“จริงเหรอ?” เมื่อซูจือหยูได้ยินเรื่องนี้ ถามด้วยความตื่นเต้น “ว่านเหลียนเฉิงเป็นลูกน้องพ่อจริงเหรอ?” “ถูกต้อง” ตู้ไห่ชิงพยักหน้า “สามารถกล่าวได้ว่าพ่อของคุณนั้นมีบุญคุณยิ่งใหญ่ต่อตระกูลว่าน” “เยี่ยมมาก!” ซูจือหยูกล่าวด้วยความตื่นเต้น “ประจวบเหมาะที่คราวนี้ผู้มีพระคุณต้องการพาพ่อไปที่ภูเขาเย่หลิงซานเพื่อไปขอโทษพ่อแม่ของเขา ในเมื่อพ่อมีบุญคุณต่อตระกูลว่าน เมื่อถึงเวลานั้นผู้มีพระคุณใช้พ่อเป็นเงื่อนไข ต้องสามารถบังคับให้ว่านพั่วจวินยอมถอยได้อแน่นอน…….” หลังจากนั้น เธอกล่าวอย่างรีบร้อนว่า “ไม่ได้ ฉันต้องไปที่เย่นจิง! พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปรอที่ภูเขาเย่หลิงซาน มิฉะนั้น ถ้าพ่อไม่ยินยอมให้ความร่วมมือ ฉันจะได้เกลี้ยกล่อมเขาได้!” ตู้ไห่ชิงพยักหน้าเห็นด้วยและกล่าวว่า “พ่อของคุณมีบุญคุณยิ่งใหญ่ต่อตระกูลว่านจริง ถ้าพ่อของคุณยินยอมเป็นคนกลาง เรื่องนี้น่าจะจบลงอย่างสงบ!” หลังจากนั้น ตู้ไห่ชิงมองเวลาและกล่าวว่า “จือหยู รีบจองตั๋วเครื่องบิน แม่จะกลับไปที่เย่นจิงพร้อมกับคุณ!” ซูจือหยูรีบกล่าวว่า “แม่ แม่อย่าไปเลย……มันอันตรายเกินไป!” ตู้ไห่ชิงส่ายศีรษะและกล่าวอย่างจริงจัง “แม่ไม่เป็นอันตรายหรอก คนตระกูลว่านเป็นคนที่รักน้ำใจไมตรี ตอนเด็กว่านพั่วจวินมักจะมาตามพ่อแม่มาเยี่ยมที่ตระกูลเป็นประจำ เขาแก่กว่าพี่ชายของคุณสองหรือสามปี ดังนั้นตอนเด็กพี่ชายของคุณจึงชอบเล่นกับเขา ทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ตอนที่เขาเห็นแม่กับพ่อ เขาให้ความเคารพแม่กับพ่อมาก ดังนั้นแม่จึงเชื่อว่าเขาจะไม่ทำอะไรแม่ และถ้าเขารู้สถานะของคุณ เขาก็จะไม่ทำอะไรคุณเช่นกัน” หลังจากแล้ว เธอก็ถอนหายใจ “เมื่อถึงเวลานั้นแม่ขอให้เขายั้งมือไว้ไมตรี เชื่อว่ามันจะได้ผลไม่มากก็น้อย…….” ซูจือหยูพยักหน้าและกล่าวว่า “งั้นก็ดี……แม่! ฉันจะจองเที่ยวบินเดี๋ยวนี้ พวกเราจะไปที่นั่นโดยเร็วที่สุด!” …… ขณะเดียวกัน หงห้าก็ได้ยินข่าวระหว่างตระกูลเย่กับสำนักว่านหลง หลังจากได้ยินเรื่องนี้ เขารู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก และรีบโทรไปหาเฉินจื๋อข่ายทันที เพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์เฉพาะ เฉินจื๋อข่ายในฐานะโฆษกของตระกูลเย่ วันนี้เฉินจื๋อข่ายไม่มีคุณสมบัติที่จะไปหาตระกูลเย่ และอยู่ในโรงแรมพร้อมกับโฆษกคนอื่น ๆ เพื่อรอไปที่ภูเขาเย่หลิงซานในงานไหว้บรรพบุรุษวันพรุ่งนี้ หลังจากเขาได้รู้เรื่องนี้แล้ว เขาไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรมาก เพราะเขากับหงห้าและเว่ยเลี่ยงต่างก็เคยเห็นพลังเหนือธรรมชาติของเย่เฉิน เมื่อก่อนตอนอยู่ที่เชิงเขาของภูเขาฉางไบ เย่เฉินทำให้ฟ้าผ่าและหิมะถล่ม และนำราชาบู๊ทั้งแปดออกไปในคราวเดียว พวกเขายังจำได้แม่นจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้น เขาไม่คิดว่าสำนักว่านหลงจะเป็นคู่ต่อสู้ของเย่เฉิน เพราะเขาเชื่อมั่นว่าเย่เฉินไม่แพ้สำนักว่านหลงแน่นอน เฉินจื๋อข่ายที่อยู่ในโรงแรมกำลังโน้มน้าวโฆษกคนอื่น ๆ ของตระกูลเย่ที่ต้องการหลบหนี โดยหวังว่าพวกเขาจะสามารถอยู่ร่วมเป็นร่วมตายกับตระกูลเย่ เพียงแต่การโน้มน้าวใจของเขาไม่มีผลใด ๆ เพราะโฆษกหลายคนกลัวว่าถ้าสำนักว่านหลงเกิดความโกรธเคืองแล้ว อาจจะไม่ยอมปล่อยแม้แต่โฆษกอย่างพวกเขา เมื่อเห็นว่าไม่สามารถเกลี้ยกล่อมคนส่วนใหญ่ได้ เฉินจื๋อข่ายแอบด่าพวกเขาด้วยสายตา และไม่คิดว่าหงห้าจะโทรศัพท์มา เมื่อเฉินจื๋อข่ายกดรับสาย เขาได้ยินหงห้าที่ปลายสายกล่าวว่า “ผู้จัดการทั่วไปเฉิน! ผมได้ยินมาว่ามีคนต้องการพุ่งเป้าไปที่อาจารย์เย่ ลูกน้องของคุณที่อยู่ในเมืองจินหลิงได้ไปช่วยหรือยัง? นอกจากนั้นผมสามารถรวบรวมลูกน้องได้อย่างน้อยหนึ่งหมื่นคน ถ้าไม่ไหวผมจะพาคนและขับรถไปที่นั่นเดี๋ยวนี้!” เฉินจื๋อข่ายกล่าวด้วยความจำใจว่า “หงห้า คุณคิดว่าฉายา‘เทพมังกรในโลกมนุษย์’ของคุณชายนั้นไร้ค่าหรือ? ถ้าพรุ่งนี้ว่านพั่วจวินกล้าไปที่ภูเขาเย่หลิงซาน เกรงว่าคุณชายจะทำให้เกิดสายฟ้าฟาดและผ่าเขาตายทันที แล้วยังจะต้องการลูกน้องที่ไร้ความสามารถของพวกเราได้อย่างไร?” หลังจากนั้น เฉินจื๋อข่ายกล่าวอีกว่า “นอกจากนั้น ภูเขาเย่หลิงซานยังเป็นสุสานบรรพบุรุษของตระกูลเย่ พ่อแม่ของคุณชายก็ฝังอยู่ที่นั่นด้วย การที่คุณนำอันธพาลไปที่นั่นมากมาย ไม่เพียงแต่ช่วยอะไรไม่ได้ แต่จะรบกวนความสงบสุขของพ่อแม่คุณชายอีกด้วย” เมื่อหงห้าได้ยินประโยคนี้ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เห็นด้วยอย่างรวดเร็วและกล่าวว่า “ใช่ ๆ ๆ ผู้จัดการทั่วไปเฉินพูดถูก! อาจารย์เย่มีพลังเหนือธรรมชาติ และไม่ต้องการความช่วยเหลือจากลูกน้องที่ไร้ความสามารถของผมจริง ๆ” ทันใดนั้นเขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ และกล่าวอย่างเร่งรีบ “ผมจะพาคนกลุ่มหนึ่งไปที่นั่นด้วย เมื่อถึงเวลานั้นเผื่อว่าอาจารย์เย่ฆ่าล้างบางแล้ว จะได้มีคนมาช่วยเก็บศพ บางทีอาจมีสายฟ้าฟาดลงมา แล้วว่านพั่วจวินถูกผ่าเป็นชิ้น ๆ ลูกน้องของผมสามารถช่วยทำความสะอาดได้” เฉินจื๋อข่ายกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ช่างเถอะ ลูกน้องพวกนั้นของคุณล้วนรู้จักคุณชาย ถ้าใครเกิดปากโป้งขึ้นมา แล้วเปิดเผยสถานะที่แท้จริงของคุณชาย กลับเป็นการสร้างปัญหาให้คุณชายแทน! ถ้าคุณอยากไป ก็ไปเปิดโลกทัศน์คนเดียว! และห้ามพูดจาเหลวไหลกับฉินกาง คุณซ่ง และหวังเจิ้งกาง พวกเขาไม่รู้จักสถานะของคุณชาย!” “โอเค!” หงห้ารีบกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นผมจะไปที่สนามบินทันที และขึ้นเครื่องบินไฟล์เช้าที่สุด!”