ซ่งหวั่นถิงไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดเรื่องใหญ่ที่เย่นจิง หลังจากเธอวางสาย อิโตะ นานาโกะแล้ว เธอก็โทรหาเย่เฉินทันที ขณะนี้ เย่เฉินกำลังตรวจสอบขั้นตอนสุดท้ายของงานไหว้บรรพบุรุษกับคนตระกูลเย่ ทันใดนั้นเห็นว่าเป็นโทรศัพท์จากซ่งหวั่นถิง เขาเดินออกจากห้องโถงไปชั่วคราว และไปที่ห้องข้าง ๆ ที่ไม่มีคน เขากดรับโทรศัพท์และถามด้วยรอยยิ้มว่า “หวั่นถิง คุณโทรมาหาผมมีธุระอะไรหรือเปล่า?” ซ่งหวั่นถิงรู้สึกประหม่าเล็กน้อยและรีบกล่าวว่า “อาจารย์เย่ ช่วงหลายวันมานี้คุณปู่บอกว่าคิดถึงคุณ ดังนั้นฉันเลยอยากถามว่าวันนี้คุณพอมีเวลาว่างไหม ถ้าสะดวก คุณมากินข้าวที่บ้านได้ไหม?” หลังจากเย่เฉินได้ยินประโยคนี้ เขาไม่ได้สงสัยอะไร ดังนั้นเขาจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หวั่นถิง ขอโทษด้วย ตอนนี้ผมอยู่ที่เย่นจิง และผมกำลังดูฮวงจุ้ยให้ลูกค้าคนหนึ่ง ช่วงสองวันนี้ผมยังกลับไปไม่ได้ รบกวนคุณช่วยบอกคุณท่านว่าเมื่อผมกลับไปแล้ว ผมจะไปเยี่ยมคุณท่านแน่นอน” เมื่อซ่งหวั่นถิงได้ยินว่าเย่เฉินอยู่ที่เย่นจิง หัวใจของเธอกระตุกทันที เธอรู้ว่าการคาดเดาของตนเองกับ อิโตะ นานาโกะค่อนข้างแน่นอนแล้ว เย่เฉินไปเย่นจิงในช่วงเวลานี้ มันไม่ง่ายเหมือนกับที่เขาบอกว่าไปดูฮวงจุ้ยให้ลูกค้า เพราะวันพรุ่งนี้ตระกูลเย่จะจัดงานไหว้บรรพบุรุษที่มีประจำทุก 12 ปี หากเย่เฉินเป็นลูกหลานตระกูลเย่จริง ๆ เขาจะต้องเข้าร่วมงานที่สำคัญเช่นนี้อย่างแน่นอน! เมื่อคิดถึงตรงนี้ ซ่งหวั่นถิงรู้สึกหดหู่เล็กน้อย เพราะตอนแรกเธอรู้สึกว่าระหว่างตนเองกับเย่เฉินนั้นมีช่องว่างขนาดใหญ่ และสิ่งเดียวที่จะทำให้เธอมั่นใจได้ก็คือสถานะลูกสาวของตระกูลซ่ง และสถานะผู้นำตระกูลซ่งคนปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอเพิ่งรู้ว่าสถานะที่แท้จริงของเย่เฉินนั้นทรงพลังกว่าสถานะลูกสาวตระกูลซ่งของตนเอง! นั่นคือตระกูลเย่เชียวน่ะ! เป็นตระกูลระดับสูงในประเทศมาโดยตลอด! ตอนนี้ตระกูลซูค่อย ๆ ตกต่ำ และตระกูลเย่ได้กลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในใจของคนทั้งประเทศแล้ว เมื่อเทียบกับตระกูลเย่ พลังอำนาจของตระกูลซ่งน่าจะไม่ถึงหนึ่งในสิบของตระกูลเย่ เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้เธอตระหนักว่าช่องว่างระหว่างตนเองกับเย่เฉินกว้างขึ้นอย่างกะทันหัน กว้างมากจนเธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ! ตอนนี้เย่เฉินไม่รู้ว่าซ่งหวั่นถิงกำลังคิดอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าตอนนี้ซ่งหวั่นถิงได้เดาสถานะของตนเองถูกแล้ว เมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปนานแล้ว แต่ซ่งหวั่นถิงไม่ได้พูดอะไร ดังนั้นเขาจึงถามตามสัญชาตญาณว่า “หวั่นถิง คุณยังอยู่ไหม?” ในที่สุดซ่งหวั่นถิงก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งและรีบกล่าวว่า “ยังอยู่ค่ะ อาจารย์เย่ขอโทษด้วย เมื่อสักครู่ฉันคิดเรื่องบางเรื่อง เลยเสียสมาธิ” เย่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร คุณบอกคุณท่านก่อน ผมจะไปเยี่ยมคุณท่านหลังจากผมกลับไปแล้ว” ซ่งหวั่นถิงรีบกล่าวว่า “ตกลงค่ะ อาจารย์เย่ งั้นฉันไม่รบกวนคุณแล้ว รอให้คุณกลับมาแล้วค่อยติดต่อกันอีกที” “โอเค ผมกลับไปแล้วจะติดต่อคุณ” เย่เฉินวางสาย และไม่รู้สึกว่ามีปัญหาอะไร ดังนั้นเขาจึงกลับไปที่ห้องโถง และยืนยันขั้นตอนการไหว้บรรพบุรุษกับคนตระกูลเย่ต่อไป และตอนนี้ซ่งหวั่นถิงยังคงยืนตกตะลึงอยู่ที่เดิม ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรอยู่พักหนึ่ง ครู่ต่อมา เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและกำลังจะวิดีโอคอลไปหาอิโตะ นานาโกะ แต่ผู้ประกอบการที่แซ่หวงส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มวีแชทของกลุ่มผู้ประกอบการเจียงหนาน เนื้อหาของข้อความคือ “ข่าวสำคัญ! ข่าวสำคัญ! สำนักว่านหลงซึ่งเป็นกลุ่มทหารรับจ้างในต่างประเทศกลับมาแก้แค้นตระกูลเย่ หลังจากพรุ่งนี้ จะไม่มีตระกูลเย่อีกต่อไป!” เมื่อซ่งหวั่นถิงเห็นข้อความนี้ รู้สึกประหม่า เธอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและถามด้วยข้อความเสียง “ประธานหวง คำพูดของคุณเมื่อสักครู่หมายความว่าอย่างไร? เกิดอะไรขึ้นกับตระกูลเย่?”