อารัมบท
วันนี้เป็นวันสุดท้ายสำหรับการสอบปลายของภาคเรียนแรก
ผมเช็ดเหงื่อบนหน้าผากด้วยผ้าเช็ดหน้าขณะมองไปรอบๆและทำตัวผ่อนคลาย สิ่งสำคัญคืออย่าร้อนรนมากเกินไป ก่อนอื่นคือหยิบน้ำของตัวเองหลังจากที่เฟรนฟายนั้นมาเซิฟ
“เอาหล่ะมาเริ่มกันเลยดีกว่า”
หลังจากตรวจดูแล้วว่ารอบๆน้นไม่มีชุดเครื่องแบบเดียวกันกับที่ใส่อยู่ ผมก็หยิบln เล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋านักเรียน
เล่มล่าสุดของ “มันจะดีใช่ไหมถ้าผมจะถูกน้องสาวอายุมากกว่าตามใจ?” โค้ก เช็ค เฟรนฟายเช็ค lnเช็ค ถึงเวลาปารตี้……
บทที่1 เพื่อนสมัยเด็กมืออาชีพ -ความแตกพ่ายของ อันนะ ยานามิ-
“พี่จ้าเก่งมากเลยน่ะ มันคงจะลำบากมากเลยสิน่ะ หนูรู้น่ะความจริงที่ว่าพี่จ้าพยายามมาตลอดเพราะงั้นแล้วมันเป็นเรื่องธรรมดา ที่คุรุมิจะตามใจพี่จ้าน่ะ”
…น้ำตาของผมนั้นแทบไหลออกมาเมื่อได้อ่านบทของน้องสาวที่เป็นนางเอกหลัก
ผมตัวสั่นจากความมีน้ำใจของคุริมิจัง ที่เธอสามารถเอาอกเอาใจพระเอกได้เสมอ ผมพอใจมากกับฉากเอาใจ ยาว20หน้ากระดาษจนปลื้มปลิม ผมเก็บความพอใจนั้นไว้ในใจก่อนที่จะปิดหนังสือลง
ผมจ้องไปยังคุรุมิจังบนหน้าปกด้วยความรักและหลงไหล
อา ผมเองก็อยากจะถูกรักแบบนี้จัง ผมอยากได้หมอนหนุ่นที่ทำมาจากต้นขานุ่มๆ แบบ-
“จะทำไปแบบนั้นไม่ได้น่ะ โซสึเกะ! อย่ามาเสียเวลากับเรื่องนี้เลย”
เสียงตะโกนดังมาจากโต๊ะถัดไปทำให้ผม จินตนาการต่อแทบไม่ออกให้ตายสิ ผมคิดว่าน่าจะมีคู่รักกำลังโต้เถียงกันเรื่องอะไรบางอย่าง
ชิ นั้นคือสาเหตุว่าทำไมผมถึงไม่ถูกโฉลกกับพวกคนปกติคุรุมิ คาชิทานิจังนางเอกคนนี้เสียบ้าง
ช่างเถอะว่าแล้วก็กลับไปอ่านต่อ พร้อมกับเอนจอยไปกับโค้กเรม่อนโซดาดีกว่า
“หืมม!?”
ผมรีบนั่งลงทันที่หลังจากพยายามเดินไปที่บาร์น้ำ
แย่ล่ะ คู่รักจากอีกโต๊ะมาจากโรงเรียนเดียวกันกับผม แถมพวกเค้ายังเป็นเพื่อนร่วมห้องผมด้วย
คนที่ตะโกนดังขึ้นมาคือ อันนะ ยานามิเธอเป็นสาวน่ารักและยังอ่อนโยนแถมยัง popular มากในชั้นเรียนและก็
ชายที่นั่งอยู่ตรงข้าม คือ โซซึเกะ ฮาคามาดะ เค้าคือชายที่มีเสน่ห์และยังเป็นคนร่าเริงมากในห้องทั้งสองคนมักจะอยู่ด้วยกันตลอด นี่พวกเค้าจะออกไปกันจริงๆ ใช่ไหมเนีย?
ว่าแต่ทำไมพวกเค้าทำไมถึงได้ทะเลาะกันได้ล่ะ ผมจึงได้แต่เงียบหูฟังไปขณะก้มมองอ่านนิยายของตัวเองต่อไป
“คาเรนจังน่ะ จะย้ายไปอังกฤษแล้วน่ะถ้านายจะไม่ไปจริงหรอ”
“ต..แต่.คาเรนจังน่ะบอกลากับผม”
“มันไม่ใช่แบบนั้น เธออยากให้นายไปเจอเธอเป็นครั้งสุดท้าย!!”
…มีอะไรแปลกๆกับบทสนทนาที่แสนจะคุ้นเคย? เรื่องราวของพวกเค้ากำลังเข้าสู่ไคลแท็กซ์หลังที่ผมอ่านมันใกล้จบ
คนที่ชื่อคาเรนที่ผมได้ยินนั้น…คือสาวที่ย้ายมาใหม่ใช่ไหม ผมจำได้ว่าเธอชื่อ คาเรน ฮิเมมิยะ
เมื่อเธอมาถึงเธอกับแนะนำตัวครั้งแรกโดยการทะเลาะกับ ฮาคามาดะ ทำนองว่า “อ่ะนั้นมันคนลามกนี่!”
ว่าแต่ว่าน่ะ เธอคนนั้นจะย้ายอีกแล้วหรอ ประเทศอังกฤษเนี่ยน่ะ? มันจะไม่เร็วไปหน่อยหรอ
“เธอแน่ใจหรอ?”
“ฉันรู้ เพราะฉันรู้! เพราะว่าฉันน่ะรัก”
ยานามิก้มหน้าลงและกัดริมฝีปาก
“อันนะ-ผม”
“ใช่แล้ว มันจะไม่เป็นไร”
ยานามิเงยหน้าขึ้นอย่างมุ่งมั่น จากนั้นเธอก็ลุก พรางวางกุญแจจักรยานไว้บนโต๊ะ
“ไปซะ คาเรนจังน่ะคาเรนจังรอนายอยู่”
“…มันจะไม่เป็นอะไรหรอ”
“อืม คาเรนจังน่ะเป็นคนดี ฉันทนไม่ได้หรอกน่ะถ้าเห็นเธอไม่มีความสุข”
“ขอบใจน่ะ ผมจะไปบอกความรู้สึกของผมกับเธอ”
“โชคดีน่ะ ฉันจะรอนายอยู่ตรงนี้ฉันจะรับฟังนายน่ะถ้านาย .ถูกปฎิเสธมา”
“ขอโทษน่ะ . อันนะ”
ฮาคามาดะ รีบวิ่งออกไปหลังจากเค้าพูดประโยคนั้นเสร็จ เค้าไม่แม้แต่จะหันกลับมามองยานามิเสียด้วยซ้ำ
ยานามิยังคงยืนอยู่ตรงจุดนั้นชัวครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะนั่งลงแล้วพูดขึ้นมาอย่างเพ่วเบา
“อย่า…ขอโทษกันแบบนี้สิ…ตาบ้า”
อะไรกัน นี้ผมอยู่ในฉากบ้าอะไรกัน แม้ว่าผมจะไม่เกี่ยวบ้าอะไรกับพวกปกติแบบนี้เลยก็ตามแต่นี้มันต้องมีอะไรดลใจให้เกิดอะไรบ้างอย่างขึ้นแน่นอน ผมเลยแกล้งทำเป็นว่าไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
ผมอดไม่ได้เลยที่จะกดหน้าของผมให้แนบไปกับ เมนู
เดียวๆๆๆ เอาจริงดิเธอจะทำแบบนั้นจริงดิ!?
สาวน้อยที่เพิ่งถูกปฎิเสธ อันนะ ยานามิ เธอนั้นค่อยๆยื่นมือออกไปที่ถ้วยแก้ว
นั้นมันถ้วยแก้วของชายที่เพิ่งจะปฎิเสธเธอไป โซสีเกะ ฮาคามาดะ
No- อย่าทำอะไรน่าสมเพชแบบนั้นสิ!
คำอธิษฐานที่สิ้นหวังของผมนั้นดูเหมือนว่าจะไม่สำเร็จผล ยานามิ ถือแก้วในมือขณะที่เธอกำลังลังเลกับหลอดที่อยู่ตรงหน้า เดียวสิเธอจะใส่มันเข้าปากหรอ…เอาจริงดิ
…อ่า เธอทำลงไปจนได้
อยู่ๆดวงตาของเธอก็เพ่งเล็งกับอะไรบางอย่างราวกับว่ามันดึงดูดสายตาเธอไป ส่วนที่เธอมองอยู่นั้นก็คือ ผมนั้นเอง
แย่ล่ะดันสบตากันเฉยเลย
ความหวังสุดท้ายของผมคือหวังว่าเธอนั้นจะไม่สนใจมัน
อา ใบหน้าของเธอนั้นเริ่มแดงก่ำ เอาแล้วไง! เธอพ่นกาแฟออกมาจนหมดเกลี้ยงเธอไอสำลักออกมาไม่หยุด
…นี้เหละทำไมที่ผมเกลียด 3D
ผมทำเป็นมองไม่เห็นอะไร และผิวปากกลบกลื่น และไม่รู้จะทำอะไรต่อเลยยกเมนูขึ้นมาดู
ความพยายามนั้นไร้ผล ยานามิ เธอได้มานั่งตรงกันข้ามกับผมแล้ว
เอาจริงดิ! ทำไมถึงไม่ปล่อยให้ผมนั่งเหงาๆอยู่คนเดียวต่อไปกันเล่า?
“คุณคือ นุ คุ มิ ซึ จากห้องเดียวกันใช่ไหม?”
“อ่า ใช่ครับผมไม่เห็นอะไรเลยเพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วง”
ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงแบบโรบอต
ถึงแม้หูของยานามิจะแดงมากขึ้นก็ตาม เธอกวาดสายตามองมาที่ผม
“ขอร้องล่ะ—-อย่าบอกคนในห้องเกี่ยวกับเรื่องนี้น่ะ!?”
“ผม ไม่รู้ไม่เห็นอะไรอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง”
“ ช ใช่ !นุคุมิซึคุงไม่เห็นอะไรเลยเนอะ”
หลังจากนั้นยานามิก็ค่อยๆลุกออกไปอย่างช้าๆ เธอทำราวกับว่าผมเป็นผ่ายผิดที่แอบดู น่าจะเป็นทางพวกเธอมากกว่าน่ะเนี้ย
เห้อ ผมถอนหายใจออกมา ผมได้แต่แกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นขณะที่ผมเดินไปที่บาร์เครื่องดื่ม เครื่องดื่มเย็นๆอาจจะช่วยปล่อยวางลงได้บ้าง
ผมกลับไปที่นั่งพร้อมกับโค้กรสเรม่อนโซดา หนึ่งแก้ว จากนั้นผมก็ได้เห็นว่ายานามินั้นยังคงยืนอยู่ข้างโต๊ะของเธอดูเหมือนว่าเธอกำลังนั่งนับเงินในกระเป๋าของเธอ อย่าบอกน่ะว่า เธอเงินหมดน่ะ
…มันช่วยไม่ได้ ผมต้องปกป้องช่วงเวลาหลังเลิกเรียนอันมีค่าของผม ผมนับ1-10ในใจก่อนจะพูดออกไป
“คือว่า เงินไม่พอหรอ”
“เอ๊ะ?!”
ยานามิตกใจทั้งน้ำตาขณะที่เธอพยักหน้า
ผมรับใบเสร็จรับเงินมาจากยานามิ อา นี้พวกเธอ2คนกินไปเท่าไรกันเนี่ย?
อะไรกัน ฮากามาดะสั่งชุดสเต็ก ยานามิก็พอกันเธอสั่งชุดแฮมเบอร์เกอร์ สเต็ก ของหวาน สลัดผักและก็น้ำซุบ
ผมล่ะไม่อยากจะเชื่อกับพวกเค้าเลย
“เอาล่ะ ผมจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร คุณสามารถจ่ายให้ผมได้ภายในวันจันทร์”
เห้อเงินเรากะว่าจะเอาไปซื้อLn เล่มใหม่แล้วแท้ๆ
ยังไงก็ตาม ผมคงไม่ใจร้ายพอที่จะทิ้งเพื่อนร่วมชั้นไว้ตามลำพังหลังจากเห็นอะไรแบบนั้นไปหรอก
“เอ๊ะ ได้หรอ? แม้ว่าฉันพึ่งจะได้ยินชื่อนายหรอ”
ใครสนเรื่องนั้นกัน กลับไปได้แล้ว
..แต่แล้วเธอกับนั่งลงอีกครั้ง
“ฮะ ทำไมต้องนั่งลงด้วย”
“ขอบคุณน่ะ ฉันเข้าใจในตัวเธอผิดไปจริงๆ นุคุมิซุคุง ขอโทษด้วย”
ผมคิดว่าเธอน่าจะเศร้าใจกับเรื่องที่เธอหยาบคาบคายกับผมก่อนหน้านี้ ตอนนี้ผมเริ่มเสียใจที่ได้ช่วยผู้หญิงคนนี้แล้วสิ แต่ยังไงความลับมันก็เริ่มไปแล้ว
“งั้น ทำไมถึงได้นั่งลงอีกรอบล่ะ”
ผมพูดเรื่องนั่ง ย้ำลงไป2ครั้งเพราะมันคือประเด็นสำคัญ
ถึงจะเป็นกระนั่น ยานามิเธอก็ตบมือของเธอและมองตรงมาทางผม
“โซซึเกะน่ะคือเพื่อสมัยเด็กของฉัน”
เอาจริงดิ ทำไมต้องมาเล่าเรื่องอะไรตอนนี้?
“ตอนพวกเรายังเด็กๆ โซซึเกะสวมแหวนที่ทำมาจากใบโคเวอให้ฉัน และพูดว่าช่วยมาแต่งงานกับผมน่ะ ด้วย”
น้ำตาของเธอนั้นไหลออกมา
“อุวาาา ไม่เป็นอะไรน่ะ ยานามิซัง”
เฮ้ เธอมีอะไรผิดปกติรึเปล่า?เสียสติไปแล้วหรอ ตอนนี้ยังมีคนอยู่ในร้านน่ะ
ผมวิ่งไปที่บาร์และเลือกน้ำชามาสักอัน
“เอาเถอะๆ ดื่มสิ่งนี้และสงบสติลงก่อน”
“ขอบคุณน่ะ นี้มันรสชาติดีจัง”
“ดีใจที่ได้ยิน มันคือชากุหลาบน่ะ”
ผมจำได้ว่ามันมีสรรพคุณติดไว้ที่ฉลาก ถ้าจำไม่ผิด
“จำได้ว่ามันยังช่วยรักษาผิวพรรณด้วยน่ะ”
“ผิวพรรณของฉัน…”
ยานามิหัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง
“แม้มันจะไม่ได้โชว์ใครแล้วก็ตาม”
อย่าพูดแบบนั้นสิ ดราม่าเกินไปแล้ว แค่ดูดน้ำแล้วกลับบ้านไปได้ไหม
ขณะที่กำลังติดว่าจะพูดยังไงเพื่อให้เธอนั้นกลับบ้านไปได้อยู่นั้น
“ขอโทษที่ให้รอ. เฟรนฟาย์จัมโบ้ของคุณค่ะ”
“เอ๊ะ”
จานเฟรนฟายวางอยู่ตรงหน้าของผมนอกจากนี้ ผมยังสังเกตุเห็นว่าเมื่อกี้เธอเพิ่งจะยัดมันเข้าปากไปชิ้น1
“เห้เดียวสิ”
“คาเรนจังน่ะ เป็นเพื่อนคนสำคัณของฉัน แต่ถึงอย่างงั้น ถึงอย่างงั้น เธอเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเดือนพฤษภาคมเองน่ะ แล้วตลอด12ปีของฉันกับโซสึเกะล่ะ?”
ยานามิเช็ดจมูกด้วยผ้าขนหนูและเริ่มกินเฟรนฟายทันที
“เออ ผมของถามน่ะยานามิซังสั่งมันฝรั่งไปหรอ”
“คนโกหก ทั้งๆที่ตอนนั้นเค้าบอกว่าให้ฉันไปเป็นภรรยาของเค้าแท้ๆ มันไม่ใจร้ายไปหน่อยหรอ”
ว่าแต่ทางนั้นเถอะตอนนี้เธอก็ใจร้ายกับฉันไม่ใช่หรอ?
แต่เพื่อให้มันจบลงอย่าง มีความสุขผมจึงต้องระงับความอยากในการถอนหายใจเอาไว้ และเริ่มที่จะปล่อยให้เธอเล่าต่อไป
“เรื่องของแต่งงานนี้เค้าพูดตั้งแต่สมัยไหนหรอ”
“ก่อนที่เราจะขึ้นโรงเรียนประถมน่ะ ฉันคิดว่าน่าจะตอน4-5ขวบ”
แบบนั้นมันนับได้ด้วยหรอ?
“นี่ถือว่ามันคือการนอกใจกันใช่ไหม เขาสับรางหลังจากที่มีสาวนักเรียนแลกเปลี่ยนน่ารักและอกใหญ่กว่าปรากฎตัว”
แบบนี้นับเป็นการสับรางได้ด้วยหรอ? เอะ ฮาคามาดะสับรางหลังจากที่มีสาวน่ารักหน้าอกใหญ่ย้ายเข้ามางั้นหรอ
สับราง? เอะฮาคามาดะคนนั้นเนี่ยน่ะ น่าตาก็ดีแต่ทำอะไรแบบการนอกใจได้ด้วยสิน่ะ
เอาจริงคาเรน ฮิเมมิยะนั้นเธอนั้นนับว่าเป็นสาวงามได้เลยล่ะ ยานามิ อาจจะน่ารักพอๆกับเธอ แต่เธอยังคงขาดความฉลาดที่บ่งบอกถึงนางเอกของ anime หรือเกม แต่ยังไงทุกอย่างมันก็ตัดสินกันตั้งแต่พันธุกรรมล่ะน่ะ
ในขณะที่มุมมองของผมต่อยานามินั้นเริ่มดีขึ้น ผมก็ถามกลัยไปด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล
“คุณยานามิ คบกับคุณฮาคามาดะอยู่หรอ”
“อ่ะ เห็นพวกเราเป็นแบบนั้นกันหรอ? มีแต่คนบอกว่าพวกเราเหมาะกันมากตั้งแต่เด็กๆ คนอื่นก็มองเราแบบนั้นเหมือนกันสิน่ะ เฮะเฮะเฮะ”
ยานามิปิดหน้าของเธอด้วยความเขิลอาย
หรืออีกนัยหนึ่ง?
“คุณสองคนก็ยังไม่ได้เดทกัน แบบนั้นมันก็ไม่นับว่าเป็นการนอกใจน่ะ”
ยานามิซัง แสดงใบหน้าบิดเบี้ยวทันทีที่ได้ยินประโยคที่ผมพูดเสร็จ
“เอ๊ะ?!คือ ตอนแรกมันก็จะเป็นแบบนั้นเหละ ทุกอย่างมันจะลงตัวไปได้ด้วยดีจนกระทั่งมียัยอกใหญ่นั้นปรากฎตัวขึ้นมา!”
ใช่เพื่อนรักกันจริงๆใช่ไหมครับเนี่ย?
“อีกอย่าง มันยังไม่จบมันยังไม่จบ โซสึเกะน่ะเค้าจะต้องเปลี่ยนใจได้แน่ใช่ไหม?”
“…ไม่ครับ ทุกอย่างมันจบแล้ว (ว้ายนก)*จากผู้แปลไทย
ถึงผมจะไม่ได้ดูแนวรอมคอมมาเยอะแต่ก็พอเดาออกรู้มั้ย? หญิงสาวคนนี้นั้นได้พ่ายแพ้ในเกมนี้ไปเรียบร้อยแล้ว
“รู้ไหมฉันมีความลับจะบอก ฉันเคยอาบน้ำให้โซสึเกะด้วยน่ะ”
“เรื่องตอนนั้นมันเกิดตอนพวก4-5ใช่ไหม?
ให้ผมพนันได้เลยหลังจากนี้คุณฮิเคมิยะ กับคุณฮาคามาดะ จะได้อาบน้ำด้วยกันแน่เตรียมจิตใจตัวไว้ได้เลยสาวน้อย
“แล้วก็! พ่อแม่ของพวกเราน่ะเห็นยังยอมรับในความสัมพันของพวกเราแล้ะพวกเราทั้งสองครอบครัวจะได้กลายเป็นครอบครัวเดียวกัน”
ยานามิสติหลุดไปที่เรียบร้อยแล้วเธอ เธอพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาหยดใหญ่ที่ไหลออกมา
“เอ่ออ เป็นอะไรไหม?”
“…งานแต่ง ….เป็นเจ้าสาว…ชุดแต่งงานที่ฉันควรจะได้ใส่..ทุกอย่างจะถูกใช่โดยยัยนมโตนั่น”
ผมคิดว่าเธอกำลังจินตนาการถึง คู่แข่งหัวใจของเธอในชุดแต่งงาน อา ใครจะไปรู้ว่าสาวที่อกหกจะมีอารมเหวี่ยงได้ขนาดนี้
“ฉันรู้..ถ้าตอนนั้นฉันรวบรวมความกล้าแล้วสารภาพออกไปผลลัพท์มันจะไม่เป็นแบบนี้”
“ใช่ๆคุณพูดถูก จะเอาอีกแก้วไหม? ผมแนะนำชามิ้น”
“ไม่เอา รสชาติมันอย่างกับยาสีฟันมันไม่อร่อย”
ตอนนี้เธอน่าจะสงบลงหลังจากที่ร้องไห้ออกมาได้สักพักแล้ว และไม่นานเธอก็เช็ดน้ำตาแล้วก็ยิ้มขึ้นมา…
“ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายน่ะ!”
“ไม่เป็นไร”
นั่นไม่ใช่เหตุผลที่คุณควรพูดขอโทษฉัน
“ ตอนนี้เบาใจได้แล้ว ฉันมีความสุขตราบใดที่โซสึเกะสามารถยิ้มออกมาได้ ถึงตอนนั้นถ้าชั้นได้อยู่ข้างเขาในฐานะเพื่อนรักก็ไม่มีปัญหา”
“งั้นหรอ…”
แต่ ทำไมถึงยังทำหน้าสดชื่นแบบนั้นหลังจากโดนปฎิเสธได้กันล่ะ?
ยานามิ นั้นยังคงกดดันจังเองต่อไป ผมเอื้อมไปที่เฟรนฟรายขณะมองไปที่เธออย่างเห็นอกเห็นใจ
ลองคิดดูสิ มีประโยคเดียวที่สามารถอธิบายสภาพเธอในตอนนี้ได้
…แอนนา ยานามิ ใช่แล้ว หญิงสาวคนนี้คือ นางเอกที่แตกพ่ายยังไงหล่ะ
ตอนต่อไป →