บนถนนบริเวณใกล้เคียงกับปราสาทคาสเทลแลน สถานที่แห่งนี้โดยปกติแล้วจะเป็นที่ ๆ พลุกพล่านไปด้วยผู้คน
อย่างไรก็ตามตอนนี้ที่นี่เงียบข้างเงียบมาก ผู้คนที่อยู่แถวนี้ต่างมองไปที่ตัวปราสาทที่มีเสียงตะโกนและกลิ่นคาวเลือดที่ลอยออกมา ทำให้พวกเขาต่างไม่กล้าออกมาข้างนอกบ้านเลย
*กรุบ กรับ*
ทันใดนั้นเองได้มีม้าตัวหนึ่งวิ่งผ่านพวกเขาไป มันมุ่งหน้าไปยังปราสาทคาสเทลแลน
บนหลังม้ามีเมอร์ลินกับอัศวินหนุ่มยาเกซ
“ยาเกซ นายกลัวมั้ย?” จู่ ๆ เมอร์ลินก็ถามอัศวินหนุ่ม
ใบหน้าของยาเกซแดงเล็กน้อยเนื่องจากความหนาวเย็นแต่แววตาของยังคงมุ่งมั่นไม่เสื่อมคลาย เขาส่ายและพูดว่า
“คุณชายเมอร์ลิน บอกตามตรง ผมกลัวมากที่จะต้องเผชิญหน้ากับพวกโจรมากมาย แต่เมื่อได้เห็นท่านบารอนกับเหล่าอัศวินเกราะเหล็กที่เผชิญต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อ มันทำให้ความกลัวของผมจางหายไป หากยังมีท่านบารอนกับอัศวินเกราะเหล็กไม่ว่ายังไงเราก็ไม่แพ้!!”
เมอร์ลินยิ้ม อัศวินหนุ่มผู้นี้หลงใหลอัศวินเกราะเหล็กอย่างมาก เขาต้องการจะเป็นหนึ่งในนั้นเขาสักวัน
“นายจะกลายเป็นอัศวินเกราะเหล็ก ไม่สินายจะเป็นอัศวินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอนาคต”
เมอร์ลินเห็นความกล้าหาญ ความมุ่งมั่นและความเพียรพยายามของดวงตาของอัศวินหนุ่มคนนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นที่เขาจะได้เป็นใหญ่ในอนาคต
อัศวินหนุ่มควบม้าอย่างรวดเร็วและในที่สุดพวกเขาก็มองเห็นปราสาทของคาสเทลแลนแล้ว
“คุณนายเมอร์ลิน ดูเหมือนท่านบารอนจะบุกเข้าไปในปราสาทแล้ว แม้แต่อัศวินป้องกันเมืองก็ไม่สามารถรับมืออัศวินเกราะเหล็กได้” ยาเกซเห็นศพนอนอยู่ริมถนนมากมาย พวกเขาทั้งหมดเป็นอัศวินป้องกันเมือง เขาแทบไม่เห็นศพของอัศวินเกราะเหล็กเลย
เมอร์ลินถึงกับอุทานในใจ นี่เป็นข้อพิสูจน์ได้ว่าเลห์แมน วิลสันนั้นเป็นทหารที่แข็งแกร่งที่สามารถเอาชีวิตรอดจาก ‘โรงเชือด’ ได้ เขายังสามารถฝึกฝนอัศวินกว่าสองร้อยให้เทียบเคียงกับเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังจากไปที่ไหนพวกเขาก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ นานาได้
“พวกเรารีบไปกันเถอะ” เมอร์ลินกล่าว เขารู้ดีว่าศพเหล่านี้ถูกสังหารโดยอัศวินเกราะเหล็ก หากพวกเขาตามทางไปเรื่อย ๆ ก็จะกับเลห์แมน
พวกเขาพุ่งเข้าไปในปราสาท พวกเขาเริ่มได้ยินเสียงการต่อสู้จากด้านใน
“คุณชายเมอร์ลิน นั่นอัศวินเกราะเหล็ก ดูเหมือนพวกเขาติดอยู่ในวงล้อม!!” ยาเกซตะโกน เมอร์ลินได้หันไปมอง เขาเห็นอัศวินเกราะเหล็กหลายนายกำลังถูกล้อมโดยอัศวินป้องกันมือง
“ไปเร็วเข้า ท่านพ่อต้องอยู่ที่นั่นแน่!!”
เมอร์ลินได้ประเมินสถานการณ์คร่าว ๆ เขากังวลว่าสถานการณ์ในนี้มันไม่ค่อยจะสู้ดี
ส่วนอัศวินหนุ่ม เมื่อได้รับคำสั่งมา เขาก็ควบม้าฝ่าวงล้อมเข้าไป…
ณ ห้องโถง ปราสาทคาสเทลแลน
เลห์แมนกำลังตกอยู่ในอันตรายเนื่องจากแสงสีขาวในมือของพ่อใดเจสัน
แสงสีขวานี้เป็นเพียงคาถาระดับศูนย์ที่เขาสามารถร่ายอย่างต่อเนื่องโดยไม่สูญเสียพลังเวทย์เท่าไหร่นัก
แม้ว่ามันเป็นเพียงคาถาระดับศูนย์แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่เลห์แมนจะสามารถป้องกันได้
*แกร๊ง*
หลังจากที่ชุดเกราะของเลห์แมนรับการโจมตีมากกว่า 10ครั้ง ในที่สุดมันก็เกิดรอยร้าวและกระจาบออกไปและสุดท้ายมันก็ปริแตกพังทลายพังร่วงหล่นสู่พื้นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เลห์แมนได้ถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว เขาจ้องมองไปที่เจสัน
เมื่อเจสันเห็นชุดเกราะที่พังทลาย เขาก็เผยรอยยิ้มออกมาและพูดว่า “มันจบแล้ว”
*หวู่ม!!*
แสงสีขาวสามอันยิงตรงไปยังเลห์แมน ในตอนนี้เขาไม่อุปกรณ์ป้องกันใด ๆ เลย หากเขาโดนเข้าไปเขาอาจตายได้เลย
“เข้ามาเลย!!”
เลห์แมนตะโกนออกมาอย่างดุร้าย จากนั้นเสื้อผ้าของเขาได้ปริแตกเนื่องกล้ามเนื้อของเขาได้ขยายออกมา
ตอนนี้เขาสูงกว่า 2เมตร นอกจากนี้รอบกายของเขามีเปลวเพลิงอันร้อนแรงจะตัวดาบของเขา
นี่เป็นการต่อสู้ที่ตัดสินความเป็นความตายของเขา ดังนั้นเขามีอะไรก็งัดออกมาใช้ให้หมด
ด้วยพลังทางร่างกายที่น่ากลัวประจวบกับพลังธาตุที่เคียงระดับสามนั้น มันพอ ๆ กับแองกัสใกล้เคียงกับระดับสี่เลย
ตอนนี้เขาพร้อมจะสู้ตายโดยที่ไม่หวังในชัยชนะ
“ระเบิด!!”
ทันใดนั้นเอง ได้มีลูกไฟขนาดเท่ากำปั้นบินเข้ามาในห้องโถงและระเบิดออกมาเป็นวงกว้าง
ด้วยแรงระเบิดอันน่ากลัวได้ทำลายคาถาของพ่อมดเจสันไปทันที
ทุกคนต่างตกใจกับผู้มาเยือนรายใหม่แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนเลห์แมนจะรู้ว่าใครมา เขาไปมองด้านหลังจากจ้องมองไปยังด้านอกของห้องโถง
อย่างที่เขาคิดไว้ เขาได้เห็นร่างที่คุ้นเคยเดินเข้ามา
“เมอร์ลิน!!” เลห์แมนสูดหายใจเข้าลึก ๆ และตะโกนออกมาด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย น้ำเสียงของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขหลังจากที่พ้นจากวิกฤติได้แล้ว ถ้าเมอร์ลินมาช้ากว่านี้ เขาคงตายไปแล้ว
ส่วนทางเจสัน เขาจำเมอร์ลินได้ทันที หลังจากที่เขาพบพ่อมดอีธาน เขาก็ได้ตรวจสอบเมอร์ลินด้วยตัวเองแต่เขาก็ไม่พบความผิดปกติใด ๆ
แต่ถึงอย่างนั้น ลูกไฟที่เมอร์ลินเสกมา มันบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเขาเป็นพ่อมด นั่นทำให้ตัวเขาที่ตรวจสอบเมอร์ลินด้วยตัวเองรู้สึกหน้าชาราวกับถูกหน้าเย็นสาดใส่หน้า
“เจอกันอีกแล้วนะครับ พ่อมดเจสัน” เมอร์ลินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าจะพบเจอเจสันอีกครั้ง
ในระหว่างที่พ่อมดเจวันต่อสู้กับชายชราอีธาน เขาได้รู้ซึ้งถึงความแข็งแกร่งของพ่อมด มันทำให้เขารู้สึกประทับใจมาก
และในตอนนี้เขาได้เป็นพ่อมดแล้วและยังแข็งแกร่งกว่าชายชราอีธาน ดังนั้นเขาต้องชนะเจสันอย่างแน่นอน
เมอร์ลินจ้องมองไปยังเจสันด้วยสายตาที่มั่นใจ ทางเจสันก็จ้องกลับมาเช่นกัน
เมื่อสองพ่อมดจ้องมองเช่นนี้ ทำให้ผู้คนที่อยู่โดยรอบต่างเงียบไป พวกเขารู้สึกเครียดเนื่องจากการต่อสามารถเกิดขึ้นไปทุกชั่วขณะ