บทที่ 8 เทเลพอร์ตอีกครั้ง

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

บทที่ 8 เทเลพอร์ตอีกครั้ง

บทที่ 8 เทเลพอร์ตอีกครั้ง

ภายหลังหลิ่วเหยียนเอ๋อร์กลับไป อู๋ฝานจึงวิ่งออกกำลังกายต่อ ก่อนจะกลับไปที่ห้องเช่าของตัวเอง

เพราะต้องขายบาร์บีคิวในช่วงกลางวัน อู๋ฝานจึงใช้เวลาไปกับการเสียบไม้ผักและเนื้อสารพัด มันเป็นงานที่ต้องใช้เวลา แม้ว่าอู๋ฝานอยู่ห้องเช่า แต่ตัวบ้านมีสามห้องนอนและหนึ่งห้องนั่งเล่น ห้องอื่นยังว่าง และที่โถงบ้านมีตู้เย็นอยู่ เพราะไม่มีคนอื่นอาศัยอยู่ที่นี่ วัตถุดิบที่อู๋ฝานซื้อมาจึงมักแช่เอาไว้ในตู้เย็นดังกล่าว กิจการของเขาคอนข้างเล็ก วัตถุดิบที่ซื้อหามาจึงไม่มาก ตู้เย็นเล็กก็เพียงพอรองรับ

“หากนำผักและเนื้อออกมาจากอีกโลกหนึ่งได้ ก็คงไม่ต้องซื้อของพวกนี้แล้วมั้ง? ค่าใช้จ่ายคงลดไปได้เยอะ” อู๋ฝานครุ่นคิดพลางลงมือทำไปเรื่อย

มันเป็นแนวคิดที่ดี ในเมื่อสามารถนำไก่ออกมาได้ ของสิ่งอื่นก็ย่อมนำออกมาได้เช่นกัน เพียงแต่เขายังไม่รู้จักอีกโลกหนึ่งดี ดังนั้นจึงไม่ทราบข้อมูลเชิงลึกของวัตถุดิบเหล่านั้น ส่วนคำถามที่ว่าวัตถุดิบเหล่านั้นทานได้หรือไม่ อู๋ฝานไม่คิดกังวล เพราะไก่ที่เขานำออกมาทานได้ รสชาติก็ยังดี นอกจากนี้กระเป๋าหลังยังค่อนข้างพิเศษ ไก่ที่เก็บเอาไว้ด้านใน ไม่เพียงรสชาติลดเลือน แต่ยังร้อน รสชาติไม่ได้หายไปแม้แต่น้อย ดังนั้นหากนำวัตถุดิบอื่นใส่เอาไว้ย่อมไม่น่าเกิดปัญหา

ในช่วงเย็น อู๋ฝานออกไปข้างนอกอีกครั้ง ตั้งร้านแผงลอยและเริ่มทำบาร์บีคิว ก่อนที่อีกโลกหนึ่งจะสามารถเปลี่ยนชีวิตเขาได้ อู๋ฝานไม่กล้าเปลี่ยนแปลงชีวิตที่ยังดำเนินอยู่นี้ หากไม่แล้วเกรงว่าเขาจะยากเอาชีวิตรอด

กิจการในช่วงเย็นยังคงเงียบเหงา อู๋ฝานมองยังร้านบาร์บีคิวตรงข้ามถนนด้วยความอิจฉา พลางครุ่นคิดในใจว่าหากเมื่อใดร่ำรวย เขาจะซื้อร้านเป็นหลักแหล่งสักแห่งหนึ่ง พื้นที่กว้างขวาง บรรยากาศต้องดี เขาเชื่อว่าถึงเวลานั้นลูกค้าจะไหลมาเทมายิ่งกว่าปัจจุบัน

ในอดีต ตัวเขาคงทำได้เพียงคิดฝัน มันยากที่จะทำให้เป็นจริง อย่างไรแล้วโชคของตัวเขาก็ถือว่าเลวร้ายมาโดยตลอด ไม่ทราบด้วยซ้ำว่าแผงลอยขายบาร์บีคิวนี้จะเจ๊งเมื่อไหร่

เพียงแต่ ด้วยแหวนที่แสนพิเศษในปัจจุบัน ทุกสิ่งอย่างได้แปรเปลี่ยน การเปิดร้านไม่ใช่ฝันที่ไกลเกินเอื้อม

หากชายชราคนที่มอบแหวนให้อู๋ฝานทราบ ว่าภายหลังอู๋ฝานได้รับแหวนคิดเพียงแค่เปิดร้านก็พึงพอใจแล้ว เขาคงต้องกลอกตามองตอบด้วยความโมโหโกรธาเป็นแน่

เมื่อกลับถึงที่พัก มันก็เป็นช่วงหลังตีหนึ่งไปแล้ว ภายหลังอาบน้ำเรียบร้อย อู๋ฝานจึงนอนทิ้งกายลงกับที่นอนอีกครั้งหนึ่ง อารมณ์ความรู้สึกค่อนข้างตื่นเต้นยินดี พลิกแหวนในมือไปมา ก่อนจะเอ่ยคำร่าย “เทเลพอร์ต” อยู่ในใจ

มันเป็นวิธีการที่ชายชราสอนให้เขาทราบ แน่นอนว่าเพียงอึดใจ ความมืดอันคุ้นเคยก็ปรากฏตรงหน้าสายตาของอู๋ฝานอีกครั้ง มันไม่มีแสงใดทั้งสิ้น มีแต่ห้วงความมืดหนาทึบปกคลุมทั้งร่างกาย ทำให้ตัวเขาเกิดความรู้สึกไม่ใคร่สบายเท่าใดนัก

โชคดีที่ความรู้สึกดังกล่าวผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว เพียงวินาทีถัดมา หมู่บ้านอันคุ้นเคยก็ปรากฏตรงหน้าสายตา

หากเทียบเปรียบกับเมื่อวานตอนที่เสียศูนย์เพราะมาเป็นครั้งแรก อู๋ฝานวันนี้เตรียมใจมาก่อนแล้ว ทว่าก็ยังคงตื่นเต้น เพราะเขาทราบว่าแหวนวงนี้กำลังจะเปลี่ยนโชคชะตาของตนเองได้จริง จะทำให้เขาได้บอกลาชีวิตที่เคยเป็นมา

แน่นอนว่า ตามคำกล่าวของชายชรา เทพสวรรค์เพียงมอบโอกาสการเปลี่ยนโชคชะตาให้แก่ตัวเขา ส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเองว่าจะเปลี่ยนโชคชะตาเป็นเช่นไร

อู๋ฝานที่ตื่นเต้นยินดีรีบเดินเข้าไปยังบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน อู๋ฝานค่อนข้างพึงพอใจต่อวิชาตรวจสอบที่ได้รับจากหัวหน้าหมู่บ้านเมื่อวานที่ผ่านมา ดังนั้นจึงคิดอยากเสาะแสวงสมบัติจากหัวหน้าหมู่บ้านเป็นการเพิ่มเติม

“ปู่หัวหน้าหมู่บ้าน ผมมาแล้ว มีภารกิจอะไรให้ผมไปทำไหม?”

“ภารกิจ? ไม่มี ไม่มี รีบไปไหนก็ไป ข้าไม่อยากเห็นเจ้า” อู๋ฝานที่กำลังตื่นเต้นยินดี หัวหน้าหมู่บ้านหาได้ยินดีในยามที่พบเห็นอู๋ฝานไม่ เห็นได้ชัด ว่าเขายังจดจำเรื่องที่อู๋ฝานขู่เข็ญเอาวิชาตรวจสอบไปเมื่อวานได้อยู่

“ไม่เอาแบบนี้สิครับ หัวหน้าหมู่บ้าน พวกเราก็เป็นคนคุ้นเคยกันดี พูดจาตอบแบบนั้นเหมือนจิ้มลงที่หัวใจผมเลยนะ” อู๋ฝานพูดด้วยท่าทีประจบประแจง “ถ้ามีภารกิจอะไร ขอเพียงบอก มีรางวัลหรือว่าไม่มี ค่อยว่ากันตามเหมาะสมเห็นสมควรก็ได้ครับ”

“พูดจริงหรือ?” พบเห็นท่าทีของอู๋ฝานแปรเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน หัวหน้าหมู่บ้านแสดงชัดว่าไม่คิดเชื่อ เขายังจำได้ชัดว่าอู๋ฝานเค้นถามเรื่องรางวัลด้วยสีหน้าขึงขังเช่นไร ทั้งยังยืนกรานร้องขออาวุธเทพ สัตว์เทพ หรือพรเทพอะไรทำนองนั้น มีหรือคนเราจะเปลี่ยนกันได้โดยง่าย?

“ก็ต้องเป็นแบบนั้นสิครับ!” อู๋ฝานตบหน้าอกตนเอง “คนเราควรต้องใจกว้าง หากไม่ขยับแข้งขาลงมือมีหรือรางวัลจะเดินมาหา? ไม่มีทางอยู่แล้ว!”

แม้ว่าเขาเพิ่งเข้ามายังโลกแห่งนี้เป็นครั้งที่สอง อู๋ฝานก็ได้พบว่าแม้มันจะเป็นโลกแห่งเกม แต่ผู้คนที่นี่ก็มีชีวิตอยู่จริง ไม่ใช่เพียงกลุ่มก้อนข้อมูล พวกเขามีอารมณ์ ความนึกคิด และโลกนี้ก็เป็นโลกจริงอีกแห่งหนึ่ง

ดังนั้นแล้ว การสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องมีแต่เสีย ยิ่งไปกว่านั้นหากหัวหน้าหมู่บ้านมอบหมายภารกิจให้จริง เขาก็ต้องได้รางวัลบ้างไม่มากก็น้อย เหมือนดังป้าใหญ่หวังที่ก่อนหน้านี้ให้ไก่มาถ้วยหนึ่ง อย่างไรอู๋ฝานก็ยังเป็นมือใหม่ถอดด้าม เขาต้องการทุกสิ่งอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่คิดเลือกงาน

“ก็ถูก ถูกต้องแล้ว ข้ามองคนไม่ผิดจริงด้วย” หัวหน้าหมู่บ้านเฒ่าชราคล้ายจะเชื่อคำของอู๋ฝานแล้ว ทั้งยังพึงพอใจกับท่าทีของอู๋ฝาน “เพียงแต่ ตอนนี้ข้าไม่มีภารกิจอะไรจะมอบหมายให้ไปทำ ลองไปหาตาแก่หลี่ดูก่อนก็แล้วกัน”

“ตาแก่หลี่?” อู๋ฝานชะงัก

“เป็นอาจารย์ปรุงยาของหมู่บ้านเรา แม้ว่าหมู่บ้านนี้ไม่ได้ใหญ่โต แต่ไม่ได้ขาดแคลนอาจารย์ปรุงยา คนทำอาหาร และช่างตีเหล็กแต่อย่างใด อีกทั้งพวกเขายังถือเป็นตัวตนสุดยอดกันทั้งสิ้น ต่อให้เฟ้นหาทั่วทั้งทวีปแห่งนี้ พวกเขาก็ถือเป็นจุดสูงสุดแล้ว!” หัวหน้าหมู่บ้านเฒ่าชรากล่าวอย่างภาคภูมิ ใบหน้าแทบจะเผยประกายประดับบารมีออกมา ในทางตรงกันข้าม ในสายตาของอู๋ฝานนั้นกำลังมองคนที่คุยโวเรื่อยเปื่อย

โม้เหม็น!

อู๋ฝานเพียงกล่าวกับตนเองอยู่ภายใน ที่แห่งนี้เป็นเพียงหมู่บ้านมือใหม่ ตามประสบการณ์การเล่นเกมในอดีต หมู่บ้านมือใหม่ย่อมเป็นสถานที่ของมือใหม่ เป็นสถานที่ซึ่ง ‘ผู้เล่น’ จะทำความคุ้นเคยกับ ‘เกม’ และ ‘ผู้เล่น’ จะไม่อยู่ในสถานที่เช่นนี้นานนัก ผู้คนที่นี่จะได้รับก็เพียงภารกิจพื้นฐาน และ ‘ตัวละครระบบ’ ของที่นี่ย่อมไม่ใช่ยอดฝีมือผู้เก่งกาจแต่อย่างใด อู๋ฝานเพียงคิด ว่าหัวหน้าหมู่บ้านเฒ่าชราก็เพียงอยากยกยอหมู่บ้านตนเองก็เท่านั้น

เพียงแต่ อู๋ฝานไม่อาจกล่าวคำใดออกมา เขาไม่คิดฉีกหน้าอีกฝ่าย หากไม่แล้วหัวหน้าหมู่บ้านเฒ่าชราคงอับอายจนไล่ตะเพิดเขาออกไปแน่ ตัวเขาตอนนี้ที่ยังอ่อนแอ หากต้องออกจากหมู่บ้านมือใหม่ คงต้องประสบพบเจอเรื่องราวเลวร้ายที่ภายนอกอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

ภายหลังได้ทราบที่อยู่ของ ‘ตาแก่หลี่’ จากปากคำของหัวหน้าหมู่บ้านเฒ่าชรา อู๋ฝานจึงตัดสินไปลองดู แม้หัวหน้าหมู่บ้านไม่มีภารกิจอะไรมอบหมาย แต่ไม่ใช่กับคนอื่น ขอเพียงมีภารกิจมอบให้ เขาก็ไม่คิดเกี่ยง