หลังจากนั้นฉันกับอายานะก็กลับบ้านฉันทันที

ช่วงนี้หลังห้าโมงเย็นจะมืดเร็วกว่าปกติ ดังนั้นทันทีที่ฉันรู้ว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ อายานะก็เข้ามากอดฉันพร้อมโอบแขนทันที

ฉันมองดูเธอและเห็นแก้มของเธอแดงระเรื่อและยิ้มให้ฉันอย่างมีความสุข ฉันเลยไม่พูดอะไรและยอมรับความนุ่มและความอบอุ่นของเธอ

“ขอรบกวนด้วยค่ะ”

“เชิญเลย”

“ฉันรู้สึกผิดกับชูไงไม่รู้ ที่พาเธอมาที่นี้”

“ไม่ต้องกังวล ชูคุงมีฮัทสึเนะซังกับโคโตเนะจังอยู่”

แน่นอนว่าทุกคนในครอบครัวของชูรักเขามาก และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่รู้สึกเหงาในขณะที่เขาอยู่บ้าน

(ฉันเดาว่าสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นต้องการคืออายานะมากกว่าใครๆ)

นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันบอกว่าฉันรู้สึกผิดกับชู

แต่ถึงแม้ว่าฉันจะรู้สึกผิดกับเขาก็ตาม ความรู้สึกนั้นก็จะหายไปทันทีเมื่อฉันนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

ถ้าฉันไม่ได้ไปที่นั่น ถ้าอายานะถูกพาตัวไป ฉันคงเสียใจทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้

“โทวะคุง”

ดูเหมือนว่าอายานะจะเข้าใจจินตนาการที่เลวร้ายที่สุดของฉันได้

เธอมองฉันด้วยสีหน้าอ่อนโยน

“ฉันยังสบายดี โอเคไหม ฉันเป็นผู้หญิงที่มุ่งมั่นมากกว่าที่นายคิดไว้มากนะโทวะคุง! ฉันสามารถตีผู้ชายคนนั้นให้แหลกได้เลย!”

“อา”

เธอน่ารักมากเมื่อเธอทำท่าเลียนแบบนักมวย

แม้ว่าอายานะจะแข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับผู้ชายแบบนั้นได้ แต่ฉันก็ยังอยากปกป้องเธอ …… ฉันมั่นใจว่าฉันจะพยายามช่วยผู้หญิงคนอื่นด้วยถึงแม้พวกเธอจะไม่ใช่อายานะ

“ถ้าอย่างนั้นฉันจะทำอาหารอร่อยๆให้นายกินเอง นายจะได้อารมณ์ดีขึ้น!”

“ขอบใจนะ มีอะไรที่ฉันพอสามารถช่วยเธอได้ไหม?”

“ไม่เป็นไรโทวะคุง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง”

“….โอ้”

โดยส่วนตัวแล้วนี่เป็นสถานการณ์ที่กวนใจฉันอยู่พอสมควร

ฉันทำอาหารไม่เก่งเท่าอายานะเลยดีกว่าที่จะไม่ช่วย ฉันได้ไม่ต้องรบกวนเธอ

ถึงกระนั้น ฉันก็รู้สึกไม่สบายใจที่จะปล่อยให้เด็กผู้หญิงซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นของฉันและสนิทกับฉันมากยืนอยู่คนเดียวในครัว

“วันนี้มาทำ……ปลาเนื้อขาวทอดกับสลัดกัน ฉันจะเตรียมซุปมิโซะด้วยดีไหมนะ…”

นี่คือห้องครัวของบ้านฉัน แต่ดูเหมือนว่าอายานะจะรู้ว่าทุกอย่างอยู่ที่ไหนและมีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง และเธอก็ทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

เกือบจะเหมือนกับว่ามีแม่อยู่อีกคน แต่ฉันเดาว่านั่นหมายความว่าอายานะมาบ้านของโทวะมาหลายครั้งแล้ว

“……ฉันคงไม่จำเป็นต้องช่วยเธอแล้วละ”

เมื่อดูการเคลื่อนไหวของอายานะ ฉันรู้สึกว่าทุกอย่างจะออกมาดีเองถ้าให้เธอจัดการคนเดียว

“ฉันจะปล่อยให้เธอทำอาหารเอง …… แต่บอกฉันำด้นะถ้ามีอะไรที่ฉันสามารถช่วยได้จริงๆ ฉันจะไปทำความสะอาดอ่างอาบน้ำหรืออะไรเทือกนั้น”

“ฉันเข้าใจแล้ว ฟุฟุ โทวะคุงใจดีจัง”

“เรื่องปกติน่า”

ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะทำอย่างนั้น

ฉันออกจากห้องครัวไปที่ห้องน้ำเพื่อเริ่มทำความสะอาด ฉันรับผิดชอบหน้าที่นี้แม้ว่าแม่ของฉันจะอยู่ด้วยก็ตาม

มันห่างไกลจากการแสดงความขอบคุณสำหรับอาหารแสนอร่อยที่เธอทำให้ฉันเสมอ แต่ฉันไม่ได้โกหกเรื่องที่ฉันอยากทำสิ่งต่างๆภายในบ้านเพื่อให้แม่ได้พักผ่อนให้เต็มที่เมื่ออยู่บ้าน

แม้ว่าความรู้สึกนี้จะเป็นหนึ่งในความรู้สึกที่โทวะมี ฉันสงสัยว่าโทวะใส่ใจแม่ของเรามากแค่ไหน…… และฉันก็อยากจะถามเขาสักวันหนึ่ง

เมื่อถึงเวลานั้นฉันแน่ใจว่าฉันจะต้องขอโทษที่ใช้ร่างนี้ทำอะไรต่อมิอะไร

“……ทำความสะอาด ทำความสะอาด”

ฉันตะโกนออกมาเพื่อทำให้อารมณ์ที่เกือบซาบซึ้งของฉันมีกระจิตกระใจในการทำความสะอาด และจากนั้นฉันก็ทำความสะอาดอ่างอาบน้ำจนเสร็จ

เมื่อฉันกลับมาที่ห้องนั่งเล่น แน่นอนว่ามันยังไม่เสร็จดีนัก แต่มีกลิ่นหอมของความอร่อยลอยมาเล็กน้อย

“มันกลิ่นหอมดีจัง”

“อ้าว ทำความสะอาดเสร็จแล้วเหรอ?”

““ใช่ ฉันกำลังเติมน้ำร้อนอยู่”

ฉันสามารถกลับไปดูได้ในภายหลังว่าน้ำร้อนใกล้เต็มหรือยัง

ฉันมายืนในครัวกับอายานะโดยไม่รู้ตัว แต่เธอบอกว่าเธอใกล้ทำเสร็จแล้ว และอยากให้ฉันพักผ่อนบ้าง

“…… โอเค”

“ฟุฟุ♪อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ฉันอยากให้โทวะคุงได้ลิ้มรสอาหารที่ฉันทุ่มเทโดยใส่ความรักทั้งหมดของฉัน ดังนั้นนายต้องอดทนรอด้วยนะ”

จากนั้นฉันก็นั่งลงบนโซฟาเพื่อทำตามคำพูดของอายานะแม้ว่าจะไม่เต็มใจก็ตาม สิ่งที่ต้องทำคือต้องแน่ใจว่าคุณกำลังเจออะไร

ฉันดูอายานะทำอาหารจนอาหารพร้อม และฉันอยากรู้ว่าเธอพูดเกี่ยวกับอะไรก่อนหน้านี้ในตอนที่เราคุยโทรศัพท์กัน

“เฮ้ อายานะ…”

““มีอะไรเหรอ?”

“…………….”

ฉันกำลังจะถามเธอว่าฉันกับอายานะมีความสัมพันธ์แบบไหน แต่ฉันกลืนคำพูดของตัวเองลงไป

อายานะยังคงเอียงศีรษะและมองมาที่ฉัน แต่ฉันส่ายหัวและบอกว่าไม่มีอะไร แล้วเธอก็บอกว่าโอเคแล้วกลับไปทำอาหารต่อ

สักพักอาหารของอายานะก็พร้อมแล้ว

“…… โอ้!”

“กินให้เยอะๆเลยนะ♪”

เมนูพวกนี้ดูธรรมดาไปหน่อยในแง่ที่ประกอบด้วยข้าวสวยร้อนๆ ปลาขาวทอด ไก่ทอด สลัด และซุปมิโซะ แต่ฉันบอกได้เลยว่าอายานะใส่ใจและเอาใจใส่ในแต่ละจานมากแค่ไหน

อายานะมองมาที่ฉันด้วยสีหน้าอยากให้ฉันกินมันโดยเร็วที่สุด และฉันก็ประสานมือกัน

“กินแล้วนะครับ!”

ฉันคว้าไก่ทอดชิ้นหนึ่งด้วยตะเกียบแล้วเอาเข้าปาก

ฉันมีความสุขมากที่ได้เห็นอายานะยิ้มให้ฉันขณะที่ฉันตักของใส่ปากทีละจาน

แน่นอนว่าฉันรู้สึกขอบคุณอายานะทุกครั้งที่ได้ลิ้มรสชาติแต่ละคำ

“มันถูกปากนายไหม?”

“อา พวกนี้อร่อยมากจริงๆ”

ฉันหวังว่าจะแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมา แต่ฉันเกรงว่าฉันไม่มีคำศัพท์สำหรับเรื่องนี้มากนัก

ฉันกินไปก็รู้สึกว่ามันอร่อย อร่อยจริงๆ

สักพักอายานะเอ่ยถามคำถามแบบนี้

“นายชอบอันไหนมากกว่ากัน อาหารของอาเคมิซังหรือของฉัน?”

“……เอ๊ะ?”

“อย่าเลือกที่จะไม่ตอบว่าใครทำอร่อยกว่ากันเลย นายไม่สามารถพูดได้ว่ามันเหมือนกันใช่ไหม”

“……………”

ช่างเป็นคำถามที่ชวนอึดอัดจริง ฉันก็หยุดคิดไปสักพัก

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทั้งแม่และอายานะทำอาหารเก่งมากจนเทียบไม่ได้เลยว่าอันไหนดีกว่ากัน …… แต่อายานะกลับมองข้ามตัวเลือกนั้นไป

ฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอกขณะที่ อายานะรอคำตอบของฉันด้วยรอยยิ้ม

“ฉันขอโทษนะโทวะคุง ฉันคงสู้อาเคมิซังไม่ได้สินะ”

“ไม่ มันสูงกว่าแค่นิดหน่อย”

“ฮ่าๆๆ นายนี้น่ารักจังเลยนะโทวะคุง♪”

ฉันมองอายานะเพราะบรรยากาศมันดูอึดอัดเกินไปหน่อย แต่เธอยังคงยิ้มอยู่

“…ฮ่า”

เมื่อฉันเห็นเธอยิ้ม ฉันก็อดบ่นเรื่องอายานะไม่ได้ และฉันก็ยิ้มให้เธอ คิดว่าเธอก็น่ารักเหมือนกัน

หลังอาหารเย็น ฉันนำอาหารเย็นของแม่ใส่ตู้เย็นและล้างจานของฉันกับอายานะ

“ฉันหวังว่าวันเวลาเหล่านี้จะอยู่ตลอดไป”

“ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น …… สำหรับฉัน นั่นหมายความว่าฉันจะได้กินอาหารของอายานะทุกวัน”

“ฉันทำได้เสมอสำหรีบ ฉัน โทวะคุง และอาเคมิซังตลอดไป ……”

“……………”

อายานะพูดพึมพำ ราวกับว่าเธอหวังเช่นนั้นจริงๆ

เธอกำลังพูดถึงโลกที่ไม่มีเพียงแค่ชูและครอบครัวของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแม่ของอายานะที่หายไปด้วยหรือเปล่า?

ขณะที่ฉันจ้องไปที่อายานะโทรศัพท์ของฉันก็แจ้งเตือนเมื่อมีสายเรียกเข้าจากใครบางคน

“อ๊ะ แปบนะ”

“อืม จากอาเคมิซังเหรอ?”

ฉันเช็ดมือแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และสิ่งที่ปรากฏคือชื่อของชู

“…… ชู?”

“ชูคุงเหรอ?”

ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา สงสัยว่าเขาต้องการอะไร

“สวัสดี?”

[สวัสดี สวัสดีตอนเย็น โทวะ]

“ว่าไง”

ชูที่ปลายอีกด้านของโทรศัพท์้สียงก็ฟังเหมือนเดิม ท้ายที่สุดเขาอาจจะไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นหลังเลิกเรียนด้วยซ้ำ

ฉันรู้สึกกังวลเมื่อจำได้ว่าตอนนั้นชูแสดงท่าทีอ่อนแอแค่ไหน แต่ฉันรอให้เขาพูดอะไรบางอย่าง

[อายานะยังไม่กลับบ้านเลย ระหว่างทางกลับบ้านจากการช้อปปิ้งเธอพบเพื่อนคนหนึ่งชวนเธอไปทานอาหารเย็น และแม่ของเธอได้ยินมาว่าเธอจะไปทานอาหารเย็นด้วยกัน]

“อ่า”

ฉันเข้าใจแล้ว นั่นคือสิ่งที่อายานะบอกพวกเขา

อายานะไม่ได้บอกครอบครัวของเธอว่าเธออยู่กับฉัน และชูก็ดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องนั้นเช่นกัน …… ทำไมเขาถึงโทรหาฉันละ?

[ฉันแน่ใจว่ามันไม่จริง แต่ …… นายไม่ได้อยู่กับอายานะใช่ไหม]

“ใช่ น่าเสียดายที่ไม่ใช่แบบที่นายคิด”

ฉันตอบก่อนที่จะได้คิดเรื่องนี้

ฉันสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายของโทรศัพท์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และเขาน่าจะรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย

ฉันคิดกับตัวเองว่า “ฉันมันงี่เง่าจริง” แต่ดูเหมือนว่านั่นคือสิ่งที่ชู ต้องการได้ยิน และสายก็ถูกตัดไปทันที

“มันเกี่ยวกับฉันหรือเปล่า”

“ฉันเดาว่าอย่างนั้น เขาโล่งใจเมื่อฉันบอกเขาว่าเธอไม่อยู่ที่นี่”

“อารา♪”

อายานะเอามือปิดปากเพื่อเปลี่ยนอารมณ์

หลังจากล้างจานและเช็ดมือเสร็จเธอก็ค่อยๆเดินเข้ามากอดฉัน

เธอซบหน้าลงบนอกของฉัน ดมกลิ่นของฉัน และมองมาที่ฉัน

“นายมีโอกาสบอกชูได้ แต่ตอนนี้ฉันกำลังถูกโทวะคุงผูกขาด”

“…..ฉันไม่สามารถพูดแบบนั้นได้หรอก”

ฉันสงสัยว่าอายานะจริงจังแค่ไหน

ขณะที่ฉันจ้องมองอายานะ อายานะก็มองมาที่ฉัน ราวกับว่ามีคนกระซิบอยู่ในสมองของฉันว่าฉันควรปล่อยให้สถานการณ์ค่อยๆใหลไปเรื่อยๆ

ฉันวางมือบนไหล่ของอายานะเบาๆ แล้วพลักเธอออกไป ราวกับจะปัดสิ่งล่อใจบางอย่าง

“……มู”

ฉันหายใจออกเล็กน้อย แสร้งทำเป็นไม่สังเกตเห็นความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดของอายานะ

ดังที่ฉันได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อฉันอยู่ด้วยกันกับอายานะสองคนฉันรู้สึกว่ามีคนกระซิบในหัวของฉัน – “เอาอายานะมาจากเจ้านั้น”

“……………”

ฉันแอบมองหน้าอายานะ

เธอเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดที่ฉันเคยเห็น

ฉันไม่รู้ว่าทำไม แต่เนื่องจากเธอดึงดูดฉันด้วยอะไรสักอย่าง ฉันจึงมีแนวโน้มที่จะชอบเธอ

(…… แต่ฉันกลัวว่าจะทำแบบนั้นไม่ได้—)

ฉันคิดว่าเธอเป็นมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในโลกเช่นเดียวกับฉันแต่….……

“……อย่างไรก็ ขอบคุณสำหรับวันนี้นะอายานะ”

“อา ไม่ ไม่ ฉันดีใจที่ได้อยู่กับโทวะคุง”

คำพูดเหล่านั้นทำให้ใจของฉันมีความสุขอีกครั้ง

หลังจากนั้นฉันก็ออกไปข้างนอกกับอายานะเพื่อไปส่งเธอ

“มันหนาวนิดหน่อยว่าไหม?”

“นี่มันตอนกลางคืนแล้ว ฉันแน่ใจว่าอากาศจะอุ่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อใกล้ฤดูร้อน”

ฉันแทบจะกำมือของอายานะไว้แน่นเมื่อเธอบอกว่ามันหนาว

“ฉันบอกแล้วว่ามันหนาว”

อายานะจ้องไปที่มือที่ฉันจับไว้ครู่หนึ่ง จากนั้นบีบกลับให้แน่น

เราเดินไปตามถนนอันมืดมิดด้วยกันและแยกทางกันเมื่อฉันเห็นบ้านของอายานะ

“โทวะคุง.. เจอกันพรุ่งนี้”

“อา เจอกันพรุ่งนี้”

ฉันเกือบจะเอื้อมมือไปหาเธอเมื่อเธอหันหลังให้ฉัน

ฉันอยากจะบ่นกับร่างกายของฉันว่าฉันต้องการเธอมากแค่ไหน แต่ฉันแน่ใจว่าฉันเองก็ถูกดึงดูดให้เข้าหาอายานะในช่วงเวลาอันสั้น

ฉันจะนำมาซึ่งตอนจบอย่างมีความสุขที่ ชูและอายานะอยู่ด้วยกัน ……ทั้งที่ฉันพูดด้วยความกระตือรือร้นแบบนั้นแท้ๆ…….

“โทวะคุง”

“เอ๊ะ?”

ฉันได้ยินเสียงของอายานะอยู่ใกล้ฉันมาก เมื่อเธอควรจะเริ่มเดินจากไป

อายานะวางริมฝีปากของเธอลงบนริมฝีปากของฉัน

“เอ๊ะ ค่าตอบแทนที่ฉันทำอาหารให้นายนะ♪”

เธอยิ้มอย่างซุกซนและวิ่งกลับบ้านอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ฉันมองดูเธอกลับ ฉันสัมผัสริมฝีปากของตัวเองด้วยความตกใจและตระหนักว่าความรู้สึกที่ฉันเพิ่งมีนั้นไม่ใช่เรื่องโกหก

“หัวใจของฉัน…..เต้นแรงมาก”

ฉันวางมือบนหน้าอกของฉัน และฉันรู้สึกได้ชัดเจน

ฉันกำลังกลับบ้านด้วยความกังวลมากมาย และสงสัยว่าวันนี้ฉันจะนอนหลับได้ดีหรือไม่