ฉันแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลย ‘โครงการเปลี่ยนผู้กล้าเป็นอาวุธ’ งั้นเหรอ?

‘ผู้กล้า’ ที่ควรได้รับการเคารพยกย่องจากผู้คน แต่พวกมันกลับเลือกที่จะทำร้ายจิตใจเธอ และทำเหมือนเธอเป็นแค่เครื่องมือชิ้นนึงเนี่ยนะ?

 

“ไม่แปลกหรอกค่ะที่เธอจะรู้สึกสับสนกับสิ่งนี้ เพราะตัวเราเองเมื่อได้พบกับเรื่องนี้เข้า เราก็หมดหวังในเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปทันทีเช่นกันค่ะ…เธอถูกนำตัวไป ‘รับการศึกษา’ มาได้สองสามเดือน อารมณ์ความรู้สึกของเธอจึงถูกทำลายไปแล้ว ทั้งๆ ที่เธอเคยเป็นเด็กที่ร่าเริงแท้ๆ ตอนนี้เธอแทบจะเหมือนตุ๊กตาที่ไม่พูดอะไรซักคำ…น่าสงสารมากเลยค่ะ”

 

ท่านจะบอกว่า คนที่อยากให้ฉันช่วยก็คือผู้กล้าคนนี้สินะคะ?

 

“เข้าใจถูกแล้วค่ะ ฉันต้องเพิ่มเติมก่อนว่าถึงตอนนี้อารมณ์ความรู้สึกของเธอจะถูกทำลายไปแล้ว แต่ความเป็นมนุษย์ หรือสติสัมปชัญญะของเธอนั้นยังไม่หายไปง่ายๆ ค่ะ ถ้าเธอสามารถช่วยผู้กล้าเอาไว้ และฟื้นฟูจิตใจของเธอได้ล่ะก็ เธอจะต้องแค้นเคืองพวกมนุษย์ไม่ด้อยไปกว่าเธอแน่นอนค่ะ เธอเป็นเด็กสาวที่มีพลังซ่อนเร้นอยู่อีกมาก หากได้เธอมาเป็นพรรคพวกด้วยล่ะก็ เรามั่นใจเลยค่ะว่าเธอจะต้องเป็นกำลังสำคัญได้อย่างแน่นอน”

 

เข้าใจแล้วค่ะ นั่นคือเหตุผลหลักสินะคะ

…ฉันน่ะ เกลียดพวกมนุษย์สุดๆ

เกลียด เกลียด เกลียดพวกมันเข้าไส้ อยากจะขยี้พวกมันให้หมดทุกคนเลย

…แต่ก็มีมนุษย์คนนึงที่น่าจะเกลียดพวกมนุษย์เหมือนกัน พอๆ กับฉันด้วย

เด็กสาวที่เป็นมนุษย์ และต้องการจะฆ่าล้างมวลมนุษย์งั้นเหรอ

…ไม่เลวเลยแฮะ

 

มีข้อสงสัยอย่างนึงคะ ถ้าเกิดผู้กล้ายังพยายามจะปกป้องพวกมนุษย์อยู่แม้เราจะช่วยฟื้นฟูจิตใจให้เธอแล้วเนี่ย ต้องทำยังไงต่อเหรอคะ?

 

“แน่นอน เราจะถือว่าเธอเป็นตัวอันตราย และต้องกำจัดเธอเสียค่ะ”

 

…งั้น ฉันจะรับข้อยกเว้นนี้ไว้ค่ะ

 

“ขอบคุณมากนะคะ”

 

ผู้กล้า… พวกมันคิดจะใช้ตัวตนที่แสนมีค่าและสำคัญนั่น แค่เพื่อผลประโยชน์ผลประโยชน์ส่วนตัวกับเพื่อมิซารี่งั้นเหรอ?

จะต่ำช้าไปได้ถึงไหนกันนะ ไอ้พวกมนุษย์

งั้น ฉันขอถามคำถามสำคัญข้อนึงได้มั้ยคะ?

 

“…ได้ค่ะ? เชิญเลย”

 

…ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะคะ?

 

“อ๊ะ! จะว่าไป เรายังไม่ได้อธิบายเลยนี่นะ”

 

ความทรงจำของฉันเหมือนจะตัดไป หลังจากที่เห็นร่างของเพื่อนๆ ของฉันและฆ่าอัศวินที่อยู่แถวนั้นไปคนนึง

สงสัยท่านจะลบความทรงจำตรงนั้นของฉันไปสินะคะ เหมือนกับคราวก่อน

 

“ใช่ค่ะ… โอ๊ะ! อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะ เธอยังไม่ตาย แค่ได้รับบาดเจ็บเฉียดตายเท่านั้น แวมไพร์นั้นมีพลังฟื้นตัวที่สูงอยู่แล้ว หากได้รับการอวยพรจากดวงจันทร์ ดังนั้น ระหว่างที่เราคุยกันอยู่นี่ ร่างกายของเธอก็กำลังรักษาตัวเองอยู่ค่ะ”

 

…? ฉันถูกโจมตีจนเกือบถึงชีวิตเลยเหรอคะ?

 

“หลังจากนั้น ร่างของคนที่เธอฆ่าไปในป่า 3 ร่างก็ถูกพบเข้า ทำให้อัศวินทั้งหมดในหมู่บ้านประมาณ 20 คนก็ออกไล่ล่าเธอ ในเวลาต่อมาเธอก็ถูกพบตัว และเริ่มเข้าต่อสู้กันทันที ด้วยคืนนี้เป็นคืนจันทร์ครึ่ง เธอจึงได้ใช้ประโยชน์จากการอวยพรจากดวงจันทร์ที่เพิ่มสเตตัสของเธอได้หลายเท่าตัวนั่น จัดการฆ่าคนกลุ่มนั้นไปได้ 17 คน แม้ว่าจะได้รับแผลไปเต็มตัวก็ตาม อีก 3 คนที่เหลือนั้นหนีไปได้ อย่างไรก็ตาม เธอถูกหัวหน้ากองฟันเข้าที่คอ เธอจึงหมดสติเพราะเสียเลือดมากเกินไป เราได้เข้าแทรกแซงสติของเธอในตอนนั้น และก็มาสู่สภาพในตอนนี้นั่นเอง”

“และก็ ก่อนที่จะเริ่มการต่อสู้นั่น เธอได้ผ่านเงื่อนไขและได้รับอาชีพพิเศษ [ผู้ชำระแค้น] มา เธอยินดีเมื่อได้เห็นความสามารถของอาชีพนี้ และเลือกรับอาชีพนี้ไปโดยใช้เวลาไตร่ตรองแค่ 0 วินาทีเท่านั้น”

 

เออ…อืม…ฉันจำอะไรพวกนั้นไม่ได้เลยค่ะ ขอเวลาสักครู่นะคะ

…เอ๊ะ? นี่ฉันเลือกอาชีพไปแล้วเหรอคะ?

ฉันคุ้นๆ ว่าได้ยินเสียงพูดว่า “เงื่อนไขครบถ้วนสมบูรณ์” อยู่นะคะ…

 

“ใช่ค่ะ เธอเลือกอาชีพนี้ไป แต่นั่นก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วค่ะ โปรดเข้าใจด้วย อาชีพ [ผู้ชำระแค้น] นั้นโดยพื้นฐานแล้วแทบไม่ต่างจากสถานะ [ยังไม่ได้เลือกอาชีพ] เลย แต่จะเพิ่มความได้เปรียบขึ้นอย่างมากหากต้องต่อสู้กับตัวตนหรือเผ่าพันธุ์ที่เลือกไว้เป็น [เป้าหมายในการล้างแค้น] ค่ะ”

 

…ข้อได้เปรียบ ได้เปรียบยังไงบ้างเหรอคะ?

 

“เพิ่มสเตตัสขึ้น 2 เท่าเมื่อเผชิญหน้ากับเป้าหมาย เพิ่มค่าประสบการณ์ที่ได้รับเมื่อสังหารเป้าหมายได้ เพิ่มปริมาณพลังเวท และอื่นๆ ค่ะ”

 

เยี่ยมไปเลยที่ฉันเลือกอาชีพนี้

 

“และระหว่างการสังหารพวกอัศวิน ค่าประสบการณ์ที่เธอได้รับมาจากการฆ่ามนุษย์หลังจากที่เลือกอาชีพ [ผู้ชำระแค้น] ทำให้เธอเพิ่มเลเวลตัวเองขึ้นเป็นเลเวล 10 แล้วนะคะ”

 

ฉันดีใจที่ได้ยินแบบนั้นค่ะ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าที่ตัวเองได้แข็งแกร่งขึ้นแล้ว

โอเค งั้น ขออีกคำถามนึงนะคะ

 

“อะไรเหรอคะ?”

 

…ช่วยเล่าเรื่องเกี่ยวกับคุณพ่อกับคุณแม่ และก็พวกคนที่ฆ่าเพื่อนๆ ของฉันหน่อยได้มั้ยคะ

 

“ได้เลยค่ะ เราจะเล่าให้ฟังเอง…แน่นอน ก่อนอื่นเลย เธอได้ยินชื่อของพวกเขามาแล้ว คนที่สังหารพ่อแม่ของเธอคือผู้หญิงที่มีชื่อว่า ‘อีดิธ’ และผู้ชายที่มีชื่อว่า ‘นอยน์’ ทั้งคู่เป็นสมาชิกของ [12 อัครสาวก] ค่ะ”

 

…อะไรคือ [12 อัครสาวก] เหรอคะ?

 

“ในบรรดาดินแดนที่ปกครองด้วยมนุษย์นั้น… [อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ เมอร์คิวเรียส] คือดินแดนที่ใหญ่ที่สุด ที่นั่นมีเหล่าหัวกะทิของเผ่าพันธุ์มนุษย์ผู้ได้รับ ‘การอวยพรจากเทพธิดา’ รวมตัวกันอยู่ แม้ว่าจะได้รับอย่างจำกัดก็ตาม กลุ่มบุคคลดังกล่าวนั้นก็คือ 12 อัครสาวกค่ะ”

 

ฉันเคยได้ยินจากคุณพ่อมาว่าเทพธิดามิซารี่นั้นขึ้นชื่อในเรื่องที่สามารถอวยพรให้คนอื่นนอกจากผู้กล้าได้สินะคะ

 

“ถูกแล้วค่ะ นั่นถึงเป็นการได้รับอย่าง ‘จำกัด’ เท่านั้นค่ะ ความสามารถที่ได้เพิ่มมาก็มีแค่เสริมการต้านทานต่อสถานะผิดปกติเล็กน้อย และเพิ่มค่าสเตตัส แต่ในเมื่อพวกนั้นเป็นกลุ่มคนที่มีความสามารถสูงกันอยู่แล้ว คนกลุ่มนี้จึงถือเป็นภัยคุกคามที่มองข้ามไม่ได้เลยด้วยพลังของพวกเขาเอง ที่จริง พวกเขาถือว่าสามารถสู้กับ 10 ผู้บริหารของกองทัพจอมมารได้อย่างสูสีเลย!”

 

…เผ่ามารที่ควรจะมีความสามารถสูงกว่ามนุษย์แท้ๆ กลับมีมนุษย์ที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับพวกผู้บริหารของกองทัพเลยเหรอเนี่ย ดูท่าจะลำบากกว่าที่ฉันคิดซะแล้วสิ

 

“…สำหรับอีกคำถามหนึ่งนะคะ แวมไพร์ในหมู่บ้านส่วนใหญ่นั้น…อีดิธเป็นคนที่ฆ่าเพื่อนพ้องของเธอค่ะ”

 

…เห? อีดิธสินะ ได้เลย ฉันรู้แล้วว่าแกเป็นใคร ฉันจะตามหาแก ฉันหาแกเจอแน่ แล้วฉันจะฆ่าแกซะ หลังจากที่ทรมานแก เอาให้แกต้องรู้สึกผิดที่ได้เกิดมาเลย

 

“โห น่ากลัวนะคะเนี่ย…เอาล่ะ สำหรับเรื่องอนาคตของเธอ… เรารู้สึกไม่ค่อยสบายใจเลย ทั้งๆ ที่เราสัญญาว่าจะให้เธอได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระแท้ๆ แต่กลับกำลังจะขอบางสิ่งที่จะให้เธอช่วยทำต่อจากนี้ค่ะ”

 

อ้อ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ต้องการแล้วค่ะ ‘ความสงบ’ น่ะ

ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อจะฆ่าล้างพวกมนุษย์ให้ได้เลยค่ะ

 

“…เข้าใจแล้วค่ะ งั้น อาจจะแปลกๆ หน่อย แต่เราขอให้เธอเข้าร่วมกับกองทัพจอมมารนะคะ”

 

…อ้อ มาแบบนี้เองสินะคะ

กองทัพจอมมาร กองกำลังพันธมิตรของเผ่ามารที่นำโดย ‘จอมมาร’ ที่รับการอวยพรจากท่านอิซึสึเพื่อปราบพวกมนุษย์ที่บุกรุกเข้ามา หลายคนในเผ่ามารก็ศรัทธาในท่านอิซึสึด้วย แต่เราไม่ได้คลุ้มคลั่งแบบไอ้พวกมนุษย์นั่น

 

“เราบอกเธอไปแล้วว่าเราต้องการจะทำลายล้างมนุษยชาติไป… กล่าวคือ เราได้บอกเรื่องส่วนใหญ่ที่เราคุยกันวันนี้ให้ [จอมมาร] ฟังไปแล้วเช่นกัน  รวมถึงเรื่องของเธอด้วยนะ”

 

กองทัพจอมมารเหรอคะ…ถ้าฉันจำไม่ผิด แวมไพร์เคยปฏิเสธการเข้าร่วมกับกองทัพมาก่อน แล้วพวกเขาจะยอมรับฉันเหรอคะ?

 

“จอมมารที่เราเลือกน่ะไม่ได้ใจแคบขนาดที่จะปฏิเสธเธอเพราะเรื่องแค่นั้นหรอกนะ…แถมถ้าให้พูดตรงๆ แล้วล่ะก็ ตอนนี้เธอยังอ่อนแออยู่ ด้วยสภาพของเธอในตอนนี้ เธอไม่สามารถกวาดล้างมนุษย์ได้หรอกนะ ดังนั้น เธอจำเป็นต้องมีสถานที่ที่เธอจะได้ฝึกฝนตัวเอง และยังได้มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์อยู่ด้วย…”

 

อืม ที่ว่ามาก็มีเหตุผลนะคะ

พอมาลองคิดอย่างใจเย็นดูแล้ว ก็จริงที่ว่าฉันไม่สามารถฆ่าล้างมนุษย์ได้ด้วยตัวคนเดียว

อย่างน้อย ถ้าเป็นเผ่ามารที่นำโดยท่านอิซึสึแล้วล่ะก็ พวกเขาต้องไม่ได้เป็นศัตรูกับฉันแน่ๆ ฉันได้ยินว่ามีเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งอยู่มากมาย ดูท่าความหวังของฉันจะเป็นจริงสินะ

ฉันตัดสินใจจะเข้าร่วมกับกองทัพจอมมารค่ะ

 

“เราดีใจที่เธอเลือกอย่างชาญฉลาดนะคะ เดี๋ยวเราจะไปบอกจอมมารให้ช่วยส่งใครมารับเธอที่หมู่บ้านแวมไพร์ในเร็ววันนะคะ แล้วก็…ระหว่างนี้…เธอจะได้มีเวลาทำพิธีระลึกถึงผู้ตายทุกคนในหมู่บ้านของเธอด้วย”

 

…ท่านอิซึสึเป็นเทพที่ดีมากอย่างที่ฉัน คิดมาตลอดจริงด้วยล่ะค่ะ

 

“ขอโทษด้วยนะคะ”

 

…งั้น ระหว่างนี้ ฉันขออะไรซักอย่างได้มั้ยคะ?

 

“? อะไรเหรอคะ?”

 

…เผ่าพันธุ์ของฉัน…[แวมไพร์ลอร์ด] นี่ ช่วยเปลี่ยนกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้มั้ยคะ?

 

TN: ดีแล้วจ้ะลีนจัง ข้อยกเว้นนั้นน่ะรับไว้เถอะ ^^