บทที่ 3 หลบหนี

ไม่รู้ว่านานแค่ไหน แสงยามเย็นของดวงอาทิตย์หายไปแล้ว แสงอันสว่างไสวของดวงจันทร์ลอยขึ้นสูง

หลายเยาเยาเก็บเข็มเงิน ถอนหายใจยาว

“สำเร็จแล้ว!”

เงยหน้าขึ้นเหลือบเห็นการแสดงออกที่เย็นชาของชายคนนั้นอย่างประหลาด มุมปากยกขึ้นทันที โน้มตัวเข้าหาเขา “อย่าศรัทธาพี่ชาย พี่ชายเป็นเพียงแค่ตำนาน”

“……”

หลานเยาเยาลุกขึ้นมองไปรอบด้าน จากนั้นไปตรวจสอบระบบ ยังไม่มีการแจ้งเตือนเสร็จสิ้นภารกิจ ดูเหมือนว่ายังไม่ผ่านช่วงวิกฤต

และแล้วก็เอายาพิษที่มีหนึ่งเดียวในระบบออกมา โปรยผงยาที่ต้นไม้ใหญ่และข้างหลุมฝังศพของเสี่ยวจู๋

แบบนี้ก็ไม่ต้องกลัวงู แมลง หนู มด ในตอนกลางคืน ไม่ต้องกังวลว่าสัตว์ป่ากินเนื้อพวกนั้นโจมตีพวกเขาแล้ว เพราะฉะนั้น กลางคืนเธอมีเรื่องหนึ่งที่ต้องทำ ก็คือต้องดูแลชายผู้นั้นให้ดี ป้องกันไม่ให้เขาไข้ขึ้น

แต่……

อาจเพราะเสียเลือดมากเกินไป ก่อนหน้านี้ฝืนร่างกายตลอด ตอนนี้พอปล่อยวางก็เริ่มรู้สึกสะลึมสะลือแล้ว

เธอพิงหลุมศพของจู๋ แล้วหลับไปโดยไม่รู้ตัว

ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่

หลังจากที่หลานเยาเยาได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง และยังถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยความเจ็บปวดเป็นพักๆ ทันทีที่ลืมตาขึ้นก็ถูกแสงจ้าส่องเข้าใส่……

เธอต้องการยกมือบังแสงแดด แต่พบว่ามือหนักมาก เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างกัดเธออยู่

เธอใช้แรงทั้งหมดที่มี ลุกขึ้นนั่ง และรีบจับผู้ร้ายที่กัดบาดแผลของเธอ

“อ๊าก——”

“อ๊าก——”

รู้สึกมีอะไรดำๆ ตรงหน้า มีนกสีดำไม่กี่ตัวกางปีกแล้วบินหนีไปแล้ว และมือก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่เป็นขนๆ

ทำให้หลานเยาเยาเย็นสันหลังทันที หัวใจตกไปที่ตาตุ่ม แต่เธอก็ไม่กล้าปล่อยมือ แต่ดันกดอย่างแน่น

เมื่อสายตาเธอปรับแสงได้แล้ว ถึงจะเห็นชัดว่าสิ่งที่จับอยู่คืออะไร

อีแร้ง?!

“เฮ้อ……”

ยังดีที่เป็นแค่อีแร้ง ไม่ใช้สัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ ไม่งั้นคงจบเห่แล้ว

“อ๊าก——”

“อ๊าก——”

อีแร้งหลายตัวบินว่อนอยู่บนท้องฟ้า ดูเหมือนจะส่งสัญญาณถึงเพื่อน เสียงที่แหบแห้ง เยือกเย็นและน่ากลัว

ดูแผลที่ถูกฉีกออก เลือดไหลไม่หยุด หลานเยาเยาหักคออีแร้งทันที โยนมันทิ้งไป ทำให้อีแร้งที่บินว่อนอยู่เหนือฟ้าตกใจและบินหนีไป

นึกถึงอีแร้งพวกนั้นที่กัดกินเนื้อเธอในขณะที่หลับ สั่นอย่างช่วยไม่ได้

โชคดีที่เธอไม่ได้ถูกมัดอยู่ ไม่เช่นนั้น……

หลานเยาเยาเหมือนนึกอะไรออก รีบเงยหน้ามองไปยังชายที่ถูกมัดติดกับต้นไม้ใหญ่ พบว่าชายกำลังมองเธออย่างเย้ยหยัน

อดไม่ได้ที่จะเบะปาก

ผ้าที่ผูกบนตัวเขาไม่ได้ถูกแตะต้องแต่อย่างใด เลือดก็ไม่ได้ซึมออกจากผ้า บนต้นไม้ใหญ่ที่เขาพิง มีอีแร้งที่โหดร้ายหลายตัวกำลังจ้องมองเขาอยู่ แต่ก็ลังเลไม่กล้าบินถลาโถมเข้าไป ราวกับว่าบินเข้าไปก็จะตายยังไงอย่างงั้น

ยุคสมัยนี้ ยังมีอีแร้ง

แบ่งแยกเพศเหรอ?

หรือว่า เขามีรัศมีที่แข็งแกร่งเกินไป แรงข่มขู่เขาน่ากลัวเกินไป?

และแล้ว!

ลุกขึ้นเดินไปที่ด้านหน้าเขา เพิกเฉยต่อสายตาอันตรายของเขา วางมือทาบบนหน้าผากเขาโดยตรง

“ไม่มีไข้ ผ่านช่วงวิกฤตแล้ว”

ทันใดนั้นผ้าที่ถูกยัดเข้าไปในปากของเขาก็ถูกเอาออก พูดขึ้นแบบง่ายๆ :

“ฟ้าสว่างแล้ว ข้าไปจัดการกับบาดแผลก่อน พร้อมกับหาน้ำและอาหารมา มีเรื่องก็ตะโกน ข้าไปไม่ไกล หลังจากนั้นข้าจะแก้มัดให้เจ้า แล้วเราก็จะแยกทางกัน”

ทีแรกก็อยากแก้มัดให้เขาตอนนี้ แต่เมื่อวานตอนจับชีพจรให้เขา พบว่ากำลังภายในเขาแข็งแกร่งมาก เธอไม่กล้าแก้มัดโดยภาระการณ์

ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ได้รับแจ้งจากระบบนั่น ดังนั้นเธอจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือ

เห็นชายผู้นั้นมองเธอไม่ละสายตาไม่พูด หลานเยาเยาก็เลยเข้าใจว่าเขาตกลงแล้ว!

เก็บหินแหลมคมเมื่อวานที่ใช้ขุดหลุมเป็นอาวุธ หลานเยาเยาไปหาที่ที่มีน้ำเพื่อทำความสะอาดบาดแผล ยังดีที่เดินไม่ไกลก็เจอลำธารที่มีกระแสน้ำเบา

ทำความสะอาดบาดแผลแบบง่ายๆ เพราะเนื้อบนบาดแผลถูกอีแร้งกินมาก่อน และปกติอีแร้งก็จะกินซากศพ เพราะฉะนั้นเชื้อโรคจะเยอะมาก ติดเชื้อง่าย ในสถานการณ์ที่จำกัดเธอสามารถฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์เท่านั้น

หลังจากจัดการเรียบร้อย เธอดื่มน้ำจากลำธาร หาใบไม้ขนาดใหญ่หลายแผนซ้อนกันเพื่อใส่น้ำ กะจะเอาไปให้ชายผู้นั้น

จังหวะที่หันหลัง ดาบคมเล่มหนึ่งที่เย็นเฉียบจ่อเข้าที่คอของเธอ……

เสียง “พรึบ” ครั้งหนึ่ง!

ใบไม้ในมือตกลงไปที่พื้น น้ำสาดกระเด็นไปทั่ว หลานเยาเยายกมือทั้งสองขึ้นทันที

โอ้โห!

เธอไม่ใช่คนที่ไม่มีความระมัดระวัง แต่บุคคลนี้สามารถเข้าใกล้เธออย่างเงียบๆ ศิลปะการต่อสู้จะต้องสูงมาก

ยืนยันด้วยสายตา ณ ตอนนี้บุคคลนี้ยังไม่ใช่คนที่เธอจะไปมีปัญหาด้วยได้

“ท่านวีรบุรุษไว้ชีวิตข้าด้วย มีอะไรค่อยๆ พูด”

คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอเป็นคนร่างสูง เป็นชายที่มีใบหน้าหล่อเหลา สวมชุดรัดรูปดำทั้งตัว มองเธอด้วยสายตาเย็นชา

เห็นชายคนหนึ่งที่โดนยาพิษและได้รับบาดเจ็บหรือไม่?เวลาชายเสื้อรัดรูปพูด ใบหน้าแทบไร้ความรู้สึก

“ไม่มี!”

หลานเยาเยาส่ายหน้าอย่างเร่งรีบ ถ้าหากชายตรงหน้าเป็นศัตรูของชายผู้นั้น เข้ารู้ว่าเธอช่วยชายคนนั้น เธอต้องตายแน่ๆ หากเป็นเพื่อนกับชายผู้นั้น แล้วเห็นสภาพของชายผู้นั้นในตอนนี้ เธอคงตายอนาถยิ่งกว่า

เพราะฉะนั้น!

ปลอดภัยที่สุดคือการไม่รู้อะไรทั้งนั้น

“แล้วเจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” ชายเสื้อรัดรูปเห็นบาดแผลทั่วร่างกายของเธอ พูดขึ้นอย่างสงสัย

“ถูกคนผลักตกจากบนผา”

หลานเยาเยาชี้หน้าผาที่ห่างไปไม่ไกล เกิดเศร้าขึ้นมาทันที และยังพยายามบีบน้ำตาออกมา

ชายชุดรัดรูปกวาดตามองไปที่หน้าผา แล้วมองกลับมาที่เธอ คิดอย่างจริงจังชั่วขณะ เหมือนกำลังคิดว่าคำพูดของเธอจริงหรือโกหก

“เจ้านายจะอยู่ที่ไหน?”

เขาพูดพึมพำกับตัวเอง แล้วเก็บดาบ หันข้างสะบัด “ฟิ๊ว” ทีหนึ่งแล้วบินจากไป

เจ้านาย?

นั้นหมายความว่าชายผู้นั้นเก่งกาจกว่าชายชุดรัดรูปใช่ไหม?

แย่แล้ว ทิศทางที่ชายเสื้อรัดรูปบินไปเป็นตำแหน่งที่ชายผู้นั้นอยู่ หมดกันหมดกัน ตามอารมณ์โกรธของชายผู้นั้น สามารถฝังเธอทั้งเป็นได้เลย

แต่ว่า……

ภารกิจควรทำอย่างไร

พอดีเวลานี้ เสียง “ติ๊ด” ดังขึ้นมาในสมอง ระบบเสียงหุ่นยนต์พูดขึ้น: “ภารกิจสำเร็จ ยาชั้นที่หนึ่งและอุปกรณ์เปิดเผยแล้ว เชิญเจ้านายตรวจสอบดู!”

ยังจะให้ตรวจดูอีก!

รีบหนีกันเร็วเข้า……

ผ่านไปสักพัก ที่ข้างต้นไม้ใหญ่

ชายชุดรัดรูปบินมาถึงข้างต้นไม้ใหญ่ เห็นเจ้านายตัวเองสภาพดูแย่มาก เขาที่มีสติดีเยี่ยมตกตะลึงไปสามวินาที

เจ้านายเป็นตำนานในสนามรบ สู้รบไม่เคยแพ้ ไม่มีอะไรโจมตีได้ ดวงตาที่แหลมคมสามารถทำให้คนเป็นตกใจตายได้ แม้แต่กษัตริย์ก็จะเคารพยกย่องเขา

แต่ว่าตอนนี้……

นี่คือชายรูปงามไม่ธรรมดา ดั่งเทวดาบนจุติบนโลกเจ้านายของเขาเหรอ?

“ยังไม่แก้มัดอีก?”

ใบหน้าเย่แจ๋หยิ่งมืดจนเหมือนหมึกจะหยดออกมาได้ ดวงตาช่างเยือกเย็นจนทำให้คนหวาดกลัว แต่เข้ารู้ว่าเพราะอะไรจื่อเฟิงถึงตกตะลึง?

ไม่จำเป็นต้องดูก็รู้ว่าเวลานี้มันอึดอัดใจแค่ไหน เพราะฉะนั้น ตอนนี้เขาอดใจรอไม่ไหวที่จะกำจัดนางบ้านั่นโดยทุกวิถีทาง

จื่อเฟิงเป็นหนึ่งในองครักษ์ลับที่ดีที่สุดของเย่แจ๋หยิ่ง!

หลังจากที่แก้มัดเจ้านายตัวเอง จื่อเฟิงเห็นเจ้านายเสื้อผ้าที่ใส่เหลือเพียงไม่กี่ชิ้น จึงรีบถอดเสื้อของตนยื่นให้เจ้านาย และพูดว่า:

“แฮ่ม เจ้านาย ที่นี่ลมแรง ระวังเป็นหวัดนะขอรับ”

เย่แจ๋หยิ่ง: “……”

(จบบทนี้)