ตอนที่ 11 บทที่ 0 การเกิดใหม่ของสีดำ - เสียงร้องแรก

[WN] ยมทูตแห่งความมืด ผู้รับใช้สตรีศักดิ์สิทธิ์แสนขี้เกียจจอมโลภมาก

“ขอร้อง ได้โปรด อย่ามองฉันเลยนะ… อย่าเอาฉัน ไปอยู่ในสายตาเลย…!”

 

สิ่งที่ออกมาจากปากฉัน มันมีแต่คำอ้อนวอนทั้งนั้นเลย

 

ไม่อยากให้เธอเห็นร่างกายมอมแมมของฉัน

อยากจะโยนตัวเองที่แปดเปื้อน ตัวเองที่กำลังหลงทางไปให้พ้นๆ ซะจากตรงนี้

ฉันน่ะ เป็นคนที่อยู่ตรงก้นเหวที่ห่างชั้นกับเธอที่สุดแล้วนะ

ผมสีดำที่ถูกรังเกียจที่สุดในโลกนี้ ความสวยไม่มีทางจะเทียบกันได้ เสื้อผ้าร่างกายก็เป็นแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยด้วย

 

ทันทีที่เราเจอกัน ความอาฆาตทั้งหมดที่เคยผุดขึ้นมาในตัวมันก็โดนพัดหายไปหมดเลย

ทั้งหมดที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้ ก็เป็นแค่เปลือกเปล่าๆ ที่ถูกความอาฆาตชักนำเท่านั้นเอง

ไม่พอใจกับการมีชีวิตอยู่ พยายามจะเอาชีวิตที่อุตส่าห์รอดมาได้ไปทิ้ง แล้วยังคิดจะลากเอาคนอื่นลงมาด้วยอีก

ไม่เข้าใจเลยว่าพลังที่ฉันได้มานี่มันคืออะไรกันแน่ แต่อย่างน้อย มันก็ไม่น่าจะมีไหวเพื่อทำอะไรแบบนั้นหรอก

 

ฉันยกมือขึ้นมากุมหัวของตัวเอง พยายามไม่ให้เธอมองเห็นฉันเท่าที่จะทำได้

 

“ค- คุณหนูครับ!?”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า”

 

เดินเข้ามาหาฉันเหรอ?

เพื่ออะไรน่ะ?

ยังไงก็เถอะ ต้องรีบออกจากที่นี่แล้ว

ไปใช้ชีวิตอยู่เงียบๆ อยู่อย่างสันโดดในป่าคนเดียว แบบไม่ต้องมีใครซักคน

อย่าให้ใครหาตัวเจอ อย่าให้ฉันไปหลงเหลืออยู่ในซอกหลืบความทรงจำของคนคนนี้เลย

ถึงฉันจะคิดแบบนั้น แต่ร่างกายมันไม่ยอมขยับอย่างที่อยากทำเลย

เจ็บใจที่สุดเลย เพราะเจ้าพวกทหารรับจ้างพวกนั้นนั่นแหละ ที่ทำให้ร่างกายฉันต้องบาดเจ็บยับเยินขนาดนี้น่ะ

 

พยายามออกไปจากที่นี่… ไม่ไหว ทำไม่ได้

ต่อให้ฉันจะพยายามวิ่งหนี เธอก็คงจะเดินเข้ามาหาฉันต่ออยู่ดี

กลัวจัง โหดร้ายไปแล้วนะ

ฉันไม่ได้กลัวเธอคนนี้หรอก ฉันกลัวสิ่งที่เธอกำลังจะพูดต่างหาก

ทั้งตำแหน่ง ทั้งหน้าตา ทั้งพรสวรรค์ เธอคนนั้นมีเหนือกว่าฉันไม่รู้เท่าไหร่ ฉันมีแค่พลังที่น่ารังเกียจอย่างการชิงเอาชีวิตของคนอื่นมา ต่ำยิ่งกว่าชนชั้นของมนุษย์อีก

ไม่รู้เลยว่าคำพูดโหดร้ายแบบไหนที่เธอคนนั้นจะพูดใส่ฉันอีก

ถ้าถูกเธอที่เป็นเหมือนราชาคนนั้นพูดดูถูกใส่ล่ะก็ ฉันรู้สึกว่าตัวเองคงจะไม่มีแรงเหลือจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแหงๆ เลย

 

“อย่าน-… อย่านะ…! อย่ามองนะ อย่าเข้ามา… ไม่ต้อง ห่วงฉันหรอก…!”

 

คำพูดของฉันส่งไปไม่ถึงเธอเลยซักนิด แถมด้วยระยะห่างสั้นๆ แค่นี้ เธอก็เข้ามาถึงตัวฉันได้ง่ายมากๆ เลย

ความรู้สึกข่มขวัญแปลกๆ ที่แผ่ออกมาจากตัวเธอทำให้ทุกคนรอบๆ เงียบกันไปหมดเลย

 

อยากหนีไปให้ไกลๆ เลย

อยากหนีไปก่อนที่คนคนนั้นจะทันได้พูดอะไรซักคำออกมา

ได้โปรด หยุดทีเถอะ

 

“ไม่ผิดแน่ ผมสีดำสนิทเลย… นี่หรือว่า จะเป็นเหมือน…”

 

อย่าพูดคำพูดโหดร้ายกับฉันเลยนะ

ขอร้องล่ะ ช่วยเดินผ่านไปเฉยๆ ด้วยเถอะ

ถ้ายังมากกว่านี้ ฉันคง―――

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ยอดเลย”

 

 

“เอ๊ะ……?”

 

อะไรน่ะ คำที่เข้ามาในหูของฉันเมื่อกี้นี้ ก่อนที่ฉันจะปิดหูตัวเองเพราะกลัวจะโดนว่าอะไรมากกว่านี้อีกน่ะ

เป็นคำชมง่ายๆ ที่ฉันไม่เคยคิดซักเสี้ยววิเลยว่าคำนั้นพูดมาถึงฉันเอง

ฉันสงสัยว่าเธอกำลังพูดถึงใครแถวๆ นี้หรือเปล่า แต่ตาของเธอจ้องตรงมาหาฉันเลย

 

“เธอเองก็เห็นนี่ ทั้งที่ยังเด็ก ยังอ่อนแออยู่เลย แต่ก็ร่ายเวทออกมาได้ด้วยตัวเองแล้ว! สุดยอด! สุดยอดไปเลย! อ๊าฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าจะได้เจอพรสวรรค์ที่ฉันตามหาอยู่ได้เร็วขนาดนี้! อ้า! ชักจะตื่นเต้นขึ้นมาแล้วสิ!”

 

เธอบอกว่า เวทมนตร์ สินะ

พลังที่ฉันใช้ มันคือเวทมนตร์จริงๆ น่ะเหรอ

 

“ฟู่ว… เธอน่ะ ชื่ออะไร?”

“เอ๊ะ?”

“ชื่อไงล่ะ ฉันถามได้หรือเปล่า?”

 

ชื่อ

ของฉัน―――

 

“…ไม่มี”

“ไม่มีเหรอ?”

“ฉันถูกพ่อแม่ ขายทิ้งตั้งแต่เกิด… ไม่ได้ตั้งชื่อไว้ให้ด้วยซ้ำ”

“อาระอาระ ดูเหมือนเธอจะผ่านชีวิตที่หนักหนามาพอควรเลยนะ”

 

เธอมองมาที่ฉันพร้อมกับรอยยิ้มกว้างเลย มีความสุขเรื่องอะไรอยู่ล่ะนั่นน่ะ

 

“ชื่อของฉันคือโนอะ โนอามารี เทียไลท์ เด็กสาวผมดำ หลังจากนี้เธอคิดจะใช้ชีวิตต่อไปยังไงกันล่ะ?”

“ยังไง…?”

“เธอน่ะ เป็นคนจำพวกที่คิดว่าชีวิตของตัวเองไร้ค่าสินะ? เกิดมาพร้อมผมสีดำ ถูกผู้คนทรยศหักหลัง แม้แต่พ่อแม่ของตัวเองก็ไม่ต่างกัน จนเหนื่อยหน่ายกับทุกสิ่งและอยากจะยอมแพ้กับทุกอย่าง เธอดูเป็นแบบนั้นเลย”

“……นั่นมัน”

“ดูท่าฉันจะพูดถูกสินะ”

 

ด้วยคำพูดที่ออกมาแบบกะทันหันนั่น ฉันก็เงยหน้าขึ้นมามอง

 

“ตกใจอะไรงั้นเหรอ? มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะถูกเหยียดเพราะสีผมของเธอ แล้วจะโดนกลุ่มคนแปลกหน้าตามไล่ล่าไปทั่ว ดูจากหน้าตากับแผลตามตัวก็รู้แล้ว เธอคงจะต้องเจอเรื่องยากลำบากมามากเลยสินะ? ถ้าเกิดได้โดนไล่ต้อนให้จนมุมขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องสิ้นหวังกันทั้งนั้นนั่นแหละ”

“ต- แต่ว่า ฉันน่ะ-”

“เธอไม่ผิดซักหน่อย”

 

ด้วยคำพูดที่บอกออกมาง่ายๆ นั่น ทำเอาฉันอึ้งไปเลย

คนที่ฉันคิดจะฆ่าจนถึงเมื่อกี้นี้ เธอพูดถูกแล้วล่ะ แค่มองดูเธอคนนั้นก็รู้สึกผิดกับความงี่เง่าของตัวเองขึ้นมาเลย

 

“แต่ว่า ฉันยังปล่อยให้เธอฆ่าคนไม่ได้หรอกตอนนี้ คนที่ทำให้เธอเป็นอย่างนี้ในวันนี้ ก็คือโลกใบนี้นี่แหละ โลกมันผิดเพี้ยนไปหมด ที่เหล่าผู้มีพรสวรรค์ถูกกดขี่และดูถูกเหยียดหยามจากพวกที่อ่อนด้อยกว่าน่ะ”

“ม- หมายความ ว่ายังไง?”

 

เด็กผู้หญิงที่ชื่อว่าโนอามารี เทียไลท์ แค่ยิ้มออกมา แล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่กลับยื่นมือออกมาหาฉันแทน

 

“เด็กสาวผมดำไร้ชื่อที่น่าสงสาร หยุดผลาญชีวิตของตัวเองในสถานที่โง่เง่าแบบนี้ซะเถอะ ถ้าหากไม่ว่ายังไง เธอก็จะทิ้งขว้างชีวิตของตัวเองอยู่แล้ว แบบนั้นมันเสียของออก เพราะฉะนั้น ใช้มันเพื่อฉันซะสิ ใช้พรสวรรค์อันหายากนั้น เพื่อฉันเพียงคนเดียวเท่านั้นซะ

มาทำงานเป็นมือเป็นเท้าให้กับฉัน ชีวิตที่แทบไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้วของเธอน่ะ มาลงเดิมพันที่ฝั่งฉันดูสิ

ถ้าเธอตกลงอย่างนั้น ฉันก็จะมอบมันให้เธอเอง ทั้งความหมายของชีวิต ทั้งวิธีการใช้เวทมนตร์ แล้วก็ความสุขที่เธอจะมีได้ เพราะฉะนั้น…

 

มาเป็นของฉันซะ”

 

ทั้งเย่อหยิ่ง ขี้เกียจ แล้วก็โลภมาก คำพูดของเธอนั่นน่ะ ถ้ามองจากรอบนอก ก็คงคิดได้แต่ว่ามันเป็นคำที่ดูถูกอีกฝ่ายเท่านั้นเอง

คนคนนี้ไม่ใช่คนดีแน่ๆ หรือที่จริง เป็นคนประเภทที่ใกล้เคียงกับตัวร้ายที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายเลย

 

แต่ฉันเองก็ ถูกเธอคนนั้นดึงดูดเข้าไปหาจนต่อต้านไม่ได้เลยเนี่ยสิ

ฉันรู้ดี เพราะฉันน่ะถูกหลอก ถูกหักหลังจากผู้คนมาไม่รู้เท่าไหร่ แต่คนคนนี้น่ะไม่ได้โกหกเลยซักคำด้วยซ้ำ

เธอต้องการตัวของฉันจริงๆ เธอพยายามจะมอบทุกอย่างที่ฉันต้องการให้

กับฉันที่โดนพรากทุกอย่างไปอยู่ตลอด นั่นก็คือสิ่งที่ฉันโหยหาที่สุดยิ่งกว่าอะไรเลย

แต่ว่า

 

“ถ้าอยู่กับผมสีดำ-”

“ถ้าอยู่กับผมสีดำ จะนำความโชคร้ายมาให้เหรอ? ถ้าถูกพบเข้า ฉันจะถูกเหยียดหยามงั้นเหรอ? ก็อาจจะใช่นะ”

 

เธอคนนั้นพูดต่อ ขัดคำพูดของฉันไปซะก่อนแล้ว

 

“แต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกันซักหน่อย เรื่องที่ว่าผมสีดำจะนำโชคร้ายมาให้น่ะมันเรื่องโกหกทั้งเพ เรื่องที่ว่าผมสีทองนำโชคลาภมาให้ก็ไม่ต่างกัน ฉันไม่สนพวกโง่พวกนั้นที่แค่คุณค่าในตัวเธอก็ยังไม่เข้าใจหรอกนะ แล้วก็ไม่ต้องไปตอแยกับเจ้าพวกโง่พวกนั้นแล้ว

ฉันไม่ชอบการต่อปากต่อคำหรอกนะ คำตอบที่ฉันต้องการตอนนี้ คือใช่ หรือ YES”

 

ฉันโดนบอกอย่างอ้อมๆ ว่าตัวเองไม่มีสิทธิโต้แย้งเลยสินะ

แต่ว่า ด้วยภาพตรงหน้า ด้วยคำพูดพวกนั้น ฉันกลับคุมน้ำตาที่ไหลพรากออกมานี่ไม่ได้เลย

 

คนคนนี้พูดถูกแล้วล่ะ ชีวิตที่ครั้งนึงเคยหลงทาง ชีวิตที่กำลังจะถูกโยนทิ้งอยู่แล้ว

ถ้างั้น ก็สู้เอามันมาใช้เพื่อคนคนนี้ซะดีกว่า

ฉันจะทุ่มเททุกอย่างที่มีเพื่อคนคนนี้ที่ต้องการฉันเลย

 

“แล้ว คำตอบล่ะ?”

 

คนคนนี้ คือนายเหนือหัวของฉัน

 

“ค่ะ……!”

 

 

นั่น คือจุดที่ทุกอย่างเริ่มขึ้น

จากการพบกันในตอนนั้น ตัวตนของฉันก็ถือกำเนิด

 

มันคือช่วงเวลาที่ฉัน ที่ต่อมาจะถูกเรียกกันว่า ‘ยมทูต’ ได้เกิดขึ้นมาไงล่ะ

 

TN: ได้เจอกันแล้ว~ ในที่สุด ก็เปิดตัวผู้นำหัวหอกของฝ่ายตัวเอกแล้วครับ ^^
(ใกล้จบบทที่ 0 แล้วนะ)