อ่าา. .ยินดีที่ได้รู้จักครับ
นี่ผมเอง ยาชิโระ ยู
ผมบอกก่อนเลยนะว่า ผมน่ะเป็นแค่เด็กนักเรียนม.ปลายธรรมดา
ไม่มีอะไรคล้ายกับพระเอกฮาเร็มในอนิเมะเลยสักนิด
ผมไม่มีเพื่อนสมัยเด็ก. . .
ไม่มีน้องสาวสุดน่ารัก. . .
ไม่เคยวิ่งชนสาวซึนระหว่างที่เธอกำลังคาบขนมปัง. . .
กระซิก . .
อูวว หลังจากยอมรับความจริงไม่ได้ น้ำตามันก็ไหลออกมา
เอาล่ะ กลับมาที่ประเด็นหลัก
ใช่แล้วล่ะ “คนธรรมดา” ผมเป็นแค่คนธรรมดา
ผมมั่นใจเลยว่า ถ้าผมมีเงินทองมากมาย ผมคงกลายเป็นพวกเก็บตัวเพราะความระแวงกับเหล่าผู้คนที่เข้ามาหา
แล้วผมยังมั่นใจอีกว่า ถ้าผมมีอะไรคล้ายๆฮาเร็ม ผมคงวิ่งหนีจากมันเพราะความรู้สึกกลัวที่อยู่ในใจ
แม้หนังสือโป้ ผมยังซ่อนมันจากครอบครัวไว้ใต้ที่นอน
และถ้าหากมีผู้หญิงมาทำดีด้วย ผมคงตกหลุมรักพวกเธออย่างแน่นอน
นั้นคือผม
เป็นความธรรมดาที่มีมากกว่านักเรียนชายทั่วๆไปเสียอีก
ดังนั้น ทำไมคนธรรมดาแบบผมถึงมาอยู่ในสถานที่เช่นนี้
และเมื่อลองมองไปรอบๆ ที่นี่มันใหญ่เกินคำว่าห้อง มันควรจะเรียกว่าแท่นบูชามากกว่า
โดยมันมีบันไดอยู่รอบๆตัวพวกเราขึ้นไปยังบนเพดาน มีเสาขนาดใหญ่ทั้งหกรองรับน้ำหนักของมันอยู่
มันมีสัญลักษณ์ดาวหกแฉกที่เขียนด้วยภาษาอิสเรียวโบราณอยู่บนเพดานเหล่านั้น
แม้กระทั้งบนพื้นก็มีดาวหกแฉกที่เขียนด้วยภาษาอิสเรียวอยู่ด้วยเหมือนกัน
มันเป็นอะไรที่ดูเหมือนกับเวทมนตร์ที่เกี่ยวกับเวลาและการเคลื่อนย้าย
ทั้งหมดนี้หมายถึงการเชื่อมต่อระหว่างโลกของผมกับโลกเวทมนตร์”รูนเบิร์ก”
หรือพูดสั้นๆว่า
“วงเวทย์อัญเชิญ”
แต่เดียวก่อนนะ
ไอ้เวทย์นี้มันควรจะใช้โครตยากไม่ใช่หรอ. . .
ต้องมีกลุ่มดาวเรียงตัวหรืออะไรสักอย่าง. .
แสดงว่าแสงตอนนั้นนั้น
คือแสงจากเวทอัญเชิญสินะ . . .
นั้นคือสิ่งที่ยาชิโระ ยู กำลังคิด
อ่า มันผิดปกติไม่ใช่หรือที่คำอธิบายเวทมนตร์เหล่านี้มาจาก ผมที่เป็นเด็กนักเรียนชายธรรมดา
แต่ว่า ในอดีตนั้น
ผมเคยข้ามมาต่างโลกแล้ว
มันเกิดขึ้นตอนที่ผมอยู่เกรต 8
ตอนนั้นผมยังใส่ชุดเท่ๆสวมผ้าคลุม ป่วยม.2 ไปรอบๆอยู่เลย
แล้วจู่ๆก็เกิดแสงสว่างขึ้นรอบตัว
นั้นคือตอนที่ผมถูกอัญเชิญมาสถานที่ที่ดูเหมือนแท่นบูชาแห่งนี้
หลังจากนั้นก็มีหลายๆอย่างเกิดขึ้น
เช่น ผมได้ปราบจอมมารที่พยายามจะครองโลก
และทำให้โลกกลับสู่ความสงบสุข
ในโลกแห่งเวทมนตร์นี้นั้น ผมเป็นผู้กล้า
อ่าไม่สิ ”ผมเคยเป็นผู้กล้า”
เอาล่ะ กลับมาเรื่องหลัก
ทำไมผมถึงถูกเรียกมาต่างโลกอีก?
อะไรนะ ทำไมถึงคิดว่ามันเป็นโลกเดียวกับกับที่เคยมาน่ะหรือ ?
สำหรับเรื่องนั้น ผมยืนยันได้เลย
เหตุผลเพราะอักขระเวทมนตร์ที่ถูกเขียนนั้นคือภาษาอิสเรียว
ทุกๆตัวอักษรจะมีพลังของมันในตัวเอง
เมื่อนำมารวมกัน กระบวนการเวทมนตร์จะทำงาน
สิ่งเหล่านี้ ในตอนที่ผมมาต่างโลกครั้งแรกเมื่อ 3 ปีก่อน เมื่อผมยังเป็นผู้กล้า
ผมถูกองค์หญิงทั้ง 3 คน ยัดเยียดใส่หัวมา
เพราะอย่างนั้นไม่ผิดแน่นอน
เอ๊ะ. .เดียวก่อน ที่นี่ใช่ “รูนเบิร์ก” ที่ต่างโลกที่ผมเคยมาเมื่อ 3 ปีก่อนจริงๆหรือ
ผมรู้สึกได้เลยว่านั้นคือเวทมนตร์อัญเชิญผู้กล้า
แต่นี่ใช่โลกเดิมที่ผมเคยเป็นผู้กล้าจริงๆหรือ ?
เพราะมันเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง
[ทำไมคุณถึงต้องการผู้กล้าล่ะ?]
ผมมีนิสัยชอบหลงพูดสิ่งที่กำลังคิดออกไปเอง
ไม่ใช่ผมจะหลงพูดที่คิดออกไปทุกๆอย่างหรอกนะ
แต่เหมือนวันนี้สกิลพูดออกไปเองจะทำงานพอดี
[หาา ? นายไม่ได้ฟังที่เจ้าหญิงกำลังพูดเลยรึไง]
คำพูดเหล่านี้ปักมายังที่อกผม
[ อ่าา ขอโทษครับ ผมกำลังมึนกับหลายๆสิ่งที่เกิดขึ้น ]
[ อย่าขัดการสนทนาด้วยคำพูดที่ฟังดูโง่ๆเลยดีกว่า ]
ดูเหมือนเจ้าหญิงที่นั่งอยู่หัวโต๊ะที่ดูหรูหรากำลังขอร้องอะไรบางอย่างกับไอ้หน้าหล่ออยู่
อืมแล้วก็กำลังมี ชาย หญิง 4 คนกำลังมองมาที่ผม
ในพักพวกของ อามากิ ไคโตะนั้น
มีสาวทวินเทลผมสีแดง
สาวเงียบขรึมทรงผมหน้าม้า
และสาวโลลิที่แต่งตัวในชุดผู้ชาย
พวกเขาคือกลุ่มที่ถูกอัญเชิญมาพร้อมกัน
ยอดมาก
3คนนี้คือฮาเร็มของไอ้หน้าหล่อสินะ
[ ใจเย็นก่อน อาคาเนะ เขา. . เอ่ออ ยู ใช่มั้ย ยูคุงไม่ได้ถูกเรียกมาพร้อมกับเพื่อนสนิทแบบพวกเรานะ ]
ไอ้หน้าหล่อที่นั่งอยู่ติดกับองค์หญิงพยายามหยุดผู้หญิงปากหมาที่กำลังเห่าใส่ผมอยู่
[ น นะ. .นายพยายามจะบอกอะไรกัน ]
[ก็เพราะมีพวกเธออยู่ด้วย อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมยังสงบใจอยู่ได้ ถ้าพวกเธอไม่ได้อยู่ด้วยล่ะก็. . แน่นอนเลยที่คำพูดคนอื่นๆจะไม่เข้าโสตประสาทเช่นกัน ]
[อุกก]
[ดังนั้น ใจเย็นก่อนนะ]
[เข้าใจแล้ว ชินายมันขี้โกงนี่นา ที่พูดแบบนั้น ชั้นก็ . . .]
จากคำพูดของไอ้หน้าหล่อ
แก้มของสาวทวินเทลผมแดง”อาคาเนะ”ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดง
มันอะไรกันวะครับ
ไอ้ความซึนระดับสุดยอดแบบนี้
เพราะสิ่งที่สาวซึนแสดงออกมา ผมถึงกับพูดไม่ออก
ในอีกความหมาย
แม่นี่คงเข้าใจเป็นว่าถูกสารภาพรักเป็นนัยๆ
ทำให้ใจความสำคัญหลักทีไอ้หน้าหล่อหมายถึงส่งไปไม่ถึงเธอเลย
และนี่ ทำให้ผมประเมินไอ้หน้าหล่อ”อามากิ ไคโตะ”คนนี้ใหม่
เขาไม่เหมือนกับไอ้หน้าหล่อทั่วๆไป
เขาเป็นไอ้หน้าหล่อที่มีเสน่ห์และตัวปัญหา
ผมหมายถึง คุณรู้มั้ย จากปากคนเกลียดพวกหน้าหล่อ
ผมเองเกือบคิดว่า ”ไอ้หมอนี้เป็นคนดีจริงๆ”
อาจเป็นเพราะหมอนี้มีฮาเร็มแต่ค่าความมีเสน่ห์ยังไม่สูงพอ
ผมมีคนรู้จักที่เป็นไอ้หน้าหล่อเจ้าเสน่ห์เหมือนกัน
แต่หมอนี่บอกได้เลยว่า เป็นตัวอันตราย
มันมีบางเวลาที่ผมรู้สึกว่าไม่เป็นไรหรอกถ้าจะจับกดหมอนี่
พอนึกถึงช่วงเวลานั้น ผมแทบอยากจะฆ่าตัวตายทันที
[อ่าา ขอโทษที เชิญพูดต่อเลย]
เจ้าหญิงพยักหน้าพร้อมกับหัวเราะออกมานิดๆ
[ ต่อจากเมื่อกี้นะคะ . . . ท่านผู้กล้าเมื่อ 3 ปีก่อนไม่ได้จัดการจอมมารลงค่ะ เขาเพียงขับไล่จอมมารออกไป และเมื่อเวลาผ่านไปจอมมารได้รักษาบาดแผลและกลับมาทำให้โลกกำลังเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้ง—- ]
ผมไม่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดหรอกนะ ผมแค่ฟังช่วงต้นๆเท่านั้น ถึงอย่างงั้นผมก้อเข้าใจเรื่องต่างๆมากกว่า 4 คนนี้ที่มาจากโลกเดียวกันกับผม
ไม่ผิดแน่ ที่นี่คือ”รูนเบิร์ก” และผู้กล้าเมื่อ 3 ปีก่อน คือผมเอง
แต่มันมีบางอย่างกวนใจผม เพราะเรื่องราวที่ฟังมาต่างจากที่ผมสรุปไว้มาก
ขับไล่ ? . . . เป็นไปไม่ได้ ผมจัดการจอมมารแล้วแน่นอน ไม่เพียงแค่นั้น ผมยังผนึกมันไว้หลังจากมันได้รับผลตอบแทนอย่างสาสม
แต่เหมือนเรื่องราวกับกลายเป็นผมได้ขับไล่จอมมารไป และตอนนี้เขาฟื้นคืนพลังแล้ว ?
มันเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าผนึกจอมมารถูกปลด พวกเขาคงจะอัญเชิญผมกลับมาทันทีแน่
มันมีบางอย่างน่าสงสัยจริงๆ
[พวกคุณไม่เรียกผู้กล้าเมื่อ 3 ปีก่อนกลับมาล่ะ เกิดอะไรขึ้น ?]
ระหว่างที่ผมกำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง สาวเงียบสุดสวยก็ได้ถามเจ้าหญิงขึ้น
โอ้ แม้กะทั้งเสียงเธอยังเย็นฉาเหลือเกิน สุดยอด มันคงเข้ากับเธอมากถ้าหากเธอสวมชุดมิโกะพร้อมถือดาบญี่ปุ่น
[ พวกเราก็อยากจะเรียกเขามาค่ะ. . แต่ว่า.. อาณาจักรลีซาเรี่ยนได้ปกปิดวิธีอัญเชิญผู้กล้าคนก่อนเอาไว้ ทำให้พวกเราไม่สามารถเรียกเขามาได้ค่ะ ]
เจ้าหญิงก้มหัวของเธอลงพร้อมตอบออกมาอย่างเสียใจ
เดี่ยวสิ ทำไมเธอถึงพูดอย่างงั้น ผมถูกพวกคุณเรียกมาอยู่นี่ไง ติดลากแหมาด้วยเนี้ย
[ เดียวนะ หมายความว่าไงที่ว่าปกปิดวิธีการอัญเชิญ อาณาจักรนี้ใช้วิธีอัญเชิญไม่เหมือนกับอาณาจักรลีซาเรี่ยนหรอกหรือ ]
โดยปกติ การอัญเชิญผู้กล้า จะอัญเชิญมนุษย์ที่ถือครองคุณสมบัติของผู้กล้าไว้จากโลกอื่น
นั้นทำให้อธิบายได้ว่าทำไมผมถึงถูกเรียกตัวมา แต่. . .
[ ใช่ค่ะ อาณาจักรลีซาเรี่ยนกับอาณาจักรลัคซีเรียของเรามีวิธีอัญเชิญที่แตกต่างกันที่ลีซาเรี่ยนนั้นเป็นพิธีกรรมอันเก่าแก่ ต้องใช้องค์ประกอบหลายๆอย่าง เช่นเมื่อดวงดาวเรียงตัวพวกเค้าจึงได้เปลี่ยนมันเป็นพลังเวทมนตร์ทำให้มีพลังเวทมนตร์มหาศาลพอที่จะเปิดประตูเชื่อมต่อไปอีกโลก แต่อาณาจักรลัคซีเรียของเราใช้วิธีการโดยวาดอักขะชีพจรของมังกรที่วงแหวนอัญเชิญแล้วเพิ่มพลังเวทมนตร์เข้าไปที่อักขระ เพื่อสร้างประตูเวทมนตร์ที่สเถียรขึ้นมา ]
โอ้ โห . . แสดงว่า ที่ลีซาเรี่ยน . . . อาณาจักรที่อัญเชิญผมเมื่อ 3 ปีก่อนใช้วิธีการประมาณระเบิดพลังเวทเข้าไปเพื่อให้ประตูเปิดออก แต่ที่ลัคซีเรียนั้นใช้เวลาค่อยๆเปิดประตูเหมือนกันการสะเดาะกุญแจ ถ้าให้เดาวิธีที่พวกเขาใช้คงไม่ปลอดภัยเท่าไรนัก
[ ผมพอจะเข้าใจแล้วว่าพิธีอัญเชิญนั้นต่างกัน แต่ถึงคุณจะรู้พิธีการอัญเชิญของลีซาเรี่ยน คุณก็ยังอัญเชิญผู้กล้าคนก่อน(ผม)ไม่ได้แล้วใช่มั้ยครับ แม้จะเป็นการเรียงตัวของกลุ่มดาวหรืออะไรก็ตามเหมือนกัน แต่มันไม่เหมือนกับพิธีเมื่อ 3 ปีก่อนแล้วสินะ ]
[ค่ะ พวกเราไม่สามารถใช้พิธีของอาณาจักรลีซาเรี่ยนได้ เพราะในอักขระเวทย์ที่ใช้เรียกผู้กล้าคนก่อนจะมี(โค๊ด)เฉพาะเพื่อเรียกท่านผู้กล้าก่อน ซึ่งถ้าพวกเรามี(โค๊ด)ของท่านผู้กล้าคนก่อนจากอาณาจักรลีซาเรี่ยน พวกเราก็สามารถอัญเชิญท่านผู้กล้าคนก่อนได้เหมือนกันค่ะ]
คุณจะบอกว่าเป็นเพราะอาณาจักรลีซาเรี่ยนไม่ยอมเปิดเผย(โค๊ด)นั้นใช่มั้ย
ไม่สิ มันอาจจะเป็นความผิดของผมก็นะ (ผิวปาก)
ขณะที่ผมกำลังคิดเรื่องพวกนี้ สาวซึนทวินเทลก็เสียงดังขึ้นมา
[อาณาจักรลีซาเรี่ยนเป็นบ้าอะไรห๊ะ พวกเขาควรจะรีบเรียกผู้กล้าคนก่อนกลับมา ถ้าพวกเขาทำล่ะก็ พวกชั้นคงไม่ต้องมาที่โลกนี้ และที่สำคัญ ทำไมพวกชั้นต้องมาทำในสิ่งที่ผู้กล้าคนก่อนทำไม่สำเร็จด้วย ชิ ชั้นไม่สนหรอกนะว่าผู้กล้าคนก่อนมันเป็นใคร แต่มันน่ารำคาญสิ้นดี]
เธอทุบโต๊ะ และพูดอกกมาเสียงดัง ทวิลเทลผมแดงพูดในสิ่งที่เธออยากจะพูดออกมา ทำให้ไอ้หน้าหล่อต้องปรามเธอนั่งลงที่เก้าอี้เหมือนเดิม
โอ๊ยปวดหูไปหมด . .
[สรุปแล้วพวกเราควรจะทำอะไรดี ]
สาวน้อยในชุดผู้ชายถามออกมา เหมือนเริ่มกระวนกระวายใจ
[มันคือความจริง ที่พวกเราเป็นมือใหม่ เมื่อได้ฟังเรื่องราวของจอมมาร แต่พวกเราก็ไม่มีอะไรไปสู้ได้หรอกนะ]
สาวเงียบสุดสวยได้พูดเสริมขึ้นมา
ใช่แล้ว ถ้าพวกเขามีดาบศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับผมก็ว่าไปอย่าง แต่ดาบมันมีเพียงเล่มเดียวนี่สิ
ซึ่งผมก็ยังเป็นผู้ถือครองมันอยู่ ดูเหมือนจะหาไม่ได้จากในโลกนี้อีกแล้วเหมือนกัน
เอ๊ะ ? มีศัพท์แปลกๆโผล่ออกมาอีกแล้วสินะ . . . เดียวผมจะไว้อธิบายเกี่ยวกับมันในโอกาสหน้า ตอนนี้โยนมันทิ้งไปก่อน
[ค่ะ แต่ได้อย่ากังวลไปเลย]
เจ้าหญิงพูดพร้อมยิ้มกว้างขึ้นมา
[การอัญเชิญของอาณาจักรเราจะอัญเชิญเฉพาะผู้ที่มีพลังเวทย์มหาศาลมาที่โลกของเรา . . . . พวกคุณทั้งหมดจะมีพลังเวทย์มากมายจนหาใครเทียบไม่ได้เลยค่ะ]
[พลังเวทย์มนต์มหาศาล ?]
ไอ้หน้าหล่อถามขึ้นมา
[ ใช่ค่ะ อีกไม่นานเราจะทำการวัดค่าพลังเวทย์ที่แน่นอนของพวกคุณ แต่ตอนนี้เราบอกได้เลยค่ะว่า พลังเวทย์ของพวกคุณคงประมาณจอมเวทย์องค์รักษ์100-1000 คนรวมกันแน่นอนค่ะ ]
ห๊ะ
หาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
นะนี่มัน โกงเกินไปแล้ว ถึงผมจะได้ยินว่าพวกจอมเวทย์นั้นอ่อนแอก็เถอะ แต่พวกจอมเวทย์องค์รักษ์นี้เก่งขนาดเท่ากับกลุ่มมอนส์เตอร์กลุ่มหนึ่งเลยนะ
อย่างนี้ ถ้าคุณเก่งเท่ากับพวกเขา 100-1000 คน คุณก็เป็นเทพทรูแล้ว
นี่มันแย่มากๆ แย่กว่าการแค่โดนหางเลขมาที่นี่เสียอีก
เหตุผลเพราะ ในตัวผมไม่มีพลังเวทย์เลยสักนิด
ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้พลังเหมือนเขาหรอกนะ แต่ผมไม่มีมันตั้งแต่แรกแล้ว
และสำคัญที่สุด ตอนที่ผมถูกอัญเชิญมานั้น
ก่อนที่ผมจะถูกเรียกตัวมา ผมแค่กำลังกลับบ้านพร้อมรูปถ่ายคลอเลคชั่นและหายใจหอบแปลกๆ อยู่นะสิ
มันเป็นรูปของดาราที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ จิฮารุ จัง เสน่ห์ของเธอมาจากสุดยอดหนองโพ size 95 พร้อมด้วยต้นขาอันอวบอิ่ม เรียวขายาวเข้ารูป พร้อมทั้งบั้นท้ายดินระเบิด อีกทั้งใบหน้าที่ดูดี ทำให้เธอนั้นดึงดูดสายตาทั้งชายและหญิง
ใช่แล้วเธอน่ะเหมาะกับคำว่า Ero cool เป็นที่ซูดดด
รูปคลอเลคชั่นของเธออยู่ในกระเป๋าสะพายของผมพร้อมกับล๊อคอย่างแน่นหนา(มัดด้วยเชือก)และกอดอยุ่กับตัว ในขณะนั้นมีเสียงคุยกันสนุกสนานมาจากกลุ่มข้างหน้า เมื่อผมมองไป ผมก็เห็นไอ้หน้าหล่อที่กำลังถูกบำเรอด้วย 3 สาวอยู่รอบๆ
ในขณะที่ผมกำลังสาปแช่งไอ้หน้าหล่ออยู่ในใจ พวกเขาก็ได้หยุดรอไฟแดง ทำให้ผมเดินตามพวกเขาทัน แต่ก้อยังเว้นระยะห่างอยู่หน่อย ในขณะนั้น จู่ๆก็เกิดแสงสว่างขึ้นรอบพวกเราในทันที
เห้อออ ถ้าไม่เรียกว่าถูกหางเลขจากการอัญเชิญ
แล้วจะเรียกว่าอะไรดีละเนี้ย . . .