เย่เฉินโบกมือ และพูดกับเขา: “เอาล่ะ คำพูดซาบซึ้งใจก็ไม่ต้องพูดแล้ว จำเอาไว้ในใจก็พอ คุณเร่งรีบกลับไปเถอะ พอดีสองวันนี้ก็กับรวบรวมกำลังคนที่จะไปมาดากัสการ์กับคุณในอนาคตด้วย”

“ได้ๆๆๆ……”ซูเฉิงเฟิงพยักหน้ารัวๆ และโพล่งออกมา: “งั้นผมก็ของตัวกลับไปก่อน! คุณเย่คุณมีอะไรจะสั่งการ ให้จือหยูบอกกับผมโดยตรง ผมจะทำตามอย่างแน่นอน!”

เย่เฉินพยักหน้า และพูดกับถังซื่อไห่ว่า: “พ่อบ้านถัง คุณขับรถไปส่งหน่อยเถอะ”

ถังซื่อไห่พูดด้วยความเคารพว่า: “ได้ครับคุณชาย”

จากนั้น ก็ทำท่าทางเชิญให้กับซูเฉิงเฟิง: “คุณท่านใหญ่ซูเชิญทางนี้ครับ”

ซูเฉิงเฟิงขอบคุณอย่างซาบซึ้งใจ และออกจากห้องของในโรงแรมกับถังซื่อไห่

ในห้องพัก ในเวลานี้เหลือเพียงตู้ไห่ชิงกับซูจือหยูสองแม่ลูก

เย่เฉินกำลังจะคุยเรื่องการลงทุนเพิ่มของบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดกับซูจือหยู ถือโอกาสคุยแนวคิดของการพัฒนาต่อไปของบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัดสู่ยุโรป แต่ในเวลานี้ตู้ไห่ชิงเอ่ยปากพูดว่า: “เย่เฉิน พรุ่งนี้เช้านายจะกลับไปที่เมืองจินหลิงใช่มั้ย?”

เย่เฉินพยักหน้า: “ใช่ครับน้าตู้ กลับไปแต่เช้า”

ตู้ไห่ชิงก็ถามอย่างค่อนข้างละอายใจ: “งั้นน้าสามารถนั่งเครื่องบินกลับไปพร้อมกับนายได้หรือเปล่า?”

ตู้ไห่ชิงในเวลานี้ ได้ถือว่าเมืองจินหลิงเป็นตัวเลือกแรกสำหรับการใช้ชีวิตในอนาคต บ้านหลังเล็กที่พ่อแม่ของเย่เฉินเคยอาศัยอยู่ ได้ถูกเธอปรับปรุงสภาพใหม่แล้ว สำหรับเธอ การอยู่ที่นั่นเป็นที่พักพิงที่ดีที่สุด

เย่เฉินรับรู้ถึงความรักที่ตู้ไห่ชิงมีต่อพ่อของตัวเอง สำหรับรักยาวนานกับกล้ารักกล้าเกลียดของเธอ ก็ชื่นชมเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงพูดอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยว่า:“ไม่มีปัญหาครับ คืนนี้น้าก็พักอยู่ในโรงแรมกับจือหยู พรุ่งนี้เช้าผมให้คนส่งน้าไปที่สนามบิน”

ตู้ไห่ชิงยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า: “น้าก็ไม่พักอยู่ที่นี่แล้ว น้าตั้งใจจะกลับไปบ้านพ่อแม่ พรุ่งนี้เช้าน้าจะไปที่สนามบินด้วยตัวเองนะ”

ซูจือหยูรีบถามว่า: “แม่ค่ะ แม่จะไปที่บ้านของคุณตาเหรอคะ? งั้นหนูก็ไปด้วย”

ตู้ไห่ชิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ลูกก็ไม่ต้องไปกับแม่แล้ว พรุ่งนี้ปู่ของลูกจะเรียกประชุมตระกูลไม่ใช่เหรอ ถึงเวลานั้นลูกในฐานะผู้นำตระกูลก็ต้องเข้าร่วมอย่างแน่นอน เดี๋ยวก็รบกวนเย่เฉินส่งลูกกลับไปที่ตระกูลซูนะ”

หลังจากที่พูดจบ เธอก็มองไปทางเย่เฉิน และพูดขอร้องว่า: “เย่เฉิน เดี๋ยวก็รบกวนคุณส่งจือหยูหน่อยนะ”

เย่เฉินพยักหน้าพูดว่า: “ไม่มีปัญหาครับน้าตู้ ผมกับคุณหนูซูยังมีเรื่องที่ต้องคุยกันหน่อย หลังจากที่คุยกันเสร็จผมจะส่งเธอกลับไปที่ตระกูลซูอย่างปลอดภัย น้าวางใจเถอะครับ”

ตู้ไห่ชิงพยักหน้า และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “งั้นก็ดี งั้นน้าก็ฝากจือหยูกับนายแล้วนะ”

เย่เฉินก็พูดว่า: “งั้นพรุ่งนี้แปดโมงเช้า พวกเราเจอกันที่สนามบิน”

ตู้ไห่ชิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ได้ เจอกันที่สนามบิน”

เมื่อเห็นแม่กลับไปแล้ว ซูจือหยูถึงได้ขวยเขินขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

เมื่อมีคนมากมาย อยู่ต่อหน้าเย่เฉิน เธอกลับไม่รู้สึกอึดอัดอะไร แต่ตอนนี้ ตัวเองกับเย่เฉินอยู่ในห้องกันตามลำพัง เธอเพียงแค่รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นเร็วมากขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน เสียงของหัวใจเต้นถึงขนาดได้ยินอย่างชัดเจน

เมื่อวานนี้เย่เฉินอยู่บนภูเขาเย่หลิงซาน กระบวนการที่กำราบทั้งสำนักว่านหลง ซูจือหยูมองเห็นจากด้านข้างได้อย่างชัดเจน

เดิมทีเธอก็ตกหลุมรักเย่เฉินอย่างลึกซึ้งมาตั้งนานแล้ว แต่คาดไม่ถึงว่าหลังจากเมื่อวานนี้ ในใจของเธอก็รักเย่เฉินเป็นอย่างลึกซึ้งมาตั้งนานแล้ว และทั้งหัวใจทั้งหัวก็แทบจะเป็นเขาทั้งหมด

ในเวลานี้ก็อยู่กับเย่เฉินตามลำพัง หัวใจก็ย่อมเต้นเร็วเป็นธรรมดา และถอนตัวไม่ขึ้น

ดังนั้น เธอจึงมองดูเย่เฉินอย่างเขินอาย และถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: “ผู้มีพระคุณ……คุณ……คุณหาฉันมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”

เย่เฉินพูดอย่างคล่องปากว่า: “อ๋อ ก็คือเรื่องของบริษัท นานาซูขนส่ง จำกัด รอหลังจากที่ทางคุณนั้นเพิ่มทุนเสร็จ ผมตั้งใจจะขยายกว้างกองเรือ ค่อยลงทุนท่าเรือหลายแห่งในยุโรป พอดีว่าเฮเลน่าก็จะขึ้นครองราชย์ในไม่ช้านี้แล้ว หลังจากที่เธอขึ้นครองราชย์ พวกเราก็เป็นโครงการแรกในการดึงดูดการลงทุนยุโรปเหนือให้กับเธอ เริ่มต้นจากยุโรปเหนือ และแผ่ขยายไปทั่วทั้งยุโรป คุณคิดว่าไง?”

ซูจือหยูหน้าแดง เม้นปาก มองดูใบหน้าที่เฉียบคมอย่างเห็นได้ชัดของเย่เฉิน และพูดอย่างเขินอายว่า: “ฉัน……ฉันก็ฟังผู้มีพระคุณ……”