เมื่อพูดถึงนี้ เธอพูดเสริมว่า:”สมบัติปัจจุบันของจี๋ชิ่งถัง เป็นงานจริงของท่านฉีไป๋ฉือ แต่ภาพวาดนั้นยังไม่ถึงขั้นเป็นงานชิ้นเอกของท่านฉีไป๋ฉือ ดังนั้นมูลค่าตลาดจึงอยู่ที่ 8 ล้านเท่านั้น……”
หลังจากได้ยิน เย่เฉินก็อดยิ้มพูดไม่ได้ว่า:”ผมก็คิดว่าเรื่องอะไร ที่แท้ก็กลุ้มเรื่องนี้นี่เอง”
ซ่งหวั่นถิงพูดอย่างจริงจังว่า:”ระดับของงานประมูลจะสูงหรือไม่ ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับมูลค่าของสะสมที่เขานำเสนอ แม้ว่ายาอายุวัฒนะจะสามารถขายได้ในราคาที่สูงมาก แต่หากรายการประมูลอื่น ๆ ที่ร่วมด้วยค่อนข้างธรรมดา ฉันเกรงว่ามันจะลดระดับของยาอายุวัฒนะ และทำให้ชื่อเสียงของคุณอาจารย์เย่แปดเปื้อน……”
เย่เฉินยิ้มพูดว่า:”เรื่องนี้แก้ง่ายๆ”
พูดจบ เย่เฉินนิ่งไป แล้วพูดอย่างมั่นใจว่า:”ตอนที่พวกคุณโปรโมตการประมูล ให้เพิ่มข้อมูลของการสะสม ยินดีให้ผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมการประมูล นำของที่มีค่าที่สุดจากของสะสมตัวเอง มาเข้าร่วมการประมูลในงานประมูลครั้งนี้”
ซ่งหวั่นถิงพูดอย่างลังเลว่า:”อาจารย์เย่ ผู้ที่สามารถซื้อยาอายุวัฒนะได้ น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก พวกเขาซื้อของสะสม เช่นเดียวกับปี่เซี๊ยะมีแต่เข้าไม่มีออก และไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าพวกเขาจะเอาของเก็บสะสม มาเข้าร่วมการประมูล เว้นแต่จะเป็นการประมูลเพื่อการกุศล”
เมื่อพูดแบบนี้ ซ่งหวั่นถิงก็พูดต่อว่า:”แต่ในตอนที่พวกเขาเข้าร่วมการประมูลการกุศล ก็ไม่มีทางที่จะนำของสะสมที่แพงที่สุดออกมา และโดยทั่วไปแล้วจะเอาแต่ของสะสมที่มีมูลค่าหลายแสนถึงหลายล้านดอลลาร์เท่านั้น และเงินที่ได้จากการประมูลจะบริจาคให้กองทุนการกุศลโดยตรง”
เฉินจื๋อข่ายก็พูดด้วยท่าทางเห็นด้วยว่า:”คุณชาย พวกเศรษฐีเหล่านั้นซื้อของสะสม ก็เหมือนกับหญิงชราที่ไปซื้อกะหล่ำปลีที่ตลาด แม้ว่าในบ้านจะกองพะเนินทึกก็ตาม ก็จะไม่เอาออกมา อย่างมากที่สุดก็แค่ใช้เงินมาเปิดพิพิธภัณฑ์ แล้วนำสินค้าทั้งหมดไปไว้ในพิพิธภัณฑ์ และแสดงต่อสาธารณะ ไม่ค่อยได้ยินว่าพวกเขาจะยอมเอาของสะสมออกมาขายจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังจะให้พวกเขาเอาของสะสมที่มีมูลค่าที่สุดมา เกรงว่าพวกเขาจะไม่ยอมเลย”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มว่า:”มันไม่ใช่เรื่องยาก เมื่อการประชาสัมพันธ์เริ่ม พวกคุณจะต้องปล่อยข่าวกับโลกภายนอก บอกว่าผู้จัดงานจะเลือกของสะสม20ชิ้นที่มีความเป็นตัวแทนมากที่สุด จากรายชื่อของสะสมที่ลงทะเบียนไปประมูล ในเวลานั้น ผู้เข้าร่วมการประมูลทุกคนจะต้องทำการลงคะแนนลับสำหรับของสะสม20ชิ้นนี้ เมื่อสิ้นสุดการประมูล ผู้จัดงานจะทำการนับคะแนนเสียงต่อสาธารณะ ณ จุดนั้น และของสะสมชิ้นนั้น กับเจ้าของที่มีคะแนนเสียงมากที่สุด จะได้รับเศษหนึ่งส่วนสี่ของยาอายุวัฒนะ!”
เมื่อพูดเช่นนี้ เย่เฉินก็พูดด้วยสายตาดูถูกเล็กน้อยว่า:”คนรวยส่วนใหญ่อาจไม่เข้าใจงานศิลปะและของสะสมจริงๆ พวกเขาแค่ชอบใช้ของสะสมที่มีราคาสูงเพื่อแสดงความใหญ่โตและความมั่งคั่ง หรือใช้ของสะสมเพื่อแสวงหา มูลค่าเพิ่มของทรัพย์สิน เมื่อมีสิ่งล่อใจให้สนใจมากขึ้น พวกเขาจะไม่สนใจสิ่งภายนอกอย่างของสะสมแล้ว และพวกเขาจะเอาสมบัติของตัวเองออกมาอย่างแน่นอน”
ซ่งหวั่นถิงรีบพูดว่า:”อาจารย์เย่…… แม้แต่หนึ่งในสี่ของยาอายุวัฒนะ ก็มีค่ามากแล้ว หากใช้มันในเรื่องนี้ มันจะสิ้นเปลืองไปไหม……”
เย่เฉินโบกมือและพูดว่า:”ถ้าคุณต้องการสร้างฉากใหญ่ ต้นทุนแค่นี้มันต้องเอาออกมาอยู่แล้ว ลองนึกภาพดูว่า ถ้าของสะสม20ชิ้นที่เราเลือกในวันนั้น เป็นผลงานศิลปะระดับสูงสุดที่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ บวกกับยาอายุวัฒนะชิ้นสุดท้าย งั้นงานประมูลครั้งนี้จะเป็นงานที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครทำเหมือน เมื่อการประมูลจบลง เกรงว่าในเวลาอีกนาน วงการประมูลชั้นนำเหล่านั้น จะไม่มีใครกล้าจัดการประมูลอะไรอีก!”