สาวจีนรีบพูดกับเจ้าหน้าที่พยาบาลว่า“เราพึ่งทำCPRกับกระตุ้นหัวใจให้ผู้ป่วย และฉีดอะดรีนาลีนหนึ่งหนึ่งมิลลิกรัมเข้าสู่หัวใจ ได้โปรดรีบพาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือดหัวใจเถอะค่ะ!” เจ้าหน้าที่พยาบาลคิดไม่ถึงว่าจะมีคนที่อยู่ในสายอาชีพเดียวกันสองคน แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีเวลาถามอะไรแล้ว รีบทำการเรียกคนมาช่วยอุ้มเฮลิน่าขึ้นเปลพยาบาล เย่เฟิงรีบร้อนกระวนกระวาย แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองช่วยอะไรไม่ได้ เขาจึงไม่รู้จะทำอย่างไร ทำได้แค่รีบติดต่อเย่โจงฉวน พอโทรติด ก็รีบรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้กับเย่โจงฉวน หลังจากที่เย่โจงฉวนฟังจบ หัวใจก็เขาก็กระตุก กลัวว่าเฮเลน่าจะตายอยู่ในหัวเซี่ย จึงรีบพูดกับเย่เฟิงว่า“รีบบอกเจ้าหน้าที่พยาบาล ให้ส่งไปที่โรงพยาบาลในเครือของเย่ซื่อกรุ๊ป ที่นั่นมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดที่ดีที่สุดในประเทศ!เราจะรีบตามไปเดี๋ยวนี้แหละ!” เย่เฟิงพึ่งนึกขึ้นมาได้ว่าครอบครัวของตนเองมีความพร้อมทางด้านนี้มากที่สุด จึงรับตกลง แล้วพูดกับเจ้าหน้าที่พยาบาลว่า“รีบส่งเธอไปที่โรงพยาบาลในเครือของเย่ซื่อกรุ๊ป!” โรงพยาบาลในเครือของเย่ซื่อกรุ๊ป เป็นเหมือนกับโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง เป็นธุรกิจของตระกูลเย่ อีกทั้ง เพื่อความสะดวก ตระกูลเย่ยังสร้างคฤหาสน์ของตนเองในบริเวณใกล้ๆ กับโรงพยาบาลในเครือและโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง ออกจากโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง ไม่ว่าจะไปโรงพยาบาลของตระกูลเย่ หรือจะไปคฤหาสน์ของตระกูลเย่ ระยะทางล้วนใกล้กันมาก รถพยาบาลมุ่งหน้าด้วยความเร็ว ผ่านไปไม่กี่นาทีก็มาถึงศูนย์ช่วยเหลือโรงพยาบาลของตระกูลเย่ ในขณะเดียวกัน เย่โจงฉวนก็รีบเลื่อนเวลากันให้ญาติมาเยี่ยมเยือนออกไป จากเก้าโมง เป็นเก้าโมงครึ่ง จากนั้น เขาก็พาญาติในตระกูลเย่ รีบมาที่โรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ยุโรปเหนือเกิดโรงหัวใจกำเริบ ถ้าเธอสิ้นพระชนม์ มันจะมีกระทบต่อชื่อเสียงของตระกูลเย่ ดังนั้นเย่โจงฉวนจึงทำได้แค่เลื่อนเวลาทำพิธีออกไป แล้วมุ่งหน้ามาให้เร็วที่สุด คนในตระกูลเย่ กับเย่เฟิงแทบจะมาถึงโรงพยาบาลพร้อมกัน และเย่โจงฉวนก็ไม่มีเวลาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น ดังนั้นเขาจึงขอให้ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดในแผนกโรคหัวใจและหลอดเลือดมารวมกันที่ห้องฉุกเฉิน เพื่อดำเนินการปรึกษาหารือช่วยชีวิตเฮเลน่า และในตอนนี้เอง อาการของเฮเลน่ายิ่งอยู่ก็ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ หลังจากผ่านไปสิบกว่านาที บรรดาผู้เชี่ยวชาญก็สรุปเป็นเสียงเดียวกัน จากนั้น ผู้อำนวยการแผนกจึงออกมาพูดกับคุณท่านเย่ว่า“คุณท่านครับ เจ้าหญิงเฮเลน่าเพราะเป็นโรคTOFหัวใจพิการแต่กำเนิด หลังจากที่ทำการฉีดอะดรีนาลีนเข้าไป จึงทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ถึงขั้นที่วิกฤติแล้วครับ ท่านได้โปรดทำใจ” เย่เฟิงที่อยู่ข้างตกใจมาก เขาโพล่งออกไปว่า“อะไรคือให้ทำใจ?เราสองคนยังไม่ได้แต่งงานกันเลยนะ เธอก็จะไปแล้วงี้หรอ?” ผู้อำนวยการแผนกพยักหน้า แล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า“คุณชายใหญ่ครับ จากอาการของเจ้าหญิงเฮเลน่า เธอสามารถใช้ชีวิตมาได้ขนาดนี้ถือว่าพบเจอได้ยากแล้ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีอาการแทรกซ่อนขนาดนี้อย่างเธอ ไม่สามารถมีชีวิตอยู่จนถึงวัยผู้ใหญ่หรอกนะครับ” เย่เฟิงกลืนน้ำลาย แล้วถามผู้เชี่ยวชาญว่า“เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ไหน?” ผู้อำนวยการแผนกครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า“จากประสบการณ์ของผม มีโอกาสมีชีวิตอยู่ได้อีกหนึ่งชั่วโมงจนถึงสิบสองชั่วโมง ที่เห็นผลที่สุดคือยี่สิบสี่ชั่วโมงครับ” “แม่งเอ้ย!”เย่เฟิงสบถอย่างหยาบคาย แล้วก่นด่าว่า“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย?คนทั้งคนยังมีชีวิตอยู่ พอบอกว่าตายก็ตายดื้อๆอย่างงี้เนี่ยนะ?!” ผู้อำนวยการแผนกพูดอย่างทำอะไรไม่ได้“โรคแบบนี้ ยังไม่สามารถทำอะไรได้ ถึงจะปลูกถ่ายหัวใจก็แก้ปัญหาไม่ได้ครับ” เย่เฟิงรู้สึกโชคไม่ดีและไม่อยากยอมแพ้ต่อโชคชะตา จึงรีบหัวไปมองเย่โจงฉวน แล้วถามโพล่งออกไปว่า“คุณปู่ครับ เราจะทำยังไงดีครับ!” เย่โจงฉวนที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกมึนงง เขาจึงโพล่งออกไปว่า“ผู้อำนวยการจ้าวครับ คุณรีบรวบรวมทีมผู้เชี่ยวชาญ เตรียมใช้ยาและเครื่องแพทย์ช่วยชีวิต ไปส่งเฮเลน่าที่สนามบินกับเสี่ยวเฟิง!” พูดจบ เย่โจงฉวนก็พูดขึ้นมาอีกว่า“ฉันเตรียมเครื่องบินคองคอร์ดพร้อมขึ้นเครื่องแล้วรอที่สนามบิน เมื่อคุณไปถึง คุณสามารถบินตรงไปยังยุโรปเหนือได้เลย โปรดส่งเฮเลน่าไปยังยุโรปเหนือก่อนที่เธอจะตาย และอย่าปล่อยให้เธอตายในหัวเซี่ย!” พูดถึงตรงนี้ เย่โจงฉวนก็พูดอย่างเป็นกังวลว่า“ถ้าเธอตายที่หัวเซี่ยจริงๆ เราก็จะต้องเป็นแพะรับบาป!