนะ?!”ซูอานสุ้นตกใจจนหน้าซีดเซียว และอ้าปากพูดว่า: “นี่……นี่เป็นไปได้ยังไงท่านเฮ่อ! ไอ้เด็กเปรตหน้าอัมพาตนั้น ความแข็งแกร่งเหนือกว่าท่านงั้นเหรอ?! กวาดสายตามองทั้งประเทศ คนที่สามารถสู้กับท่านได้ก็มีไม่กี่คนนะ นอกจากชายชราจากตระกูลเหอที่เพิ่งบุกทะลวง ใครจะแข็งแกร่งกว่าท่าน?”

สัญชาตญาณของซูอานสุ้น ไม่เชื่อคำพูดของท่านเฮ่อ

อีกฝ่ายถึงขนาดไม่รู้ว่าที่มาคืออะไร เพียงแค่ลูกน้องที่ลงมาเป็นสื่อกลางคนหนึ่ง ความแข็งแกร่งกลับเหนือกว่าท่านเฮ่องั้นเหรอ? ล้อเล่นอะไรกันเนี่ย?

แต่ทว่า ท่านเฮ่อกลับพูดอย่างหนักแน่นมากว่า: “ความเร็วของคนคนนั้น ความแข็งแกร่งและความแข็งแกร่งทางร่างกายก็เหนือกว่าฉันทั้งนั้น!”

จากนั้น ท่านเฮ่อก็พูดอธิบายด้วยท่าทางเคร่งขรึมอีกว่า: “เมื่อกี้นี้เขาคว้าปกเสื้อของนายไว้ ยกนายขึ้นมา กระบวนการทั้งหมดเร็วมากจนฉันยังไม่ทันได้ตั้งตัว!”

“ยิ่งไปกว่านั้น แขนของเขายังทรงพลังมาก จับนายทั้งคนขึ้นมา นายสลัดหลุดรุนแรงขนาดนั้น เขาทั้งคนก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย!”

“นายจำเอาไว้ สามารถจับนายไว้ได้ไม่ถือว่าแข็งแกร่ง จับนายไว้ ทำให้นายไม่สามารถสลัดหลุดได้ไม่ถือว่าแข็งแกร่ง แต่สามารถทำถึงขั้นที่ไม่ว่านายสลัดหลุดยังไง ตัวของเขาก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย ถึงกับไม่มีการเคลื่อนที่แม้แต่มิลลิเมตรเดียว ตรงจุดนี้ แข็งแกร่งมาก!”

“แม้แต่ยอดฝีมือระดับอย่างเหออิงฉวนอยู่ที่นี่ นับประสาอะไรกับการให้เขาจับตัวผู้ใหญ่คนหนึ่ง ต่อให้จับสุนัขที่โตเต็มวัยตัวหนึ่ง เขาก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ตอนที่อีกฝ่ายสลัดหลุดอย่างรุนแรง ตัวเองสามารถทำถึงขั้นไม่ขยับแม้แต่น้อยได้! ฉันก็ทำไม่ได้!”

“ดังนั้น ชายหนุ่มคนนั้น ฝีมือลึกเกินกว่าที่จะรู้ได้ สุดยอดเป็นอย่างมาก!