หลังจากที่พวกเขาตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนว่าอีกฝ่ายไม่มีอุปกรณ์บันทึกเสียงบันทึกภาพ ถึงได้พาอีกฝ่ายไปที่ส่วนลึกของเกาะที่ไร้ผู้คนอยู่ เห็นนายพลห้าดาวคนนั้นของสำนักว่านหลง
เมื่อเจอหน้ากัน ผู้นำของกลุ่มเฟนท์แลนด์พูดด้วยความเคารพเป็นอย่างมาก: “สวัสดีครับ ผมชื่อชีค เป็นคนรับผิดชอบของกลุ่มเฟนท์แลนด์…….”
นายพลห้าดาวคนนั้นของสำนักว่านหลงพูดด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ว่า: “ฉันไม่สนว่าแกจะเป็นใคร ฉันแค่อยากรู้ว่า แกในฐานะโจรสลัด ยังกล้าเป็นคนนัดหมายพวกเราออกมาเจอหน้ากัน มีจุดประสงค์อะไรที่ไม่อาจบอกใครได้งั้นเหรอ?”
ชีครีบพูดว่า: “สำนักว่าหลงมีชื่อเสียงบารมีอยู่ภายนอก ผมและผู้นำองค์กรโจรสลัดอื่น เคารพสำนักหว่านหลงเป็นอย่างมากมาโดยตลอด ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราก็ยินดีต้อนรับสำนักว่านหลงสู่อ่าวเอเดนเป็นอย่างมาก เหตุผลที่อยากพบหน้าท่าน เป็นเพราะว่าพวกเราอยากเจรจาเป็นมิตรที่ดีกับสำนักว่านหลง ดูว่าพวกเราทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในอ่าวเอเดนได้ยังไงในอนาคต…….”
นายพลห้าดาวคนนั้นพูดอย่างเยือกเย็นว่า: “สำนักว่านหลงของพวกเรา ไม่มีทางจะร่วมมือในรูปแบบใดก็ตาม กับองค์กรโจรสลัดอย่างพวกแก! พวกแกไม่คู่ควร!”
เมื่อชีคได้ยินแบบนี้ ในใจก็เย็นชาในทันที
ถ้าหากสำนักว่านหลงมีท่าทีแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นก็บีบคั้นพวกเขาไปสู่ทางตันจริงๆ
ในขณะนี้เอง นายพลห้าดาวคนนั้นก็พูดอีกว่า: “แต่ว่าสิ่งที่ฉันสามารถบอกพวกแกได้คือ สำนักว่านหลงของพวกเรามีธุรกิจมากมาย จำนวนเรือที่เข้าและออกในอ่าวเอเดนมีจำนวนมหาศาล ความต้องการคุ้มกันก็มากเหมือนกัน ดังนั้นอย่างมากที่สุดพวกเราก็สามารถแบกรับได้ห้าสิบถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์ในนั้น ตราบใดที่คนอย่างพวกแกตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ไม่เป็นศัตรูกับสำนักว่านหลงของพวกเรา พวกเราสามารถปล่อยพวกแกไปได้ครั้งหนึ่ง!”
เมื่อชีคได้ยินแบบนี้ เดิมทีหัวใจที่เย็นชาก็เดือดพลุ่งพล่านขึ้นมาอีก!
เขามองดูนายพลห้าดาวคนนั้น และถามอย่างตื่นเต้นมาก: “สิ่งที่ท่านพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?! ตราบใดที่พวกเราไม่เป็นศัตรูกับสำนักว่านหลง ท่านและสำนักว่านหลงก็จะปล่อยพวกเราไปครั้งหนึ่งเหรอ?!”
นายพลห้าดาวถามกลับเขาว่า: “แกคิดว่าฉันมีความจำเป็นต้องล้อเล่นกับแกหรือเปล่า?!”
ชีครีบพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น……ผมเชื่อว่าท่านกับสำนักว่านหลงคำพูดเชื่อถือได้และพูดอย่างไงก็ทำอย่างนั้น!”
จากนั้น เขานึกถึงคำถามที่สำคัญเป็นอย่างมาก และพูดอย่างรวดเร็ว: “ไม่ทราบว่าในอนาคต ท่านจะบอกข้อมูลเกี่ยวกับเรือลำที่สำนักว่านหลงคุ้มกันกับพวกเราได้ทันเวลาหรือเปล่า พวกเราก็จะทำการแยกแยะได้ง่ายหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ.. ……”
นายพลห้าดาวพูดด้วยความรังเกียจว่า: “แกคิดว่า สำนักว่านหลงสง่าผ่าเผยของพวกเรา จะรักษาการสื่อสารบางอย่างและติดต่อกับโจรสลัดอย่างพวกแกเหล่านี้งั้นเหรอ?”
“ครับๆๆๆ……”ชีครีบพูดว่า: “สำนักว่านหลงเป็นองค์กรทหารรับจ้างชั้นยอด แน่นอนว่ารังเกียจที่จะเป็นเพื่อนกับโจรสลัดอย่างพวกเรา……”
จากนั้น เขาพูดอย่างกระอักกระอ่วนว่า: “แต่ว่า……แต่ว่าถ้าหากพวกเราแยกแยะไม่ออกว่าเรือลำไหนที่สำนักว่าหลงคุ้มกัน ในอนาคตก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ทันเวลานะ……”
นายพลห้าดาวพูดอย่างเยือกเย็นว่า: “พวกเราจะเปิดตัวเว็บไซต์ในเร็วๆนี้ นำธุรกิจกองกำลังติดอาวุธคุ้มกันของพวกเราลงบนเว็บไซต์ ในเวลาเดียวกันก็เปิดเผยข้อมูลของเรือที่พวกเราคุ้มกันให้กับสังคมทั้งหมดบนเว็บไซต์”
เมื่อชีคได้ยินแบบนี้ ก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า: “เยี่ยมมาก! ดีมาก! ถึงเวลานั้นพวกเราจะต้องติดตามเว็บไซต์นี้อย่างแน่นอน! แยกแยะอย่างเคร่งครัด! ไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกับเรือลำไหนที่สำนักว่านหลงคุ้มกันอย่างแน่นอน! พวกเราทั้งสองฝ่ายต่างไม่รุกล้ำซึ่งกันและกัน!”
นายพลห้าดาวตวาดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า: “ไม่รุกล้ำซึ่งกันและกันอะไร? แกคิดว่าฉันมาในวันนี้ คือคุยเงื่อนไขและคุยความร่วมมือกับแกงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ครับไม่ใช่…….”ชีครีบพูดอธิบายว่า: “ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ท่านอย่าได้โกรธ……สำนักว่านหลงจะร่วมมือกับโจรสลัดไม่เข้าพวกอย่างพวกเราได้ยังไง……ผมหมายถึงว่า เพื่อแสดงความเคารพที่มีต่อสำนักว่านหลง ในอนาคตพวกเราจะต้องรักษาระยะห่างกับเรือที่สำนักว่าหลงคุ้มกันอย่างแน่นอน!”