(ในตอนนี้มีเปลี่ยนแปลงเพศของตัวประกอบจากตอนที่ 1 นิดหน่อย)
「ฮึฮืม~ ฮึฮึฮืม~♪」
วันต่อมา ผมมุ่งหน้าไปโรงเรียนขณะฮัมเพลงไปด้วย
ภายในกระเป๋าของชุดเครื่องแบบมีใบอนุญาตนักผจญภัยและมอนสเตอร์การ์ดหลายใบซ่อนไว้อยู่
แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมีซาชิกิวาราชิจังที่เพิ่งได้มาเมื่อวาน
「…..ฟุฟุ」
ยิ้มมุมปากขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
สงสัยจังว่าทุกคนจะมีปฏิกิริยายังไงเมื่อได้เห็นเจ้านี่
การ์ดแรงค์ C แถมยังเป็นการ์ดเด็กผู้หญิงที่ราคาสูงกว่าหลายเท่าในตลาด
เป็นแรร์การ์ดที่เด็กนักเรียนน้อยคนจะมีครอบครองได้อย่างไม่ต้องสงสัย
พอนึกถึงสีหน้าของทุกคนตอนที่เอาไปอวดแล้ว….. ช่วยไม่ได้ที่จะยิ้มบาน
「โอ้ส มาโร่ วันนี้มาเช้าเลยนะ」
มีมือมาแตะที่ไหล่ของผมจากทางด้านหลัง พอหันกลับไปก็เจอกับใบหน้าของเพื่อนที่คุ้นเคย
「โอ้ ฮิกาชิโนะ! อรุณสวัสดิ์!」
「โอ ห-เหมือนรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นแต่เช้า เกิดอะไรขึ้นรึเปล่านั่น?」
「งั้นเหรอ? คิดว่าเหมือนเดิมกับทุกทีนะ」
ผมทำเป็นไม่รู้เรื่อง แต่ก็หุบรอยยิ้มบนหน้าไม่ได้
「เออ ไอ้รอยยิ้มกรุ่มกริ่มเนี่ย ดูน่าขนลุกกว่าปกติเลย」
「หนวกหูน่า」
ต่อยกลับเบาๆไปที่ไหล่
ไอ้ที่กว่าปกตินี้คืออะไร? จะบอกว่าปกติก็ดูน่าขนลุกอยู่งั้นเรอะ?
「อะไรเล่า มีอะไรเกิดขึ้น? บอกมาหน่อยสิ เป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอว่ะ?」
「อืม~」
ฮิกาชิโนะพูดแบบนั้นแล้วใช้ศอกจิ้มมา ทำให้ผมลังเลว่าจะบอกเรื่องเกี่ยวกับเมื่อวานไปเลยดีไหม
ถ้าเกิดเปิดเผยผมเป็นนักผจญภัยและครอบครองแรร์การ์ดแล้วล่ะก็ การปฏิบัติต่อผมในชั้นเรียนย่อมต้องเปลี่ยนไป
จะว่าไปแล้ว ที่อุตส่าห์พยายามอย่างหนักเพื่อขึ้นไปสู่ชั้นบนของห้อง ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนมันก็คงจะเป็นปัญหาแล้ว
ประเด็นคือ พอถึงจุดนั้นแล้ว มิตรภาพของพวกเราจะเป็นยังไง
มินามิยาม่า ขึ้นไปด้านบนของชนชั้นโรงเรียนแล้วทิ้งพวกเรา
ทำให้ช่วยไม่ได้ที่จะคิดว่าเป็นเศษเดนของแท้ สำหรับผมถ้าเป็นไปได้อยากจะเข้าร่วมในกลุ่มเรียจู ขณะที่ยังคงมิตรภาพต่อพวกฮิกาชิโนะอยู่
ไม่คิดว่าเพื่อนจะถูกตัดกันได้ง่ายๆ เหนืออื่นใดเลยคือผมเข้ากันได้ดีกับพวกฮิกาชิโนะ ฉากในอุดมคติก็คือได้รับการนับหน้าถือตาจากทุกคนภายในโรงเรียน แล้วยังไปเที่ยวเล่นกับพวกฮิกาชิโนะตอนสุดสัปดาห์ได้เหมือนอย่างเคย
ถ้าแบบนั้นแล้ว มันจะเป็นการดีกว่าที่จะบอกพวกฮิกาชิโนะเรื่องนักผจญภัยเอาไว้ล่วงหน้าก่อน
「จริงๆแล้ว—-」
「โอ้ว! อรุณสวัสดิ์」
「โอ้! นิชิดะ หายากนะเนี่ยที่จะเห็นพวกเราสามคนไปโรงเรียนด้วยกัน」
「ก็พวกเราน่ะถูกผูกเอาไว้ด้วยด้ายแห่งชะตากรรมยังไงล่ะ เชื่อดิ」
「คนแห่งชะตากรรมของชั้นไม่ใช่พวกแกแต่คือพี่สาวสุดเลิศที่ยังไม่เคยเห็นหน้าต่างหาก」
「เหอะ(แสยะ) โอ้ะ มาโร่เองก็อรุณสวัสดิ์นะ」
「อ-โอ้….. อรุณสวัสดิ์」
「หืม? ว่าแต่ เมื่อกี้กำลังจะพูดอะไรรึเปล่า」
「ม-ไม่มีอะไรหรอก…..」
「งั้นเหรอ?」
เจอขัดจังหวะโดยการปรากฏตัวของนิชิดะ เลยแกล้งเฉไฉไปอย่างช่วยไม่ได้
อู ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้รู้สึกยากที่จะบอกสิ่งที่เกิดขึ้น
จากนั้นผมก็เล็งหาจังหวะดีๆ ที่จะบอก แต่สุดท้ายก็มาถึงห้องเรียนในขณะที่ฟังนิชิดะเล่าถึงเกมจีบสาวที่เล่นเมื่อวาน ท้ายที่สุดก็ไม่ได้บอกเรื่องที่เป็นนักผจญภัยไป
อืม จะมีทางบอกกับสองคนนี้ได้ภายในวันนี้รีเปล่า? อย่างเลวร้ายสุด ถ้าไม่ได้ก็ค่อยเอาไว้บอกพรุ่งนี้ก็ได้ ล่ะมั้ง?
「โอ๋?」
พลางที่คิดอะไรแบบนั้นอยู่ ฮิกาชิโนะก็หยุดนิ่งไปดื้อๆ
「เป็นอะไรไปละ รีบๆเข้าไปข้างในสิ」
นิชิดะเดินชนฮิกาชิโนะที่จู่ๆก็หยุดเดิน บอกให้เขาเดินเข้าห้องเรียน
「ไม่สิ ข้างในมันค่อนข้างหนวกหูแปลกๆ」
หืม? เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?
พอมองข้ามไหล่ของฮิกาชิโนะไป ก็เห็นนักเรียนชายกำลังถูกคนในชั้นกว่าครึ่งล้อมอยู่
คนนั้นมีรูปร่างค่อนข้างเล็ก ร่างกายที่อวบแต่ไม่ทำให้รู้สึกแย่ ผมสีดำหยักศก….. โอโน่ที่อยู่ในกลุ่มชั้นท็อป
ขณะที่ถูกห้อมล้อมอยู่ โอโน่ดูจะตื่นเต้นมากกว่าปกติ
บางทีอาจจะกำลังเล่นมุขที่มีแค่เฉพาะในกลุ่มรู้จักจะเข้าใจอยู่อีกเหมือนเคยก็ได้ รู้สึกไม่ค่อยชอบ เพราะว่ามักจะเป็นมุขที่เอาคนอย่างพวกเรามาใช้ล้อเลียน
「อะไรนั่น โอโน่?」
「เล่นมุขเฉพาะกลุ่มตัวเองอีกแล้วรึ?」
「ไม่ค่อยชอบมุขของหมอนั่นเลย เพราะเอาคนอย่างพวกเรามาใช้ล้อเลียน」
ฮิกาชิโนะกับนิชิดะมองไปที่โอโน่แล้วซุบซิบกัน พูดตรงกับเรื่องผมที่คิดเป๊ะเลยรู้สึกอบอุ่นหน่อยๆ
「ก่อนอื่นก็เข้าไปกันก่อนเถอะ」
「โอ้」
ผมเดินนำทั้งสองเข้าห้องเรียน เหล่านักเรียนคนอื่นไม่แม้แต่จะรู้สึกตัวว่าพวกเราเข้ามา ต่างพากันจดจ่อกับเรื่องของโอโน่
แล้วในตอนนั้นเอง คำพูดที่ไม่น่าเชื่อก็ลอยเข้าหูของผม…..
「—-แต่แหม แบบนี้โอโน่ก็เป็นนักผจญภัยด้วยแล้วล่ะน้า~ เท่านี้พวกเราก็เป็นชั้นเรียนเดียวที่มีนักผจญภัยสองคนล่ะ」
…..ว่า อะไรนะ?
ผมหยุดนิ่งไปโดยไม่รู้ตัว จ้องไปทางโอโน่
「ไม่หรอกน่า ถึงจะเป็นนักผจญภัยแต่ก็เป็นแค่มือใหม่ที่มีดาวเดียวเอง แถมการ์ดก็ยังกระจอกอยู่เลย」
「ไม่ไม่ไม่ แค่ได้เป็นนักผจญภัยก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว ยิ่งกว่านั้นยังเก็บเงินด้วยการทำงานพิเศษเองใช่ไหมล่ะ? นี่ก็เจ๋งสุดๆแล้ว」
「ได้เข้าเขาวงกตบ้างแล้วรึยังล่ะ?」
「ไม่ล่ะยังเลย คิดว่าวันนี้จะไปด้วยกันกับมินามิยาม่านะ แหม มีรุ่นพี่ที่รู้จักแบบนี้ก็หายห่วงเลย」
「ชั้นเองก็ตื่นเต้นที่ได้มีเพื่อนอยู่ในวงการเดียวกันนะ!」
กับพวกนั้นที่วี๊ดว๊ายกันอยู่ ผมได้แต่จ้องไปด้วยความอึ้ง
……………….. ส-เสร็จกัน! โดนชิงตัดหน้าไปซะแล้ว!
ท-ทำยังไงดี? ผมเองก็โดดเข้าไปตรงนั้นแล้วเปิดเผยว่าได้เป็นนักผจญภัยด้วยเลยดีไหม?
ไม่ได้ ไม่ดีแน่ ที่ตรงนั้นมันกลายเป็นพื้นที่การเปิดตัวของโอโน่ไปแล้ว ต่อให้โผล่เข้าไปตรงนั้นก็คงไม่มีทางได้เข้าพวกกับกลุ่มเรียจูแน่ บางทีอาจจะถูกตราหน้าว่าเป็นพวกอ่านบรรยากาศไม่เป็นด้วยซ้ำ
ถ้างั้นแล้วรอเวลาไปซักพักแล้วผมค่อยเปิดตัวดีไหม? …..ไม่ได้ ถึงตอนนั้นมันก็ไม่มีอิมแพคอะไรแล้ว
มันก็เหมือนคำที่ว่าพยายามจับปลาโคลนตัวที่สองใต้ต้นหลิว การทำซ้ำอีกครั้งยังพอได้แต่ก็ได้แค่ครั้งที่ 2 เท่านั้น พอเป็นครั้งที่ 3 หรือ 4 แล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรนอกจากแค่พวกที่ทำตามๆกันไป
ในความจริงแม้เป็นคนที่สองก็ดูน่าสงสัยอยู่ แต่ก็ยังพอให้อภัยได้หากมีอาวุธที่คนแรกไม่มี นั่นเป็นเหตุว่าทำไมผมถึงต้องเจาะจงเป็นการ์ดแรงค์ C กับการ์ดเด็กผู้หญิง การเป็นแค่นักผจญภัยอย่างเดียวไม่ทำให้น่าภูมิใจ นั่นเป็นแค่ของผู้บุกเบิกคนแรกเท่านั้น ในกรณีของโอโน่ดูเป็นเรื่องใหญ่เพราะว่าแต่เดิมนั้นอยู่ในกลุ่มเรียจูอยู่แล้ว
แน่นอน แม้ว่าจะเป็นตอนนี้ การ์ดซาชิกิวาราชิก็เพียงพอที่จะสร้างอิมแพคได้ การเป็นการ์ดแรงค์ C และการ์ดเด็กผู้หญิงมีค่ามากพอ
ทว่าการจะทำให้เกิดเป็นความประทับใจเชิงบวกนั้นคงยาก…..
โอโน่คงไม่ตลกด้วยกับการเข้าไปแทรกของผมแน่ แถมมินามิยาม่าเองก็คงเข้าข้างโอโน่
—-หื้ม คิทากาว่าคุงเองก็เป็นนักผจญภัยด้วย แถมยังมีแรร์การ์ดอีก สุดยอดเลยน้า แต่ ตอนนี้ชั้นกำลังพูดอยู่นะ
บางที คงได้เป็นอะไรประมาณนี้แน่ แล้วจากนั้นคนอื่นในชั้นก็จะต่อว่าผมที่พยายามยกตัวข่มคนอื่น
โอโน่คุงที่ตั้งใจทำงานพิเศษเพื่อให้ได้เป็นนักผจญภัย ขณะที่กำลังพูดอยู่ก็ถูกขัดโดยคิทากาว่าคุงที่มีฐานะมาโชว์การ์ดแพงๆ….. มีความเป็นไปได้ที่จะถูกตราหน้าแบบนั้น
ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว ไม่ว่าจะทางไหนการประกาศตัวก็เป็นความคิดที่แย่หมด แต่ถ้าโชว์ใบอนุญาตกับแรร์การ์ดวันหลัง อิมแพคก็เบาบาง การจะแทรกตัวขึ้นสู่ชั้นบนของห้องคงทำไม่ได้
ถ้างั้นจะทำยังไงดี? อาวุธไงล่ะ ต้องการอาวุธมากกว่านี้อีก ไม่ใช่แค่ใบอนุญาตและแรร์การ์ด อาวุธอื่นอีก…..
…..แต่ว่า จะทำยังไง ทำยังไงถึงจะสร้างความแตกต่างจากพวกนั้นและสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองได้กัน?
「นั่นไง โอโน่เองก้ได้เป็นนักผจญภัยแล้วแหน่ะ」
「ไม่คิดเลยว่ากระแสนักผจญภัยจะมาที่โรงเรียนพวกเรา ไม่มีเงินกันแบบนั้นหรอกน้า」
「ต่อให้บอกว่าเป็นนักผจญภัยแต่ก็เพิ่งจะเริ่มเป็นใช่ไหมล่ะ? อะไรที่ต่ำกว่า 3 ดาวแล้วไม่ได้ไปโผล่ในมอนโคโลหรอก….. เนอะ?」
「มันก็จริง ถ้า 1 ดาวแล้วแค่มีเงินมันก็เป็นได้」
ชิ้งงงงงงง!!!!
ในตอนนั้นเอง กระแสไฟฟ้าก็ได้ไหลผ่านสันหลังของผม
นั่นไงล่ะ! ทางเดียวนั่นแหละ!
ตอนที่ได้ยินพวกฮิกาชิโนะพูดซุบซิบกันอยู่ตรงมุมห้อง ผมก็ได้ความคิด
ทั้งมินามิยาม่าและโอโน่ยังไม่ใช่ 3 ดาว ต่างก็เป็นแค่มือสมัครเล่น
นักผจญภัยจะถูกแบ่งคราสระดับออกตามจำนวนดาวที่อยู่บนใบอนุญาต หากว่าได้ 4 ดาวจะถือว่าเป็นมืออาชีพ
ทั้ง 1 -2 ดาวจะถูกจัดว่าเป็นมือสมัครเล่น พอเป็น 3 ดาวจะถูกนับเป็นกึ่งมืออาชีพและสามารถไปเข้าร่วมในมอนโคโล—-มอนสเตอร์โคลอสเซียมได้
การได้ไปปรากฏในมอนโคโล ก็หมายถึงได้ไปโผล่ใน TV
พอมีความสามารถจนได้ไปออก TV เท่านี้ก็สามารถพูดได้ว่ามีอะไรที่ต่างไปจากนักเรียนคนอื่น
คุณค่าของชื่อนั้น เทียบเท่าได้กับคนดังเล็กๆภายในโรงเรียนเลย
นี่แหละ….. ถึงแม้ว่าจะเป็นนักเรียน แต่ว่ามีแรร์การ์ดมูลค่ากว่า 10 ล้านเยนและมีความสามารถมากพอจะไปออก TV ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทางนี้แล้ว
อันที่จริง หลังจากที่ได้เป็นนักผจญภัยแล้ว กะว่าจะหางานพิเศษดีๆที่สามารถลงเขาวงกตไปด้วยได้
สำหรับผม ที่สำคัญมีแค่จนถึงตอนที่ได้เป็นนักผจญภัย หลังจากได้เป็นแล้วก็ไม่ค่อยสนใจอะไร
แต่แบบนี้มันก็ช่วยไม่ได้ จะต้องกลายเป็นนักผจญภัย 3 ดาวให้ได้ ถ้าเป็นไปได้ต้องก่อนเปลี่ยนชั้นปีในปีหน้า
ผมกับพวกโอโน่….. ไม่สิ ขณะที่จ้องมองพวกเธออยู่ข้างๆ ได้ตัดสินใจไปแล้ว
【Tips】นักผจญภัย
หนึ่งในอาชีพใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นเนื่องจากการปรากฏของเขาวงกต แม้ว่าเงินลงทุนเริ่มแรกจะสูงและมีความเสี่ยงต่อชีวิต รายได้ก็สูงตาม ด้วยกระแสนักผจญภัยที่มีอยู่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จำนวนหนุ่มสาวที่กลายเป็นนักผจญภัยโดยไม่เข้าใจถึงอันตรายก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
มีอยู่ทั้งหมด 6 แรงค์ ตั้งแต่ 1 – 6 ดาว มีแนวโน้มที่จะมองตั้งแต่ 3 ดาวลงมาเป็นมือสมัครเล่น และตั้งแต่ 4 ดาวไปเป็นมือโปร
โปรนักผจญภัย นอกจากรายได้จากการพิชิตเขาวงกตแล้ว ยังมีรายได้จากช่องทางอื่นอีกมากเช่น การไปแสดงความสามารถหรือไม่ก็ออกโฆษณาใน TV, หรือค่าตัวและเงินรางวัลจากการร่วมมอนสเตอร์โคลอสเซียม
ข้อมูลเพิ่มเติม
สำนวนญี่ปุ่น : พยายามจับปลาโคลนตัวที่สองใต้ต้นหลิว
หมายถึงการพยายามทำตามสิ่งที่มีคนทำสำเร็จไว้ก่อนแล้ว
https://www.irasutoya.com/2018/01/blog-post_761.html