บทที่ 3532 กลัวก็แต่เขาจะไม่ยอมขายนี่แหละ

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ซึ่งสมิธก็ทรมานจริงๆ

คำพูดดูถูกนัยๆของเว่ยเลี่ยงเมื่อสักครู่ มันเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขาไม่มีเหลือ

ถึงขนาดนี้แล้ว เขาก็ยังไม่ได้ยาเกิดใหม่เก้าเสวียนนั่นมาอยู่ดี

เรื่องศักดิ์ศรีมันไม่สำคัญต่อไปแล้ว ชีวิตลูกต่างหากล่ะที่สำคัญที่สุด

ดังนั้น สมิธจึงตัดสินใจในทันที เตรียมตัวออกเดินทางไปที่หัวเซี่ย ต่อให้ต้องโขกหัวกับพื้นต่อหน้าเว่ยเลี่ยงเขาก็ต้องได้ยากลับมาให้ได้

หลังจากนั้น เขาก็รีบลุกขึ้นเดินออกไปจากโรงแรม ขณะเดียวกันก็ต่อสายหาภรรยาว่า “เจนนี่ เว่ยเลี่ยงกลับไปที่หัวเซี่ยตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว คุณดูแลจิมมี่ไปนะ ผมจะกลับไปเอาพลาสปอร์ตที่บ้านและไปเจอเขาที่หัวเซี่ย!”

เจนนี่เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “คุณอย่าเพิ่งใจร้อน ที่เขากลับไปเมื่อคืน ต้องเป็นเพราะอยากหนีคุณแน่ๆ ถ้าคุณไปหาเขาถึงที่เร็วแบบนี้ เขาก็คงไม่ออกมาเจอคุณหรอก”

“งั้นต้องทำยังไง…..” สมิธกล่าวอย่างรู้สึกโทษตัวเองว่า “ถ้าผมไม่ไปขอร้องเขาล่ะก็ จิมมี่ก็จะไม่ได้ยามาใช้รักษาตัวหลังจากนี้…..”

เจนนี่เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ทำไมคุณโง่ขนาดนี้เนี่ย….คุณลองคิดดูดีๆนะ เขาถ่อมาหาคุณถึงอเมริกาด้วยระยะทางเป็นหมื่นๆกิโลไปทำไมกัน?”

สมิธเอ่ยขึ้นมาว่า “เขาอยากให้ผมช่วยเร่งเวลานำยามาวางขายในตลาดอเมริกา…..”

เจนนี่รีบเอ่ยขึ้นมาว่า “งั้นคุณก็ช่วยจัดการให้เขาก่อน แล้วค่อยไปเจอเขา แบบนี้ค่อยดูจริงใจหน่อย ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ถ้าฉันเป็นเขานะ ถูกคุณยั่วโมโหด้วยท่าทีหยิ่งๆขนาดนั้น คงไม่มาเจอหน้าคุณอีกหรอก!”

สมิธถึงได้รู้ตัวในตอนนี้ จึงตบหัวตัวเองแล้วพูดว่า “ผมเข้าใจที่คุณพูดแล้ว ผมจะไปที่FDAเดี๋ยวนี้ ต้องทำเรื่องอนุมัติยากระเพาะเก้าเสวียนให้พวกเขาก่อน!”

เจนนี่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

สมิธเอ่ยถามเธอว่า “อาการของจิมมี่เป็นยังไงบ้าง?”

เจนนี่เอ่ยพูดว่า “อาการคงที่ แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นอีก หมอบอกว่า ถ้ายาไม่ออกฤทธิ์ต่อ เนื้องอกพวกนั้นก็มีโอกาสกลับมาจับตัวกันเป็นก้อนเหมือนเดิม”

สมิธเองก็รู้ดี ว่าการรักษาโรคมะเร็ง ไม่เหมือนการก่อสร้างตึกสูง ที่ต่อให้หยุดทำงานระหว่างทาง ความคืบหน้าก็จะหยุดอยู่ตรงนั้น ไม่มีเดินหน้าหรือถอยหลัง

ซึ่งตรงกันข้ามกับการรักษาโรคมะเร็ง ที่เหมือนกระแสน้ำในอ่างเก็บน้ำ

ความเร็วของการกักเก็บน้ำต้องมีเท่าๆความเร็วของน้ำที่ไหลออกเท่านั้น ถึงจะสามารถมั่นใจได้ว่าน้ำจะไม่หมดไป

ถ้าหากการกักเก็บน้ำหยุดชะงัก น้ำในอ่างก็จะค่อยๆลดน้อยลงเรื่อยๆ

ดังนั้น สมิธจึงพูดขึ้นมาว่า “ผมจะไปจัดการทุกอย่างที่FDAให้เรียบร้อย แล้วจะจองตั๋วเครื่องบินไฟท์ที่ไปถึงหัวเซี่ยเร็วที่สุด!”

“โอเค!” เจนนี่เอ่ยกำชับว่า “ที่รัก เพื่อช่วยจิมมี่ คุณต้องทำทุกวิถีทาง ให้เว่ยเลี่ยงตอบตกลงมอบยาให้คุณให้ได้นะ!”

“ผมรู้น่า….” สมิธเอ่ยตอบ “คุณไม่ต้องห่วง ผมจะพยายามได้มันมาสุดความสามารถ”

เมื่อวางสาย สมิธก็รีบขับรถตรงไปที่สำนักงานใหญ่FDAที่ตัวเองทำงานอยู่ทันที

การเปิดไฟเขียวให้ยากระเพาะเก้าเสวียน สำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

เพราะถึงแม้FDAจะเป็นสถาบันวิจัยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นกลางและเที่ยงธรรมสำหรับคนภายนอก แต่ในความเป็นจริงแล้วก็มีธุรกิจสีเทาที่หลายๆคนไม่เคยรู้

หลายปีที่ผ่านมานี้ FDAเลือกอะลุ่มอล่วยให้ผลิตภัณฑ์ยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่น้อยเลย ซึ่งพวกที่อะลุมอะหล่วยให้ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทยาที่ทรงอิทธิพลต่อการค้าและการลงทุน หรือไม่ก็บริษัทที่มีคอนเน็กชั่นแน่นหนากับFDA

ซึ่งจากตำแหน่งของสมิธแล้ว ถ้าจะอะลุ่มอล่วยให้ใบสั่งยาประเภทสินค้าอ่อนไหวก็ไม่มีปัญหา มากไปกว่านั้นยังสามารถให้ยากระเพาะเก้าเสวียนวางจำหน่ายตามเคาน์เตอร์ทั่วไปได้เหมือนยาธรรมดาทั่วไปด้วย

เหตุผลที่ก่อนหน้านี้ไม่ยอมอนุมัติ มันไม่มีอะไรมากไปกว่าความอคติที่มีต่อยาดั้งเดิมของทางตะวันออก เพราะเอาแต่รู้สึกว่าของพวกนี้มันล้าหลัง

แต่ว่าตอนนี้ เขาไม่สนใจอะไรเหล่านี้แล้ว

ไม่ว่ายากระเพาะเก้าเสวียนจะดีหรือไม่ดี เขาก็ต้องแสดงท่าทีหวังดีต่อเว่ยเลี่ยงโดยการอนุมัติตรวจสอบยากระเพาะเก้าเสวียนให้เร็วที่สุด

มีแค่อย่างนี้เท่านั้น เขาถึงจะมีโอกาสได้ยาชนิดนี้จากเว่ยเลี่ยงอีกครั้ง

ในสถานการณ์สำคัญอย่างนี้ สำหรับเขาแล้วยาเกิดใหม่เก้าเสวียนมีความหมายมากที่สุด

ถ้าพูดในด้านแคบๆ ยานี้สามารถช่วยชีวิตลูกชายของเขาได้

ถ้าพูดในด้านกว้างๆ ยานี้สามารถกลายเป็นฮีโร่แห่งวงการแพทย์ของสหรัฐอเมริกาได้เลย

เพราะถึงอย่างไร ไม่ว่าใครจะเป็นคนนำยาวิเศษนี้เข้ามาในอเมริกา ก็จะได้เป็นบุคคลผู้มีพระคุณต่อทุกคนในประเทศทั้งนั้น

ดังนั้น เขาต้องเอายาเกิดใหม่เก้าเสวียนเข้ามาให้ได้