เมื่อเห็นชื่อของหยางลี่ลี่ ซูฟ่านก็เหงื่อตก
สมมติว่าเขาไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้
คนที่มีชีวิตที่เขาเพิ่งพบในวันนี้จะถูกทับตายใต้สะพานในวันพรุ่งนี้
มันน่าขนลุกมากเมื่อคิดเกี่ยวกับมัน
มันไม่เคยแน่นอนจริง ๆ ว่าใครจะจายวันนี้หรือพรุ่งนี้
อย่างไรก็ตามหยางลี่ลี่ก็รู้จักตัวเขา ซูฟ่านจึงตัดสินใจที่จะช่วยชีวิตหยางลี่ลี่
แม้ว่าการออกอากาศทางวิทยุจะสามารถเล่นได้ด้วยเสียงเท่านั้นแต่ซูฟ่านก็สามารถเลือกสิ่งที่จะฟังได้
ตัวอย่างเช่นตอนนี้เขาเห็นรายชื่อผู้เสียชีวิตและผู้สูญหายเขาสามารถเลือกชื่อใดชื่อหนึ่งเพื่อรับฟังกระบวนการทั้งหมดของการเสียชีวิตของบุคคลนี้ได้
ตามรายงานข่าวหยางลี่ลี่กำลังเดินทางจากโรงเรียนไปยังร้านกาแฟที่ศูนย์กลางการค้าในเมืองเมจิกในเวลาประมาณ 4 โมงเย็นของวันพรุ่งนี้ ซึ่งมีการจราจรติดขัดบนถนนและเธออยู่บนสะพาน
เมื่อเวลา 4:25 น. สะพานสั่นอย่างกะทันหันและผู้คนที่ตระหนักถึงอันตรายได้ละทิ้งรถและหนีไป
หยางลี่ลี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
แต่ทันทีที่เธอลงจากรถเธอก็ถูกใครบางคนที่ตื่นตระหนกขับรถชนเสียชีวิต
ในเวลา 4:28 น.
เมื่อนึกถึงฉากนั้นซูฟ่านก็เหงื่อตกอีกครั้ง
มนุษย์มีสติน้อยเกินไปเมื่อเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ
ซูฟ่านฟังรายละเอียดของทุกคนในรายการข่าวส่วนใครจะรอดได้ในตอนนั้นมันขึ้นอยู่กับว่าใครอยู่ใกล้ซูฟ่านมากกว่ากัน
เขาจะไม่ใช้ทักษะเทเลพอร์ตเป็นอันขาด
หากถูกถ่ายภาพโดยกล้องวงจรปิดเขาอาจถูกเปิดเผยได้และหลังจากนั้นเขาก็ไม่สามารถโต้แย้งใด ๆ ได้
แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากชูเทียนฉีอยู่เบื้องหลังเขาก็ยังคงตกอยู่ในอันตราย
ซูฟ่านตัดสินใจวาดแผนที่จำลองของสะพานเพื่อที่เขาจะได้รู้ว่าจะช่วยได้อย่างไร
ในตอนค่ำเหอต้าและหลี่หนานก็กลับมา
เมื่อเห็นว่าซูฟ่านกำลังมีสมาธิมากพวกเขาจึงไม่กล้ารบกวนซูฟ่าน
ประมาณสองทุ่มหยางเหวินป๋อก็กลับมา
เขามีความคับแค้นใจและใบหน้าและยังคงมีรอยขีดข่วน
เมื่อเขาเดินไปที่โต๊ะของซูฟ่านสีหน้าของเขาก็ดูเลวร้ายกว่าเดิม
“โอ้ เหลาหยางใบหน้าของนายมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าดูเหมือนบาดเจ็บใหม่เลย”
หลี่หนานถามอย่างจริงจัง
คำพูดของเขาดึงดูดความสนใจของซูฟ่านและเหอต้า ทั้งคู่มองไปที่หยางเหวินป๋อ
แน่นอนว่าเขามีรอยขีดข่วนที่ชัดเจนมากบนใบหน้าด้านซ้ายและดูเหมือนว่ามันจะถูกเล็บของผู้หญิงข่วน
“ไม่มีอะไร ถังเว่ยแค่ต้องการแต่งหน้าฉันแต่ฉันไม่เห็นด้วยเลยดิ้นหนีเฉย ๆ”
หยางเหวินป๋อไม่สามารถเสียหน้าของเขาได้
หลังจากคุยโม้เขาก็มองไปที่ซูฟ่าน
ซูฟ่านแค่หัวเราะ แต่ซูฟ่านไม่ได้ยินสิ่งที่หยางเหวินป๋อพูดแต่รู้สึกตลกกับข้อความในโทรศัพท์มือถือของเขา
หยางเหวินป๋อคิดว่าซูฟ่านกำลังหัวเราะตัวเองและก็โกรธเมื่อคิดถึงถังเว่ยที่เปรียบเทียบตัวเองกับซูฟ่านในบ่ายวันนี้
เขาเดินไปหาซูฟ่านและตบโต๊ะของซูฟ่านอย่างแรง
“ตลกดีไหม?”
ซูฟ่านรู้สึกงุนงงเขาเงยหน้าขึ้นและมองไปที่หยางเหวินป๋อด้วยสีหน้างงงวย
“ฉัน……”
“แกเป็นอะไร แกแค่คิดว่าฉันน่าตลกใช่มั้ย?”
หยางเหวินป๋อโกรธมากจนทนไม่ได้
เขาไม่กล้าสร้างปัญหากับใครในหอพักยกเว้นซูฟ่านที่ผอมและอ่อนแอ ดังนั้นเขาจึงกล้าที่จะโกรธ
ยิ่งไปกว่านั้นซูฟ่านยังชอบอยู่เงียบ ๆ ในห้องนอนนั่นทำให้เขาเห็นภาพลวงตาว่าซูฟ่านถูกรังแกง่ายมาก
ซูฟ่านคิดว่าหยางเหวินป๋อพยายามทำเรื่องตลก
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาอาจไม่สามารถเอาชนะหยางเหวินป๋อได้
และเนื่องจากตอนนั้นซูฟ่านไม่มีเงินจึงไม่ต้องการต่อสู้เพราะไม่ว่าใครจะแพ้เขาก็จะต้องเสียเงิน
แต่ตอนนี้มันต่างออกไปเพราะตอนนี้เขาสามารถฆ่าหยางเหวินป๋อได้ด้วยซ้ำ!
“หยางเหวินป๋อนายถูกเตะที่หัวจนสติกลับรึไง ทำไมนายถึงตะโกนใส่ซูฟ่าน?”
ก่อนที่ซูฟ่านจะพูดอะไร หลี่หนานและเหอต้าก็ก้าวมาข้างหน้า
พวกเขายืนอยู่ตรงหน้าหยางเหวินป๋อจนอีกฝ่ายต้องก้าวถอยหลัง
“เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกนาย บ่ายวันนี้ซูฟ่านแกล้งทำเป็นหมาป่าหางใหญ่กับฉัน ฉันทนไม่ไหวแล้ว!”
หยางเหวินป๋อพูดอย่างเศร้า ๆ
หลี่หนานและเหอต้ามองอย่างตกตะลึง
พวกเขามองหน้ากันแล้วหันไปมองซูฟ่าน
“บ่ายนี้เกิดอะไรขึ้น”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ออกมาหยางเหวินป๋อก็อึ้ง
เขาคิดว่าซูฟ่านจะบอกหลี่หนานและเหอต้าเกี่ยวกับความอับอายของเขา
ใครจะรู้ว่าซูฟ่านไม่ได้พูดถึงมัน
ซูฟ่านยักไหล่
“นายพูดเองฉันไม่พูด”
ใบหน้าของหยางเหวินป๋อซีดลงชั่วขณะและในที่สุดก็ไม่สามารถกลั้นคำพูดใด ๆ ได้ เขาเพียงแค่คลานกลับไปที่เตียงอย่างเงียบ ๆ และดึงผ้าม่านขึ้น
หลี่หนานและเหอต้ายังคงกดดันซูฟ่าน เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องบอกความจริง
ถ้าไม่ใช่เพราะสองคนนี้ช่วยเขาในวันนี้ เขากลัวว่าแขนอีกข้างของหยางเหวินป๋อจะต้องหักเพราะตัวเขา
แต่การหัวเราะกับข้อครวามในตอนนี้เป็นเพราะหยางเหวินป๋อเหมือนกัน
หยางลี่ลี่ส่งข้อความถึงซูฟ่านเพื่อบอกว่าหยางเหวินป๋อขาย iPad ในราคา 2,500 วันนี้
เขามอบเงินสองพันให้กับถังเว่ย
ถังเว่ยยังไม่พอใจและบังคับให้หยางเหวินป๋อพาพวกเธอไปทานอาหารค่ำในราคา 500 หยวน
ที่โต๊ะอาหารค่ำ หยางเหวินป๋อมองไปที่หยางลี่ลี่ไม่มีพัก
หยางลี่ลี่บอกว่าเธอทนไม่ได้เลยเล่าเหตุการณ์ที่หยางเหวินป๋อไล่ตามจีบเธอ
คราวนี้เขาต้องใช้เงินอีกห้าร้อยหยวนเพื่อถังเว่ยและหยางลี่ลี่
จากนั้นก็โดนทำรอยบนใบหน้านี้
“เขาไม่มีปัญหากับคุณเมื่อเขากลับไปใช่ไหม? ถ้าใช่พี่สาวเว่ยและฉันจะจัดการเขาให้”
หยางลี่ลี่ถามอย่างกังวล
“ไม่ต้องกังวลไป”
ซูฟ่านตอบ
“”อืม เพื่อนนักเรียนซูฉันอยากถามนายว่าพรุ่งนี้นายอยากออกไปข้างนอกด้วยกันไหม”
“ไม่ ฉันมีอะไรต้องทำพรุ่งนี้”
ซูฟ่านปฏิเสธอย่างเด็ดเดี่ยว
“ฉันจะรอให้นายทำธุระเสร็จ!”
หยางลี่ลี่ยังคงตื๊อต่อ
“เอาล่ะ ฉันจะบอกเธอเมื่อฉันทำธุระเสร็จแล้ว”
เมื่อคำนึงถึงหน้าของหยางลี่ลี่ในฐานะเด็กผู้หญิง ซูฟ่านก็ไม่อาตปฏิเสธแบบหัวเด็ดตีนขาด
ยังไงก็ไปนัดพรุ่งนี้ไม่ได้
หยางลี่ลี่จะรู้เองว่าเขาไม่สนใจเรื่องแบบนี้สักสองสามครั้งและเธอจะถอยไปเองเมื่อเห็นถึงความยากลำบาก
“โอเค! โอเค! ฉันจะรอนาย!”
ในช่วงบ่ายของวันรุ่งขึ้นซูฟ่านรีบกลับไปที่ห้องนอนเพื่ออาบน้ำหลังเลิกเรียน
เวลาบ่ายสามโมงซูฟ่านออกจากมหาลัยและรีบไปที่สะพานข้ามแม่น้ำ
เวลา 4:20 น. ซูฟ่านมาที่ใต้สะพานข้ามแม่น้ำ
บนสะพานและใต้สะพานยังคงมีการจราจรหนาแน่นและไม่มีใครทราบถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา
แม้ว่าส่วนที่สะพานถล่มจะมีความยาว 2-3 กิโลเมตร แต่ก็มีส่วนของหลุมสะพานบนถนนและยานพาหนะที่ผ่านไปมาก็สามารถผ่านได้
ซูฟ่านตั้งเป้าหมายการช่วยเหลือหลักที่นี่
ท้ายที่สุดมันเป็นเรื่องยากเกินไปที่จะช่วยผู้คนในทะเลและซูฟ่านก็ไม่มีพลังพอเช่นกัน
แต่ซูฟ่านยังคงไม่แน่ใจว่าเขาจะช่วยชีวิตผู้คนบนท้องถนนได้หรือไม่
จ้องมองเวลาด้วยโทรศัพท์
4:22 น. อีกเพียงสามนาทีก่อนที่สะพานจะเริ่มมีปัญหา
ในขณะนี้ซูฟ่านได้รับข้อความ QQ
“ฉันจะไปที่ศูนย์กลางการค้าเพื่อเล่นก่อนแล้วไปรอนายที่นั่น บอกฉันด้วยเมื่อธุระนายเสร็จแล้ว!”
ข้อความมาจากหยางลี่ลี่
ขนของซูฟ่านลุกชัน