เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฮามิดก็เอ่ยขึ้นอีกว่า: “นายอย่าคิดว่าที่แอฟริกาก็วุ่นวายไม่แพ้กันนะ แต่เอาเข้าจริง ประเทศแอฟริกาที่มีสงครามวุ่นวายเหล่านั้น แต่ละแห่งต่างก็ยากจนจะตาย หากทหารรับจ้างไปทำการสู้รบอยู่สถานที่แบบนั้น ก็ไม่สามารถหาเงินจำนวนมากได้จริงๆ แต่ที่ตะวันออกกลางไม่เหมือนกัน หลายประเทศในตะวันออกกลางต่างก็ร่ำรวยมาก ต่อให้เป็นอิหร่านที่ถูกลงโทษเป็นเวลาหลายปี อันที่จริงก็อุดมไปด้วยน้ำมัน อีกทั้งพวกเขาต่างก็มีความต้องการในทหารรับจ้าง ทั้งยังทุ่มเงินใหญ่ได้ ดังนั้นสำหรับทหารรับจ้างแล้ว ก็เป็นตลาดที่ยักษ์ใหญ่เป็นอย่างยิ่ง” “อีกทั้งอาวุธหนักของตะวันออกกลางก็มีเยอะมาก แทบจะเป็นพิพิธภัณฑ์อาวุธของทิศตะวันตกทิศตะวันออก ในนั้นมีอาวุธที่ทำจากรัสเซียเยอะที่สุด ขอเพียงมีเงิน ก็ไม่มีอะไรที่ซื้อมาไม่ได้ หากสำนักว่านหลงสร้างฐานทัพที่ซีเรียได้จริงๆ จากนั้นก็สร้างอาวุธหนักของท้องถิ่นขึ้นมาที่ตะวันออกลางล็อตหนึ่ง เช่นนั้นจากนี้ไปพลังการทำสงครามในตะวันออกกลางก็จะต้องยกสูงขึ้นแน่นอน จะต้องได้รับการให้ความสนใจมาก” เย่เฉิน มีความไม่เข้าใจเล็กน้อย เอ่ยถามว่า: “ทำไมทหารรัฐบาลของพวกคุณถึงต้องการร่วมมือกับพวกเขาล่ะ หรือไม่กลัวว่าสำนักว่านหลงจะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประเทศในอนาคตเลยเหรอ?” ฮามิดยิ้มแห้งๆ เอ่ยว่า: “สำหรับพวกเขาแล้ว สำนักว่านหลงแข็งแกร่งกว่าฝ่ายกบฏอย่างพวกเราเยอะมาก ถึงอย่างไรพวกเราก็ต่อสู้กับพวกเขาด้วยอาวุธจริง” “ก็จริงนั่นแหละ” เย่เฉินหยุดไปชั่วครู่ จากนั้นเอ่ยถามเขาอีกครั้ง: “จริงสิ คุณรู้ไหมว่าผู้บัญชาการสูงสุดในซีเรียคือใครไหม?” ฮามิดตอบทันที: “พญาหมาป่าเนตรเขียวหนึ่งในราชันสงครามของพวกเขา ได้ยินมาว่าเป็นคนเชื้อสายจีน” เย่เฉินพยักหน้าเบาๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า: “ผมกะว่าจะหาโอกาสเหมาะไปเจอเขาสักหน่อย” ฮามิดเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย: “น้องชาย นายห้ามผลีผลามเชียวนะ ฉันเคยได้ยินมา ว่าราชันสงครามของสำนักว่านหลงนี้ ต่างก็เป็นยอดฝีมือระดับสุดยอดทั้งนั้นเลยนะ อีกทั้งพวกเขาไม่ได้มีแค่ราชันสงคราม ยังมีทหารรบระดับเทพมากกว่าร้อยคนอีกด้วย พละกำลังแข็งแกร่งมากเลยทีเดียว ขืนนายไปโดยพลการ อันตรายใหญ่หลวงเกินไป!” เย่เฉินยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “ไม่รู้ว่าทำไม ผมถึงมีความรู้สึกหนึ่งอยู่ตลอด รู้สึกว่าผมกับสำนักว่านหลงนี่ อาจจะได้มีปฏิสัมพันธ์กันมากมายในอนาคต ถึงขั้นอาจเป็นศัตรูรายใหญ่คนหนึ่งในอนาคตผมด้วย” “ถ้าผมอยู่ในประเทศก็แล้วไป ในเมื่อครั้งนี้มาแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ควรที่จะคิดหาวิธีรู้แผนการของพวกเขาสักหน่อย” “นอกจากนี้ ผมต้องการพาตัวซูโสว่เต้าไป ก็มีเพียงเส้นทางนี้เท่านั้นที่จะไปได้ ดังนั้น ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องไปสักรอบ ทางที่ดีคือลักพาตัวเขาออกมา” ฮามิดเอ่ยขึ้นอย่างกังวลใจเล็กน้อย: “น้องชาย สำนักว่านหลงในรอบๆ ฉันมีอย่างน้อยหมื่นห้าราย พญาหมาป่าเนตรเขียวคนนั้นต่อให้จะอยู่ที่เส้นแนวหน้า ก็ไม่แน่ว่าจะอยู่ข้างในเขตแดนกองทัพของพวกเขา ที่นั่นไม่รู้ว่ามีทหารกี่รายที่ปกป้องอยู่ เดิมทีถ้านายต้องการที่จะตามหาจนเจอตัวเขาได้ภายในทหารนับหมื่นนายก็เป็นเรื่องที่ยากคับฟ้าอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับการที่นายต้องการที่จะลักพาตัวเขาออกมาจากทหารนับหมื่นนาย นี่มันยิ่งยากซ้อนยากอีกไม่ใช่หรือไง?” เย่เฉินยิ้มอ่อน: “ก็ไม่ยากนี่นา ก็ไม่แน่ว่าผมจะบุกเข้าไปในกองทัพข้างในของเขาแล้วหาเขาจากที่นั่นนี่ ผมเดินเข้าไปหาเขาอย่างสง่าผ่าเผยเลยก็ได้” ฮามิดเอ่ยด้วยความตกใจ: “อะไรนะ?! นายบ้าแล้วเหรอ?! ขอแค่นายออกไปจากที่นี่ ทหารของพวกเขาก็จะต้องยิงนายเลยแน่นอน ไม่มีทางให้โอกาสนายได้พูดเลยด้วยซ้ำ!” เย่เฉินยิ้มพร้อมเอ่ยว่า: “อย่าใจร้อน ผมยังพูดไม่จบเลย” สิ้นเสียง เย่เฉินก็หยุดไปชั่วครู่ จากนั้นเอ่ยขึ้นอีก: “เอาแบบนี้ วันนี้คุณส่งข่าวไป บอกว่าคุณหวังอยากจะเจรจากับพวกเขา มีรายละเอียดที่จะเจรจากันแต่ไม่จำกัดที่การจับมือกันทั้งสองฝ่ายปรองดองกัน หรือว่าคุณมีเงื่อนไขที่จะยอมแพ้ศึกจะเสนอแก่สำนักว่านหลงและทหารรัฐบาล” “แต่ว่าสำหรับรายละเอียดเงื่อนไขของการยอมแพ้ศึกนั้น ต้องนั่งลงแล้วเจรจาต่อหน้ากับผู้บัญชาการสูงสุดของสำนักว่านหลง ผมเชื่อว่าพวกเขาจะต้องสนใจแน่นอน” “เมื่อถึงตอนนั้นคุณก็บอกพวกเขาไปว่า คุณจะส่งตัวแทนการเจรจาออกมาคนหนึ่ง ไปยังฐานทัพของพวกเขา เจรจาหารือกับผู้บังคับบัญชาสูงสุดของพวกเขา” “ส่วนผม ก็คือตัวแทนการเจรจาของคุณ!”