ตอนที่ 7 การสังเกตการณ์ของเด็กสาวชาวเอลฟ์

ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ

[ อ- .อืมม ]

 

ฉันได้ตื่นขึ้นหลังจากรู้สึกถึงแสงแดดยามเช้าส่องมาโดนฉัน

ปกติแล้วเวลาฉันตื่นนอน ฉันไม่เคยมีหลงเหลืออาการง่วงนอนเลย 

มันเป็นความภูมิใจเล็กๆเลยนะ

เอาล่ะ ลุกขึ้นดีกว่า

 

[…..?!…. ]

 

ตอนที่ฉันลุกขึ้นนั้นเอง 

ความรู้สึกเจ็บไปทั่วตัวเลย 

ในตอนนี้ฉันกำลังคิดว่าเป็นเพราะอะไร

 แต่นึกออกได้ในทันที. .

 

ตอนนั้น. . ฉันกำลังอยู่ในระหว่างการผจญภัยของฉัน 

จู่ๆก็ถูกพวกออร์คน่าเกลียดล้อม 

ถึงจะพยายามสู้แล้วแต่ก็แพ้ในทันที 

หลังจากนั้นก็ถูกนำตัวมาที่รังของพวกมัน

อ่าในตอนนั้นมันดูเหมือนว่า. . 

 ฉันกำลังจะถูกข่มขืน 

จู่ๆก็มีแสงสว่างห้อมล้อมตัวฉันไว้ 

ใช่แล้ว

แสงในตอนนั้น มันราวกับเป็นแสงที่ส่องลงมาจากสวรรค์ 

ฉันรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของแสงนั้น . . .

ของแบบนั้นมันมีด้วยหรอในโลกแห่งนี้ ในขณะที่ฉันกำลังคิดอยู่ตอนนั้น ประตูก็ได้ถูกเปิดออกมา

 

[ อร้า. . ตื่นแล้วสินะจ้ะ ]

 

หญิงสาวผมสีน้ำตาลได้เปิดประตูไม้เดินเข้ามาในห้อง

 

[ ยังเจ็บตรงใหนรึปล่าวจ้ะ? ]

 

ผู้หญิงคนนั้นถามขึ้นขณะนั่งลงที่เก้าอี้ที่ข้างๆฉัน 

อ้อฉันตอนนี้ยังนั่งอยู่บนที่นอนนะ. . 

 

[ . . .นิดหน่อย..แต่.มะ.เป็น.ไร..พอ.ยับ..ได๋..บ้างละ ]

 

เห้อ ภาษา อิสเรียวฉันแย่จริงๆ 

แต่ก็นะ สำหรับคนที่ออกมาจากหมู่บ้านเอลฟ์ได้ 2-3ปี 

พูดได้เท่านี้ก็ถือว่าดีแล้วล่ะนะ 

อย่างน้อยฉันก็คิดว่างั้นนะ

 

[ ฟุฟุ นั้นก็ดีแล้วล่ะนะ ]

 

เธอยิ้มให้ฉัน

มันสวยราวกับดอกไม้เลย. . 

 

[ คุณ..ชื่อ..อะ..ไร ? ]

 

ผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นคนที่ช่วยฉันไว้นะ 

มันน่าจะดีถ้าฉันรู้จักชื่อของเธอ

 

[ ชั้นชื่อเชอรี่จ่ะ แล้วเธอละชื่ออะไรจ้ะ] 

[ ชื่อฉัน..ลิลลิลูริ..ใน..ภาษาบ้านฉัน..หมายถึง..รักษา..ผู้คน ]

[ จริงหรอจ้ะ เป็นชื่อที่ดีนะ วิเศษมากเลย ]

 

เธอตอบออกมาพร้อมกับยิ้มอย่างมีเสน่ห์ 

อุกก. .

ขนาดฉันที่เป็นเพศเดียวกันยังหลงรอยยิ้มนั้นเลย. . 

ฉันมั่นใจเลยล่ะ 

ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ช่วยฉันไว้

 

[ เชอรี่..ซัง..คือคน..ช่วยฉัน..รึคะ? ]

 

ฉันกำลังจะกล่าวขอบคุณเธอ แต่เธอเพียงส่ายหัวเล็กๆ

 

[ ปล่าวจ่ะ คนที่ช่วยเธอเป็นผู้ชายที่มาจากกิลด์ชื่อว่า ยูยะ ชิโระ  ]

 

——————————————-

 

[ เป็นเขา..ที่ช่วย..? ]

[ ใช่. . .ฟุฟุ แต่ตอนนี้เขาคงยังนอนอยู่ล่ะนะ ]

 

ในตอนนั้นฉันได้บอกว่าอยากจะกล่าวขอบคุณผู้ชายที่ช่วยฉันไว้ 

เธอก็ได้พาฉันไปอีกห้องหนึ่งในบ้านหลังนี้ในทันที. . 

แต่นั้นมันอะไรกัน

 

[ อุฮิฮิฮิ. . .เชอรี่ซัง คุณใส่ชุดนี้แล้วดูดีจัง รู้ตัวมั้ย จู้บบบ. . ]

 

ใบหน้าที่น่ารังเกียจของเขาตอนกำลังหลับ 

แสดงถึงสิ่งที่กำลังทำเรื่องสกปรกต่อคุณเชอรี่ในฝันของเขาอย่างแน่นอน. . 

 

[ ……. ]

 

ฉันได้สูญเสียถ้อยคำที่จะพูดไปแล้วค่ะ. . .

เอ่อ . .  

ฉันถูกช่วยไว้โดย. . 

 

ผู้ชายโรคจิต สินะ. . 

 

ผู้ชายที่ช่วยฉันไว้ เอ่อออ คนในประเทศนี้คงเรียกกันว่า (เจ้าชายขี่ม้าขาว) สินะ ฉันอยากจะกลับไปด่าตัวเองเมื่อ 2 นาทีก่อนที่เผลอจินตนาการไปแบบนั้น

 

[ อุอิ จุ้บ จุ้บ จุ้บ จุ้บ ]

[ ! ? ]

 

ตอนนี้ฉันรู้สึกความรังเกลียดเริ่มก่อตัวขึ้นในใจ

เขากำลังยื่นหน้าไปในอากาศ 

พร้อมกับยื่นริมฝีปาก 

และเริ่มทำบางอย่างเหมือนกับกำลังจูบอะไรบางอย่างอยู่

แน่นอนเลยในฝันกำลัง. . .

กับเชอรี่ซัง. . 

 

[ ฟุฟุฟุ เขาน่าสนใจใช่มั้ย ว่ามั้ยจ้ะ ]

 

ขณะที่ฉันกำลังตัวสั่นเพราะความขยะแขยง 

เชอรี่ซังก็พูดออกมาพร้อมกับหัวเราะนิดๆ

 

[ น่า. .สน . .ยังไง? ]

[ใช่แล้วเขาน่ะช่างแตกต่างจากผู้ชายทั่วๆไปรู้มั้ย อ้อ ลิลลิรูริยังไม่รู้เกี่ยวกับเขาสินะ อืมมม . . งั้นคอยดูนะจ้ะ ]

 

ในขณะที่ฉันกำลังสนใจคนที่ทำเรื่องสกปรกในฝันอยู่ตรงหน้า 

เชอรี่ซังหัวเราะเล็กและขยับไปไกล้พอที่จะกระซิบเขาได้

 

[ คุณจะกินข้าวก่อน รึอาบน้ำ หรือเป็น . . . ]

[ ผมต้องทานคุณเชอรี่ซังก่อนแน่นอน!!!!!!! . . . เอ๊ะ?. . . ผมกำลังทำอะไรอยู่เนี้ย ]

 

เขารู้สึกตัวทันทีเพียงแค่เชอรี่ซังกระซิบเท่านั้น 

เขาดีดตัวลุกขึ้นในทันทีเลยล่ะ 

แต่เหมือนเขาจะยังงงๆอยู่ 

คงเพราะในฝันตะกี้มันคงต่างกับความจริงตอนนี้ละมั้ง

 

[ ฟุฟุฟุ อรุณสวัสดิ์ ยูยะซัง อาหารเช้าเสร็จแล้วนะจ้ะ ]

[ ขอบคุณมากครับเชอรี่ซัง  เอ่ออ อาหารเช้าวันนี้เป็นอะไรหรอครับ ]

 

เขาในตอนนี้ที่ตื่นแล้ว ได้ตอบรับเชอรี่ซังด้วยบุคคลิกที่เปลี่ยนไปจนดูเหมือน”เด็กผู้ชายที่สุภาพ” เขาช่างดูเป็นมิตรดีจริงๆถ้าหากฉันไม่เห็นภาพก่อนหน้า ก็นะ

 

[ มันเป็นสตูเนื้อกระต่ายเขากวาง ชั้นตั้งใจทำมันมากเลยรู้มั้ย ]

[ จริงหรอครับ ผมชอบ (สตูของ) เชอรี่ซังครับที่สุดเลย ]

[ อุฟุฟุ ขอบคุณมากจ้า ว่าแต่เธอลงไปข้างล่างก่อนชั้นเลยได้มั้ย ]

[ ครับผม ]

 

หลังจากพูดอย่างงั้น เขาได้พุ่งลงไปในทันที

 

[ เห็นมั้ย ถึงเขาจะดูลามก แต่เขาก็พยายามซ่อนมันไว้ ซึ่งมันดูน่ารักดีนะว่ามั้ย ]

 

ฉันไม่เข้าใจเชอรี่ซังจริงๆ . . .

แต่ที่ชั้นมั่นใจเลย 

เชอรี่ซังคุณคงเป็นคนประเภทแอบร้ายแน่นอน. . 

 

———————————————

 

หลังจากตอนนั้น 

วันนี้ทั้งวัน 

ฉันว่าจะจับตาดูผู้ชายที่ชื่อ ยูยะ ชิโระ

 

ยูยะ ชิโระ 

ตอนนี้ดูเหมือนเขากำลังช่วยงานสวนของหมู่บ้านที่เราอาศัยอยู่

ในระหว่างที่กำลังช่วยงานสวนนั้นเขาดูขยันขันแข็งเหลือเกิน หรือการทำสวนมันสนุกก็ไม่รู้แต่ เขาขุดดินไปพร้อมกับฮัมเพลงไปตลอด ภาพของเขาที่แสดงให้เห็นทำให้ฉันเริ่มสนเขาเข้าบ้างแล้ว

แต่เมื่อเชอรี่ซังปรากฎ 

เขาจะมองเธอด้วยสายตาที่โลมเลียเธอไปทั้งร่างในทันที

ฉันคิดว่า. . 

 

เขาโรคจิตแน่นอน. . 

 

และอีกครั้ง ในขณะที่เขากำลังช่วยงานตัดไม้นั้นเอง

สิ่งที่เขาแสดงออกมานั้นต่อให้มือโปรแห่งการตัดไม้มาเห็นเป็นอันต้องช๊อคแน่ 

เขาผ่าต้นไม้ขนาดใหญ่ 

มันใหญ่เกินผู้ใหญ่จะโอบได้ ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว

เมื่อคุณไปดูไกล้ คุณจะเห็นรอยฟันอันหมดจน 

เพราะเขาใช้เพียงขวานที่คนตัดไม้ทั่วไปใช้กันเท่านั้นเอง. . .

มันช่างดูน่ากลัวจริงๆ. .

แต่เมื่อเขาได้รับคำชมจากเชอรี่ซังหลังจากได้ยินเรื่องนี้ 

ผู้ชายที่แสดงความแมนตะกี้ได้หายไป 

เหลือเพียงแต่ชายที่หัวเราะแบบแปลกๆพร้อมใบหน้าอันโรคจิต

ฉันคิดว่า 

 

ไอ้หมอนี่มันโรคจิตจริงๆ . . .

 

เมื่อถึงช่วงบ่ายๆ ยูยะ ชิโระได้มาเป็นเพื่อนเล่นกับเด็กๆในหมู่บ้าน

มันเป็นเกมส์วิ่งไล่จับ เมื่อเขาได้เป็นคนไล่จับ เขาไล่จับด้วยความเร็วในระดับผู้ชายธรรมดา แต่เมื่อเขากลายเป็นผู้ถูกไล่จับ เขาพยายามวิ่งช้าๆเพื่อเพิ่มความสนุกให้กับเกมส์

ด้วยสถานที่ที่จำกัด 

ทำให้เขาวิ่งไปจนมุมที่กำแพง

 มันดูตลกจนฉันหัวเราะออกมาเลยทีเดียว

แต่เมื่อเชอรี่ซังปรากฎเข้ามาในสายเขา 

เขาจะวิ่งไล่จับด้วยความเร็วแบบที่มนุษย์ไม่มีทางจะวิ่งได้ออกมาเลย. . 

เด็กๆถึงกับร้องขี้โกงออกมา ในความเร็วระดับนั้น แต่ก็ดูสนุกกันอยู่นะ 

ฉันตอนนี้เต็มไปด้วยความหงุดหงิดและคิดว่า”เพื่อที่จะโชว์ความเก่งของตัวเองให้คุณเชอรี่ซังเห็นถึงกับยอมทำลายความสมดุลของเกมเลยหรอห้ะ”

 

เขามันเกินเยียวยาจริงๆ. .  .

 

——————————————–

 

ตอนนี้ ยูยะ ชิโระ เขากำลังฝึกเหวี่ยงดาบไม้อยู่

หลังจากจบเกมกับเด็กด้วยชัยชนะอย่างขาดลอย เขาก็มุ่งหน้ากลับบ้าน ถึงแม้เด็กๆร้องขอว่าอยากเล่นต่อ แต่เขาก็บอกกับเด็กๆว่า ”ไว้พรุ่งนี้จะมาเล่นด้วยนะ” 

พร้อมกับยิ้มให้เหล่าเด็กๆนิดๆ 

ฉันมั่นใจได้เลยว่าเขาจะทำตามสัญญาแน่นอน

 

หลังจากส่งเหล่าเด็กๆกลับบ้านแล้ว 

เขาได้รับดาบไม้มาจากปู่ของเชอรี่ซังซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านและได้เริ่มต้นเหวี่ยงดาบไม้ทันทีที่สวนหลังบ้านของเชอรี่ซัง

เขาเหวี่ยงดาบไม้ 

ขึ้นและลง 

ซ้ำไปซ้ำมา 

มันเป็นอะไรที่น่าเบื่อมากและใช้เวลานาน. . 

ในตอนแรกนั้นฉันคิดว่ามันน่าเบื่อ 

แต่พอสังเกตดูเรื่อยๆแล้ว ฉันคิดว่ามันเป็นท่วงท่าที่สวยงามมากเลย

แม้ฉันเคยคิดว่าวิชาดาบมันออกจะดูป่าเถื่อน 

แต่พอได้เห็นการเคลื่อนไหวของเขาแล้ว มันดูราวกับเป็นสุดยอดงานศิลป์เลยทีเดียว

ในขณะที่เขากำลังฝึกเหวี่ยงดาบซ้ำๆอยู่นั้นเอง 

จู่ๆเขาก็แทงดาบลงที่พื้นแล้วก็ถอดเสื้อของเขาออก. . !!!

อุก ถ. ถอดเสื้อในที่สาธารณะ!! 

 

เขามันโรคจิตตัวพ่อแน่ๆ!!

 

ในขณะที่ฉันตื่นตระหนกอยู่นั้น เขาได้โยนเสื้อที่ถอดออกของเขาลงพื้น 

 

[ ตุบ… ]

 

มันเป็นเสียงที่ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเสื้อตกพื้นจะทำเสียงแบบนั้นออกมาได้

เป็นเพราะเสื้อของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อจำนวนมาก 

และนั้นเองมันทำให้เขาต้องถอดมันแล้วโยนทิ้งไปเพราะว่ามันหนัก

กล้ามเนื้อได้ปรากฎภายใต้เสื้อของเขา มันดูอัดแน่นไปด้วยพละกำลัง

ถึงฉันจะพูดไปอย่างงั้นแต่เขากลับดูไม่อ้วนเลย

 ร่างกายของเขาราวกับถูกสร้างมาด้วยกล้ามเนื้อของสัตว์ประหลาดและนั้นมันทำให้เขาเคลื่อนไหวได้รวดเร็วราวกับสายลม ไม่ใช่เพราะชอบเขาหรอกนะ แต่เพราะกล้ามนั้น มันทำให้ฉันไม่สามารถละสายตาไปจากเขาได้เลย

หลังจากถอดเสื้อแล้วเขาก็ไม่ได้ฝึกเหวี่ยงดาบต่อ 

ดูเหมือนเขาจะฝึกต่อสู้กับศัตรูในจิตนาการแทน

 

“ฟวับ””ฟวับ” 

 

มันเป็นเสียงของดาบไม้เวลาเหวี่ยงตัดลมด้วยความเร็ว

ตอนเขาฟันดาบไปในที่ว่างเปล่านั้นสายตาของเขาช่างดูเฉียบคมเหลือเกิน

มันทำให้ฉันจำได้ เพราะสายตานั้นมันทำให้ฉันสั่นเวลาถูกจ้องด้วยสายตาแบบนั้น

สายตานั้นมันกำลังบอกว่า “ถึงพวกแกจะขยับตัวเพียงน้อยนิดฉันก็เห็นมันนะ”

ใครก็ตามที่ถูกมองด้วยสายตาแบบนั้นจะต้องรู้สึกแบบ ”โดนฆ่าแน่” 

และนั้นมันทำให้รู้สึกกลัวจนหมดกำลังใจที่จะสู้แน่นอน

มันทำให้ฉันรู้สึกว่า 

เขาเหมือนกับงู 

ที่จ้องเหยื่ออยู่ตรงหน้า 

มันน่ากลัวจนขยับไม่ได้เลย 

มันไม่มีทางเลยที่จะลืมความหวาดกลัวนั้น. . 

และนั้นมันทำให้การต่อสู้ได้ถูกตัดสินไปแล้ว

ในขณะที่ฉันกำลังคิดว่าเขาน่ากลัวอยู่นั้น 

ความคิดนั้นก็ถูกทำลายลงในทันที

 

(ยิ้ม)

 

เขายิ้มด้วยล่ะ

มันไม่ไช่รอยยิ้มที่พร้อมจะฆ่าคนนะ 

แต่มันเป็นรอยยิ้มที่เหมือนกับคนที่สนุกเวลาได้ต่อสู้ 

ใช่แล้ว มันเหมือนกับรอยยิ้มของเด็กๆ. . 

 

“ ตึก ๆ”  

 

อ่า นั้นเสียงใจฉันกำลังเต้นแรง

ฉันว่าฉันโง่มากเลยที่คิดว่าการต่อสู้ได้ถูกตัดสินไปแล้ว

มันไม่ถูกต้องซะทีเดียว

ใช่แล้ว ใครกันจะไปกล้าสู้หลังจากถูกจ้องด้วยสายตาที่พร้อมจะฆ่าแบบนั้น 

ไม่มีใครอยากไปเป็นศัตรูกับเขาหรอกนะ

ฉันว่าเขาต้องอดทนรอนานมากๆเลย 

กว่าจะมีนักดาบชั้นหนึ่งมายอมสู้กับเขาสักคน

ดังนั้นการมีรอยยิ้มบนใบหน้า 

มันทำให้ฝ่ายตรงข้ามผ่อนคลายและสนุกไปกับมัน

ถ้ามีคู่ต่อสู้อยู่ตรงหน้าเขาขณะนี้ 

ฉันกล้าพูดเลยว่ามันจะเป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมแห่งศตวรรษกำลังจะเริ่มขึ้นตรงหน้าฉัน

และนั้นมันทำให้ฉันรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เห็นคู่ต่อสุ้ในจิตนการของเขานอกจากเพียงความว่างปล่าว . . .

 

“ฟวับ”

 

ฉันสงสัยว่ามันนานเท่าไรแล้วหลังจากเขาเริ่มฝึกดาบ 

เสียงของดาบไม้เวลาตัดผ่านลมดังกึกก้องไปทั่ว 

และทันได้นั้นจู่ๆ ดาบไม้ก็หยุดลงกลางอากาศ 

ร่างกายเขาไม่ขยับราวกับเวลานั้นหยุดนิ่ง

และนั้นผลการต่อสู้ได้ถูกตัดสินแล้ว

ฉันรู้ได้ทันทีดาบที่ถูกหยุดอยู่ในอากาศนั้้นต้องจ่อที่คอของคู่ต่อสู้แน่นอน

จะมีใครว่าฉันมั้ยถ้าฉันหลงคิดไปว่าดาบไม้อันนั้นเป็นดาบสุดยอดที่ถูกสร้างโดยช่างตีดาบในตำนาน?

หลังจากได้ดูสุดยอดการต่อสู้แล้ว 

ฉันนั้นเผลอลุกขึ้นตบมือให้ทั้งสองคนในทันที”ถึงจะมองไม่เห็นอีกคนก็เถอะ”

 

“!!!!”

 

เขามองมาที่ฉัน !!

 

“ตึกๆ” 

 

ฉันรู้สึกตึกๆที่อกอีกแล้ว . .

ตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ 

คงเพราะไม่คิดว่าจะมีใครดูอยู่หรอกมั้งนะ

 

“. . . .”

 

เอ่อออ . . 

ฉันเผลอไปทำลายโลกส่วนตัวของทั้ง2คนรึปล่าวนะ”ถึงอีกคนจะอยู่แค่ในจินตนาการ” 

แต่เขากับยิ้มออกมาอย่างเขิลอาย มันก็เหมาะกับวัยของเขาดีนะ . . 

หัวใจฉันได้ถูกขโมยไปแล้ว. . .

 

“ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ๆ ๆ” 

 

มันไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

ที่อกของฉันมันเต้นตึกๆไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

เกิดอะไรขึ้น . .

อกชั้น ทำไมมันเต้นแรงขนาดนี้. . 

ใบหน้าที่ร้อนผ่าวและหายใจแรงติดขัด . .

มันคืออะไร. . 

 

ขณะที่ฉันกำลังตื่นตระหนกเกี่ยวกับสิ่งที่ผิดปกติในร่างการฉัน

เชอรี่ซังก็ออกมาจากบ้านผู้ใหญ่บ้านพร้อมเรียกพวกเราให้เข้าไปทานอาหารเย็น

บรรยากาศของความกล้าหาญ

 และเฉียบคมที่แผ่ออกมาจากตัวเขาถูกโยนทิ้งไปพร้อมกับดาบไม้ในทันที 

ตอนนี้เหลือเพียงชายที่วิ่งไปหาเชอรี่ซังด้วยใบหน้าหื่นกระหาย . .  .

หลังจากเห็นภาพนั้น. .  

ไม่รู้ว่าทำไมฉันรู้สึกเสียใจมากกว่าขยะแขยงกันนะ 

มันเจ็บที่อกเหมือนมันจะระเบิดออก . . . 

แม้ฉันจะมีหยดน้ำตาเพราะความเจ็บปวดนั้น 

ถึงอย่างงั้นฉันก็ยังเดินไปหยิบเสื้อของเขาที่โยนทิ้งไว้ . . 

มันแปลกมาก เหมือนกับความเจ็บปวดตะกี้มันเบาลง. . 

เขามัน. . 

 

โรคจิตสินะ . . 

 

บางที

————————-

 

[ ฟูววววว ]

 

หลังจากทานอาหารเย็น. . .

 ฉันถอนหายใจเล็กๆในห้องของฉัน 

ในขณะที่กำลังจะนอนเพราะเมื่อเช้าตื่นเร็วกว่าปกติไปหน่อย

ขณะที่ฉันกำลังนั่งลงที่เตียง “ก๊อกๆ” ประตูได้ถูกเคาะขึ้นมา

 

[ ขะ.เข้า มา- ได้ ]

[ ฟุฟุ ]

 

เป็นเชอรี่ซังเองที่โผล่มาจากประตูนั้น

 

[ เขาเป็นยังไงบ้าง . .  เขาดูเหมือนคนไม่ดีมั้ย ]

 

เหมือนกับเมื่อเช้า เธอนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงพร้อมกับถามฉันด้วยรอยยิ้ม

 

[ ไม่ . .ทั้ง-หมด . .สะทีเดียว ]

 

ฉันเข้าใจได้หลังจากได้มองเขามาตลอดวัน 

แม้เขาจะดูเหมือนผู้ชายทั่วๆไป

แต่ดูเหมือนเขาจะคิดอกุศลเวลามองผู้หญิง 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลามองเชอรี่ซัง 

แต่เขาก็ไม่ได้ชั่วร้ายอะไร. . 

บางที อาจจะมีหลายๆคนชอบเขาก็นะ . . .

ก็บุคลิกของเขาเวลาแสดงออกมันทำให้คิดอย่างงั้นนะ

ยังไงนะหรอ . . 

ก็จากที่เขาขยันขันแข็งมีน้ำใจช่วยงาน 

ใจดีกับเด็กๆและแสดงความกล้าหาญตอนที่จับดาบไม้ นั้นและมั้ง

สำหรับโลกในตอนนี้

ถ้าหากเขามีความทะเยอทะยานละก็ 

คำว่าผู้กล้ามันไม่ยากเลยสำหรับเขา 

เพราะสิ่งที่เขาแสดงออกมามันมากเกินพอสำหรับสิ่งที่ฉันคิด. .

 

[ จริงนะ มันฟังดูเยี่ยมไปเลยนี่ สำหรับเธอที่ถูกช่วยไว้โดยผู้ชายคนนี้ ]

[ !?@]

 

ในคำพูดของเธอนั้นเอง 

มันทำให้ฉันนึกขึ้นได้และยืนขึ้นทันที . . .

ใช่ , 

ใช่แล้ว . . .

 ฉันยังไม่ได้พูดคำๆนึง 

คำว่า. .

 ขอบคุณกับเขาเลย

ฉันมัวทำบ้าอะไรอยู่กันนะ

เขาช่วยฉันไว้ 

ช่วยศักดิ์ศรีของฉัน . . .

ช่วยฉันจากความรุนแรงและข่มขืน 

ฉัน. . 

ฉันยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลยสักคำ . .

แล้วทำไมฉันมัวแต่(ตรวจสอบ)คนที่ช่วยชีวิตฉันกันนะ . . .

ฉันทำแบบนั้นไปได้ไงกัน . . .

มันกลายเป็นฉันไม่ชอบเขาไปได้ไงกัน . . .

 

[ . . . .! . . ]

 

ฉันวิ่งออกไป . . 

ฉันต้องการพบเขาตอนนี้ . . 

และกล่าวขอบคุณกับเขา . . 

 

[ ฟุฟุ ]

 

การเห็นรอบยิ้มของเชอรี่ซังก่อนออยู่จากห้องในตอนนั้น 

มันทำให้ฉันอยากจะชอบคุณเธอลึกๆอยู่เหมือนกัน . . .

 

———————-

 

[ ก๊อกๆ ]

 

ฉันเคาะไปที่ห้องที่คิดว่าเขาน่าจะอยู่ . .

 

[ คร้าบบบบบบบ ]

 

พร้อมเสียงที่ยืดยาว เขาเปิดประตูพร้อมกับโผล่ออกมาครึ่งตัว 

 

[ อ่า . .เอ่ออคุณคือ . . . ]

 

มันช่วยไม่ได้ที่เค้าจะไม่รู้จักชื่อของฉัน 

เพราะฉันไม่เคยบอกกับเขา 

ก็ฉันมัวแต่ตรวจสอบเขาตลอดทั้งวันนี้

 

[ มันคือ . . .ฉัน อยาก จะพูด ขอบคุณ ]

 

ในตอนนั้น ฉันได้แต่กล่าวสาปแช่งในความอ่อนแอในภาษาของฉัน

ฉันไม่สามารถถ่ายถอดมันออกมาได้ดีพอ

ไม่ว่าจะรู้สึกโกรธ หรืออยากขอบคุณ

ฉันสื่อมันออกมาไม่ถึงพวกเขาเลย. . 

ในขณะที่ฉันกำลังกังวลอยู่นั้น 

จากเขายิ้มเล็กๆได้ยิ้มกว้างขึ้นมา . . .

 

[ ตอนนี้,ผมอยากจะรู้ชื่อของเธอมากกว่านะ ]

“ตึกๆ”

 

อร้าาา เสียงที่คิดถึง 

เอ่ออหมายถึง. . .

คำพูดที่เขาตอบมา 

มันเป็นภาษาที่บ้านเกิดฉันใช้กัน

และมันเป็นภาษาที่ฉันใช้ได้ดีที่สุด ฮิฮิ

 

[ คุณรู้ภาษาAlexelia(a-lek-se-li-a) ]

 

ฉันมั่นใจได้เลยว่ามันเป็นภาษาอเล็กซีเรีย มันเป็นภาษาที่ใช้ในหมู่เอลฟ์

 

[ ใช่แล้ว พอดีผมมีเพื่อนสนิทเป็นเอลฟ์ชายคนหนึ่ง ดูเหมือนจะเถียงกับเขาอยู่ตลอดผมเลยต้องเรียนมัน ]

 

เขาว่ามาอย่างงั้นพร้อมกับขยิบตาให้ 

มันทำให้ฉันหัวเราะออกมาเล็กๆ . . .

 

[ ผมยูครับ , ยู ยาชิโระ ]

[ อะ!]

 

เพราะเขาพูดออกมากะทันหัน 

มันทำให้ฉันไม่เข้าใจที่เขาสื่อออกมาตอนนั้น

 

[ ชื่อของเธอคือ . . .? ]

 

อ้อ เขาถามชื่อฉันนั้นเอง 

ทำไมนะตัวฉันทำไมไม่รู้สึกตัวให้เร็วกว่านี้นะ

 

[ ลิลลิรูริ, ชื่อของฉันคือลิลลิรูริ!!! ]

 

ฉันตอบเขาออกไปโดยอัตโนมัติ . . .

 

[ หืมม รักษาผู้คนหรอ . . . เป็นชื่อที่ดีนะ ]

 

และนั้น . .

 เขายิ้มด้วยล่ะ ><

————————–

TL: ได้รับเอลฟ์โลลิ 1 ea