เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย : “งั้นก็ไม่รีบร้อนแล้ว วันนี้คุณกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อน พรุ่งนี้เชิญคุณมาร่วมพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษตระกูลเย่ด้วยกัน รอหลังจากที่ไหว้บรรพบุรุษเสร็จแล้ว ก็จะส่งคุณกลับยุโรปเหนือ” ทันใดนั้น เย่เฉินพูดกับเย่โจงจั่วว่า : “คุณปู่ แจ้งทางเครื่องบินคองคอร์ดหน่อย บ่ายวันพรุ่งนี้เตรียมตัวบินให้เรียบร้อย หลังจากที่เสร็จพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษก็พาเฮเลน่ากลับยุโรปเหนือ” การตัดสินใจของเย่เฉิน ทำให้เย่โจงจั่วผู้ที่ปกป้องเย่เฉินอย่างมากในวันนี้ กระทั่งมอบอำนาจให้เย่เฉินดูแลกิจการทั้งหมดของตระกูลเย่เป็นการชั่วคราวนั้นก็ยังตกตะลึงเลย ในเวลานี้ส่งเฮเลน่ากลับยุโรปเหนือ?นี่เป็นการรนหาเรื่องให้ตัวเองไม่ใช่เหรอ? ในใจของเขาอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำในใจว่า: “เฉินเอ๋อกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่……เรื่องในตระกูลของตัวเองยังไม่จัดการให้เรียบร้อย ทำไมเขาถึงไปคิดถึงราชวงศ์ยุโรปเหนือได้ล่ะ?หรือว่าเขาคิดที่จะไปยุโรปเหนือเพื่อช่วยเฮเลน่าแย่งชิงอำนาจการสืบทอดบัลลังก์กลับมางั้นเหรอ?” สมาชิกในตระกูลเย่คนอื่นๆต่างก็มึนงงแล้ว ทำอะไรเนี่ย…… พรุ่งนี้จะเป็นหรือตายก็ยังไม่รู้เลย ยังจะไปสนใจเรื่องของยุโรปเหนืออย่างหน้าไม่อายอีก? เย่โจงฉวนไอสองครั้งอย่างเก้ๆกังๆ ถามเย่เฉิน : “เฉินเอ๋อ เรื่องที่ภูเขาเย่หลิงซานในวันพรุ่งนี้ ไม่รู้ว่าจะจัดการได้อย่างราบรื่นไหม ถ้าหากเป็นเพราะเรื่องของเฮเลน่าทำให้ล่วงเกินต่อราชวงศ์ยุโรปเหนือ งั้นก็ค่อนข้างได้ไม่คุ้มเสียจริงๆนะ……” เย่เฉินพูดอย่างราบเรียบว่า : “ไม่ต้องกังวล ทำตามคำสั่งที่ผมบอกก็พอแล้ว” ในเวลานี้เย่ฉางโคงก็โพล่งพูดออกมาแล้ว : “เย่เฉิน!คุณคิดว่า จัดเตรียมเครื่องบินลำหนึ่ง พาตัวเฮเลน่ากลับไป เธอก็ได้รับอำนาจในการสืบทอดบัลลังก์โดยอัตโนมัติงั้นเหรอ?!คุณพาตัวเธอกลับไปส่งแบบนี้ จะทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอันตราย !” เฮเลน่าก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า : “คุณเย่……โอลิเวียเคยพูดเตือนฉันอย่างชัดเจนว่า ไม่อนุญาตให้ฉันกลับไปยุโรปเหนือ ถ้าจู่ๆฉันกลับไป เธอจะต้องควบคุมฉันอย่างแน่นอน!” เย่เฉินพูดอย่างราบเรียบว่า : “ทุกอย่างที่มีทั้งหมด ต้องการเพียงแค่คุณใช้ความสามารถทั้งหมดที่มี มั่นใจว่าก่อนที่จะถูกเธอควบคุมตัว สามารถพบเจอกับคุณย่าของคุณเป็นการส่วนตัวได้ก็พอแล้ว ถ้าหากแม้แต่เรื่องนี้คุณยังทำไม่ได้ งั้นผมก็ช่วยคุณไม่ได้แล้ว ” เฮเลน่าพูดอย่างค่อนข้างสงสัยว่า : “คิดหาทางไปเจอคุณย่าน่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่ว่า……เจอคุณย่าแล้วจะสามารถจัดการปัญหาทุกอย่างได้เหรอ?” เย่เฉินพยักหน้า : “ถูก ขอเพียงแค่คุณได้เจอเธอ บัลลังก์จะต้องเป็นของคุณแน่นอน” เฮเลน่ารู้สึกว่าไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ แต่เห็นเย่เฉินพูดจาน่าเชื่อถือแบบนี้ ในใจก็ค่อนข้างรู้สึกเชื่อขึ้นมาแล้ว เพราะงั้น เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน พูดอย่างแน่วแน่ว่า : “โอเคคุณเย่!ฟังตามคำสั่งของคุณทั้งหมด!” เย่เฉินมองดูเวลา พูดกับหงห้าและเฉินจื๋อข่ายว่า : “ผู้หญิงสองคนนี้ พวกคุณเฝ้าดูแลอย่างเข้มงวดก่อนนะ” หงห้าโพล่งพูดออกมาว่า : “อาจารย์เย่วางใจได้ มอบให้เป็นหน้าที่ของผมเอง!” เย่เฉินพยักหน้า พูดกับถังซื่อไห่ว่า : “พ่อบ้านถัง นายขับรถพาฉันกลับไปส่งที่ตระกูลกู้แล้วกัน ถือโอกาสพาเฮเลน่าไปส่งที่โรงแรมด้วย” “ครับ” ถังซื่อไห่พยักหน้าแล้ว พูด: “คุณชายรอสักครู่ ผมจะไปเตรียมรถเดี๋ยวนี้ครับ” เย่โจงฉวนเห็นว่ารั้งเย่เฉินไว้ไม่ได้แล้ว ก็เอ่ยปากพูดว่า : “ทุกคนออกไปส่งเฉินเอ๋อพร้อมกันกับฉัน” คุณท่านเอ่ยปากพูด สมาชิกในตระกูลเย่ไม่มีใครกล้าที่จะไม่เชื่อฟัง ทำได้เพียงเดินตามหลังเขาไป ส่งเย่เฉินและเฮเลน่าที่หน้าประตูใหญ่ ถังซื่อไห่นำรถมาจอดที่หน้าประตู เปิดประตูรถออกให้ พูดกับเย่เฉินว่า : “คุณชาย เชิญขึ้นรถครับ” เย่เฉินให้เฮเลน่าขึ้นรถก่อน ตามมาด้วยตัวเองที่เตรียมจะเข้าไปนั่ง เย่โจงฉวนก็เดินขึ้นมาด้านหน้า จับมือของเย่เฉินไว้ พูดด้วยน้ำเสียงต่ำๆว่า : “เฉินเอ๋อ……แกพูดความจริงกับปู่มาหน่อยนะ เรื่องของวันพรุ่งนี้ แกมีความมั่นใจที่จะทำสำเร็จมากแค่ไหน? ” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย พูดอย่างราบเรียบว่า : “ครึ่งหนึ่ง” “ครึ่งหนึ่ง?” สีหน้าท่าทางของเย่โจงฉวนค่อนข้างผิดหวัง แต่ว่ายังคงฝืนยิ้ม พูดว่า : “ครึ่งหนึ่งก็ไม่เลวแล้ว!” “อืม” เย่เฉินพยักหน้า พูดว่า : “ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว งั้นผมขอตัวก่อน” “โอเค” เย่โจงจั่วรีบพูดกล่าว: “เดินทางปลอดภัยนะ พรุ่งนี้เช้าเจอกันที่ภูเขาเย่หลิงซาน!” “ครับ เจอกันพรุ่งนี้”