ตอนที่ 2 ผู้กล้าคนก่อนถูกลากมาด้วย

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

อ่าา. .ยินดีที่ได้รู้จักครับ 

นี่ผมเอง ยาชิโระ ยู

ผมบอกก่อนเลยนะว่า ผมน่ะเป็นแค่เด็กนักเรียนม.ปลายธรรมดา

ไม่มีอะไรคล้ายกับพระเอกฮาเร็มในอนิเมะเลยสักนิด

ผมไม่มีเพื่อนสมัยเด็ก. . .

ไม่มีน้องสาวสุดน่ารัก. . .

ไม่เคยวิ่งชนสาวซึนระหว่างที่เธอกำลังคาบขนมปัง. . . 

 

กระซิก . . 

 

อูวว หลังจากยอมรับความจริงไม่ได้ น้ำตามันก็ไหลออกมา

เอาล่ะ กลับมาที่ประเด็นหลัก

ใช่แล้วล่ะ “คนธรรมดา” ผมเป็นแค่คนธรรมดา

ผมมั่นใจเลยว่า ถ้าผมมีเงินทองมากมาย ผมคงกลายเป็นพวกเก็บตัวเพราะความระแวงกับเหล่าผู้คนที่เข้ามาหา

แล้วผมยังมั่นใจอีกว่า ถ้าผมมีอะไรคล้ายๆฮาเร็ม ผมคงวิ่งหนีจากมันเพราะความรู้สึกกลัวที่อยู่ในใจ

แม้หนังสือโป้ ผมยังซ่อนมันจากครอบครัวไว้ใต้ที่นอน 

และถ้าหากมีผู้หญิงมาทำดีด้วย ผมคงตกหลุมรักพวกเธออย่างแน่นอน

 

นั้นคือผม 

 

เป็นความธรรมดาที่มีมากกว่านักเรียนชายทั่วๆไปเสียอีก

ดังนั้น ทำไมคนธรรมดาแบบผมถึงมาอยู่ในสถานที่เช่นนี้

และเมื่อลองมองไปรอบๆ ที่นี่มันใหญ่เกินคำว่าห้อง มันควรจะเรียกว่าแท่นบูชามากกว่า

โดยมันมีบันไดอยู่รอบๆตัวพวกเราขึ้นไปยังบนเพดาน มีเสาขนาดใหญ่ทั้งหกรองรับน้ำหนักของมันอยู่

มันมีสัญลักษณ์ดาวหกแฉกที่เขียนด้วยภาษาอิสเรียวโบราณอยู่บนเพดานเหล่านั้น

แม้กระทั้งบนพื้นก็มีดาวหกแฉกที่เขียนด้วยภาษาอิสเรียวอยู่ด้วยเหมือนกัน

มันเป็นอะไรที่ดูเหมือนกับเวทมนตร์ที่เกี่ยวกับเวลาและการเคลื่อนย้าย

ทั้งหมดนี้หมายถึงการเชื่อมต่อระหว่างโลกของผมกับโลกเวทมนตร์”รูนเบิร์ก”

หรือพูดสั้นๆว่า 

 

“วงเวทย์อัญเชิญ”

 

แต่เดียวก่อนนะ 

ไอ้เวทย์นี้มันควรจะใช้โครตยากไม่ใช่หรอ. . . 

ต้องมีกลุ่มดาวเรียงตัวหรืออะไรสักอย่าง. . 

แสดงว่าแสงตอนนั้นนั้น 

คือแสงจากเวทอัญเชิญสินะ . . .

 

นั้นคือสิ่งที่ยาชิโระ ยู กำลังคิด

 

อ่า มันผิดปกติไม่ใช่หรือที่คำอธิบายเวทมนตร์เหล่านี้มาจาก ผมที่เป็นเด็กนักเรียนชายธรรมดา

แต่ว่า ในอดีตนั้น 

ผมเคยข้ามมาต่างโลกแล้ว

มันเกิดขึ้นตอนที่ผมอยู่เกรต 8

ตอนนั้นผมยังใส่ชุดเท่ๆสวมผ้าคลุม ป่วยม.2 ไปรอบๆอยู่เลย

แล้วจู่ๆก็เกิดแสงสว่างขึ้นรอบตัว

นั้นคือตอนที่ผมถูกอัญเชิญมาสถานที่ที่ดูเหมือนแท่นบูชาแห่งนี้

หลังจากนั้นก็มีหลายๆอย่างเกิดขึ้น

เช่น ผมได้ปราบจอมมารที่พยายามจะครองโลก 

และทำให้โลกกลับสู่ความสงบสุข

ในโลกแห่งเวทมนตร์นี้นั้น ผมเป็นผู้กล้า 

 

อ่าไม่สิ ”ผมเคยเป็นผู้กล้า”

 

เอาล่ะ กลับมาเรื่องหลัก

ทำไมผมถึงถูกเรียกมาต่างโลกอีก?

อะไรนะ ทำไมถึงคิดว่ามันเป็นโลกเดียวกับกับที่เคยมาน่ะหรือ ?

สำหรับเรื่องนั้น ผมยืนยันได้เลย

เหตุผลเพราะอักขระเวทมนตร์ที่ถูกเขียนนั้นคือภาษาอิสเรียว

ทุกๆตัวอักษรจะมีพลังของมันในตัวเอง

เมื่อนำมารวมกัน กระบวนการเวทมนตร์จะทำงาน

สิ่งเหล่านี้ ในตอนที่ผมมาต่างโลกครั้งแรกเมื่อ 3 ปีก่อน เมื่อผมยังเป็นผู้กล้า

ผมถูกองค์หญิงทั้ง 3 คน ยัดเยียดใส่หัวมา

เพราะอย่างนั้นไม่ผิดแน่นอน

เอ๊ะ. .เดียวก่อน ที่นี่ใช่ “รูนเบิร์ก” ที่ต่างโลกที่ผมเคยมาเมื่อ 3 ปีก่อนจริงๆหรือ

ผมรู้สึกได้เลยว่านั้นคือเวทมนตร์อัญเชิญผู้กล้า 

แต่นี่ใช่โลกเดิมที่ผมเคยเป็นผู้กล้าจริงๆหรือ ?

เพราะมันเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง

 

[ทำไมคุณถึงต้องการผู้กล้าล่ะ?]

 

ผมมีนิสัยชอบหลงพูดสิ่งที่กำลังคิดออกไปเอง

ไม่ใช่ผมจะหลงพูดที่คิดออกไปทุกๆอย่างหรอกนะ

แต่เหมือนวันนี้สกิลพูดออกไปเองจะทำงานพอดี

 

[หาา ? นายไม่ได้ฟังที่เจ้าหญิงกำลังพูดเลยรึไง]

 

คำพูดเหล่านี้ปักมายังที่อกผม

 

[ อ่าา ขอโทษครับ ผมกำลังมึนกับหลายๆสิ่งที่เกิดขึ้น ]

[ อย่าขัดการสนทนาด้วยคำพูดที่ฟังดูโง่ๆเลยดีกว่า ]

 

ดูเหมือนเจ้าหญิงที่นั่งอยู่หัวโต๊ะที่ดูหรูหรากำลังขอร้องอะไรบางอย่างกับไอ้หน้าหล่ออยู่

อืมแล้วก็กำลังมี ชาย หญิง 4 คนกำลังมองมาที่ผม

ในพักพวกของ อามากิ ไคโตะนั้น 

มีสาวทวินเทลผมสีแดง

สาวเงียบขรึมทรงผมหน้าม้า 

และสาวโลลิที่แต่งตัวในชุดผู้ชาย

พวกเขาคือกลุ่มที่ถูกอัญเชิญมาพร้อมกัน

ยอดมาก 

3คนนี้คือฮาเร็มของไอ้หน้าหล่อสินะ

 

[ ใจเย็นก่อน อาคาเนะ เขา. .  เอ่ออ ยู ใช่มั้ย ยูคุงไม่ได้ถูกเรียกมาพร้อมกับเพื่อนสนิทแบบพวกเรานะ ]

 

ไอ้หน้าหล่อที่นั่งอยู่ติดกับองค์หญิงพยายามหยุดผู้หญิงปากหมาที่กำลังเห่าใส่ผมอยู่

 

[ น นะ. .นายพยายามจะบอกอะไรกัน ]

[ก็เพราะมีพวกเธออยู่ด้วย อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมยังสงบใจอยู่ได้ ถ้าพวกเธอไม่ได้อยู่ด้วยล่ะก็. . แน่นอนเลยที่คำพูดคนอื่นๆจะไม่เข้าโสตประสาทเช่นกัน ]

[อุกก]

[ดังนั้น ใจเย็นก่อนนะ]

[เข้าใจแล้ว ชินายมันขี้โกงนี่นา ที่พูดแบบนั้น ชั้นก็ . . .]

 

จากคำพูดของไอ้หน้าหล่อ

แก้มของสาวทวินเทลผมแดง”อาคาเนะ”ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดง

มันอะไรกันวะครับ 

ไอ้ความซึนระดับสุดยอดแบบนี้

เพราะสิ่งที่สาวซึนแสดงออกมา ผมถึงกับพูดไม่ออก 

ในอีกความหมาย

แม่นี่คงเข้าใจเป็นว่าถูกสารภาพรักเป็นนัยๆ

ทำให้ใจความสำคัญหลักทีไอ้หน้าหล่อหมายถึงส่งไปไม่ถึงเธอเลย

และนี่ ทำให้ผมประเมินไอ้หน้าหล่อ”อามากิ ไคโตะ”คนนี้ใหม่

เขาไม่เหมือนกับไอ้หน้าหล่อทั่วๆไป 

เขาเป็นไอ้หน้าหล่อที่มีเสน่ห์และตัวปัญหา

ผมหมายถึง คุณรู้มั้ย จากปากคนเกลียดพวกหน้าหล่อ 

ผมเองเกือบคิดว่า ”ไอ้หมอนี้เป็นคนดีจริงๆ”

อาจเป็นเพราะหมอนี้มีฮาเร็มแต่ค่าความมีเสน่ห์ยังไม่สูงพอ 

ผมมีคนรู้จักที่เป็นไอ้หน้าหล่อเจ้าเสน่ห์เหมือนกัน 

แต่หมอนี่บอกได้เลยว่า เป็นตัวอันตราย 

มันมีบางเวลาที่ผมรู้สึกว่าไม่เป็นไรหรอกถ้าจะจับกดหมอนี่

พอนึกถึงช่วงเวลานั้น ผมแทบอยากจะฆ่าตัวตายทันที

 

[อ่าา ขอโทษที เชิญพูดต่อเลย]

 

เจ้าหญิงพยักหน้าพร้อมกับหัวเราะออกมานิดๆ

 

[ ต่อจากเมื่อกี้นะคะ . . . ท่านผู้กล้าเมื่อ 3 ปีก่อนไม่ได้จัดการจอมมารลงค่ะ เขาเพียงขับไล่จอมมารออกไป และเมื่อเวลาผ่านไปจอมมารได้รักษาบาดแผลและกลับมาทำให้โลกกำลังเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้ง—- ]

 

ผมไม่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดหรอกนะ ผมแค่ฟังช่วงต้นๆเท่านั้น ถึงอย่างงั้นผมก้อเข้าใจเรื่องต่างๆมากกว่า 4 คนนี้ที่มาจากโลกเดียวกันกับผม

ไม่ผิดแน่ ที่นี่คือ”รูนเบิร์ก” และผู้กล้าเมื่อ 3 ปีก่อน คือผมเอง

แต่มันมีบางอย่างกวนใจผม เพราะเรื่องราวที่ฟังมาต่างจากที่ผมสรุปไว้มาก

ขับไล่ ? . . . เป็นไปไม่ได้ ผมจัดการจอมมารแล้วแน่นอน ไม่เพียงแค่นั้น ผมยังผนึกมันไว้หลังจากมันได้รับผลตอบแทนอย่างสาสม

แต่เหมือนเรื่องราวกับกลายเป็นผมได้ขับไล่จอมมารไป และตอนนี้เขาฟื้นคืนพลังแล้ว ?

มันเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าผนึกจอมมารถูกปลด พวกเขาคงจะอัญเชิญผมกลับมาทันทีแน่

มันมีบางอย่างน่าสงสัยจริงๆ

[พวกคุณไม่เรียกผู้กล้าเมื่อ 3 ปีก่อนกลับมาล่ะ เกิดอะไรขึ้น ?]

ระหว่างที่ผมกำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง สาวเงียบสุดสวยก็ได้ถามเจ้าหญิงขึ้น

โอ้ แม้กะทั้งเสียงเธอยังเย็นฉาเหลือเกิน สุดยอด มันคงเข้ากับเธอมากถ้าหากเธอสวมชุดมิโกะพร้อมถือดาบญี่ปุ่น

 

[ พวกเราก็อยากจะเรียกเขามาค่ะ. .  แต่ว่า.. อาณาจักรลีซาเรี่ยนได้ปกปิดวิธีอัญเชิญผู้กล้าคนก่อนเอาไว้ ทำให้พวกเราไม่สามารถเรียกเขามาได้ค่ะ ]

 

เจ้าหญิงก้มหัวของเธอลงพร้อมตอบออกมาอย่างเสียใจ

เดี่ยวสิ ทำไมเธอถึงพูดอย่างงั้น ผมถูกพวกคุณเรียกมาอยู่นี่ไง ติดลากแหมาด้วยเนี้ย

 

[ เดียวนะ หมายความว่าไงที่ว่าปกปิดวิธีการอัญเชิญ อาณาจักรนี้ใช้วิธีอัญเชิญไม่เหมือนกับอาณาจักรลีซาเรี่ยนหรอกหรือ ]

 

โดยปกติ การอัญเชิญผู้กล้า จะอัญเชิญมนุษย์ที่ถือครองคุณสมบัติของผู้กล้าไว้จากโลกอื่น 

นั้นทำให้อธิบายได้ว่าทำไมผมถึงถูกเรียกตัวมา แต่. . .

 

[ ใช่ค่ะ อาณาจักรลีซาเรี่ยนกับอาณาจักรลัคซีเรียของเรามีวิธีอัญเชิญที่แตกต่างกันที่ลีซาเรี่ยนนั้นเป็นพิธีกรรมอันเก่าแก่ ต้องใช้องค์ประกอบหลายๆอย่าง เช่นเมื่อดวงดาวเรียงตัวพวกเค้าจึงได้เปลี่ยนมันเป็นพลังเวทมนตร์ทำให้มีพลังเวทมนตร์มหาศาลพอที่จะเปิดประตูเชื่อมต่อไปอีกโลก แต่อาณาจักรลัคซีเรียของเราใช้วิธีการโดยวาดอักขะชีพจรของมังกรที่วงแหวนอัญเชิญแล้วเพิ่มพลังเวทมนตร์เข้าไปที่อักขระ เพื่อสร้างประตูเวทมนตร์ที่สเถียรขึ้นมา ]

 

โอ้ โห . . แสดงว่า ที่ลีซาเรี่ยน . . . อาณาจักรที่อัญเชิญผมเมื่อ 3 ปีก่อนใช้วิธีการประมาณระเบิดพลังเวทเข้าไปเพื่อให้ประตูเปิดออก แต่ที่ลัคซีเรียนั้นใช้เวลาค่อยๆเปิดประตูเหมือนกันการสะเดาะกุญแจ ถ้าให้เดาวิธีที่พวกเขาใช้คงไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก

 

[ ผมพอจะเข้าใจแล้วว่าพิธีอัญเชิญนั้นต่างกัน แต่ถึงคุณจะรู้พิธีการอัญเชิญของลีซาเรี่ยน คุณก็ยังอัญเชิญผู้กล้าคนก่อน(ผม)ไม่ได้แล้วใช่มั้ยครับ แม้จะเป็นการเรียงตัวของกลุ่มดาวหรืออะไรก็ตามเหมือนกัน แต่มันไม่เหมือนกับพิธีเมื่อ 3 ปีก่อนแล้วสินะ ]

[ค่ะ พวกเราไม่สามารถใช้พิธีของอาณาจักรลีซาเรี่ยนได้ เพราะในอักขระเวทย์ที่ใช้เรียกผู้กล้าคนก่อนจะมี(โค๊ด)เฉพาะเพื่อเรียกท่านผู้กล้าก่อน ซึ่งถ้าพวกเรามี(โค๊ด)ของท่านผู้กล้าคนก่อนจากอาณาจักรลีซาเรี่ยน พวกเราก็สามารถอัญเชิญท่านผู้กล้าคนก่อนได้เหมือนกันค่ะ]

 

คุณจะบอกว่าเป็นเพราะอาณาจักรลีซาเรี่ยนไม่ยอมเปิดเผย(โค๊ด)นั้นใช่มั้ย

ไม่สิ มันอาจจะเป็นความผิดของผมก็นะ (ผิวปาก)

ขณะที่ผมกำลังคิดเรื่องพวกนี้ สาวซึนทวินเทลก็เสียงดังขึ้นมา

 

[อาณาจักรลีซาเรี่ยนเป็นบ้าอะไรห๊ะ พวกเขาควรจะรีบเรียกผู้กล้าคนก่อนกลับมา ถ้าพวกเขาทำล่ะก็ พวกชั้นคงไม่ต้องมาที่โลกนี้ และที่สำคัญ ทำไมพวกชั้นต้องมาทำในสิ่งที่ผู้กล้าคนก่อนทำไม่สำเร็จด้วย ชิ ชั้นไม่สนหรอกนะว่าผู้กล้าคนก่อนมันเป็นใคร แต่มันน่ารำคาญสิ้นดี]

 

เธอทุบโต๊ะ และพูดอกกมาเสียงดัง ทวิลเทลผมแดงพูดในสิ่งที่เธออยากจะพูดออกมา ทำให้ไอ้หน้าหล่อต้องปรามเธอนั่งลงที่เก้าอี้เหมือนเดิม

โอ๊ยปวดหูไปหมด . . 

 

[สรุปแล้วพวกเราควรจะทำอะไรดี ]

 

สาวน้อยในชุดผู้ชายถามออกมา เหมือนเริ่มกระวนกระวายใจ

 

[มันคือความจริง ที่พวกเราเป็นมือใหม่ เมื่อได้ฟังเรื่องราวของจอมมาร แต่พวกเราก็ไม่มีอะไรไปสู้ได้หรอกนะ]

 

สาวเงียบสุดสวยได้พูดเสริมขึ้นมา

ใช่แล้ว ถ้าพวกเขามีดาบศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับผมก็ว่าไปอย่าง แต่ดาบมันมีเพียงเล่มเดียวนี่สิ

ซึ่งผมก็ยังเป็นผู้ถือครองมันอยู่ ดูเหมือนจะหาไม่ได้จากในโลกนี้อีกแล้วเหมือนกัน

เอ๊ะ ? มีศัพท์แปลกๆโผล่ออกมาอีกแล้วสินะ . . . เดียวผมจะไว้อธิบายเกี่ยวกับมันในโอกาสหน้า ตอนนี้โยนมันทิ้งไปก่อน

 

[ค่ะ แต่ได้อย่ากังวลไปเลย]

 

เจ้าหญิงพูดพร้อมยิ้มกว้างขึ้นมา

 

[การอัญเชิญของอาณาจักรเราจะอัญเชิญเฉพาะผู้ที่มีพลังเวทย์มหาศาลมาที่โลกของเรา . . . . พวกคุณทั้งหมดจะมีพลังเวทย์มากมายจนหาใครเทียบไม่ได้เลยค่ะ]

[พลังเวทย์มนต์มหาศาล ?]

 

ไอ้หน้าหล่อถามขึ้นมา

 

[ ใช่ค่ะ อีกไม่นานเราจะทำการวัดค่าพลังเวทย์ที่แน่นอนของพวกคุณ แต่ตอนนี้เราบอกได้เลยค่ะว่า พลังเวทย์ของพวกคุณคงประมาณจอมเวทย์องค์รักษ์100-1000 คนรวมกันแน่นอนค่ะ ]

 

ห๊ะ

หาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

นะนี่มัน โกงเกินไปแล้ว ถึงผมจะได้ยินว่าพวกจอมเวทย์นั้นอ่อนแอก็เถอะ แต่พวกจอมเวทย์องค์รักษ์นี้เก่งขนาดเท่ากับกลุ่มมอนส์เตอร์กลุ่มหนึ่งเลยนะ

อย่างนี้ ถ้าคุณเก่งเท่ากับพวกเขา 100-1000 คน คุณก็เป็นเทพทรูแล้ว

นี่มันแย่มากๆ แย่กว่าการแค่โดนหางเลขมาที่นี่เสียอีก

เหตุผลเพราะ ในตัวผมไม่มีพลังเวทย์เลยสักนิด

ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้พลังเหมือนเขาหรอกนะ แต่ผมไม่มีมันตั้งแต่แรกแล้ว

และสำคัญที่สุด ตอนที่ผมถูกอัญเชิญมานั้น

ก่อนที่ผมจะถูกเรียกตัวมา ผมแค่กำลังกลับบ้านพร้อมรูปถ่ายคลอเลคชั่นและหายใจหอบแปลกๆ อยู่นะสิ

มันเป็นรูปของดาราที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ จิฮารุ จัง เสน่ห์ของเธอมาจากสุดยอดหนองโพ size 95 พร้อมด้วยต้นขาอันอวบอิ่ม เรียวขายาวเข้ารูป พร้อมทั้งบั้นท้ายดินระเบิด อีกทั้งใบหน้าที่ดูดี ทำให้เธอนั้นดึงดูดสายตาทั้งชายและหญิง

ใช่แล้วเธอน่ะเหมาะกับคำว่า Ero cool เป็นที่ซูดดด

รูปคลอเลคชั่นของเธออยู่ในกระเป๋าสะพายของผมพร้อมกับล๊อคอย่างแน่นหนา(มัดด้วยเชือก)และกอดอยุ่กับตัว ในขณะนั้นมีเสียงคุยกันสนุกสนานมาจากกลุ่มข้างหน้า เมื่อผมมองไป ผมก็เห็นไอ้หน้าหล่อที่กำลังถูกบำเรอด้วย 3 สาวอยู่รอบๆ

ในขณะที่ผมกำลังสาปแช่งไอ้หน้าหล่ออยู่ในใจ พวกเขาก็ได้หยุดรอไฟแดง ทำให้ผมเดินตามพวกเขาทัน แต่ก้อยังเว้นระยะห่างอยู่หน่อย ในขณะนั้น จู่ๆก็เกิดแสงสว่างขึ้นรอบพวกเราในทันที

เห้อออ ถ้าไม่เรียกว่าถูกหางเลขจากการอัญเชิญ 

แล้วจะเรียกว่าอะไรดีละเนี้ย . . .