ว่านพั่วจวินแย่งโทรศัพท์ของเขามา แล้วก้มดูข้อความในกล่องข้อความ ทั้งตัวก็ตกอยู่ในความโกรธอย่างสุดขีดแล้ว เขาขว้างโทรศัพท์ของลู่เห้าเทียนลงกับพื้นสุดแรง ขว้างจนแตกกระจาย จากนั้นเขาก็กัดฟันและตะคอกว่า:”เมื่อวานเพิ่งมีผู้เสียชีวิต 1,500 กว่าคน และอีก 1,000 คนเสียชีวิตวันนี้ เฉินจงเหล่ยมันเป็นสวะงั้นเหรอ?” ลู่เห้าเทียนไอกระแอมสองครั้ง แต่ไม่กล้าตอบ ว่านพั่วจวินพูดด้วยสีหน้าเย็นชาอย่างยิ่ง:”การพ่ายแพ้ทั้งสองครั้งนี้ จะทำให้สำนักว่านหลงของเราเสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน! มันอาจจะทำให้เราตกจากอันดับ 10 ขององค์กรทหารรับจ้างโลกรวดเดียว! ทั้งทหารรับจ้างโลก ไม่เคยมีการสูญเสียที่น่าสังเวทใจขนาดนี้ในช่วงหลายสิบที่ผ่านมา! นี่มันเป็นเรื่องตลกที่ยิ่งใหญ่จริงๆ!!” จากนั้น เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาทันที เปิดเครื่องแล้วโทรหาเฉินจงเหล่ย แล้วพูดตะโกนด่าว่า:”ไอ้โง่!!! ฉันมอบงานง่ายๆ ให้แก แกกลับทำจนเป็นสภาพแบบนี้งั้นเหรอ?” เฉินจงเหล่ยพูดด้วยความละอายใจ:”ท่านประมุข โปรดฟังคำอธิบายของผมด้วยครับ……” ว่านพั่วจวินกัดฟันถามว่า:”พ่ายแพ้สงครามครั้งใหญ่ แกจะอธิบายอะไรอีก? แกไม่ละอายใจแก่ตำแหน่งราชันสงครามแห่งสำนักว่านหลงหรือไม่?” เฉินจงเหล่ยพูดอย่างสลด:”ท่านประมุข……ผมขอโทษครับ ขอโทษสำนักว่านหลง…… แต่คราวนี้ศัตรูไม่ธรรมดาจริงๆ พวกเขาไม่เพียงแต่สร้างป้อมปราการที่แข็งแรงมากแล้วเท่านั้น แต่ยังสามารถทำนายทุกขั้นตอนของการวางแผนยุทธวิธีของเราได้อย่างแม่นยำ คนของเราสุ่มเลือกจุดกระโดดร่มลง 2 ที่ สุดท้ายทั้งสองที่ถูกพวกเขาฝังระเบิดแรงสูงไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้น ผมแน่ใจว่าพวกเขาจะต้องวางจุดระเบิดไว้ทั่วฐาน ไม่ว่าทหารของเราจะลงที่ไหน มันก็อยู่ในระยะการฆ่าของพวกเขา……” เมื่อพูดถึงนี้ เฉินจงเหล่ยก็พูดด้วยความเศร้าโศกและขุ่นเคืองว่า:”ท่านประมุข ท่านจงลงโทษผมยังไง ผมยอมรับหมด แม้ว่าท่านจะจัดการกับผมด้วยกฎหมายทหารตรงๆ และยิงผมให้ตาย ผมก็ไม่มีคำพูดที่แค้นเคือง……” “แต่ผมต้องบอกว่า คามมิตและผู้ติดตามของเขา มันแตกต่างอย่างมากกับองค์กรฝ่ายต่อต้านที่เราเคยพบมาก่อน วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์และการจัดวางยุทธวิธีของบุคคลนี้แม่นยำมาก แล้วยังโหดร้ายอย่างยิ่ง……” “จนถึงตอนนี้การคบหาทั้งหมดของเรากับเขานั้น สามารถเห็นได้ว่าเขาเป็นนักลัทธิปฏิบัตินิยมสุดโต่ง ป้อมปราการทั้งหมดของเขา การจัดวางยุทธวิธีทั้งหมด มีจุดประสงค์เดียวคือทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อฆ่าศัตรู และจะไม่ให้ทางรอดใดๆแก่ศัตรูสักนิด……” “เราต้องให้ความสำคัญกับคนประเภทนี้ และจริงจังกับมันถึงจะมีโอกาสเอาชนะเขาได้ ถ้าท่านยิงผม ก็ขอได้โปรดคิดให้รอบคอบเกี่ยวกับการจัดการเชิงกลยุทธ์ครั้งต่อไปให้ดี และอย่าประมาทผู้ชายคนนี้เด็ดขาด……” สีหน้าของว่านพั่วจวินบึ้งมาก เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า:”แพ้สงครามที่ไม่เคยมีมาก่อนถึง 2 ครั้งติดต่อกัน แค่ข้อนี้ ฉันยิงนายสองครั้งก็ยังไม่พอ! ” พูดถึงนี้ ว่านพั่วจวินก็เปลี่ยนเรื่อง และพูดต่อ:”แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะฆ่านาย แต่เป็นเวลาที่จะให้นายชดใช้ความผิด! ยิ่งเราแพ้ให้กับคามมิตแบบนี้ สำนักว่านหลงของเราก็จะยิ่งปล่อยเขาไปไม่ได้ อีกไม่นานโลกของทหารรับจ้างก็จะรู้เรื่องนี้ แล้วทุกคนจะเห็นมุมตลกของเรา ดังนั้นเราต้องกำจัดคามมิตให้หมดสิ้น และเอาศักดิ์ศรีที่เราแพ้กลับคืนมา มา!” เฉินจงเหล่ยโพล่งออกมา:”ท่านประมุข……ตอนนี้คามมิตได้สร้างฐานของเขาเหมือนถังเหล็ก เราโจมตีเข้าไปยากมาก เว้นแต่ใช้ซากศพกองพะเนินเทินทึก……” ว่านพั่วจวินกัดฟันและพูดว่า:”เราไม่สามารถโจมตีอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าได้อีกแล้ว แบบนั้นมันจะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้เราไม่สามารถแบกรับความพ่ายแพ้ครั้งที่สามได้อีกแล้ว!” พูดจบ ว่านพั่วจวินก็สั่งทันทีว่า:”ตอนนี้นายต้องรวบรวมกองกำลังทั้งหมดของนาย ปลอบขวัญทุกคนก่อน และอย่าให้ความพ่ายแพ้ทั้งสองนี้มาทำให้ทหารหมดใจสู้เด็ดขาด ฉันจะดึงกลุ่มทหารจากที่อื่น รวมให้ได้ 15,000 และล้อมคามมิตไว้! ล้อมไว้เหมือนถังเหล็ก! ห้ามให้แมลงวันสักตัวบินเข้ามา!” “นอกจากนี้ ตราบใดที่เป็นสิ่งมีชีวิตในถังเหล็ก ออกมาหนึ่งก็ฆ่าหนึ่ง! ต่อให้แมลงวันสักตัวกล้าบินออกมา ก็ต้องฆ่ามันซะ! ถึงแม้พวกเขาจะยอมแพ้ก็ห้ามยอมรับ! ห้ามไว้ชีวิตสักคน! ครั้งนี้จะสู้กับมันให้ถึงที่สุด ไม่ตายไม่ยอม!