หลังจากนั้น เธอกล่าวต่อไปว่า “ต่อไปฉันจะพยายามอย่างเต็มเพื่อฟื้นฟูความไว้วางใจของตระกูลเย่ที่มีต่อฉัน และเดินหน้าสนับสนุนเรื่องแต่งงานกับตระกูลเย่ต่อไป แต่ว่าตอนนี้ถ้าโอลิเวียเข้ามาแทรกแซง อาจมีผลกระทบในทางลบ” “ยิ่งไปกว่านั้น ฉันเชื่อว่าการที่เธอให้คุณสองคนติดตามอยู่ข้างกายฉัน ไม่เพียงแค่เพื่อเฝ้าระวังตัวฉันเท่านั้น หากฉันเกิดป่วยขึ้นมาอย่างกะทันหัน จะได้ช่วยฉันทันทีเวลา และหลีกเลี่ยงไม่ให้คนของตระกูลเย่เห็น ดังนั้นถ้าหากเธอรู้เรื่องนี้ขึ้นมา เธอจะต้องโทษพวกคุณที่ไม่ช่วยฉันปกปิดให้ดี และเมื่อถึงเวลานั้น พวกคุณจะต้องรับผิดชอบด้วย” “ดังนั้น เป็นการดีกว่าที่พวกเราสามคนจะแกล้งทำเป็นว่าเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อที่พวกคุณทั้งสองคนจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบ และฉันก็มีโอกาสได้ต่อสู้อีกครั้ง พวกคุณคิดอย่างไร?” หญิงสาวทั้งสองสบตากัน และหญิงสาวชาวหัวเซี่ยคนหนึ่งกล่าวว่า “เจ้าหญิงเฮเลน่า พวกเรายังไม่ได้รายงานให้แก่เจ้าหญิงโอลิเวีย อีกสักครู่พวกเราจะลบคลิปวิดีโอในโทรศัพท์แล้วทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น!” “โอเค!” เฮเลน่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก พยักหน้าและกล่าวว่า “ใกล้ถึงเวลาแล้ว พวกคุณมาช่วยฉันแต่งหน้าเถอะ” …… ขณะนี้ เย่เฉินเปลี่ยนชุดสูทเรียบร้อยแล้ว และผูกเนกไทเสร็จด้วยความช่วยเหลือจากกู้ชิวอี๋ หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้ว เขานั่งรอถังซื่อไห่อยู่ในห้องรับแขกของคฤหาสน์ตระกูลกู้ ชุดสูทที่หลินหว่านชิวเตรียมไว้ให้เขานั้น ขนาดพอเหมาะราวกับว่ามันถูกตัดขึ้นมาจากการวัดตัว เนื้อผ้า แบบและสไตล์ของสูทนั้นล้วนเป็นระดับดีที่สุด สูทที่มีคุณภาพเช่นนี้ นอกจากผู้เชี่ยวชาญระดับแนวหน้าที่สามารถตัดเย็บออกมาได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเแบรนด์เสื้อผ้าดีขนาดไหน ยังไม่สามารถบรรลุผลดังกล่าวได้ หลังจากที่เย่เฉินเปลี่ยนชุดสูทนี้แล้ว เขามีสง่าราศีมากยิ่งขึ้นไปอีก แม้แต่กู้เย้นจงเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจและกล่าวว่า “เฉินเอ๋อ ชุดสูทนี้เหมาะสมกับคุณมาก!” ไม่เพียงแต่รูปร่างสูงหล่อสมาร์ท ยังเต็มไปด้วยความห้าวหาญ และยังมีแนวแบบสุภาพบุรุษที่ประสบความสำเร็จ เป็นที่สะดุดตาอย่างยิ่ง เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สิ่งสำคัญคือชุดสูทพอดีตัว เหมือนตัดจากการวัดตัว” กู้ชิวอี๋ที่อยู่ด้านข้างรีบกล่าวว่า “คุณไม่รู้ พวกเราไปหาอาจารย์ตัดสูทชุดนี้ ต้องบินไปลอนดอนและให้อาจารย์เป็นคนวัดขนาดเอง เพื่อกำหนดขนาดสำหรับคุณ แม่และฉันเลือกหุ่นที่มีรูปร่างใกล้เคียงกับคุณ พวกเราสองคนอาศัยความจำและปรับขนาดเล็กน้อย แต่โชคดีที่มันถูกต้อง” เย่เฉินรีบกล่าวว่า “หนานหนาน ขอบคุณมาก ยังมีน้าหลินอีกด้วย ปกติผมมักจะใช้ชีวิตที่หยาบกระด้าง ถ้าหากไม่มีพวกคุณเอาใจใส่ ผมคงไม่ทันได้คิดเรื่องนี้” หลินหว่านชิวยิ้มเล็กน้อยและกล่าวอย่างจริงจัง “คราวนี้คุณกลับสู่ตระกูลเย่ อย่าให้ใครดูถูกคุณได้ ให้พวกเขารู้ว่าคุณเป็นลูกชายของเย่ฉางอิง และคุณเป็นคลื่นลูกใหม่!” เย่เฉินพยักหน้าและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ผมรู้แล้วครับน้าหลิน!” กู้ชิวอี๋ที่อยู่ด้านข้างกล่าวด้วยความอ่อนโยนว่า “พี่เย่เฉิน พ่อให้คนเตรียมขบวนรถไว้แล้ว อีกสักครู่ฉันจะไปส่งคุณที่ตระกูลเย่!” เย่เฉินถามด้วยความประหลาดใจ “ทำไมถึงได้เตรียมขบวนรถอีก? พ่อบ้านถังบอกว่าจะมารับผมไม่ใช่หรือ?” หลินหว่านชิวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ลุงกู้ของคุณบอกว่า คุณเป็นหลานชายสายเลือดตรงของตระกูลเย่ ลูกชายคนเดียวของเย่ฉางอิงที่มีชื่อเสียง คุณต้องกลับไปสู่ตระกูลเย่ด้วยความสง่าผ่าเผย ดังนั้นพวกเราตระกูลกู้ต้องช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้คุณ!” กู้เย้นจงพยักหน้าทันทีและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ถูกต้อง! การกลับมาสู่ตระกูลเย่ในครั้งนี้ของคุณมีความสำคัญมาก ผมเกรงว่าคนตระกูลเย่จะเจตนานำเรื่องที่คุณอยู่ไม่เป็นหลักแหล่งในเมืองจินหลิง 20 ปี มาดูหมิ่นทำให้คุณต้องอับอาย ดังนั้นทันทีที่คุณไปถึงตระกูลเย่ คุณต้องทำให้พวกเขารู้ว่าคุณไม่เพียงแต่เป็นแค่หลานชายของตระกูลเย่เท่านั้น แต่ยังเป็นลูกเขยในอนาคตของตระกูลกู้อีกด้วย ถ้าใครกล้าดูหมิ่นคุณ พวกเขาก็ต้องไตร่ตรองว่าตนเองมีคุณสมบัติหรือไม่?!” เย่เฉินไม่รู้จะพูดอะไรอยู่พักหนึ่ง เขาเข้าใจถึงเจตนาดีของกู้เย้นจง แต่เขายังคงรู้สึกละอาย ขณะนี้ คนใช้ของตระกูลกู้มารายงานว่า “คุณท่าน นายหญิง พ่อบ้านถังของตระกูลเย่มาถึงแล้วครับ!” เมื่อได้ยินว่าถังซื่อไห่มาถึงแล้ว กู้เย้นจงกล่าวทันทีว่า “พวกคุณนั่งอยู่ตรงนี้แหละ ผมจะไปรับซื่อไห่เอง!”