ตอนที่ 3 หมีนิรนามที่อาศัยอยู่ภายในโลลิ

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

03 บุคคลนิรนามที่อาศัยอยู่ภายในเนีย・ลิสตัน

ชื่อของร่างกายนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นเนีย

“เนีย! เนีย!”

“โล่งอกไปที! ดี ดีจริง ๆ …….. !”

ชายและหญิงที่กำลังส่งเสียงดังอยู่ข้างเตียงตอนนี้น่าจะเป็นพ่อแม่

เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว

ฉันรู้ว่ากำลังมีความสุขกัน แต่ฉันกำลังพยายามช่วยชีวิตของลูกพวกคุณอยู่ เพราะงั้นหยุดเขย่าได้แล้ว ฉันไม่สามารถจดจ่อกับ「คิ」ได้

ฉันยังไม่ได้เห็นร่างกายของตัวเองในตอนนี้เลย แต่เมื่อเทียบกับขนาดตัวพ่อแม่แล้ว เนียน่าจะยังเด็กอยู่มาก

และนอกเหนือจากนั้น เทียบแล้วคงจะเป็นเด็กที่ตัวเล็กมาก

ฉันพูดได้ แปลว่าไม่ได้เป็นเด็กเล็กระดับทารก

“เนียยยยยยยย! เนี๊ยยยยยยยยย!”

“มีชีวิตอยู่! ขอร้องล่ะช่วยมีชีวิต……….. !”

ช่วยมีชีวิตอยู่อย่างงั้นหรือ และหยุดเขย่าได้แล้ว จะตายแล้ว จะตายจากแรงสั่นจริง ๆ แล้ว

――ถ้าคิดอย่างใจเย็นในแง่หนึ่ง นี่หมายความว่าฉันได้ยึดครองชีวิตที่เหลือของร่างกายนี้ไปแล้วใช่หรือไม่

และก็คนพวกนี้จะเลี้ยงดูฉัน เหมือนกับเป็นลูกของตัวเองหรือเปล่า

อุมุ

ม๊า ช่วยไม่ได้ละนะ

คนที่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องทั้งหมด ก็ต้องเป็นชายในฮู้ดดำนั่น

ฉันก็เป็นแค่เหยื่อคนหนึ่ง และเป็นคนที่ช่วยให้เนียยังมีชีวิตอยู่

ฉันไม่รู้ว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหน แต่ในตอนนี้ ฉันสามารถมีชีวิตรอดด้วยพลังของตัวเองได้อย่างแน่นอน

ดูเหมือนว่าเนียคนเดิมได้จากไปแล้ว

ฉันหวังแค่ว่าอยากให้เธอได้นอนหลับอย่างสงบสุขโดยไม่ต้องกลัวเงาแห่งความตายอีกต่อไป

……ม๊า เช่นเดียวกับฉันที่ควรได้นอนหลับอย่างสงบ แต่กลับดูเหมือนว่าจะมีบางครั้งที่ต้องถูกปลุกขึ้นมาโดยเหล่าคนที่ห้ามตัวเองไม่เป็น

“เนียยยยยยยยยย! เนี๊ยยยยยยยยยยย!”

“อ้า เนีย! ลูกคือสมบัติของพวกเรา!”

….หนวกหู จริง ๆ เลยน้า

เมื่อฉันลืมตาขึ้น และมองด้วยสายตาสื่ออารมณ์ตำหนิ ――”อูโอ๊ว อูโอ๊ว” “ออ้า ออ้า” ทั้งสองคนก็ส่งเสียงเหมือนแมวน้ำขนกับอีกาออกมา และจับมือกันสะอื้นไห้ด้วยน้ำตาแห่งความตื้นตัน

“ทั้งสองท่าน ได้โปรดพอก่อนเถอะขอรับ……คุณหนูดูเหมือนจะยังเหนื่อยอยู่ กรุณาให้เธอได้พักผ่อนอีกสักหน่อยเถอะขอรับ”

เจ้าของเสียงไม่ได้เข้ามาในห้อง แต่อยู่ใกล้กับประตูทางเข้า

เสียงเหมือนคนแก่

จากลักษณะการพูดแล้วเหมือนจะเป็นคนใช้ล่ะมั้ง

ถ้ามองเครื่องแต่งกายของพ่อแม่แล้ว พวกเขาสวมชุดที่ดูดีทีเดียว

หรือว่าพวกเขาจะเป็นชนชั้นสูง?

ไม่สิ ก็ต้องแน่นอนอยู่แล้ว

เพราะแบบนั้นชายสวมฮู้ดคงเรียกร้องเงินเป็นจำนวนมากไป ถึงได้ดิ้นรนเอาวิญญาณอื่นมายัดเข้าใส่ร่างกายที่กำลังจะตายนี่เพื่อแค่ให้มีชีวิตอยู่ต่อชั่วคราว เป็นวิธีการที่คล้ายกับการหลอกลวงที่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องอะไรเลย――บางที ฉันเองก็ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด

คุณพ่อแมวน้ำขน และ คุณแม่อีกา จากไปด้วยใบหน้าเศร้าโศก

มองแล้วก็เหมือนคนที่มีความรักอันหนักหน่วง หรือมองแล้วเหมือนคนอ่านบรรยากาศไม่ออกดี

หรือจะทั้งคู่เลย

――ม๊า อะไรก็ช่าง

ไม่ว่าจะต้องการหรือไม่ก็ตาม แต่ตอนนี้ฉันก็ได้รับร่างกายนี้มาแล้ว จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลายเป็น เนีย

ถ้าเช่นนั้น อย่างน้อยหน้าที่และความรับผิดชอบที่เธอต้องแบกรับไว้ก็ควรถูกทำให้สำเร็จ

ฉันจะมีชีวิตอยู่ในฐานะของเนียเพื่อเธอที่จากไปแล้วให้ดีที่สุด อย่างน้อยก็การเป็นลูกกตัญญู

ด้วยเหตุนั้น ร่างกายนี้

อันดับแรก ต้องเอาชนะโรคร้ายที่กัดกินร่างกายนี้ให้ได้เสียก่อน

คุคุ ฉันจะเอาชนะความเจ็บป่วยได้ไหมนะ?

ตอนนี้เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ถึงจะแตกต่างจากท่าทางที่สามารถหมุนเวียน「คิ」ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฉันนอนราบบนเตียง วางมือทั้งสองข้างเหนือหัวใจ และปล่อยให้「คิ」ไหลเวียน

ถึงอย่างงั้น นี่ก็เป็นร่างกายที่เปราะบางและไหลเวียนได้ไม่ปกติ

ขนาดของร่างกายเองก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน

เหตุผลเพราะการเป็นเด็กทำให้มี「คิ」ที่สามารถปรับแต่งได้น้อย ฉันเดาว่าอาจเป็นเพราะ ร่างกายอ่อนแอ

และโรคภัยไข้เจ็บก็เข้ามารบกวนทำให้「คิ」ไหลเวียนได้ไม่ดี

ไม่เพียงแต่ไม่ไหลเวียนเท่านั้น แต่ยังถูกปิดกั้นอีกด้วย

โดยทั้วไป มันจะไหลเวียนไปมาโดยไม่รู้ตัว

หากถูกปิดกั้นไม่เป็นธรรมชาติก็ทำให้ป่วยได้อีกด้วย

ส่วนที่ป่วย ที่ปอดหรือเปล่าน่ะ?

ยังมีจุดแย่ ๆ จุดอื่นอยู่ด้วย แต่ดูเหมือนจะเน้นไปที่ระบบอวัยวะภายในอย่างไม่ต้องสงสัย

เอาล่ะ…..นี่ใช้ได้

ร่างกายนี้….. ฉันนวด「คิ」ที่เปราะบางใกล้ถึงขีดจำกัดของเนียให้หมุนเวียนไปทั่วร่างกาย

ค่อย ๆ ค่อย ๆ ขูด「คิ」ที่สะสมอยู่รอบปอดให้หมุนเวียน

ฉันไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน แต่ด้วยวิธีนี้จะช่วยรักษาโรคนี้ได้

ผลการทำความสะอาดตัวเองและการกระตุ้นโดยการไหลเวียนของพลังงานภายใน

หากสามารถควบคุม「คิ」ได้อย่างเหมาะสม ก็จะไม่มีโรคภัยไหนสู้กับฉันได้

จะต้องไม่ใช่ความเจ็บป่วยที่ฆ่าฉัน

ทั้งชาติก่อนและชาตินี้

…….ฟุมุ

ยังไงก็ตาม

ฉันเป็นใครกันแน่?

พอคิดเกี่ยวกับว่าตัวเอง「สามารถใช้คิ」ได้อย่างเป็นธรรมชาติมาก แต่ตั้งแต่แรกแล้ว「คิ」คืออะไรกันแน่?

ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเองเลย――

ไม่สิ ช่างมันเถอะ

จากนี้ไปฉันจะมีชีวิตอยู่ในฐานะของเนีย

เช่นนั้นแล้วการจดจำสิ่งต่าง ๆ ที่ดูคลุมเครือ อย่าง เรื่อง”ชาติก่อน” เอาไว้ก็จะเป็นการดีกว่า

เรื่องสำคัญและเรื่องจำเป็นจาก”ชาติก่อน” ที่ต้องจารึกเอาไว้ในจิตสำนึก….ในจิตวิญญาณเพื่อพิสูจน์ว่าฉันคือฉัน

บางทีสิ่งที่เรียกว่า「คิ」ที่ฉันคิดว่าออกมาโดยธรรมชาติ คงจะเป็นหนึ่งในความทรงจำที่สลักลึกลงในสิ่งที่เรียกว่าจิตวิญญาณ

จากนี้ไป ฉันจะต้องนึกถึงเรื่องที่จำเป็นต้องรู้จากประสบการณ์มากมายที่สั่งสมมายาวนานนับปี เจาะเนื้อเฉือนกระดูก อาบเลือด มัวเมาในเส้นทางแห่งเลือดและสงคราม

จนกว่าจะถึงตอนนั้น ฉันไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องของตัวเองเลยก็ได้

ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน

ฉันได้รับร่างกายนี้มาแล้ว ฉันจะไม่ยอมให้ตัวเองต้องตายภายในสองสามวันแน่นอน นั่นคือทั้งหมดตอนนี้

พูดถึงเรื่องที่ไม่เข้าใจแล้ว เรื่องของร่างกายนี้ก็มีเหมือนกัน

ความทรงจำของเนียไม่มีอยู่เลย

มองหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ

ฉันไม่รู้รายละเอียดมากนัก แต่ฉันได้ยินมาว่า มนุษย์คิดด้วยสมองและเก็บความทรงจำด้วยสมอง

ฉันไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับตัวเอง แต่แรกแล้ว ฉันคิดว่าก็เพราะตัวเองไม่มีอวัยวะที่เอาไว้ช่วยจำ เพราะพูดกันตามตรง ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าดวงวิญญาณที่ดำรงอยู่ ฉันไม่ได้มีสมองมาด้วย

――ม๊า ยังไงก็ช่าง

เนียยังเด็กอยู่

ถึงจะลืมทุกอย่างไป แต่ก็คงใช้เวลาไม่นานก็ได้คืนมา

รวมถึงการนอนป่วยอยู่แต่บนเตียงก็คงไม่ได้มีประสบการณ์ชีวิตอะไรมากมายที่ไม่ควรลืมสะสมเอาไว้

สมมติว่ามีสะสมอยู่ ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าฉันจำอะไรไม่ได้เลย

ไม่มีอะไรที่หายไป

ช่วยไม่ได้ ก็เพราะฉันจำไม่ได้ว่าจำอะไรไม่ได้

เรื่องมันก็แค่นั้นเอง

นอกจากนี้ ในตอนนี้เรื่องของร่างกายก็สำคัญกว่าความทรงจำ

จะทำยังไงกับร่างกายของเนียที่ถูกรุมเร้าด้วยโรคภัย ควรเป็นเรื่องที่มีความสำคัญลำดับสูงสุด

เรื่องอื่น ๆ ก็เอาไว้ค่อยคิดหลังจากที่สามารถ 「เอาชีวิตรอด」 ได้ก่อนก็ได้

ร่างกายนี้ยังคงอยู่ในปากเหวของความตาย

สำหรับอาการไอที่บางครั้งก็ปะทุขึ้นโดยไม่รู้ตัวช่วยปลุกจิตสำนึกที่เซื่องซึม แม้ว่าจะน่ารำคาญก็ตาม

และทุกครั้งที่ฉันไอ ประตูห้องจะเปิดออก และมีคนผู้หญิงที่ดูเหมือนจะเป็นคนใช้เข้ามาดูสถานการณ์ของทางนี้ แม้จะเกิดขึ้นหลายครั้งซ้ำซากจำเจ แต่ดูเหมือนว่าค่ำคืนจะจบลงอย่างปลอดภัย

มันเหมือนจะเห็นได้ชัดว่า คืนนั้นชายสวมฮู้ดดำสามารถช่วยชีวิตเด็กผู้หญิงที่กำลังจะตายเอาไว้ได้

แต่ทว่าที่เบื้องหลังคือ คืนนั้นจิตสำนึกของฉันได้เข้ามาสถิตอยู่ในร่างกายของเด็กสาวคนนี้ที่ได้ละทิ้งชีวิตไปแล้ว

ถ้าหันคอไปสักหน่อย ฉันก็ถูกดึงดูดไปที่หน้าต่างบานใหญ่ ที่ตอนนี้สามารถมองเห็นแสงสว่างภายนอกที่เปล่างประกายผ่านม่านลูกไม้ได้

เนียจากไปแล้ว วันพรุ่งนี้ จะเป็นฉันที่มีชีวิตอยู่ตอนนี้