5 ยูจีน เข้าร่วมการตัดสินคดี
ทวีปทิศใต้ ที่ผมใช่ชีวิตอยู่นั้น มี่ อำนาจใหญ่ อยู่ 3 อำนาจ
-อาณาจักร แกรนด์แฟลร์ ที่ผมเกิด
-ประเทศสาธารณรัฐนิยม ก่อตัวจากประเทศเล็กๆเรียกว่า สหพันธรัฐ บลูวอเทอร์
-สหประชาชาติ ของสหภาพศักดิ์สิทธิ์ ที่มีดินแดนศักดิ์สิทธิ์ คาลเดีย เป็นศูนย์กลางของมัน
เมืองดันเจี้ยนที่ผมใช่ชีวิตอยู่ตอนนี้ {ไม่ได้ขึ้นกับอะไรที่กล่าวมาข้างต้น}
มันเป็นนครรัฐอิสระ
เพราะเรื่องนี้ มีผู้คนจากอาณาจักร สหพันธรัฐ และสหภาพศักดิ์สิทธิ์
และเวลาของการพิจารณาคดี จะมีคณะลูกขุน ก่อตัวจาก 3 อำนาจหลัก เพื่อที่จะไม่มีการเข้าข้าง กับชาติของพวกเขาเอง
“ผู้ทำลายดันเจี้ยน… พอมาคิดว่าเธอจะทำร้ายดันเจี้ยนสุดท้าย ที่ถูกสร้างโดยพระเจ้า… แค่ประหารเธอซะ”
คนที่พูดสุดโต่งนั้น ต้องมาจากสหภาพศักดิ์สิทธิ์แน่
พวกเขาบูชาดันเจี้ยนสุดท้ายเป็นเทพเจ้า ที่เป็นสิ่งก่อสร้าง จากพระเจ้า
เพราะเรื่องนั้น พวกเขาไม่เคยยกโทษ ให้ผู้ทำลายดันเจี้ยน
“เดี๋ยว เดี๋ยว ท่านเห็นภาพของระบบดาวเทียมใช่มั้ย? ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้กระทำความผิด เป็นสิ่งมีชีวิตเวทมนตร์หายาก มาใช้เธอเป็นหนูทดลอง เพื่อความเจริญก้าวหน้าเถอะ”
คนนี้ ต้องเป็นสมาชิกของสหพันธรัฐบลูวอเทอร์แน่
ความขัดแย้งทางการเมือง ในหมู่ประเทศเล็กๆข้างในสหพันธรัฐ นั้นเข้มข้น และมีผู้คนมากมาย ใช้อะไรก็ตาม ที่พวกเขาใช้ได้
คนนี้ ต้องอยู่ภายในกลุ่มนั้นแน่
“ทุกท่าน เรายังไม่แม้แต่จะรู้เลย ว่าเธอเป็นผู้กระทำความผิดหรือไม่ ตั้งแต่ทีแรก เราต้องหาความเป็นจริงให้แน่นอน”
คนที่มีความคิดเห็นที่มีเหตุผลมากที่สุด มาจากอาณาจักร…หรือเหมือนกับ มันเป็นอาจารย์ ที่ผมรู้จักในโรงเรียน
ช่างโล่งใจ มีคนดีๆอยู่ที่นี่
ขณะที่สำหรับผม ผมยืนอยู่ที่แท่นพยาน ด้วยกันกับสาวที่ถูกกล่าวหา ว่าเป็นผู้ทำลายดันเจี้ยน รอให้การเข้าร่วมมาถึง
สาวตื่นขึ้นเมื่อกี้นี้ และเธอค่อนข้างที่จะกลัว เมื่อเห็นว่าเธอถูกพามาสถานที่ที่ไม่รู้จัก
“เมื่อพูดอย่างนั้นแล้ว ตัดสินจากภาพ ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าไฟนั้น มาจากร่างกายของเธอ นั่นเป็นหลักฐานที่แน่ชัด”
“จากที่ผมเห็น มันไม่ได้ดูเหมือนเธอจะควบคุมมันได้ มันอาจจะเป็นอุบัติเหตุ”
“เราไม่มีทางเลือก นอกจากจะถามเจ้าตัวเอง สำหรับความเป็นจริง แต่…ด้วยกำแพงของภาษา…”
“มันอาจจะเป็นการแสดงละคร นี่เป็นเรื่องที่น่าสงสัย”
“เธอดูเหมือนจะพูดภาษาบางอย่าง แต่ไม่ใช่ภาษา ที่ผมเคยได้ยินมาก่อนนะ…”
“มันน่าจะเป็นภาษา ของอสูรจากทวีปทิศเหนือ เพราะทั้งหมดคำพูดของอสูร ผู้ที่บูชาเทพเจ้าบาปหนานั้น มันฟังไม่รู้เรื่องสำหรับเรา”
“แต่ภาษาของทวีปทิศเหนือ ถูกวิจัยโดยโรงเรียนเวทมนตร์ และไม่มีอะไรที่ตรงกับอะไรที่เธอนั้นได้พูดมาเลย”
“นั่นถูกอธิบายได้ ถ้าเธอเป็นอสูรมาจากชนกลุ่มน้อย จากภูมิภาคที่ห่างไกล”
คณะลูกขุน ที่ก่อตัวโดยหลายชาติ อภิปรายกันตามใจพวกเขาต้องการ
แล้วก็ยังมีผู้คนจำนวนพอตัว ที่เก้าอี้คนดู ที่น่าจะมาหลังจากที่ได้ยินข่าวลือ
ทุกคนสงสัยมาก
ไม่มีคดีมากมาย ที่พระองค์ ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินเอง
คุณพูดได้ว่าคดีนี้ มันสำคัญแค่ไหน และมันรวบรวมความสนใจของผู้คน
สาวข้างผม ปิดตาของเธอ ในความไม่สบายใจ
…มันจะดี ถ้าผมเป็นความช่วยเหลือได้ แต่ผมทำอะไรไม่ได้ ถ้าผมไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร
มันเป็นในเวลานั้นเอง…
“พระองค์มาถึงแล้ว!”
เสียงดัง ก้องอยู่ในห้องพิจารณาคดี
สายตา รวมตัวกันที่ทางเข้า
คนที่เข้ามาคือชายวัยกลายคน ที่หุ่นดี
พร้อมด้วยผ้าคลุมสีแดงเข้ม ที่มีการเย็บปักสีทองที่เงางาม
เข้าดูเหมือนเขาอยู่ช่วงปลาย 30 แต่อายุจริงของเขานั้น ไม่เป็นที่ทราบ
เขาสังเกตทุกคนในห้องพิจารณาคดี ด้วยสายตาที่คม เหมือนสัตว์กินเนื้อ… และจากนั้น ส่งสายตาของเขา มาที่ผม
“มันเป็นซักพักแล้วนะ ยูจีน สบายดีมั้ย?”
เขาทำรอยยิ้ม ที่แสดงฟันของเขา
“มันเป็นซักพักแล้วนะครับ {อาจารย์ใหญ่ อูเธอร์}” (ยูจีน)
ผมลดหัวอย่างเคารพ และทักทายเขา
ผู้คนรอบข้าง ก็ลดหัวของพวกเขา ด้วยกันทั้งหมด
—{อูเธอร์ เมอร์คิวเรียส เพนดรากอน}
ราชาของเมืองดันเจี้ยน คาหลิบ แล้วก็ยังเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนเวทมนตร์ ที่ผมเข้า
เมื่อพูดอย่างนั้นแล้ว เขาเรียกตัวเองว่านักวิจัยเวทมนตร์ และเขาก็เป็นนักสำรวจนิรันดร งานของเขาในฐานะราชา และอาจารย์ใหญ่โรงเรียน คือแค่ {งานข้างๆ}
“ไม่จำเป็นต้องเกร็ง ทุกคน เวลามีจำกัด และต้องใช้อย่างมีเหตุผล มาเริ่มการตัดสินคดี สำหรับคดีปัจจุบันเถอะ” (อูเธอร์)
“ถ้าอย่างนั้น ผมจะอธิบายคร่าวๆในครั้งนี้ของ—”
“ไม่จำเป็น ชั้นได้เห็นอะไรที่จำเป็นด้วยมองไกลแล้ว ชั้นทราบดี ว่าอะไรเกิดขึ้น” (อูเธอร์)
“ขออภัยสำหรับความหยาบคาย!”
“เจ้าหน้าที่ของห้องพิจารณา รีบนำเอกสารที่กำลังจะอ่านกลับไป
…ช่างเป็นคนที่เร่งรีบเหมือนเคย
คนนี้ ใช่ชีวิตเร่งไปข้างหน้าตลอด
แม้ว่าจะไม่มีนักเวทย์ ที่เทียบกับเขาได้ ในทวีปนี้
“ถ้ามันเป็นอูเธอร์ซามะ* ไม่ควรมีความจำเป็น สำหรับการถามคำถาม ได้โปรดลงบทลงโทษที่เข้มงวด เพื่อผู้กระทำผิดครั้งนี้ ที่ทำลายของตกทอดของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ เราของสหภาพศักดิ์สิทธิ์ จะเป็นคนทำมันเอง”
ผู้แปล: ซามะ sama ท่าน
“ไม่ ไม่ ได้โปรดปล่อยให้เรา สหพันธรัฐบลูวอเทอร์ จับกุมตัวเธอไว้ ด้วยมานา ที่เพียงพอที่จะสร้างไฟมากขนาดนั้น เธอทำหน้าที่เป็นเครื่องมือได้ ขึ้นอยู่กับว่า ท่านจะใช้มันยังไง”
คนของสหภาพ และสหพันธรัฐนำความต้องการของพวกเขาออกมา ทีละคนตามๆกัน
อาจารย์ใหญ่ ไม่ตอบ
“ยังไงซะ ใจเย็น ก่อนอื่น มาลองฟังว่าเจ้าตัวเอง มีอะไรจะพูด” (อูเธอร์)
อาจารย์ใหญ่อูเธอร์ พูดอย่างนี่ ลงพื้นอย่างว่องไว ที่เก้าอี้ที่สูงที่สุดอย่างเป็นทางการ และยืนอยู่ ตรงหน้าผม
“ยูจีน ใส่นี่ไว้บนแขน ของซูมิเระคุง” (อูเธอร์)
“ซูมิเระ…?” (ยูจีน)
มันเป็นครั้งแรก ที่ผมได้ยินชื่อนั้น แต่ตัดสินจากสายตาของอาจารย์ใหญ่ มันต้องเป็นชื่อของสาวคนนี้
“อะไร งั้นนายก็ยังไม่ได้ยินชื่อของเธอเหรอ? ยังไงซะ ไม่เป็นไร ทำให้มันเร็ว” (อูเธอร์)
“ค-ครับ” (ยูจีน)
ผมถามเธอด้วยสายตาของผม ว่าผมใส่กำไลไปบนเธอได้มั้ย
ผมคิดว่าเธอจะต่อต้าน แต่เธอยอมรับอย่างง่ายๆ
กำไลมีเสียงคลิก และใส่พอดีอยู่ในแขนของเธอ
“ซูมิเระคุง เธอเข้าใจที่เราพูดอยู่มั้ย?” (อูเธอร์)
อาจารย์ใหญ่ถามสาว
“…….ค่ะ หนูเข้าใจ”
สาวตอบ ด้วยเสียงที่เบาบาง
โออ้ มันส่งไปถึง!
ห้องพิจารณาคดี เริ่มมีเสียง
ก่อนที่อาจารย์ใหญ่อูเธอร์มา อุปกรณ์เวทย์จำนวนหนึ่ง ถูกใช้เพื่อจะพยายามแปลว่าอะไรที่สาวนั้นพูด แต่พวกมันทั้งหมด ล้มเหลว
พอมาคิด ว่ามันจะสำเร็จง่ายๆที่นี่…
“ถ้าอย่างนั้น เธอแนะนำตัวเองหน่อยได้มั้ย?” (อูเธอร์)
“ชื่อของหนูคือซูมิเระ”
เหมือนที่อาจารย์ใหญ่พูด ชื่อของเธอ เห็นได้ชัดว่าเป็น ซูมิเระ
ช่างเป็นชื่อที่แปลก
มันไม่ใช่ชื่อ ที่คุณได้ยินบ่อยๆ ในทวีปทิศใต้
“มาจากที่ไหน?” (อูเธอร์)
“…หนูไม่รู้ เมื่อเวลาทที่หนูสังเกต หนูอยู่ในที่ราบที่ปกคลุมไปด้วยหญ้า ความทรงจำของหนู…นั้นขุ่นมัว” (ซูมิเระ)
“ความจำเสื่อม หือ” (อูเธอร์์)
อาจารย์ใหฐ่ ตกอยู่ในห้วงความคิด ที่คำพูดของสาว และแปรงหนวดของเขา
“สะดวกดีนี่! เชื่อในความจำเสื่อมของเธอไม่ได้หรอก!”
เสียงขัดของบางคนดัง
สาวสั่นเทา
ไม่จำเป็นต้องพูดอย่างนั้นเลย
“มีอะไรที่เธอจำได้มั้ย? เหมือนเธอเกิดที่ไหนน่ะ?” (ยูจีน)
“ชั้นโตมาใน…ใน…โตเกียว ญี่ปุ่น เกิดและโต…” (ซูมิเระ)
ญี่ปุ่น…?
ผมไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับมันเลย แต่ตัดสินจากน้ำเสียง เป็นบางที่ในทวีปทิศตะวันออกเหรอ?
“เราจะสามารถบอกได้ เมื่อเราทำการประเมิน! เราบอกได้ว่าอะไรที่เธอพูด นั่นเป็นความจริงมั้ย!”
“เราได้พยายามทำเรื่องนั้นแล้ว แต่ประเมิน ไม่ได้ผลกับเธอ ด้วยเหตุผลบางอย่าง”
“นั่นทำไม ผมถึงบอกไปไงครับ ว่ามันน่าสงสัย! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธออยากที่จะซ่อนบางสิ่งบางอย่าง โดยการกีดกันการประเมิน!”
คนจากสหภาพศักดิ์สิทธิ์ ดูเหมือนอยากจะทำให้เธอเป็นคนชั่ว มากที่สุด เท่าที่ทำได้
“หืมมม…ประเมิน ไม่ได้ผล หือ เข้าใจแล้ว พูดถึงแล้ว ยูจีนคุง บอกกรณีนั้นออกมาซิ ที่เมื่อนายใช้ประเมินไม่ได้น่ะ นายเรียนเรื่องนั้นมาจากโรงเรียน ใช่มั้ย?” (อูเธอร์)
มันถูกโยนมาให้ผมกระทันหัน!
“อืม…กรณีแรก จะเป็นเมื่อเป้าหมาย ใช้เวทย์รบกวน การประเมิน อีกกรณีคือเมื่อประเมินขาดความสามารถ” (ยูจีน)
ใช่ป่าว?
“เหลวไหล ผู้ใช้ประเมินในห้องพิจารณา ทั้งหมดเป็นผู้ใช้ประเมินที่มีคุณสมบัติ มันเป็นไปไม่ได้ ที่พวกเค้าจะขาดความสามารถ”
“ตัดเรื่องนั้นออกไปไม่ได้จริงๆหรอกน่า ตาแห่งการประเมินของชั้น แสดงเผ่าพันธุ์และสถานะของสาวคนนี้อย่างชัดเจน” (อูเธอร์)
“…”
คนที่บ่น ตกอยู่ในความเงียบ ที่คำพูดของอาจารย์ใหญ่
เฮ้ย เฮ้ย อาจารย์ใหญ่อูเธอณ์ จารรู้เรื่องนั้นก่อนนานมาแล้วเหรอ?
“งั้น ผู้หญิงคนนี้ เป็นใคร?”
“อยากรู้?” (อูเธอร์)
อาจารย์ใหญ่ยิ้ม
คนนี้ชอบพูดแบบการแสดงแบบนี้จริงๆ
และมันสร้างไหวพริบมากมาย
“ชั้นจะตอบ! เผ่าพันธุ์ของเธอคือ: ครึ่งพระเจ้าแห่งไฟ** อีฟริท! คนของยุคตำนานปรัมปรา ที่พูดกันว่าได้สิ้นไปแล้ว” (อูเธอร์)
ผู้แปล(จากฝั่งภาษาอังกฤษ): มันเรียกว่า 神人 (ชินจิน) ซึ่งแปลตรงๆได้ว่า เทพเจ้า-มนุษย์ (บางทีใช้นั่นแทน?) ปรกตแล้วผมจะแปลมันเป็นกึ่งพระเจ้า แต่มันมีกึ่งพระเจ้าพูดถึงแล้วใน เทพธิดาผู้ศรัทธาศูนย์ (พิชิตฟ้าล่ารัก) ด้วย 半神 (ฮันชิน)
“”””””……””””””
คำตอบที่คาดไม่ถึง ทำให้ห้องพิจารณาคดีเงียบงัน
ครึ่งพระเจ้าไฟ อีฟริท…?
ผมไม่เคยเห็นอะไรซักอย่างแบบนั้นที่ไหนเลย ที่นอกจกหนังสือภาพ ไม่ใช่นั่นมันสิ่งมีชีวิตในตำนานปรัมปราเหรอ?
“มันเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ ที่พูดกันว่าได้มีตัวตนอยู่ในยุคตำนานปรัมปรา ก่อนมนุษย์ จะอาศัยอยู่ในโลกที่ สิ่งมีชีวิตในตำนานปรัมปรา ที่ถูกพูดว่าได้สิ้นไปแล้ว ในเวลาโบราณ มันได้กลับมามีชีวิตในโลกสมัยใหม่!” (อูเธอร์)
อูเธอร์อธิบายด้วยความตื่นเต้น
เขาดูเหมือนจะสนุก
เพราะทั้งหมด คนนี้น่ะชอบสิ่งมีชีวิตเวทมนตร์หายาก
“ต-แต่ ถ้าเธอคืออีฟริท เธอมาจากไหนกัน? ปรากฏตัวในดันเจี้ยนกระทันหัน นั้นไม่ใช่การอธิบายทีดี! ตั้งแต่ทีแรก มันเป็นความจริง ที่โต้เถียงไม่ได้ ว่าเธอน่ะ ทำลายหอคอยสุดยอด มันไม่ใช่บางอย่าง ทีจะสามารถยกโท—”
“ชั้นบอกให้นายใจเย็น ใช่มั้ย?” (อูเธอร์)
อาจารย์ใหญ่ หยุดคำพูดของสมาชิกคณะลูกขุน จากสหภาพศักดิ์สิทธิ์
“เอาทีละอย่าง ก่อนอื่น ซูมิเระคุง มาจากที่ไหน?” (อูเธอร์)
ห้องพิจารณาคดี เงียบ และรอคำพูดของอาจารย์ใหญ่
“คำใบ้คือ ในโลก ที่ซูมิเระคุงพูด เมื่อครู่นี้” (อูเธอร์)
“คำพูดหนู…?” (ซูมิเระ)
สาวพึมพำในความสงสัย
“เธอนั้นพูดตอนนี้ ว่าเธอมาจาก ‘โตเกียว ญี่ปุ่น’ แต่โชคร้าย ไม่มีประเทศหรือเมือง ด้วยชื่อนั้นในโลกนี้!” (อูเธอร์)
“ม-ไม่มีทางน่า!” (ซูมิเระ)
สาวขึ้นเสียงในความทุกข์
มันดูเหมือนเธอคิดว่าเราอ้างว่าเธอ นั้นโกหก
“เดี๋ยว ชั้นพูดว่า ‘โลกนี้’ พูดอีกอย่าง โลกที่ซูมิเระคุงจากมา จริงๆแล้ว มีที่ที่เรียกว่า ญี่ปุ่น และ โตเกียว” (อูเธอร์)
“…ท่านหมายถึงอะไร?”
“เป็นไปได้มั้ยว่า…”
“…ไม่มีทางน่า!”
ไม่เพียงแต่คณะลูกขุน แต่แม้แต่คนดู ก็เริ่มมีเสียงกัน
เข้าใจแล้ว…งั้นมันเป็นอย่างนั้น
“อืม…นั่นหมายถึงอะไรเหรอ?” (ซูมิเระ)
สาวถามผม ในการกระซิบ
มันจะดีกว่า ที่ผมจะไม่ตอบ ใช่มั้ย?
ผมชำเลืองมองอาจารย์ใหญ่อูเธอร์ และเขายิ้มให้ผม
“ซูมิเระคุง ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนเวทมนตร์ไลเคียน เราจะต้อนรับ ผู้เกิดใหม่ จากโลกคู่ขนาน!”
“……เอ๋?” (ซูมิเระ)
สาวเปิดปากของเธอกว้าง ในความช็อค
ดูเหมือนสาวที่ผมเจอ เป็นคนหลง จากโลกคู่ขนาน
เป้าหมายเดือน 9/66
ค่าเน็ต 100/200
กาแฟ 0/300
คอมใหม่ 0/2000
สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่
067-3-63958-5
วายุ แซ่จิว
กสิกรไทย
แปลโดย: wayuwayu
โดเนทแล้วอยากให้เรื่องขึ้นหรือสะสมเงินเพิ่มตอน สปอนเซอร์ตอน จองตอน ซื้อตอน หารได้ ได้ที่ facebook