สมาชิกตระกูลตู้ทั้งสามรินเหล้าเต็มแก้ว ดื่มกับเย่เฉินจนหมด

เมื่อเย่เฉินสังเกตเห็นคนของตระกูลซ่งและตระกูลอิโตะนั่งร่วมโต๊ะเดียวกันอยู่ไม่ไกล จึงพูดกับสมาชิกตระกูลตู้ทั้งสามว่า “ตรงนั้นยังมีเพื่อนคนอื่นๆ อยู่ ผมจะไปทักทายสักหน่อย”

“ไปเถอะ!” กู้เย้นจงยิ้มแล้วพูดว่า “อย่าลืมกลับมาดื่มกับอาด้วยล่ะ!”

“ครับ!”

หลังจากที่เย่เฉินบอกลากับตระกูลกู้แล้ว ก็ถือแก้วเหล้ามายังโต๊ะที่ตระกูลซ่งและตระกูลอิโตะนั่งอยู่

ในเวลานี้อิโตะ นานาโกะเห็นเย่เฉินเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แม้ว่าใบหน้าเขาจะดูอ่อนโยนเหมือนเคย แต่สายตาที่เต็มไปด้วยความรักนั้นปิดไว้ไม่มิดแล้ว

เธอนั้นรักเย่เฉินมากอยู่แล้ว วันนี้เมื่อเห็นว่าเขาทำให้ทั้งสำนักว่านหลงคุกเข่าโขกคำนับขอความเมตตาต่อหน้าเขาด้วยกำลังของตัวเอง เธอก็รู้สึกว่า ถ้าชีวิตนี้เธอไม่สามารถแต่งงานกับเย่เฉินหรือเป็นผู้หญิงของเขาได้ ชั่วชีวิตนี้เธอคงอยู่ตัวคนเดียวไปจนแก่

เพราะเธอรู้ดีว่าจะไม่มีชายอื่นใดที่สามารถพิชิตเธอได้อย่างแท้จริงเหมือนเย่เฉินอีกแล้ว

ส่วนซ่งหวั่นถิงผู้งดงามและสวยเพียบพร้อม มักจะวางมาดเหมือนบุตรสาวจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงมาตลอด แต่ลึกๆ ในใจเธอก็แพ้ใจเหมือนเด็กสาวทั่วไป

พอเย่เฉินมาอยู่ตรงหน้า ตระกูลซ่งและตระกูลอิโตะทั้งหมดก็ลุกขึ้นยืน

นางาฮิโกะ อิโตะ และ ทานากะ โคอิจิ ยืนไม่ได้เพราะสูญเสียขาทั้งสองไป แต่ก็ยังชูแก้วเหล้าขึ้น มองเย่เฉินด้วยความเคารพ

และคนเกือบสองร้อยคนที่มาจากทั้งสองตระกูลก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกัน!

ในคนเหล่านี้มีนินจาระดับแนวหน้ามากกว่าร้อยคนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดฝีมือระดับสมบัติของชาติในประเทศญี่ปุ่น ยืนตัวตรงพร้อมกับปล่อยมือทั้งสองแนบลำตัวอย่างนอบน้อม ก้มหัวลง 45 องศาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเคารพ

นี่คือปฏิกิริยาตอบกลับตามสัญชาตญาณและมารยาทเมื่อเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งที่พวกเขาเคารพและเกรงกลัว

เมื่อเห็นภาพนี้กู้เย้นจงอดทอดถอนใจให้ภรรยาและลูกสาวไม่ได้ “ดูเหมือนว่านินจาญี่ปุ่นเหล่านี้จะชื่นชมความแข็งแกร่งของเฉินเอ๋ออย่างเต็มที่ ต่อหน้าเขานั้นไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า!”

กู้ชิวอี๋พูดอย่างจริงจัง “ก็ใช่น่ะสิ! พี่เย่เฉินแข็งแกร่งกว่าพวกเขามากไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ พวกเขาต้องเคารพอยู่แล้ว!”

ในเวลานี้หลินหว่านชิวได้พึมพำเบาๆ ว่า “ฉันมักจะรู้สึกว่าสายตาที่หญิงสาวของตระกูลอิโตะ รวมถึงหญิงสาวจากตระกูลซ่ง มองมาที่เฉินเอ๋อนั้นมีอะไรไม่ชอบมาพากล…”

พูดจบ เธอก็มองไปที่ซูจือหยูและซูรั่วหลี สองพี่น้องที่อยู่อีกโต๊ะหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน พลางถอนหายใจ “ยังมีสองพี่น้องตระกูลซู…สายตาที่มองเฉินเอ๋อ ก็ดูแปลกๆ เหมือนกัน…”