ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลูจ้านจุนซึ่งเป็นนายพลห้าดาวของสำนักว่านหลงกำลังนำทหารหนึ่งพันคนอ้อมไปทางปีกตะวันตกของฐานฮามิด และคนรับใช้ของตระกูลซูได้เตรียมงานเลี้ยงไว้หลายโต๊ะแล้ว

ซูเฉิงเฟิงเชิญว่านพั่วจวินและผู้ติดตามนั่งลง เขาจับมือว่านพั่วจวิน แล้วให้เขานั่งข้างตนเอง และไม่ลืมที่จะสานไมตรีกับว่านพั่วจวิน เขาถอนหายใจและกล่าวว่า “พั่วจวิน ถ้าพ่อคุณรู้ถึงความสำเร็จของคุณในวันนี้ วิญญาณที่อยู่บนสวรรค์คงจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง…”

ว่านพั่วจวินคิดถึงพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว เขาจึงเกิดอารมณ์ตื่นเต้นเป็นธรรมดา และกล่าวอย่างจริงจังว่า “คราวนี้ที่ผมกลับมา นอกจากจะมาล้างแค้นให้พ่อแม่แล้ว ยังหวังว่าจะสามารถบอกเล่าประสบการณ์ของผมในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาให้พวกท่านฟังที่หน้าหลุมฝังศพ เพื่อเป็นการปลอบโยนวิญญาณของพวกเขาที่อยู่บนสวรรค์”

“ใช่ ใช่!” ซูเฉิงเฟิงพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าและถามว่า “พั่วจวิน คุณมีแผนการแก้แค้นตระกูลเย่อย่างไร?”

ว่านพั่วจวินกล่าวว่า “ผมได้ให้ลูกน้องใช้สถานะอื่นซื้อบ้านหลังเก่าของตระกูลว่านกลับมาแล้ว ตอนบ่ายผมจะออกเดินทางไปเย่นจิง ผมจะกลับไปพักที่บ้านเก่าสองสามวัน แล้วรอให้ราชันสงครามทั้งสามของสำนักว่านหลงเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว พวกเขาจะไปสบทบกับผมที่เย่นจิง”

ขณะที่กล่าว ดวงตาของว่านพั่วจวินประกายด้วยรัศมีการฆ่าที่รุนแรง และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “เมื่อถึงเวลานั้น ราชันสงครามทั้งสี่ของสำนักว่านหลงจะรวมไปตัวกันในเย่นจิง และยอดฝีมือคนอื่น ๆ ของสำนักว่านหลงจากทั่วทุกมุมโลกก็จะมารวมตัวกันที่เย่นจิงในวันเช็งเม้ง ผมจะนำพวกเขาไปพร้อมกับนายพลสิบหกคนของสำนักว่านหลง รวมถึงทหารหัวกะทิอีกหลายร้อยคนบุกขึ้นไปบนภูเขาเย่หลิงซาน!”

เมื่อซูเฉิงเฟิงได้ยินประโยคนี้ หลอดเลือดแดงที่เหี่ยวเฉาของเขาก็เดือดพลุ่งพล่านขึ้นมา และรีบถามว่า “พั่วจวิน ตอนนี้ราชันสงครามทั้งสามของคุณอยู่ที่ไหน?”

ว่านพั่วจวินกล่าวราบเรียบว่า “คนหนึ่งอยู่ในปากีสถาน อีกคนหนึ่งอยู่ในเยเมน และอีกคนหนึ่งอยู่ในซีเรีย”

ซูเฉิงเฟิงพยักหน้าเบา ๆ และคิดในใจว่า เป็นสถานที่ที่มีสงครามตลอดทั้งปี

ดังนั้นเขาจึงกล่าวชมว่า “สถานที่เหล่านี้มีการสู้รบอย่างต่อเนื่อง ผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณได้รับการฝึกฝนในสถานที่ดังกล่าวตลอด ระดับการต่อสู้ที่แท้จริงต้องยอดเยี่ยมมาก! เกรงว่าจะไม่ด้อยไปกว่าแบล็ควอเตอร์ที่มีชื่อเสียง!”

ว่านพั่วจวินกล่าวอย่างทะนงว่า “ในแง่ของความสามารถในการต่อสู้แล้ว สำนักว่านหลงของผมไม่ได้ด้อยไปกว่าแบล็ควอเตอร์ และเป็นเรื่องธรรมดาที่ถูกจัดเป็นรอันดับหนึ่งในองค์กรทหารรับจ้างขนาดใหญ่”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ว่านพั่วจวินกล่าวด้วยความเหยียดหยามว่า “เหตุผลที่แบล็ควอเตอร์สามารถโด่งดังไปทั่วโลกนั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่ากลยุทธ์คลื่นมนุษย์และการสนับสนุนจากทำเนียบขาว ไม่นานสำนักว่านหลงของผมจะก้าวข้ามพวกเขา และเป็นทหารรับจ้างอันดับหนึ่ง!”

ซูเฉิงเฟิงหัวเราะและกล่าวโพล่งออกมา “ผมมั่นใจว่าคุณทำได้แน่นอน!”

ว่านพั่วจวินพยักหน้าและกล่าวอย่างเย่อหยิ่งว่า “แบล็ควอเตอร์ในสหรัฐอเมริกาได้รับการว่าจ้างจากซีเรียเมื่อไม่นานมานี้เพื่อเคลียร์ความขัดแย้งในประเทศ แต่แบล็ควอเตอร์ใช้เวลาไปหนึ่งปีแล้วแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ สำนักว่านหลงของผมเพิ่งร่วมงานกับซีเรียเพียงหนึ่งเดือน ซึ่งพวกเราบุกไปทางไหน ที่นั่นก็ราบเป็นหน้ากลอง สามารถยึดเมืองได้อย่างต่อเนื่อง! และผมเชื่อว่าอีกครึ่งเดือน พวกเราจะสามารถกวาดล้างศัตรูได้อย่างสมบูรณ์ และได้รับชัยชนะทั้งหมด!”

“เมื่อถึงเวลานั้น สำนักว่านหลงจะทำให้แบล็ควอเตอร์เสียหน้าต่อหน้าองค์กรทหารรับจ้างทั่วโลก!”

จากนั้นว่านพั่วจวินกล่าวอย่างลำพองว่า “หลังจากได้รับชัยชนะทั้งหมดแล้ว พวกเราจะสร้างฐานทัพทหารรับจ้างในซีเรียที่ครอบคลุมพื้นที่กว่าหนึ่งร้อยตารางกิโลเมตร เมื่อถึงเวลานั้น สำนักว่านหลงจะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของทหารรับจ้างทั่วโลก!”

ซูเฉิงเฟิงรู้สึกตกตะลึงและกล่าวโพล่งออกมาว่า “หนึ่งร้อยตารางกิโลเมตร! พวกเขาจะให้สำนักว่านหลงมีพื้นที่กว้างใหญ่เช่นนี้ได้อย่างไร?”

ว่านพั่วจวินกล่าวอย่างราบเรียบว่า “นี่คือเงื่อนไขที่ผมตกลงกับพวกเขา ผมจะช่วยพวกเขากำจัดฝ่ายต่อต้าน และพวกเขาจะให้ที่ดินและสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดที่ผมต้องการแก่ผม แน่นอนว่าถ้าสิทธิ์การใช้ที่ดินหนึ่งร้อยตารางกิโลเมตรสำหรับพื้นที่ที่พัฒนาแล้วมันไม่เหมาะสาม แต่สำหรับสถานที่กันดารแล้วจะเพิ่มเป็นสองเท่าสิบเท่าก็ไม่มีปัญหาอะไร และสำหรับพวกเขาแล้ว การที่ร่วมมือระยะยาวกับสำนักว่านหลงแล้ว สำนักว่านหลงจะช่วยพวกเขารักษาความมั่นคง ทุกคนได้รับสิ่งที่ต้องการและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และได้ผลประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย!