เธอได้เตรียมแผนการที่แย่ที่สุดไว้แล้ว ถ้าหากถูกยุติการอภิเษกสมรส ตนก็ทำได้แค่กลับยุโรปเหนือ หลังจากนั้นก็ไปขอร้องโอลิเวียลูกพี่ลูกน้องของตนเอง ขอให้เธอเห็นแก่ความเป็นพี่น้อง ให้ตนกับแม่มีชีวิต แต่ ชั่วพริบตาเดียว ความคิดที่ดูไร้สาระสำหรับเธอก็ผุดขึ้นในใจเธอเช่นกัน เธอคิดในใจ“หรือเย่เฉินคนนั้นจะเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ?เขาอาจจะดูอาการป่วยของฉันออกตั้งแต่แรกแล้ว ไม่แน่เขาอาจจะสามารถโรคของฉันหายก็เป็นได้……” เมื่อคิดได้ดังนี้ เฮเลน่าเหมือนคว้าฟางเส้นสุดท้ายได้ เธอจึงพูดในใจว่า“พรุ่งนี้ไปพบเขาที่ตระกูลเย่ ต้องหาวิธีแอบถามเขาส่วนตัวว่าสามารถช่วยชีวิตเธอได้หรือไม่” เย่เฉินในตอนนี้ ยังอยู่ที่ตระกูลกู้ กำลังชนแก้วกับกู้เย้นจง ทั้งสองคนดื่มกันอย่างมีความสุข ถึงอาหารบนโต๊ะจะทานหมดเกลี้ยงแล้ว แต่ก็ยังไม่อยากลงจากโต๊ะ คุณหนึ่งแก้ว ฉันหนึ่งแก้วดื่มไปด้วยคุยกันไปด้วย บรรยากาศชื่นมื่น หลินหว่านชิวทำอะไรไม่ได้ และเธอก็ไม่อยากให้ลุงกับหลานสองคนดื่มเหล้าเปล่าๆโดยไม่มีอาการบนโต๊ะ ทำได้แค่รีบให้คนไปทำอาหารมาใหม่ กู้เย้นจงอารมณ์ดีมาก หลังจากที่เขาดื่มเยอะมากแล้ว ก็ตบบ่าของเย่เฉิน แล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า“เฉินเอ๋อ วันนี้ลุงมีความสุขมากจริงๆ!อารมณ์ลุงนี้ขนาดนี้ มีสองเหตุผล!นายรู้ไหมว่าคืออะไร?” เย่เฉินพูดอย่างยิ้มๆว่า“ผมมาเยี่ยมถึงที่บ้าน ถือว่าเป็นเหตุผลหนึ่งรึเปล่าครับ?” กู้เย้นจงหัวเราะเสียงดัง“แน่นอนอยู่แล้ว!นายมาที่นี่ เป็นเรื่องที่ฉันมีความสุขมากที่สุด!” พูดจบ เขาก็ถามอีกว่า“เหตุผลที่สองล่ะ นายรู้ไหม?” เย่เฉินส่ายหัวไปมา แล้วถามเขาว่า“ลุงกู้ครับ พูดได้เลยครับ” กู้เย้นจงจึงพูดอย่างจริงจังว่า“เหตุผลที่สองก็คือ ครั้งนี้นายกลับมาร่วมพิธีไหว้บรรพบุรุษ!จากความสามารถของนาย ฉันเชื่อว่านายจะมีสิทธิ์ได้เป็นทายาทผู้สืบทอดของตระกูลเย่อย่างแน่นอน ขอแค่คุณปู่ของนายไม่สติเลอะเลือน เขาจะต้องยกตระกูลเย่ให้กับนายแน่!มีแค่นายที่มีสิทธิ์สืบทอดคำสั่งเสียของพ่อนาย แล้วส่งเสริมให้ตระกูลเย่เจริญรุ่งเรือง!” เย่เฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า“ลุงกู้ครับ ผมขอพูดอย่างตรงไปตรงมาเลยนะครับ อันที่จริงผมไม่สนใจการสืบทอดตระกูลเย่เลยครับ” กู้เย้นจงถามอย่างแปลกใจว่า“ทำไมล่ะ?” เย่เฉินฝืนหัวเราะ แล้วกล่าวว่า“ตอนที่พ่อของพาผมออกจากเย่นจิง ยังคงมีความตัดพ้อตระกูลเย่อยู่ไม่มากก็น้อย ผมในตอนนั้นอายุยังน้อย มีเรื่องที่ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ผมก็รู้ดีว่า พ่อผิดหวังต่อตระกูลเย่ ดังนั้นผมจึงไม่ได้รู้สึกดีต่อตระกูลเย่เลย” กู้เย้นจงถอนหายใจ แล้วพูดอย่างจริงจังว่า“เฉินเอ๋อ!พ่อของนายผิดหวังต่อตระกูลเย่ เป็นเพราะตระกูลเย่กับเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน สิ่งที่พ่อของนายอยากทำ ก็คือการฟื้นฟูตระกูลเย่ ให้ก้าวไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก แต่ตระกูลเย่เป็นกังวลว่า พ่อของนายคิดแผนการสุดโต่งเกินไป ถ้าทำไม่สำเร็จ จะทำให้ตระกูลเย่ต้องเผชิญกับความสูญเสียมหาศาล” พูดถึงตรงนี้ กู้เย้นจงก็พูดด้วยสีหน้าสะท้อนใจว่า“นี่ก็เหมือนกับกลุ่มคนที่วางแผนจะปีนยอดเขาเอเวอเรสต์ เป้าหมายของพ่อนายก็คือการขึ้นไปยังจุดสูงสุด แต่คนอื่นๆ เพราะกลัวตายอยู่ดาบหน้า ในตอนที่ปืนไปจนถึงครึ่งทางก็รู้สึกอยากลงไปแล้ว พวกเขาไม่เพียงแต่จะลงไป ยังจะนำอุปกรณ์และวัสดุลงไปด้วย ตัดความหวังของพ่อนายที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุด พ่อของนายผิดหวัง แต่ไม่ขุ่นเคืองและไม่ดูถูกใคร” ตอนนี้เอง กู้เย้นจงยกแก้วเหล้าขึ้นมา แล้วกระดกเหล้าที่มีดีกรีสูง พลางพูดด้วยดวงตาแดงก่ำว่า“ก่อนที่พ่อของนายจะตัดสินใจออกจากเย่นจิง เราก็เหมือนกับวันนี้ นั่งดื่มเหล้าด้วยกันทั้งวัน เพียงแต่ตอนนั้นความรู้สึกของเรา กับตอนนี้มันกลับกัน……” พูดจบ กู้เย้นจงก็มองไปที่เย่เฉิน แล้วพูดอย่างจริงจังว่า“เฉินเอ๋อ ตอนที่พ่อของนายเดินทางออกจากเย่นจิง เขาเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากยอมแพ้ต่อโชคชะตา ฉันเชื่อว่าวินาทีสุดท้ายตอนที่เกิดเรื่องกับเขา ภายในใจยังคงไม่อยากยอมแพ้ นายจะต้องสืบทอดคำสั่งเสียของพ่อนายนะ ถึงจะสู้เพื่อเขาก็ตาม นายก็ต้องเป็นผู้นำของตระกูลเย่ให้ได้!”