ตอนที่ 14 โลลิตัวเล็กที่ถูกกักบริเวณในห้องสวีทชั้นบน

[นิยายแปล(WN)] โลลิเฮดช็อต TS shitakara kakurete danjon ni mogutteta boku ga aidoru-tachi ni mi bare shite yūmei haishin-sha ni naru hanashi

ตอนที่ 14 เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ (ผม) ที่ถูกกักบริเวณในห้องสวีทชั้นบน

 

“เห้ ที่นี่ดูดีมากเลย”

 

“นี่คือสถานที่ที่ดีที่สุดในการควบคุมรักษาความลับอย่างสมบูรณ์แบบค่ะ”

 

“ว้าว สุดยอด ที่นี่มีกี่ชั้นกันครับ”

 

“ระ……หลายแสนเยนต่อคืน……เป็นจำนวนเงินที่แม้แต่ฉันก็ยังรู้สึกหน้ามืด……”

 

หลังจากแลกเปลี่ยนความประทับใจที่โรงพยาบาล「ในตอนนี้ไม่มีสิ่งใดแย่เป็นพิเศษ หากจะมีก็เพียงแค่ต้องระวังเรื่องการดื่ม」 มิคาสุกิซังก็พาผมมาที่โรงแรมขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง

 

“นอกเหนือจากค่าชดเชยสำหรับฮารุซังแล้ว ทางบริษัทยินดีที่จะจ่ายค่าความไม่สะดวกนี้แยกกันต่างหาก ดังนั้นไม่ต้องกังวลไป…….นั่นคือสิ่งที่เมเนเจอร์ฝากบอกมาค่ะ ขอให้อยู่ที่นี่จนกว่าจะประเมินสถานการณ์คร่าว ๆ ได้ว่าเป็นยังไงต่อไป ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเป็นอย่างมากที่สุด”

 

“1 เดือน…….ไม่นานไปหน่อยเหรอครับ?”

 

“ก็เพราะฮารุจังกำลังเป็นคนดังไงล่ะ!”

 

“ก็เพราะรุรุด้วยถึงได้ดึงดูดผู้คนได้มากขนาดนี้ล่ะนะ”

 

“อะ”

 

พูดอีกอย่างหนึ่ง ผมสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศ และสามารถดื่มอะไรก็ได้ที่ต้องการจากภายในตู้เย็นโดยไม่ต้องลังเลสิน๊า

 

 

“……………………………………”

 

…….ผมรู้สึกว่าดวงตาของรุรุซังเปล่งประกายแปลก ๆ ดังนั้นผมจะปริมาณที่พอเหมาะ

 

“ฮารุซัง……อะ ขอโทษค่ะ โซยะซัง”

 

“ฮารุก็ได้ครับ คุชิมะซัง นอกจากนี้ถ้าคุณบังเอิญเรียกผมว่าโซยะข้างนอก ตัวตนเดิมของผมก็จะถูกเปิดเผยได้นะครับ”

 

“……จริงด้วยนะคะ”

 

ชื่อ「ฮารุ」ของผมดูเหมือนว่าจะได้รับการลงทะเบียนเป็นคนละคนกับ「โซยะ ฮารุมิ」เพื่อเป็นมาตรการชั่วคราว 

 

แม้ว่าทะเบียนครอบครัวยังคงเหมือนเดิม แต่ก็มีตัวตนชั่วคราว

 

ผมควรทำยังไงกับนามสกุล……ไม่สิ ถ้าต้องใช้ เดี๋ยวก็มีคนจัดการให้เองจริงไหม

 

ผมทิ้งทั้งเรื่องร่างกายของผม ทั้งเรื่องน้ำพุอธิษฐานในดันเจี้ยน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของบริษัท ซึ่งพวกเขาจะดูแลเรื่องทางสังคมทั้งหมดให้ด้วย

 

หากผมใช้ชีวิตในร่างเด็กยาวนานเกินไป และดูท่าจะไม่สามารถกลับไปเป็นอย่างเดิมได้ ผมก็จะสามารถเลือกภูมิหลังได้ว่าอยากจะใช้ชีวิตเป็นคนใหม่หรือดำเนินชีวิตต่อไปในฐานะผู้ชาย

 

เกี่ยวกับเรื่องนั้น……ผมคงต้องกลับบ้านเร็ว ๆ นี้ และคุยกับพวกเขาอีกสักครั้ง

 

ผมแน่ใจว่าถ้ามีคนใหญ่คนโตมาช่วยเล่ายืนยันเรื่องเกี่ยวกับตัวผม พวกพ่อแม่และคนอื่น ๆ ก็น่าจะเชื่อผม

 

ท้ายที่สุดแล้วก็ควรมีผู้ใหญ่ที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ด้วย ไม่ใช่แค่เด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบนี้

 

แต่การรักษามิตรภาพตอนนี้

 

ผมเข้าใจดีว่า มีเพียงแค่สมองของผมเท่านั้นที่ไม่ใช่สาวน้อย……บางทีต่อจากนี้ไป ผมคิดว่าการสืบสวนระดับชาติ……โดยสมาคมดันเจี้ยนเกี่ยวกับผม เกี่ยวกับตัวตนก่อน――ผู้ชาย กำลังจะเริ่มต้นขึ้น

 

ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผมหนีไป คุชิมะซังและคนอื่น ๆ อาจจะตัดสินใจที่จะเชื่อไว้ก่อน และในระหว่างนั้นก็จะมีการตรวจสอบว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่

 

นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเด็กผู้หญิงมาที่อพาร์ตเมนต์ของผมด้วยกัน และปฏิบัติต่อผมโดยไม่สงสัยในตัวผม

 

ก็แบบน่าตลกใช่ไหมล่ะ?

ผู้ชายกลายเป็นสาวน้อยเลยนะ?

 

ปกติแม้แต่ผมก็ยังไม่เชื่อเลย…….คิดว่านะ

 

อย่างน้อยผมอาจจะแอบรายงานไปอย่างลับ ๆ

ว่า「เจอเด็กผู้หญิงที่ท่าทางพิลึก」

 

บางทีผมอาจจะคิดมากเกินไปก็ได้ แต่ผมคิดว่าคนรุ่นเก่านอกจากเด็กสาวพวกนี้ก็น่าจะคิดแบบเดียวกันกับผม

 

ม๊า ไม่เป็นไรหรอก ปล่อยให้คนที่หัวดีกว่าจัดการเรื่องยุ่งยากไป

 

นอกจากเรื่องเบื้องหลังแล้ว ผมยังสามารถฝากเรื่องยุ่งยากอื่น ๆ ไว้กับมิคาสุกิซังกับฟุคายะซัง……ดูเหมือนว่าเอมิซังกับรุรุซังจะสามารถไปกลับบริษัทจากที่นี่ได้ด้วย ส่วนผมแค่พักผ่อนอยู่ที่นี่ แบบนี้ก็ดี

 

ถึงจะบอกว่าผมต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องของรุรุซัง แต่นอกเหนือจากอาการขาดพลังเวทย์ และสมรรถภาพที่แย่ลงแล้ว ก็ไม่มีความเสียหายอะไรอีกนอกจากกระสุนที่ใช้ไป และบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการย้ายไปอพาร์ตเมนต์อื่น ก็เป็นเรื่องพอรับได้ จริง ๆ น่ะ

 

สุดท้ายแล้ว ก็สร้างแอคเคาท์สำหรับไลฟ์สดขึ้นมาใหม่……แม้จะเหงานิดหน่อย แต่บางทีก็แค่ทำแบบเดิมแบบที่ทำมาจนถึงตอนนี้ต่อไปก็ได้

 

อ้า แต่สไตล์การต่อสู้ของผมถูกเปิดเผยไปแล้วสิ

 

สำหรับตอนนี้ ผมจะหยิบของดี ๆ จากตู้เย็นทุกวันในสถานที่ที่เหมือนกับห้องสวีทนี้ และจิบ……อาเร๊ะ?

 

นี่อาจจะเป็นชีวิตในอุดมคติเลยไม่ใช่เหรอ?

 

“สำหรับตอนนี้ คิดว่าอาจจะไม่สะดวกค่ะ”

 

“ทุกคนก็เหมือนกัน ช่วยพูดกับผมเหมือนปกติก็ได้นะครับ”

 

“อุ อุมุ……เข้าใจแล้วค่…ถ้างั้น”

 

“ฉะ ฉันเป็นคนจากทีมกู้ภัยค่ะ ดังนั้นขอคงเดิม……”

 

เพราะเอมิซังมีภาพลักษณ์เฮ็นไตซังที่แข็งแกร่งเกินไป ผมเลยอยากให้เธอคุยตามปกติ

 

คุชิมะซังที่เป็นสมาชิกของทีมกู้ภัย ถึงผมจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ผมเดาว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับนโยบายของการเป็นบุคลากรทางการแพทย์ และก็เข้ากับบรรยากาศที่จริงจังของเธอดี ดังนั้นก็ไม่เป็นไร

 

ว่าไปแล้วทำไมเธอถึงตามมาไกลถึงขนาดนี้กันน่ะ……?

 

รุรุซังกับเอมิซังยังพอเข้าใจได้

ส่วนผมคือคนที่เกี่ยวข้องโดยตรง

 

แต่คุชิมะซัง……ไม่สิ ก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน เพราะเธอเป็นคนเถรตรงอันลำค่า และมีสามัญสำนึกขั้นพื้นฐาน

 

“…..รู้สึกลำบากใจนิดหน่อยค่ะ แต่ฮารุซัง”

 

“ฮารุก็ได้ครับ ตอนนี้ถือว่าผมเด็กกว่าแล้ว”

 

อะ ตอนที่เธออยู่ในโหมจริงจัง เธอไม่หลุดพูดว่า「ฮารุตัน」เลย

 

“……พวกเราอยากให้ฮารุอยู่แต่ในห้องนี้จนถึงสัปดาห์เป็นอย่างน้อย ถ้าหากว่าอยากทานอาหารหรือชอปปิงก็ขอให้ใช้บริการรูมเซอร์วิส หรือหากต้องการอย่างอื่นก็ให้ติดพวกเราได้เลยค่ะ”

 

“หมายความว่าผมถูกกักบริเวณงั้นเหรอครับ?”

 

“……ฟังดูอาจไม่ดี แต่ก็เป็นเรื่องจริงล่ะค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะรุรุ ฮารุตอนนี้ก็คงไม่ต้องกลายเป็นที่โด่งดังแบบนี้”

 

ม๊าเน๊ะ คงจะดีไม่น้อยหากอยู่ใกล้อพาร์ตเมนต์เก่าของผม แต่ถ้าออกไปเดินป้วนเปี้ยนในสถาพแบบนี้ คงจะเดือดร้อนไม่ใช่น้อย

 

แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไรถ้าผมทำแบบลับ ๆ

ผมจะไม่พูดอะไร เพราะได้ประโยชน์

 

“ไม่ต้องห่วง! เพราะฉันจะอยู่กับฮารุจังเอง!”

 

“?”

 

ยังไงดี มีบางอย่างแปลก ๆ เกี่ยวกับรุรุซัง

 

“โอะ โอ้ย รุรุ เรื่องนั้น”

 

“ก็เพราะว่าฮารุจัง แอบกังวลอยู่ใช่ไหมล่ะ? ทั้งที่กลายมาเป็น……เด็กผู้หญิงมานานแล้ว แต่จู่ ๆ ก็โดนพาตัวออกจากบ้านไปโรงพยาบาล แล้วยังต้องมาอยู่โดดเดี่ยวคนเดียวบนที่สูงแบบนี้อีก!”

 

「เพราะอย่างงั้นไม่ต้องห่วง!」รุรุซังพูดออกมาพร้อมกับจับมือผมไว้

 

ม๊าย ผมไม่ได้เป็นอะไรเป็นพิเศษ

 

“แต่ว่าฮารุซั……ง เดิมทีก็เป็นผู้ชายอยู่แล้วนะคะ?”

 

“แต่ว่าตอนนี้เป็นเด็กผู้หญิง ผลทดสอบออกมาอย่างเป็นทางการแล้วจริงไหมคะ?”

 

“เอ๊ะ ค่ะ ใช่แล้วค่ะ ฉันลงทะเบียนให้เป็นทรานเซ็กชวล แต่ลักษณะเพศทางกายภาพถูกกำหนดให้เป็นเพศหญิงค่ะ”

 

อ้า สมัยนี้มีคำที่สะดวกแบบนี้ด้วยสินะ

 

ตอนนี้ทุกคนสามารถเปลี่ยนจากผู้ชายเป็นผู้หญิงและทำกลับกันได้อย่างง่ายดาย

……ม๊า แม้ว่าในตอนแรกจะยากก็ตาม

 

“เรื่องที่ฉันมาอยู่กับเด็กผู้หญิงที่มีเพศเดียวกัน เมเนเจอร์จังก็ยังบอกว่าOKล่ะค๊า!”

 

“มะ ไม่ใช่เรื่องนั้น แต่ว่า เผื่อไว้ก่อนค่ะ”

 

 

” ――ฉันคิดว่าก็ยังปลอดภัยกว่าเอมิจังที่นิสัยวิตถารโผล่มาอย่างเทียบกันไม่ติดจริงไหม?”

 

 

“นู๊คคคค!”

 

อา เอมิซังได้รับความเสียหายอย่างหนัก

 

หมายถึงเธอก็ทำเรื่องน่าถอยห่างไม่น้อยจริง ๆ 

 

“……ถ้าอย่างงั้น ฉันเองก็จะอยู่ห้องถัดไปเพื่อคอยดูแลสุขภาพจิต และในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันเผื่อไว้เช่นกันค่ะ……..”

 

“เอ๊ะ คุชิมะซังด้วยเหรอครับ?”

 

“ค่ะ ฉัน ที่ได้ดูแลโซยะ……ฮารุซังก็ผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว ……ได้โปรดอย่ากังวลไปเลยค่ะ ความสำคัญของเรื่องนี้จะมีประโยชน์สำหรับการดูแลจิตใจและการติดตามการเปลี่ยนแปลงของผู้คนที่อาจจะกลายเป็นเหมือนฮารุซังโดย『น้ำพุอธิษฐาน』ในอนาคตแน่นอนค่ะ”

 

พึ่งจะเคยได้ยินเรื่องนี้เลย?

 

คิดว่าบางทีอาจจะได้ยิน

อาจจะเป็นตอนที่ผมกำลังอ่านหนังสือบนแท็บเล็ตในห้องรอตอนที่ว่าง แล้วก็ใจลอยไป

 

ม๊า ผมเดาว่าก็คงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะเป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่มีบางอย่างในดันเจี้ยน……เปลี่ยนชายคนหนึ่งให้กลายเป็นเด็กผู้หญิง ยิ่งไปกว่านั้นคือกลายเป็นคนละคน

 

ขอโทษเน๊ะ?

ที่ผมรบกวนงานประจำของเธอ

 

แต่ที่นี่อาจจะง่ายกว่าต้องลงไปในดันเจี้ยน ดังนั้นอดทนเข้าน๊า

 

“จ๊า ฉันจะพักอยู่กับคุชิมะจังแล้วกัน! ถ้าแบบนั้นไม่เป็นไรใช่ไหม!”

 

“เอ๊ะ? ค่ะ ฉันไม่ได้อะไรเป็นพิเศษ……..”

 

“……ถ้าอย่างงั้นเดาว่าผมไม่สามารถบ่นได้แล้วสินะครับ”

 

ไม่สิ ความรู้สึกของผมล่ะพวกเธอ?

ความรู้สึกของผมที่อยากอยู่คนเดียวและเงียบสงบล่ะ?

 

……เด็กผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่พูดคุยโดยเว้นระยะห่างอย่างมีสติ……ดูไม่เป็นธรรมชาติ…….

 

“อาโน๊ ผม”

 

“เรื่องนั่น ถ้าพ่อแม่ของรุรุให้อนุญาตนะ”

 

“อยู่คนเดียว”

 

“ถ้าบ้านฉันล่ะก็ OKทันทีล๊า ไม่มีปัญหาหรอกเน๊! จ๊า งั้นฉันจะไปเอากระเป๋าสัมภาระก่อนน๊า”

 

“ได้ไม่มี”

 

“ถะ ถ้าอย่างงั้นฉันก็ด้วย……เพื่อให้คำแนะนำกับฮารุซัง ฉันจะกลับไปเก็บของก่อน แล้วฉันจะกลับมาในตอนเย็นค่ะ ดังนั้นแล้วได้โปรดรออยู่ในห้องจนกว่าจะถึงตอนนั้นด้วยนะคะ”

 

“ปัญหา…….”

 

“จะตีฉันเหรอค่ะ!?”

 

“เอ๊ะ ไม่ใช่ ถึงจะนิดหน่อย”

 

“มุ งั้นเหรอค่ะ……น่าเสียดาย……”

 

ผมตั้งแต่อดีตแล้วที่ยืนยันความคิดตัวเองได้ไม่ดี

 

อย่างประมาณ「ขอให้ทุกคนในห้องหารือกัน」แล้วทุกอย่างก็ได้รับการตัดสินใจในตอนที่ผมกำลังคุยกับเพื่อนสนิท และก่อนที่ผมจะรู้ตัวก็บอกอาจารย์ไปว่าอยากทำเข้าเวรกับเพื่อนสนิท「เพราะว่าโซยะคุงไม่ตัดสินใจสักที……เลยคิดว่าทำแบบนี้ก็น่าจะไม่เป็นไร」แล้วสุดท้ายผมก็เหลือเป็นเศษเกิน

 

” ……………………………… “

 

เหตุการณ์น่าเศร้าที่เกิดขึ้นในหมู่นักเรียนที่ถูกบังคับให้อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม

 

ในขณะที่ผมกำลังลำรึกความหลังอยู่ พวกเด็กสาวก็ตกลงกันเสร็จแล้วออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ

 

” ………………………………”

 

แม้ว่าผมจะกลายเป็นเด็กผู้หญิงแล้ว แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก

 

ไม่สิ กลายเป็นส่วนเกินที่ตัวเล็กลงแทน

 

“……ไม่ชอบเหรอ?”

 

จู่ ๆ รุรุซังก็ดูอ่อนโยนมากขึ้น เธอโน้มตัวลงมามองผมและพูดว่า「อ้า นี่เป็นเทคนิคของเด็กสาวล๊า」เธอแสดงความจริงใจที่น่าชื่นชม

 

อะไร ได้ยินด้วยเหรอ

 

“……ถ้าไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันก็ได้ครับ”

 

“ไชโย!”

 

“แล้วก็ถึงจะมากันแล้ว ผมก็จะทำแค่อ่านหนังสือ”

 

“ไม่มีปัญหาค๊า!”

 

พูดแบบนั้นก็ดี

ที่เหลือคือ อะไรที่ว่าไม่มีปัญหา

 

ผมไม่เข้าใจจริง ๆ แต่หากมองความเจ้าเล่ห์ที่ได้เห็น……ผมไม่สามารถต่อกรกับเด็กสาวที่อายุน้อยกว่าได้เลย

 

ท้ายที่สุดผมก็ยังเป็นผู้ชาย

 

ผู้ชายเสียเปรียบ

 

“……ฟุคายะซัง จากนี้ผมจะอยู่ในความดูแลของคุณครับ”

 

“ฝากตัวด้วยน๊า”

 

การที่เป็นเด็กคนนี้ใจเย็นในเวลาแบบนี้ได้ก็เป็นเรื่องดี

 

ผมเต็มใจที่อยากให้เหล่าเด็กสาวคุยกันอยู่ในห้องข้าง ๆ จนเหนื่อยไปเอง

 

 

 

 

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

 

ขอบคุณมากสำหรับการอ่านตอนที่ 14

 

งานนี้เดิมตั้งใจโพสต์หลายเรื่องพร้อมกัน จากนี้ไปจะโพสต์ประมาณ 3,000 ตัวอักษรวันละครั้ง

ฉันเริ่มเขียนเรื่องนี้เพราะต้องการอ่านเรื่องเด็ก TSไลฟ์สดในดันเจี้ยน(อิทธิพล)

 

“การไลฟ์สดในดันเจี้ยนควรจะได้รับความนิยมมากกว่านี้”

“อะไรก็ได้ อยากเห็นโลลิ TS”

 

หากคุณคิดเช่นนั้น เราจะยินดีอย่างยิ่งหากคุณสามารถเปลี่ยนการให้คะแนนด้านล่างจาก [☆☆☆☆☆] เป็น [★★★★★] และเปิดการแจ้งเตือนสำหรับบทล่าสุดโดยการบุ๊กมาร์ก ฉันยังขอขอบคุณความคิดเห็นที่สนับสนุนและติดตามของคุณ

https://ncode.syosetu.com/n1479ik/14/

 

 

 

 

แปลโลลิคลั่ง 2-3 ตอน ต่อ 1 โลลิเฮดช็อต