บท1ตอนที่4
โนโซมุยังคงทำงานพาร์ทไทม์ในย่านการค้าในวันรุ่งขึ้น
วันนี้นั้นเขาไม่มีพาร์ทเนอร์และถูกนายจ้างขอให้จัดระเบียบและบันทึกรายการสินค้าในพื้นที่จัดเก็บ
หลังจากยืนยันสินค้าที่บรรทุกใส่รถแล้วสินค้าที่เตรียมจัดส่งแล้วแล้วเขาก็เรียกโนโซมุที่รับผิดชอบมาเพื่อคุยด้วย
「พูดๆแล้วโนโซมุ เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าเหล่านักล่าเจอมังกรภายในป่าบ้างไหม?」
「มังกร…….งั้นเหรอครับ?」
มังกร
เป็นเผ่าพันธุ์ที่แกร่งสุดในทวีปนี้
เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์จิตวิญญาณที่มีพลังมหาศาล
ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนเคยเอาชนะมังกรมาได้และได้รับสืบทอดพลังมา
การดำรงอยู่นั้นถูกเรียกได้ว่า ดราก้อน สเลเยอร์ แต่ว่าก็ไม่มีใครได้พบเห็นตัวตนนั้นมานานแสนนานแล้วเรียกได้ว่าเป็นตัวตนที่มีแต่ในตำนานดีกว่า
「มันจะมีเทพมังกรอยู่ใกล้เมืองเช่นนี้จริงๆเหรอครับ?」
「ก็แค่ว่าเป็นความเข้าใจผิดของข้าเองล่ะนะ เห็นว่าแกไปที่ป่าบ่อยๆอย่างน้อยก็ควรจะรับรู้เรื่องราวเหล่านี้ไว้หน่อยละ」
เมื่อข้าได้ยินเช่นนั้น นายจ้างก็ยิ้มให้
มังกรเป็นสัตว์อสูรประเภทประเภทหนึ่ง ไม่เหมือนเทพมังกร
พลังของมันด้อยกว่าเทพมังกรและสติปัญญาของมันก็ต่ำ แต่ว่ามันก็เป็นภัยคุกคามอย่างมากต่อเหล่ามนุษย์
พลังของมังแกร่งสุดในบรรดาสัตว์อสูรแล้ว แน่นอนยังไงข้าก็ไม่มีทางชนะมันได้
「เข้าใจแล้วครับ ถ้าเช่นนั้นข้าจะคอยระวังตัว」
ข้าขอบคุณนายจ้างและรีบกลับไปหาท่านอาจารย์
◇◆◇
โนโซมุกลับบ้านไปเอาคาตานะเพื่อมุ่งหน้าไปยังกระท่อมของอาจารย์
เสื้อผ้าเป็นแบบง่ายๆไม่ขัดต่อการเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งมันทำมาจากหนังของสัตว์อสูรมีมีดสั้นและกระเป๋าเล็กๆคาดไว้อยู่บนเข็มขัด เซ็ตอุปกรณ์รักษษเช่นโพชั่นก็อยู่ในกระเป๋าหนังอันเล็ก ระเบิดควัน ระเบิดเสียง เองก็มีพร้อม
ก็ตามชื่อของมันเลยระเบิดควันก็จะปล่อยควันออกมา ระเบิดเสียงก็จะส่งเสียงแหลมสูงทำลายประสาทการได้ยินของศัตรู
และสุดท้ายระเบิดฟ้าร้อง
ระเบิดนี่จะทำหน้าที่เหมือนกับเวทย์ขนาดย่อมที่จะส่งเสียงฟ้าร้องบริเวณรอบๆซึ่งราคาก็สูงเอาเรื่อง
อย่างไรก็ตามเนื่องจากความสามารถอันต่ำเตี่ยเลี่ยดินทำให้สามารถใช้คิได้ไม่บ่อยนัก เพราะฉะนั้นเลยเตรียมอุปกรณ์พวกนี้ไว้ในกรณีฉุกเฉิน
แม้ว่าผลของอุปกรณ์เสริมพลังจะถูกจำกัดพลังไว้ด้วยผลของพันธนาการก็ตามแต่ว่าพลังของอุปกรณ์เหล่านั้นไม่ได้ถูกจำกัด ดังนั้นเลยพกมันไปด้วยระหว่างไปป่า
ระหว่างทางที่ไปกระท่อมของอาจารย์ชิโนะหมอกเริ่มลงทำให้ข้าต้องรีบเร่งความเร็ว
หมอกค่อยๆหนาขึ้นและมองเห็นได้ยากมากขึ้นมองเห็นได้แค่ระยะ 1 เมตรเท่านั้นเอง
「แย่แล้ว แบบนี้มัน」
โนโซมุตกใจพร้อมกับหยิบเข็มทิศออกมา เข็มทิศมันหมุนมั่วไปหมดจนหาทิศทางแน่นอนไม่ได้
「สถานการณ์นี่มันอะไรกันเนี่ย」
แม้จะมีสัตว์อสูรมากมายในป่านี้แต่มันก็ไม่มีตัวไหนที่ทำให้เข็มทิศพังได้หรอก
ข้าสูดลมหายใจเข้าลึกๆและเริ่มสงบสติลง ข้าเริ่มตรวจสอบสภาพโดยรอบทันที
ต้นไม้รกครึ้มจนซ่อนตัวได้ แต่ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะมาผ่อนคลายได้
「จะหนีก็ไม่ได้สินะทำยังไงดีในสถานการณ์แบบนี้」
ตอนนั้นเองข้าก็ตัดสินใจจะหาสถานที่ปลอดภัยเพื่อหลบภัยขณะนั้นเองก็เอามีดทำเครื่องหมายไว้ตามทางเพื่อไม่ให้หลง
หลังจากนั้นไม่นานเหมือนข้าจะผ่านป่าไม้มาได้จนมาถึงที่โล่งๆ
ดูเหมือนว่าหมอกจะค่อยๆจางลง
ตอนนั้นที่ข้ารู้สึกโล่งใจอยู่นั่นเอง ทิวทัศน์รอบๆก็เริ่มบิดเบี้ยวไป
「หา?」
ตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกตัวว่ามาโผล่ในที่แปลกๆ
ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยภูเขามากมายสุดลูกหูลูกตา แน่นอนมันไม่ใช่แถวเมืองอาร์คาซัมแน่
เงาสีดำใหญ่โตครอบคลุมไปทั่วร่างกายของเขาที่กำลังสับสน
ตอนนั้นเองข้าก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างจากนั้นข้าก็ตกใจอย่างมาก
ตัวใหญ่สีดำปกคลุมไปทั่วเหนือน่านฟ้า
มีปีก 5 สีในบรรดาทั้ง 6 ปีกกำลังกระพือด้วยแรงมหาศาล
มีเกล็ดสีดำปกคลุมอยู่ทั่วร่างเป็นดั่งตัวบอกเวลาว่ามันอยู่มากี่ “ปี”แล้วนั่นเอง
ดวงตาของมันโอบกอดความมืดมิดและจ้อมมองมายังชายร่างเล็กตรงหน้า
ความสิ้นหวังเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่าง (ผมแปลผิดงั้นรึ Tiamatเป็นมังกรมีหลากสีสินะ)
“ราชันย์มังกร เทียแมท”
มังกรนอกรีตซึ่งกัดกินพวกเดียวกันเอง
ตรงนั้นมีเทพมังกรที่ควรจะหายไปเมื่อ 5,000ปีก่อนกลับอยู่ตรงหน้า
◇◆◇
โนโซมุยืนตัวสั่นด้วยความตกตะลึง
ข้าไม่เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าเลยสักนิด
หากคิดตามปกติแล้วไม่ว่าสัตว์อสูรตัวไหนจะปรากฏตัวตรงหน้าก็ไม่น่าตกใจเท่ากับการได้มาเจอกับเทพมังกรมาโผล่อยู่ใกล้ๆนี่ได้
เขาสับสนกับสถานการณ์ตรงหน้า แต่ห้วงบรรยากาศที่นี่นั้นเป็นตัวพันธนาการตัวมังกรเทียแมทเอาไว้ระหว่างโลกแห่งความจริงกับโลกแห่งวิญญาณที่ควรจะหลับไหลไป โดยตรงนี้ใช้มันเป็นที่แบ่งเส้นโลกของทวีป บาลัวร์(ทวีปยุคไดโน) ซึ่งแบกแยกโลกของเทียแมทกับความเป็นจริงเอาไว้
อย่างไรก็ตามมันเกิดการแปรผันภายใต้พลังอำนาจของมังกรเทียแมทที่ถูกผนึกไว้ในโลกแห่งนี้
ความผันผวนนั่นทำให้สามารถข้ามผ่านภูมิประเทศและช่วงเวลาจากช่วงหนึ่งไปอีกช่วงหนึ่งได้ซึ่งทำให้เกิดเส้นทางขึ้นมา
เส้นทางซึ่งมีขนาดเล็กกระจิดลิ๊ดสำหรับเทียแมทแต่มันก็ใหญ่พอสำหรับเหล่ามนุษย์ที่หลงเข้ามา
เขาเดินเข้ามาในโลกแห่งนี้โดยไม่รู้เลยว่ามีมังกรโบราณที่ถูกผนึกไว้ตั้งแต่บรรณพกาล
◇◆◇
เทียแมทที่เห็นโนโซมุเข้ามาในสายตาก็ค้นพบแล้วว่านานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่มีมนุษย์หลงมายังดินแดนแห่งนี้
เมื่อเห็นเช่นนั้นมังกรดำนั่นก็พยายามมุ่งหน้าไปหาโนโซมุ
โนโซมุออกตัววิ่งหนีและพยายามออกจากพื้นที่แห่งนี้
ทันทีหลังจากนั้นเองเทียแมทที่บินลงมาก็ส่งเสียงคำราม
น้ำหนัของตัวมังกรเทียแมทลงกระแทรกกับพื้นทำให้เกิดรอยแตกกระจายไปบริเวณรอบๆ
โนโซมุถูกพลัดปลิวไปท่ามกลางคลื่นเหล่านั้นและกระแทกลงกับพื้น
ไม่มีบาดแผลที่เห็นเด่นได้ชัด แต่ว่ามีบาดแผลจากเศษก้อนหินที่กระจัดกระจายอยู่เล็กน้อย
◇◆◇
ข้าตัดสินใจวิ่งในทันที
เขาขว้างระเบิดควันทั้งหมดที่มีเพื่อวิ่งหนีไปที่ป่าด้วยความเร็วสูง
เขาคิดว่าการที่เขาซ่อนตัวอยู่ใต้ร่มไม้จะมีเวลาพอให้เขาได้หลบหนี
อย่างไรนั่นก็เป็นเพียงความคิดตื้นเขิน
「กาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!」
ในขณะที่เขาวิ่งผ่านควันเหล่านั้นไปนั่นเอง ควันที่ปกคลุมรอบๆได้กระจายออกมาพร้อมกับเสียงคำราม
ไม่เพียงแค่นั้นข้ายังถูกแรงลมจากมังกรตัวนั้นพลัดจนกระเด็นไปไกล
เมื่อมองไปยังเทียแมทก็พบว่ามันไม่ขยับเลยเห็นได้ชัดว่าเพียงแค่มันคำรามก็ทำให้พื้นที่รอบๆเสียหายได้แล้ว
โนโซมุกำลังประหลาดใจอยู่นั้น เทียแมทก็อ้าปากกว้างๆของมันออกมาเปลวไฟสีดำขนาดใหญ่ถูกรวบรวมอยู่บริเวณปากของมัน
เปลวไฟสีดำที่มีสีต่างๆปะปนอยู่มากมายผสมกันไป
โนโซมุทำตามสัญชาตญาณของตัวเองและรีบแยกตัวออกอย่างรวดเร็ว
เปลวไฟเหล่านั้นเผาป่าโดยรอบจนไหม้เกรียม
วินาทีต่อมาเสียงเหล่านั้นก็หายไปจากโลกใบนี้
โนโซมุลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าทันทีที่เขารู้สึกตัว
เขาพยายามแหวกว่ายไปในอากาศเพราะนี่คือครั้งแรกในชีวิตของเขาที่ลอยอยู่บนฟ้าเช่นนี้ ทันใดนั้นเขาก็ลงจอดกับพื้นด้วยแรงกระแทกอย่างรุนแรงทำให้สติของเขากลับมาสู่ความเป็นจริง
ทั่วทั้งร่างกายเจ็บปวดไปหมดจากการตกกระแทกกับพื้นเขารีบดื่มโพชั่นโดยทันที
ในขณะที่โพชั่นกำลังฟื้นฟูร่างกายข้าก็จ้องมองไปทางป่าที่ถูกทำลายลง
ป่าถูกไฟไหม้จนหมด
จากแรงกระแทกนั่นทำให้ดูเหมือนว่าทางกลับไปทางสถาบันจะหายไปโดยสมบูรณ์
ต้นไม้ที่อยู่รอบๆทางเข้าต้นไม้ถูกพัดหายไปจนหมดเกลี้ยงกลายเป็นคาร์บอนอยู่ในอากาศ
ต้นไม้ที่ไม่ได้ถูกเผาต่างก็ถูกพัดพาไปด้วยแรงกระแทกอันแสนรุนแรงนั่น
เมื่องมองไปยังเทียแมทที่กางปีกออกมามันมีสี 5 สี บรรดา 6 ปีกของมัน
ในบรรดาห้าสีของมันนั้นสร้างบรรยากาศโฟโตสเฟียร์ออกมา
TN:โฟโตสเฟียร์เป็นผิวของดวงอาทิตย์จะแบ่งออกเป็น 4 ชั้น มืดคล้ำที่ขอบดวง,เป็นดอกดวงโดยทั่วไป,การเกิดเป็นกลุ่มจุด และ บริเวณที่สว่างจนผิดปกติ
“เวทย์แห่งจิตวิญญาณ”
เวทย์ที่ใช้พลังวิญญาณเป็นตัวกลาง แตกต่างจากการใช้เวทย์แบบอื่นๆ ที่ใช้โดยเผ่าพันธุ์อื่นๆที่ไม่ใช่เผ่าสปิริตเอง ไม่ต้องใช้กระบวนการซ้ำซ้อนสามารถเปิดใช้งานได้อย่างทันท่วงทีไม่เหมือนกับเวทย์อื่นๆ
โนโซมุพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเสริมพลังกายต่อไป กระดิ่งเตือนภัยในร่างกายบอกเขาว่าให้ทำเช่นนั้น
โฟโตสเฟียร์จำนวนมากกำลังมุ่งหน้ามาทางเขา จำนวนมันมากมายเสียจนผิดปกติ
โนโซมุตัดผ่านโฟโตสเฟียร์จำนวนมากด้วยดาบของเขา แต่ไม่ทันไรก็ถูกแสงจำนวนมากเหล่านั้นกลืนกินเข้าไป
ถึงกระนั้นผมก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บสาหัส
เมื่อฝนแห่งแสงนั่นหยุดลงร่างกายของโนโซมุก็เต็มไปด้วยบาดแผล เขาคว้าโพชั่นมาทั้งหมดพร้อมกับดื่มในคราวเดียว
「อั่ก อ๊ากกกกกกก!」
เมื่อเขามองไปยังเทียแมท มันค่อยๆตรงมาทางนี้ขณะที่เขาพยายามใช้โพชั่นรักษาตัวเองอยู่
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนีเลยหากมองจากสภาพของป่าไปแล้ว
ป่าที่ใช้ซ่อนตัวมันถูกเผาทั้งหมดในคราวเดียว
เขามีทางเลือกเดียวก็คือการต่อสู้กับความสิ้นหวังตรงหน้า
「ฮะฮะฮะฮะฮะฮะ…………」
เป็นเวลากว่าสิบนาทีแล้วที่การต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้น
อย่าเรียกว่าการต่อสู้เลยดีกว่านะ
การต่อสู้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อศัตรูตรงหน้าสามารถจัดการได้ แต่มังกรดำเทียแมทนี่ไม่ใช่อะไรที่เราจะล้มมันลงได้ง่ายๆ
สิ่งที่มีทั้งหมดก็เป็นเพียงของเล่นสำหรับเทพมังกรนั่นล่ะ
มังกรดำนั่นสามารถฆ่าโนโซมุได้ในพริบตา แต่ว่ามันก็ยังคงเล่นกับเขาต่อไป
ราวกับเล่นกับแมวจับหนู
ยังไงก็ตามโนโซมุก็เอาตัวรอดมาได้เป็นเวลากว่าสิบนาทีอันเป็นนิรันดร์นี่แล้ว
ถึงอย่างงั้นความสิ้นหวังตรงหน้าก็ยังไม่จางหาย
ไม่สามารถจะสร้างแม้แต่รอยขีดข่วนให้เกล็ดของมันได้
แม้ว่าเทียแมทจะเหวี่ยงแขนลงมาด้วยแรงอันน้อยนิดเขาก็ปลิวไปด้วยคลื่นกระแทกนั่นแน่
ไม่สามารถจะหลีกหนีสถานการณ์ตรงหน้าได้
ไม่มีอุปกรณ์ใดที่จะเจาะทะลวงเกล็ดของมังกรได้เลย
ข้าเองก็เริ่มหมดแรงแล้ว ใกล้จะถึงขีดจำกัดของการเสริมพลังกายด้วยคิแล้ว
ในสถานการณ์เช่นนี้สุดท้ายมันก็มาถึงขีดสุด ไม่ว่าจะกี่ครั้งต่อกี่ครั้งผมก็ปลิวไปกับคลื่นกระแทกที่พื้นจนทำให้ร่างกายของผมมันชาไปทั้งตัว
ข้าดื่มโพชั่นขวดสุดท้ายด้วยมือที่สั่นเทาพร้อมกับลุกขึ้น
เทียแมทยกแขนขึ้นอีกครั้งราวกับจะบดขยี้โนโซมุ
เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ตรงหน้าได้ พยายามใช้เสริมพลังกายด้วยคิที่แขน
โนโซมุที่กำลังเผชิญหน้ากับความตายมองย้อนกลับไปเหมือนเขาเข้ามาอยู่ในตะเกียงวิเศษก็ไม่ปราณ
◇◆◇
ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังมีแสงไฟส่องสว่างไหว ทำให้ข้ามองนึกย้อนกลับตัวเองไปในอดีต
รอยยิ้มของพ่อแม่ที่บ้านเกิด
「พอมาคิดดูแล้ว」
พวกเขาเป็นพ่อแม่ที่ดีมากๆ
พวกเขาไม่บ่นอะไรกับการที่ข้าอยากจะสนับสนุนลิซ่าเลยแม้แต่น้อย แม้ชีวิตการเป็นอยู่จะไม่ได้ดีแต่เขาก็ส่งเสียข้า
ข้าเจอกับลิซ่าและตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น
「พอมาคิดดูแล้ว รักแรกของข้า ปกติแล้วรักแรกมักไม่สมหวัง อยากจะรู้จริงๆมันเป็นแบบนั้นจริงๆนะเหรอ?」
ครั้งหนึ่งข้าเคยได้สารภาพรัก ครั้งหนึ่งที่เคยเปิดเผยความรู้สึก แต่สุดท้ายแล้ว…………。
ข้าที่อยากจะสนับสนุนลิซ่า ด้วยคำมั่นสัญญานั่น เธอจึงก้าวเข้ามาในสถาบันโซลมินาติด้วยกันกับข้า
「ข้าที่อยากจะสนับสนุนลิซ่า แต่ถึงอย่างงั้น….แม้ว่าจะเป็นแบบนั้นข้าก็ยัง…………」
ความสามารถของเขาฉุดรั้งตัวเขาไว้ ตัวเขาที่ไม่สามารถเติบโตขึ้นได้ต้องจมปลักอยู่กับอดีตเพราะโซ่ตรวนแห่งพันธนาการนี่
ตอนนั้นเองลิซ่าก็บอกเลิกกับข้าและทิ้งข้าให้โดดเดี่ยวอยู่ในสถาบันนั่น
「ข้าอยากจะรู้จริงๆ….ข้ามันไม่ดีตรงไหน…….ทำไม…….ทำไม….อย่างน้อยก็บอกข้าสักคำสิ…………」
ในใจลึกๆข้ายังคงหวังอยู่ ข้าคิดเช่นนั้น ข้าทำอะไรผิดพลาดต่อตัวเธอไปงั้นเหรอ
ข้าที่พบกับอาจารย์ แสงสว่างอันน้อยนิดที่เล็ดรอดเข้ามาในชีวิต
「ข้าดีใจนะที่พบกับท่าน แม้ว่าท่านจะขี้เล่นไปบ้าง แต่ว่าท่านก็เป็นคนดี」
เธอคนนั้นช่างเข้มงวดกับระเบียบวินัยเป็นอย่างมาก แต่เธอเองก็คงเป็นห่วงข้า
ตอนแรกข้าเองก็เมินเฉยต่อเธอ แต่ตั้งแต่ที่เขาช่วยข้าจากพวกหมาป่านั่น
เมื่อคิดถึงตอนนั้นข้าก็กลับมากลายเป็นตัวข้าคนเดิม ข้าที่ยิ้มแย้มและหัวเราะไปพร้อมกับท่านอาจารย์ที่ข้าเคารพ
ช่วงเวลาต่อมานั้นเองเขาช็อคจนหมดสติ ความทรงจำทั้งหมดต่างเลือนหายไป
◇◆◇
แขนของเทียแมทที่ทุบอยู่กับพื้นตรงหน้าโนโซมุนั้น เขากลิ้งไปบนพื้นด้วยท่าทางอุบาทว์
เทียแมทที่กำลังเล่นสนุกกับเหยื่อหลังจากไม่ได้พบเจอมานานแสนนาน
เทียแมทอ้าปากกว้างพร้อมกับเปลวเพลิงสีดำอันมืดมิด เล่นกับมันก็สนุกดีแต่ขอดูหน่อยสิจะดิ้นรนไปได้สักแค่ไหน
ยังไงมันก็ไม่มีทางสู้ได้อยู่แล้ว
「คุคุ รับไปซะ……」
เขาเปล่งเสียงที่มนุษย์ไม่สามารถรับรู้ได้และพ่นเปลวเพลิงออกไป
ตัวโนโซมุที่แทบจะหมดสติแล้วทำได้แต่คิดถึงอดีตที่ผ่านมา
แสงสว่างสุดท้ายในชีวิตได้หายไปแล้วมีแต่ความตายเท่านั้นที่รอคอยอยู่ตรงหน้า
“ตาย”
เขายังคงเผชิญหน้ากับความตายที่ถูกอัดแน่นจนแข็งกร้าว
“ตาย”
มันเป็นแรงกดดันแห่งความ“ตาย”ที่เหนือกว่าพวกหมาป่าในตอนนั้นเสียอีก
“ไม่ชอบเลย”
เขาเองไม่มีอะไรเหลือพอที่จะคิดหาเหตุผล เขาทำเพียงสัญชาติญาณเท่านั้น
“ข้ายังไม่อยากตาย”
มันเป็นการกระหายที่โหยหาถึงการ”มีชีวิต”รอดสำหรับเขาเป็นแรงผลักดันให้เขาลุกขึ้นสู้
“ไม่อยากจะมาแพ้ตรงนี้”
เป็นการแสดงเจตจำนงอันแข็งแกร่งที่จะมีชีวิตอยู่อย่างที่ชิโนะนั้นเคยเห็น
「ย๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาก!」
วินาทีต่อมาเขาตะโกนก้องใส่มังกรตัวใหญ่ยักษที่เห็นเขาเป็นของเล่น
โนโซมุก้าวเข้าไปหาเทียแมทพร้อมกับเสียงคำรามสุดชีวิตของเขา ความเร็วของเขาเพิ่มมากขึ้นจนไม่เหมือนมนุษย์ที่กำลังจะตาย
อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวมันค่อนข้างช้าและเปลวเพลิงสีดำก็ถูกปลดปล่อยออกมาระหว่างทางที่พุ่งไปหาเทียแมท
“ช้าเกินไปแล้ว”
โนโซมุที่สัมผัสได้ถึงอันตรายเขามุ่งหน้าตรงไปเพื่อกำจัดภัยคุกคามที่เข้ามาในชีวิตของเขา ความต้องการมีชีวิตรอดของเขานั้นเป็นแรงผลักดันทำให้พลังที่ไหลเวียนรอบตัวเขาหนุนสูงขึ้นกว่าครั้งไหนๆ เขารู้สึกว่าตัวเองนั้นช้าลง
“ทำไมมันถึงได้ช้าขนาดนี้กันวะ!!”
ถ้าเป็นเช่นนี้หลบเปลวเพลิงแห่งความตายนี่ไม่พ้นแน่
ทันใดนั้นเองข้าที่มองไปที่ร่างกายของตัวเองก็พบกับโซ่ตรวนที่ผูกมัดร่างกายเอาไว้
“เป็นเพราะแกใช่ไหมหะ!!”
เขาเชื่อว่าโซ่ตรวนนี่เป็นโซ่ตรวนที่คอยรั้งเขาเอาไว้เขาพยายามจะฉีกกระชากมันออกไป
ถ้าคิดตามปกติแล้วโซ่นั่นไม่ควรจะขาดง่ายๆ แต่เขามั่นใจว่าเขาจะปลดพันธนาการที่ผูกมัดเขาได้ด้วยเหตุผลบางอย่าง
”อย่ามา……ขัดขวางงงงงงงงงงกันนะโว้ย!!!“
เขาออกแรงด้วยแรงมหาศาลโซ่ที่แตกออกส่งเสียงกระทบอย่างดัง
ทันใดนั้นเองเขาก็วิ่งผ่านเปลวเพลิงนั่นได้
เทียแมทตกใจที่จู่ๆเขาก็ความเร็วเพิ่มขึ้น โนโซมุพยายามครั้งนี้มากกว่าครั้งไหนๆเป็นพันเท่า
ร่างกายที่มีพละกำลังอันล้นเหลือและเลือดพล่านนั่นตอบสนองต่อร่างกายและความคิดของเขา
พละกำลังกายตอนนี้ของเขาเหนือยิ่งกว่าตอนที่เขาอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมดีเป็นไหนๆ
เขาดึงคาตานะออกมาพร้อมกับวิ่งไปเรื่อยๆ เขาพยายามเค้นแรงอันมหาศาลนั่นลงไปในดาบ มันตัดผ่านห้วงอากาศจนดาบนั่นถูกปกคลุมไปด้วยจิตวิญญาณ
คิ“แฟนท่อม(คมดาบลวงตา)”
คิที่เสริมพลังบางยิ่งกว่าเส้นผมบินไปด้วยความเร็วอันมหาศาลจนข้าตัดดวงตาของเทียแมทจนกลายเป็นตัวอักษรตัวหนึ่ง
เทียแมทตะโกนก้องด้วยความเจ็บปวดเขายกคอขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการโจมตีที่ไม่คาดคิด
เกนมุ(คมดาบผ่ามายา) เป็นเทคนิคง่ายๆที่ปล่อยคลื่นดาบออกไปโดยการใช้คิที่บีดอัดไปที่ใบมีดของคาตานะ แต่ว่ามันเป็นเทคนิคที่ยากมากในการจะบีบอัดคิให้บินไปด้วยความเร็วสูงขนาดนั้นและถ้าระยะมันเกิน 12 เมตรมันก็แทบจะไปไม่ถึงแล้วเพราะงั้นการเปิดใช้งานใกล้ๆทำให้หลบได้ยากมากๆ
ยิ่งไปกว่านั้นคิที่ถูกบีบอัดจนบางมากแล้วนั้นไม่ว่าโล่เหล็กหรือบาเรียเวทย์ ทุกๆอย่างต่างต้องพังทลายเพราะมันเป็นเทคนิคสังหารที่ใช้ฆ่าศัตรู เพราะว่ามันรุนแรงถึงระดับนั้นจึงทำให้มันตัดผ่านไปโดยไร้ซึ่งคำถามใดๆ
อย่างไรก็ตามมันต้องเวลารวบรวมคิไว้สักประมาณหลายสิบวินาทีและในสถานการณ์ที่มีศัตรูล้อมรอบทำให้มันไม่สามารถใช้งานได้
เมื่อเขาวิ่งไปถึงเทียแมทมันยกปลายเท้าพร้อมกับกระแทกพื้นหลายครั้ง
พื้นดินสั่นไหวทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหว
โนโซมุรีบถอยห่างแต่สุดท้ายก็จมไปกับเสียงของพื้นดิน
ทันใดนั้นเองตัวเทียแมทที่สร้างหลุมขนาดใหญ่ก็ทำให้ตัวมันจมลงไปในพื้นดินนั่น
เห็นได้ชัดว่าแถวๆนั้นมีโพรงเต็มไปหมด
เทียแมทมันพยายามจะหนี แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะตาของมันบอดอยู่
โนโซมุหยิบทุกอย่างในกระเป๋าออกมา เข้าไปใกล้มันและโยนอัดใส่หน้าเทียแมท
เป็นระเบิดเสียงเองที่ถูกโยนไปมันะรเบิดบริเวณหน้าของเทียแมทพร้อมกับส่งเสียงดังที่พอจะทำลายประสาทเสียงได้
เทียแมทที่โดนระเบิดเสียงจังๆก็หลับตาลงและหยุดขยับไปชั่วครู่
ถ้าหากมันเป็นจิตวิญญาณของเทพมังกรก็ไม่น่าได้รับผลกระทบมากนัก
อย่างที่คิดมังกรที่เป็นตัวแทนของเหล่าวิญญาณนั้นที่มีกายหยาบ มันถูกสร้างขึ้นด้วยธาตุที่หลากหลายจนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตตัวฉกาจ
และการที่มันมีความรู้สึกทางกายภาพได้นั้นอาจจะทำให้มันได้รับผลกระทบจนทำให้เกิดอาการสับสนได้เช่นกัน
แน่นอนว่ามังกรโบราณเป็นมังกรตระกูลจิตวิญญาณอย่างแน่นอน แม้ว่าจะได้รับแรงกระแทกจากกายภาพ แต่เทียแมทที่อาศัยอยู่ในร่างกายนี้มานานแสนนานนั้นมันเริ่มชินชากับความรู้สึกทางกายภาพทำให้มันเป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตปกติไปแล้ว
เทียแมทที่หยุดนิ่งนั้น ทำให้โนโซมุพุ่งเป้าไปที่มันอย่างชัดเจน
จุดมุ่งหมายของเขาคือคอของมังกรโบราณตัวนี้ เหตุผลที่เล็งไปที่คอเพราะไม่มั่นใจว่าจะบดขยี้กะโหลกของมังกรได้
มังกรโบราณที่สิงสถิตย์อยู่ในกายหยาบกล่าวคือมันสามารถตายได้นั่นแหละ
เป้าหมายก็คือการฆ่าร่างกายของมัน
ยังไงก็ตามมันไม่ใช่ง่ายๆเลยที่จะตัดร่างกายของมังกรที่มีความแข็งแกร่งสูง
โนโซมุกระโดดไปที่คอของเทียแมทและตัดคอของมัน เขาปลดปล่อยจิตวิญญาณไปยังปลายดาบอย่างรุนแรงอีกครั้ง เขาดึงดาบและฟันมันอย่างรวดเร็ว
คิ “เกนมุ(คมดาบผ่ามายา)” ตัดผ่านเกล็ดในลำคอของเทียแมทจนบีบอัดแรงระเบิดเข้าไปข้างในด้วยจิตวิญญาณที่อันแน่นเผยให้เห็นเนื้อที่คออันแสนนุ่มนิ่มของมัน
ยังก็ตามการโจมตีก่อนหน้านี้ของโนโซมุเริ่มออกผล
คิ“แฟนท่อม ―รีเทิร์น―(คมดาบลวงตาหวนคืน)”
คมดาบย้อนกลับเปิดบาดแผลทุกๆที่ๆฟันผ่านก่อนหน้านี้
แรงระเบิดที่หวนคืนตามวิถีดาบคาตานะนั้นมันล้ำลึกเข้าไปในต้นคอของเทียแมทจนเลือดไหลออกมาจำนวนมาก
อย่างไรก็ตามแผลแค่นี้มันไม่ร้ายแรงพอที่จะเอาชนะมังกรดำโบราณนี่ได้หรอกแม้ว่ามันจะบาดเจ็บสาหัส
โนโซมุใช้แรงที่หวนคืนของดาบนั่นย้อนกลับไปอีกครั้ง เมื่อรวมกับพลังที่หมุนตัดผ่านนั่นไปทำให้การกระโดดโจมตีของโนโซมุสร้างแผลที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม
ดาบคาตานะแทงลึกเข้าไปในคอของเทียแมทจากนั้นมันก็ตัดผ่านลึกเข้าไปอีกจนใกล้กับก้านสมองของมันแต่ว่าเขาก็หยุดปลายดาบไว้แค่นั้น
「กัชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชชช!!!!!!!!!!!」
อย่างไรก็ตามมันก็ยังไม่ตาย
มันส่งเสียงคำรามจนสั่นสะเทือนไปทั่วร่างพยายามจะสะบัดโนโซมุให้ตกลง
ดาบที่ฝังอยู่ที่ปลายคอของมันไม่สามารถดึกออกได้ หากสะบัดออก ดอกไม้สีเลือดก็จะสลัดไปทั่วพื้นที่
โนโซมุเอื้อมมือไปที่กระเป๋าข้างเอว
ระเบิดฟ้าผ่าที่ถูกบรรจุไว้ลูกสุดท้ายถูกนำออกมา
มันถูกฟาดเข้าที่คมดาบอย่างแรง
ในช่วงเวลาต่อมาก็เกิดเสียงฟ้าร้องส่งเสียงแพรวพราวออกมา ฟ้าร้องนั่นผ่าลงมายังดาบและดาบที่ถูกแรงกระตุ้นมหาศาลตัดผ่านคอและเซลล์ประสาทของมังกรไป
ฟ้าผ่านั่นยังคงเผาร่างกายของเขาและเอาพลังจากเขาไปจนหมด
มังกรยักษ์ล้มลงตัวเขาก็กระเด็นออกไป ร่างกายของมังกรขยับเล็กน้อย แต่ดวงตามันไร้ซึ่งชีวิตอีกต่อไป
ในที่สุดมังกรยักษ์นั่นก็ตายลงและกลายเป็นแสงอนุภาคราวกับคลื่นขนาดใหญ่
โนโซมิไม่มีเวลามาคิดอะไรอีกต่อไปแล้วว่าแสงนั่นจะไปที่แห่งไหน
ตัวเขาเองก็เต็มไปด้วยบาดแผลทั่วทั้งตัว ไม่มีที่ไหนที่ไม่มีแผลเลย
ในที่สุดอานุภาคแสงนั่นก็มารวมตัวอยู่เหนือหัวเขาและตกลงมาที่เขาราวกับห่าฝน
ร่างกายที่ถึงขีดจำกัดทำให้เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้อีกต่อไป แสงนั้นอาบร่างกายของเขา
◇◆◇
ตัวข้าเริ่มได้สติกลับคืนมา
สติเหล่านั้นทำให้ข้านึกถึงเทียแมทที่สู้ด้วยกันจนถึงก่อนหน้านี้
ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่างกาย ข้าพยายามยกร่างกายส่วนบนขึ้นและมองรอบๆก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ป่านอกเมือง
「ก่อนจะรู้สึกตัว……ก็…………กลับมาแล้วเหรอเนี่ย」
ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ร่างกายเจ็บปวดไปหมด การต่อสู้นั่นไม่ใช่ความฝัน
「อย่างไรก็ตามอาจารย์อยู่ไหน…………」
ข้าไม่รู้ว่าตัวเองหมดสติไปนานแค่ไหนแล้ว แต่ก็ไม่ควรจะอยู่ที่นี่ต่อไป โนโซมุฝืนร่างกายที่เจ็บปวดไปทั้งตัวเพื่อมุ่งหน้าไปยังกระท่อมของชิโนะด้วยสติอันเลือนลาง
โดยไม่รู้ตัวเลยว่า เขากลายเป็น “ดราก้อน สเลเยอร์”ที่มีอยู่ไม่กี่คนในประวัติศาสตร์……….