ตอนที่ 3 ไอดอลสาว JK ดูเหมือนจะสนใจเกมเซ็นเตอร์ 3

[WN] ไอดอลสาว JK ดูเหมือนจะเริ่มสนใจผมที่ดูเป็นว่างๆนะ?

พวกเราสองคนเริ่มเดินไปที่เกมเซ็นเตอร์

วันนี้ผมก็ได้รู้อย่างหนึ่งว่าไอดอลเองก็มีปัญหาอะไรหลายๆที่ยังแก้ไม่ตกเหมือนกัน

แต่อันดับแรกเลย ผมควรจะชี้แจงปัญหาแรกให้เธอได้รู้

“นี่ ผมไม่อยากตกเป็นประเด็นร้อนเรื่องชู้สาวกับซากุระซากิซังหรอกนะ”

การเป็นข่าวอื้อฉาวนั้นน่ากลัว โดยเฉพาะกับซากุระซากิ

ถ้าเกิดมีคนรู้เรื่องที่ผมไปเกมเซ็นเตอร์กับไอดอลยอดนิยมอย่าง ซากุระซากิ นาโกะ กันสองต่อสองล่ะก็.. บรึ๋ยย แค่คิดก็สยองแล้ว

และชีวิตม.ปลาย อันแสนสงบสุขของผมก็คงจบเห่แหงแซะ

“อ๊ะ ถ้าเรื่องนั้นล่ะก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะฉันมีไอเทมลับยังไงล่ะ”

ไอเทมลับ?

ซากุระซากิหยิบแว่นแฟชั่นออกมาจากกระเป๋าแล้วใส่อย่างรวดเร็ว

“แว่นเหรอ?”

เธอสวมแว่นตาแฟชั่นกรอบสีแดง ถึงแว๊บแรกที่เห็นอาจจะดูไม่ค่อยออก แต่ถ้าตั้งใจมองจริงก็ดูออกได้ไม่ยากเลยว่าเป็นเธอ

เอาจริงดิ ใช้แค่แว่นอันเดียวมันจะเนียนจริงๆเรอะ

“อย่างที่คิด การปลอมตัวแบบนี้..สิ้นหวังแล้วสินะ”

“เอ๊ะ? ม- ไม่ใช่แบบนั้นสิ! คือว่านี่น่ะ….น่ารักมั้ย?”

“………..หา?”

“หืม…นี่นายเป็นพวกแอนตี้แฟนของฉันอะไรทำนองนั้นเหรอ?”

“ผมก็แค่ไม่สนใจก็เท่านั้นแหละ มีอะไรรึเปล่า?”

“ค่า~ ค่า~ งั้นเหรอค๊า– ”

บางทีเธอคงอารมณ์ไม่ดีนิดหน่อย เธอถึงเริ่มเดินนำหน้าผมไป

ในฐานะไอดอลชื่อดังและเด็กหนุ่มจอมขี้เกียจโดยปกติแล้วไม่น่ามาเดินด้วยกันแบบนี้ แต่ทว่าครั้งนี้พวกเราก็เดินไปด้วยกันโดยไม่ได้กังวลอะไร

“ถึงตรงนั้น แล้วก็เลี้ยวขวา”

“อาเร๊ะ? ทางนั้นไม่ใช่ทางไปสถานีนี่นา?”

“อ่า ถูกต้องตามนั้น ด้วยระดับการปลอมตัวอันสุดยอดของเธอ ผมว่าไม่พาเธอไปเกมเซ็นเตอร์ที่มีคนเยอะๆจะดีกว่า”

“เอ๊ะ แล้วจะไปที่ไหนล่ะ?”

“วันนี้เราจะไปที่นั่น”

หลังจากเดินเลี้ยวขวาทางข้างหน้าผมก็หยุดเดิน

ข้างหน้าเป็นร้านเกมเซ็นเตอร์ที่ดูโบราณๆ อยู่ติดกับโซนเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ

มีป้ายร้านที่ดูโทรมๆเขียนว่า “ศูนย์เกมเซ็นเตอร์”

“ท- ที่นี่คือเกมเซ็นฯ ?”

“อา ที่นี่ก็เป็นเกมเซ็นฯ ที่ดีเหมือนกันนะ”

“อึ๋ย สกปรก…เน่, นายน่ะไม่เคยเดทกับผู้หญิงมาก่อนใช่มั้ย? ”

“ก็เคยไปกินบุฟเฟ่ต์กับเพื่อนสมัยเด็กอยู่นะ”

“อ๋อเหรอ..?”

“ถ้ามีปัญหามากนักล่ะก็ ผมกลับล่ะ”

“ข- เข้าใจแล้วน่า! โธ่…อุส่าห์มีเวลาว่างมาเล่นได้แท้ๆแต่กลับเป็นร้านแบบนี้…..”

“เธอยังไม่เคยลองเลยจะรู้ได้ไง ร้านนี้ช่วงวันปกติมักจะเงียบๆไม่ค่อยมีลูกค้า ไม่โดนจับได้แน่นอน เอาเถอะ ทำใจให้สบายเข้าไว้”

หลังจากอธิบายให้ซากุระซากิที่กำลังบ่นอยู่สักพัก พวกเราสองคนก็เดินเข้าไปข้างใน

เจ้าของร้านกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่หลังเคาน์เตอร์แบบชิลๆ พร้อมกับฟังวิทยุรายการแข่งม้าไปด้วย

“ที่นี่คือเกมเซ็นเตอร์ที่มีแค่พวกเกมขยะๆ กับเกมดันเหรียญ แล้วก็เครนเกมรูปUFOกากๆ เอาเถอะ ทนๆเอาหน่อยละกันอย่าบ่นมากเลย” TN:เครนเกมก็ตู้เกมคีบตุ๊กตานั่นแหละ

“ข- ขยะเนี่ยนะ …แต่ว่านะ”

ซากุระซากิทำหน้าบูดอย่างไม่พอใจ และดูผิดหวัง

“ก็ยังดีกว่าไปร้านที่คนเยอะๆ โดนคนจับได้แล้วคิดว่าผมคบกับเธอแล้วกลายเป็นข่าวขึ้นมานะ? ”

“คือฉัน…ก็ไม่ได้….”

เธอพึมพำอะไรบางอย่างเบาจนผมแทบไม่ได้ยิน

จู่ๆใบหน้าของซากุระซากิก็เปลี่ยนเป็นสีแดง เธอดึงแขนเสื้อของผมและช้อนตา มองมาทางนี้

“ยะ- ยิ่งกว่านั้นช่วยสอนฉันหน่อยสิว่าต้องเล่นยังไง! นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันมาเกมเซ็นเตอร์”

“คร้าบ คร้าบ…เดี๋ยวนะ? ครั้งแรก? เธอน่าจะเคยมาอย่างน้อยๆก็สักครั้งนึงไม่ใช่เหรอ?”

“จริงๆนะ คือครอบครัวของฉันค่อนข้างจะเข้มงวดมาตั้งแต่เด็กแล้ว พวกท่านไม่ชอบให้ไปสถานที่แบบนี้”

…..ก็นะ พ่อแม่แบบนั้นไม่ว่าที่ไหนก็มีแหละ

งั้นก่อนอื่นก็แลกเหรียญก่อนแล้วกัน

“อันดับแรกก็ไปแลกเหรียญที่ใช้เล่นเกมในตู้แลกเหรียญอัตโนมัติได้เลย 100เยน แลกได้ 10 เหรียญ แล้วก็เอาเหรียญไปเล่นตู้เกมแถวนั้น เธอจะได้เหรียญเพิ่มถ้าเธอเล่นชนะ ”

ผมเดินไปที่ตู้แลกเหรียญใส่เงินเข้าไป 100 เยน หยิบเหรียญออกมาแล้วก็ยื่นให้ซากุระซากิ

“อ่ะ นี่เหรียญ”

“อืม แล้วถ้าเล่นจนได้เหรียญเยอะขึ้น เราจะได้อะไรเป็นรางวัลเหรอ?”

“ไม่อะ ไม่ได้อะไรหรอก”

“….เอ๊ะ? แล้วเราจะเล่นสะสมเหรียญนี้เยอะๆไปเพื่ออะไรอะ?”

“มันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางคนก็คิดว่ามันมีค่าเหมือนเงินจริงๆแล้วก็จริงจังกับการเก็บมันให้ได้เยอะๆ ในขณะที่บางคนก็คิดว่าเก็บให้ได้เยอะๆเหมือนเป็นการชาเลนจ์ตัวเองล่ะมั้ง แต่เอาเข้าจริงๆ เหรียญพวกนี้ก็เป็นแค่ตั๋วที่ใช้สำหรับเล่นเกมแค่นั้นแหละ มันก็เป็นของแบบนั้นแหละเจ้าเหรียญพวกนี้ ”

ก็นะ ถ้าจะให้พูดจริงๆ ถ้าเหรียญพวกนี้แลกเป็นเงินจริงได้คงได้มีปัญหาด้านกฎหมายในหลายๆอย่างแน่ ถึงผมจะไม่ค่อยรู้รายละเอียดก็เถอะ เอาเป็นว่าเงียบไว้ดีกว่า

“งืม ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เอาเป็นว่าเล่นเกมนี้ก่อนเลยแล้วกัน”

พูดเสร็จซากุระซากิก็เดินกำเหรียญไปนั่งลงบนเก้าอี้ตรงเครื่องเกมดันเหรียญที่อยู่ตรงกลาง

ถึงจะสายไปแล้วก็เถอะนะ แต่ผมสงสัยว่าเป็นความคิดที่ดีรึเปล่าที่พาไอดอล JK ชื่อดัง มาเล่นเกมเซ็นเตอร์เน่าๆแบบนี้

“เน่ เจ้านี่มันเล่นยังไงเหรอ?”

“เอ่อ ถ้าเธอใส่เหรียญเข้าไปเหรียญมันจะไปตกอยู่ข้างหลัง แล้วก็แท่นนั้นจะค่อยๆดันเหรียญจากด้านหลัง จากนั้นเหรียญที่อยู่ด้านหน้าจะหล่นลงมา”

“เห.. ก็ดูไม่ยากเท่าไหร่นี่นา ดีล่ะ! จงมองดูความเก่งกาจของฉันไว้ดีล่ะ ฮิมาฮาระคุง! ”

ก็ดูมีความมุ่งมั่นอยู่หรอกน้า ทว่าใช้เวลาเพียงไม่ถึงนาทีเหรียญในมือของเธอก็อันตรธานหายไป…..

***

“น- นี่มันอะไรกันน–! ”

พรู๊ดดด

ผมอดไม่ได้ที่จะหลุดขำออกมา

“อ๊ะ- อย่าหัวเราะนะ!! ”

“ป-เปล่านะ พุฟฟุ- เปล่าหัวเราะสักหน่อย อะฮ่าฮ่า ฮ่า ”

“งือออ มม~!! ล้อเลียนมือใหม่นี่สนุกมากใช่มะ?! ”

“อย่างที่คิด ไอดอลสาว JK ไม่ว่าจะที่ไหนก็ทำตัวน่ารัก แม้แต่ที่แบบนี้เองก็เหมือนกันสินะ ฮ่าๆ”

“กล้าดูถูกกันถึงขนาดนั้น ล- แล้วนายล่ะทำได้รึเปล่า?”

“ไม่ล่ะ ถ้าจะให้เล่นจริงๆขอเป็นเกมนั้นดีกว่า”

ผมชี้ไปที่เครื่องเล่นโป๊กเกอร์เกมที่ตั้งอยู่ตรงริมกำแพง

“นั่นอะไรอะ? ดูไม่ค่อยจะน่าสนุกเท่าไหร่เลยนะ?”

“นั่นคือโป๊กเกอร์เกมที่ใช้เหรียญเป็นเดิมพัน แล้วก็นะ มันจะสนุกหรือไม่สนุกถ้าเธอไม่ลองดูแล้วจะรู้ได้ไง”

“ก็ฟังดูน่าสนใจอยู่…”

ผ่านไปประมาณ 10 นาที เขาเล่นโป๊กเกอร์อย่างใจเย็น ครั้งแล้ว ครั้งเล่า จากนั้น…

“อ่ะนี่ เอาไปสิซากุระซากิซัง ผมเล่นได้มา 100 เหรียญ ลองเอาไปเล่นเกมดันเหรียญเมื่อกี้อีกรอบสิ”

“อุหวาาา มันจะดีเหรอ?! ”

“อา ถ้าใช้สัก 100 เหรียญ มันก็น่าจะได้อะไรบ้างแหละนะ”

“ขอบคุณนะ ฮิมาฮาระคุง!”

เมื่อผมยื่นเหรียญให้ ผมก็ได้นึกขึ้นได้

บางทีโครงสร้างของเศรษฐกิจโลกก็เป็นเหมือนพวกเราตอนนี้รึเปล่านะ

การที่ผู้ชายธรรมดาๆแบบผมพยายามอย่างหนักก็ทำได้แค่ทำให้ไอดอลมีความสุข

ในขณะเดียวกันคนที่มีความสามารถมากกว่าก็สามารถทำสิ่งที่ดีกว่า และก็ได้รับมากกว่า

TN: ประโยคนี้งงๆหน่อยนะครับ ผมก็งงเหมือนกัน ฮะๆ

“ฮิมาฮาระคุง? ทำหน้าเหมือนมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลย เป็นอะไรเหรือเปล่า?”

“…..แค่กำลังสนุกอยู่น่ะ”

“อ- อือ”

***

เครื่องดันเหรียญมาถึงจุดที่ถ้าใส่เพิ่มไปอีกสักเหรียญสองเหรียญ ก็น่าจะมีโอกาสได้รับแจ็คพอตแล้ว เมื่อผมอธิบายสั้นๆ จากนั้นซากุระซากิก็พยักหน้าและหยอดไปอีกเหรียญ

“ฮะ-ฮิมาฮาระคุง ทำไมไม่มานั่งด้วยกันล่ะ ยืนอยู่นานแล้วคงจะเมื่อยแล้วไม่ใช่เหรอ? ”

“นั่นสินะ เดี๋ยวผมไปนั่งตรงนั้นแล้วกัน”

ตอนที่ซากุระซากิกำลังหยอดเหรียญอยู่ เธอก็คว้าแขนของผมไว้ด้วยมืออีกข้างนึงของเธอ

“ตรงนี้ยังว่างอยู่นะ มานั่งข้างๆฉันสิ..”

เก้าอี้ที่ไม่เหมาะสำหรับนั่งสองคนสักเท่าไหร่ ตอนนี้ผมกำลังนั่งกับไอดอลซังอยู่

ระยะห่างเป็นศูนย์โดยสมบูรณ์ ผมนั่งอยู่ข้างๆเธอโดยที่แขนเราสองคนแนบชิดกัน

แล้วเธอก็เริ่มหยอดเหรียญด้วยสีหน้าจริงจัง

“ฉันน่ะเป็นนักแสดงมาตั้งแต่เด็ก และงานฉันก็ยุ่งมากจนไม่เคยได้ออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนเลย ฉันเคยคิดมาตลอดว่าการทำงานคือความหมายของชีวิต แต่แล้ววันหนึ่งฉันก็คิดว่ามันเริ่มไม่สนุกอีกต่อไปแล้ว รวมถึงการเป็นไอดอลด้วย ”

“….เป็นงั้นเหรอ?”

“อื้อ คือฉันน่ะ เริ่มเหนื่อยกับการถูกคาดหวังขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นความคาดหวังจากแฟนคลับ สังคม และโดยเฉพาะพ่อ-แม่ของฉัน”

“….อย่างนี้นี่เอง”

ก็นะ บางทีการที่ถูกคาดหวังที่มากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นใครก็คงไม่ชอบกันทั้งนั้นแหละ

“เพราะงั้น ฉันเลยคิดว่าอย่างน้อยๆ ฉันก็ควรลองหาอะไรแปลกใหม่ๆทำบ้าง เหมือนอย่างที่นายเคยพูดไว้เมื่อกี้ ‘มันจะสนุกหรือไม่สนุก ถ้าไม่ลองดูก็ไม่รู้หรอก’ ”

ณ ตอนนั้น รอยยิ้มของซากุระซากิก็ดูแตกต่างจากรอยยิ้มตามปกติของเธอ

เป็นรอยยิ้มที่ดูบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา

แค่มองดูเฉยๆก็คงไม่รู้หรอก …แต่ว่านั่นคือสิ่งที่ผมคิดทันทีที่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอ

“นี่.. ถ้านายไม่รังเกียจ….”

เธอจับมือของผมด้วยมือทั้งสองข้างของเธอ

“จากนี้ต่อไป ฉันอยากให้ฮิมาฮาระคุงช่วยสอนเรื่องสนุกๆให้ฉัน…..”

ชั่วขณะนั้นเอง

วงล้อรูเล็ตหมุนไปพร้อมเสียงเพลงแจ็คพอต และรูเล็ตก็ชี้ไปที่แจ็คพอต

แล้วเหรียญมากมายก็เริ่มไหลออกจากช่องแจ็คพอต

“อ- อะไรกันเนี่ย สุดยอดเลย! ระ-เหรียญหล่นลงมาเต็มเลยฮิมาฮาระคุง! ”

“สุดยอด…”

ถ้วยที่ใส่เหรียญเริ่มล้นออกมา ผมเลยเปลี่ยนเอากล่องเล็กๆมาใส่เหรียญแทน

“จ- จะว่าไงดี มันรู้สึกสุดยอดแบบแปลกๆ ทั้งที่ไม่ใช่เงินจริงแท้ๆ มันคืออะไรกันนะความรู้สึกนี้”

“นี่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของความสนุกของเกมดันเหรียญไงล่ะ”

“อะ แล้วเราต้องทำยังไงกับเหรียญพวกนี้ล่ะ? ใกล้ได้เวลาที่ฉันต้องกลับบ้านแล้วด้วยสิ”

“งั้นเหรอ เราเก็บไว้ที่นี่ก่อนก็ได้”

“ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ?”

“อื้อ ฝากไว้ก่อนได้ แต่ก็ได้แค่เดือนเดียวนะ”

ผมเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อฝากเหรียญแล้วเดินกลับมาหาซากุระซากิ

“ผมฝากไว้โดยใช้ชื่อเธอ คราวหน้าถ้าเธออยากเล่นอีกก็มาเล่นคนเดียวได้”

“ดะ- เดี๋ยว ฮิมาฮาระคุง…”

“หืม? อะไรเหรอ?”

“คราวหน้า เราก็มาเล่นด้วยกันอีกเถอะนะ”

“…ด้วยกัน?”

“อื้ม…ฉันอยากมาเล่นกับนายอีก! ”

“….ไม่ล่ะ ดูเหมือนเหรียญที่ได้มาก็ค่อนข้างเยอะแล้วนะ เพราะงั้นผมก็คงไม่จำเป็นต้องมาช่วยเธอหาเหรียญทำทุนเพิ่มแล้วนี่? ”

“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย! ….พอกันที ฉันจะกลับแล้ว! ”

ผมไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงดูอารมณ์เสียซะขนาดนั้น

ทันใดนั้นก็มีเกมๆนึงดึงดูดสายตาผม

“เอ่อ ซากุระซากิซัง ในตู้นั้นมีตัวไหนอยากได้เป็นพิเศษไหม?”

เกมนั้นคือเกมที่จะได้รางวัลจากการตัดเชือก มักพบได้ทั่วไปในเกมเซ็นเตอร์ ส่วนใหญ่จะเอาสินค้าที่จะล้างสต๊อกมาเป็นรางวัล

เป็นเกมที่ค่อนข้างจะง่าย เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของการเซอร์วิสลูกค้าล่ะนะ

ถ้าเคยเล่นมาก่อน แค่เหรียญเดียวก็น่าจะได้แล้ว

“เอ๊ะ? ทำไมล่ะจู่ๆก็…”

“เอาน่า เอาน่า”

“เอ่องั้นก็…อันนี้”

ซากุระซากิชี้ไปที่ตุ๊กตามาสคอตยอดนิยม

ผมหยอดเหรียญ 100 เยน ทันทีและเริ่มเกม

แล้วผมก็จัดการได้ภายในครั้งเดียว

“อ่ะนี่ เอาไปสิ”

ตุ๊กตาขนาดพอดีกับแขนของซากุระซากิ

“เอ๊ะ? จะดีเหรอ?”

“อื้อ ให้ ถึงจะไม่ใช่ของดีอะไรมากมายก็เถอะนะ ”

“….ข- ขอบคุณนะ จะรักษาไว้อย่างดีเลย”

ซากุระซากิพูดแบบนั้น ขณะที่ซ่อนใบหน้าไว้หลังตุ๊กตา

***

ตอนนี้ก็เป็นเวลาช่วงเย็นแล้ว

สถานีรถไฟที่ซากุระซากิกับผมต้องไปนั้นอยู่คนละที่กัน พวกเราเลยจะแยกทางกันที่สถานีนี้

“วะ- วันนี้ขอบคุณมากนะ”

“เริ่มใจเย็นลงบ้างแล้วรึยังล่ะ?”

“อื้อ เท่านี้ฉันก็มีแรงฮึดสู้ในวันพรุ่งนี้แล้วล่ะ”

ซากุระซากิถอดแว่นปลอมตัวของเธอออก เดินออกไปแล้วก็หันกลับมาหาผม

“งั้นก็ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ ฮิมาฮาระคุง”

“อา ไว้เจอกัน”

ซากุระซากิขึ้นรถไฟและมุ่งหน้ากลับบ้านไป

ไอดอลสาว JK ที่ดูกระตือรือร้นเหมือนจะค่อนข้างยุ่งนะ

แต่ว่า –สิ่งหนึ่งที่ผมได้รู้ตอนนี้คือถึงแม้เธอจะเป็นไอดอล แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งเหมือนกัน

“ไว้เจอกันพรุ่งนี้” ……งั้นเหรอ

ผมไม่อยากเดินไปกับไอดอลแล้วต้องคอยกังวลเรื่องนั้นเรื่องนี้เลยน้า