ตอนที่ 7 แค่ออกมาเดินเล่นจริงๆนะเออ!

บันทึกการเดินทางของคุณแวมไพร์ล่ะ

เมิน ลูลู่ ที่เข้าโหมดป้องกันพวกโรคจิต เขาหันหลังกลับ และโบกมือให้

 

“โอเคๆ แค่นี้ไม่มีปัญหาแล้วใช้ไหม เธอนี่จริงๆเลยนะ ทั้งๆทีเมื่อกี้ฉันโดนแอบมองตอนอาบน้ำยังไม่มีท่าทางโอเวอร์เหมือนเธอเลย”

 

ลูลู่ยังคงประท้วงในใจเงียบๆ ถึงแม้ทางเทคนิคจะใช้ก็เถอะแต่ไม่ว่าจะดูยังไงมองบนมองล่าง เธอก็โดนเอาเปรียบอยู่ดี ทำไมนายนี่ถึงได้หน้าด้านขนาดนี้นะ?

 

“ฉันไม่อาบแล้ว!!” เธอบุ้ยปากก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกทาง

 

วู่หยานยักไหล่อย่างจนปัญญา เด็กหลังยุค90นั้นเอาใจยาก เขาไม่เคยคิดเลยว่าขนาดเด็กต่างโลกก็ยังเอาใจยากเหมือนกันด้วย…..

 

ด้วยใบยิ้มๆที่ทำให้คนมองแล้วอยากจะเดินเข้าไปตั๊นหน้า วู่หยานพูดตอบเธอที่ยังคงไม่ยอมหันหน้ากลับมา

 

“อย่างน้อยเธอก็ควรทำให้ตัวเปียกสักหน่อยนะ ไม่งั้นเพื่อนเธอจะสงสัยเอา”

 

เป็นเรื่องจริงนะ ลองคิดดูลองลงมาอาบน้ำตั้งนานนม แต่ตัวไม่ยักจะเปียก แน่นอนว่าต้องโดนสงสัย และถ้าเป็นแบบนั้นก็คงจะหาคำแก้ตัวดีๆยาก

 

ลูลู่มองวู่หยานด้วยสีหน้าลังเล เธอเป็นคนที่ชอบอาบน้ำ แต่หลายวันมานี้เพราะต้องออกมาหาประสบการณ์ จึงต้องยอมทนนอนกลางดินกินกลางทรายน้ำท่าก็ไม่ได้อาบ มันจึงเริ่มทำให้เธอทนไม่ไหวแล้ว

 

ถ้าไม่ใช่เพราะว่า เธอกำลังอยู่ระหว่างมาฝึกภาคสนามของจริง เธอคงจะงอแงขอกลับไปแล้วและไม่ก็แอบวิ่งหนีกลับเองลซะเลย! และนี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมตอนเธอเจอทะเลสาบถึงได้มีท่าทางดีใจขนานั้น

 

แม้กระทั้งตอนนี้ ที่ต้องมาเจอผู้ชายบ้าๆอย่างวู่หยาน แต่ความอยากอาบน้ำของเธอก็ยังไม่ลดลงไปเลย

 

แม้ว่าใจจะอยากแค่ไหน แต่ตรงหน้าเธอก็มีผู้ชายยืนอยู่ แถมตอนนี้ก็ยังกลางวันแสกๆ แล้วจะให้เธอมายืนโชว์อาบน้ำแบบนั้นใครจะไปทำได้ล่ะห๊ะ!

 

“แต่….นายยังยืนอยู่ที่นี้นี่น่า…” ลูลู่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการพูดแต่ละคำ ด้วยหน้าตาที่ถ้าผู้ชายคนไหนมาเห็นคงเลือดกำเดาพุ่งแน่นอน

 

แต่อนิจจัง ผู้ชายตรงหน้าเธอดันเป็นโอตาคุ และยิ่งไปกว่านั้นมันยังหันหลังให้โดยเมินฉากสวยๆงามๆนี้อย่างสิ้นเชิง…..ช่างเป็นผู้ชายที่สมควรโดนสวรรค์ลงทัณฑ์จริงๆ…….

 

“ก็มันช่วยไม่ได้อ่ะ” วู่หยานเม้มปาก “ถ้าไม่ใช่เพราะข้างนอกมีกลุ่มเพื่อนของเธออยู่ ฉันก็คงออกไปตั้งนานแล้วแหละ”

 

มันเป็นเรื่องจริง หลังจากบิ๊กแบงที่มีชื่อว่าอินเทอร์เน็ต ในศตวรรษที่ 21ความลึกลับและความลับต่างๆของร่างกายผู้หญิงเขาก็รู้ทั้งหมดแล้ว แต่ถ้าจะพูดว่า ภาพบนจอมันจะไปเปรียบเทียบกับของจริงๆได้ยังไงล่ะฟะ!? ก็ขอตอบไว้ตรงนี้เลยนะ แต่เนื่องจากกระผมไม่ได้เป็นอินคิวบัสที่ความนึกคิดถูกกำหนดโดยอวัยวะช่วงล่าง แม้ว่าจะรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่มันก็แค่นั้นอ่ะนะ…..

 

“งั้นจะให้ทำไง?” อย่าบอกนะว่าเธอต้องอาบน้ำต่อหน้านายนี่จริงๆ? มันจะบ้าเกินไปแล้วนะ……

 

วู่หยานขมวดคิ้ว หยิบเอากางเกงในที่เขาถอดไว้ริมชายฝั่ง ก่อนจะมองมันด้วยสายตาขยะแขยง

 

เมื่อทำใจได้แล้ว เขาก็ฉีกกางเกงในออก ก่อนจะใช้ชิ้นส่วนนั่นมาปิดตาตัวเอง

 

ลูลู่เบิกตามองอย่างอึ้งๆ ไม่นานนักปากเธอก็เริ่มสั่น ลูลู่กัดฟันพยายามกลั้นสุดตัวเพื่อไม่ให้หัวเราะออกมา ขณะที่มือทั้งสองข้างก็รีบยกขึ้นมาปิดปาก แต่….ความพยามของเธอมันดูน่าสิ้นหวังมาก…….

 

หลังจากสังเกตใบหน้าของวู่หยานเล็กน้อย ลูลู่ก็พูดออกมาด้วยความสุข “นายห้ามแอบมองฉันเด็ดขาดเลยนะ เข้าใจไหม?!”

 

ท่าทางเธอ เล่นเอาเขาพูดไม่ออก

 

“ลูลู่น้อย สบายใจได้ ถ้ายังไม่ถึงจุดที่พวกเรานอนเตียงด้วยกัน ฉันจะยังไม่รีบ ‘กิน’ เธอแน่นอน!”

 

ใบหน้าลูลู่เริ่มแดง ก่อนที่จะมองค้อนใส่วู่หยานไปวงหนึ่ง แล้วค่อยๆถอดเสื้อผ้าออก…..

 

ฟังเสียงเนื้อผ้าเสียดสีกันกับเสียงเธอลงน้ำ ทำวู่หยานปวดหัวจี๊ดๆ

 

‘นี้มันบททดสอบความอดทนรึ!? แล้วทำไมเราถึงต้องตื่นเต้นขนาดนี้นะ โว้ยย พี่ชายคนนี้ยังไม่อยากเป็นขันทีนาาา’ 

.

.

.

.

.

“ฟู่~~ เอาละ นายเอาไอ้นั่นลงได้แล้ว(กกน)”

 

หลังจากผ่านไป ไม่รู้ว่านานเท่าไร น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสุขของลูลู่ก็ดังออกมา ปลุกวู่หยานที่กำลังง่วนอยู่การนับพระและแม่ชีในใจ

 

เขารีบเอากางเกงในลง ก่อนจะขย้ำๆมันเป็นลูกบอลแล้วปาทิ้งไปสุดแรงเกิด

 

วู่หยานหันหน้าไปมองลูลู่ ที่ตอนนี้ใส่ชุดเรียบร้อยตามผิวและผมยังมีคงหยาดน้ำหยดอยู่เป็นช่วงๆ เป็นหลักฐานอย่างดีว่าเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และด้วยแก้มอันน่าหลงใหลนั่นในตอนนี้ก็ราวกับดอกไม้ที่ผลิบานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าการอาบน้ำสำหรับลูลู่ จะเป็นอะไรที่มีความสุขมากจริงๆแฮะ

 

ชื่นชมความสวยของเธอ วู่หยานพูดไปตรงๆว่า

 

“ไม่อยากพูดแบบนี้เลยนะ แต่เธอนี้สวยซะจนผู้หญิงคนอื่นต้องอิจฉาตาร้อนเลยอ่ะ”

 

ฟังวู่หยาน ลูลู่ไม่มีท่าทีแปลกใจอะไร เธอยกแขนทั้งสองขึ้นมาเท้าสะเอวเล็กๆของตนเองด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมั่นใจ เธอพูดว่า “ของมันแน่อยู่แล้ว หุๆ ฉันนะน่ะมีผู้ชายตามจีบเป็นพรวนเลยล่ะจะบอกให้”

 

วู่หยานยิ้มขำอย่างสนุกสนานกับท่าทางของเธอ ก่อนจะยักไหล่แล้วพูดว่า “จ้า จ้า ลูลู่มีเสน่ย์ที่สุด สวยที่สุดเลย~ แล้วก็รีบๆพากระผมออกไปได้แล้วครับ~ ”

 

“อะไรนั่น! นำเสียงไม่มีความจริงใจเลยสักนิด!” ลูลู่ย่นจมูกน้อยๆของเธอ ก่อนจะทำเสียงขึ้นจมูดดึง หึ! แล้วหันหน้านำทางวู่หยานออกไป……

 

ทันใดนั่น วู่หยานก็นึกถึงเรื่องคอขาดบาดตายได้

 

“ใช้แล้ว ลูลู่ เธอจะอธิบายเรื่องของฉันให้กลุ่มของเธอยังไง?”

 

เท้าของทั้งคู่ที่กำลังยกขึ้น ก็ค้างกลางอากาศไปราวกับรูปปั้นหิน

 

“….”

 

“….”

 

รอบตัวทั้งคู่เงียบสงัด มีเพียงแค่ดวงตาที่จ้องกันไปมา ไม่นานวู่หยานก็หัวเราะแห้งๆ

 

……………….

 

“คุณหนู ในที่สุดท่านก็อาบน้ำเสร็จซักที ถ้าคุณหนูยังไม่ออกมา ท่านเฟยเฟย ก็คิดจะเข้าไปตรวจดูท่านแล้ว”

 

ขณะที่ลูลู่เดินออกมา ก็มีลุงคนหนึ่งเดินเข้ามาหา ดูแล้วคงจะเป็นหนึ่งในองครักษ์ ลุงคนนี้รีบกวาดสายมองลูลู่ขึ้นๆลงๆไม่หยุด ราวกับว่าจะมองดูตัวเธอว่ามีอะไรเสียหายไหม

 

“ไม่มีอะไร บางทีอาจจะเป็นเพราะมันสบายเกินไป ฉันเลยอาบจนลืมเวลาไป” เธอรีบหลบสายตาลุง…..อ่า..แต่โชคดีจริงๆที่ตานั่นไม่ได้เจอโหมดน่ากลัวของลุงยามโมโห…

 

“ลูลู่ เธออาบน้ำนานเกินไปแล้วนะ……” เสียงที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นดังขึ้นมา วู่หยานที่กำลังซ่อนตัวอยู่จำเสียงนี้ได้ทันที เจ้าของเสียงเป็นคนคุยกับลูลู่ตอนที่เธอกำลังจะวิ่งเข้ามาในทะเลสาบ

 

ในสายตาของเขา เธอคนนั้นเป็นผู้หญิงตัวสูง ใส่เสื้อแขนสั้น และกางเกงก็ขาสั้นเหมือนกัน เธอยืนอยู่ใจกลางของกลุ่มองครักษ์ เธอคนนี้มีผมสีเงินยาวที่ดูสวยงามมาก และยังดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเมื่อเทียบกับลูลู่ที่ออกแนวน่ารักๆ แถมหน้าอกเธอก็ยังใหญ่กว่าลูลู่ด้วย  ทำให้เธอดูเป็นดอกไม้ที่ผลิบานออกมาเต็มที่แล้ว ดูมีเสน่ย์มาก

 

“พี่เฟยเฟย นั่นเป็นเพราะน้ำมันเย็นสบายเกินไปต่างหาก!”

 

เมื่อลูลู่เห็นผู้หญิงที่ชื่อเฟยเฟย เธอก็ยิ้มทันที แล้วรีบตรงเข้าไปกอดเหมือนเด็กน้อย ทั้งคู่ดูเหมือนพี่น้องร่วมสายเลือดกันจริงๆ

 

ยังก็ไงตามวู่หยานก็รู้ว่า สำหรับลูลู่ คนที่ชื่อเฟยเฟยสำคัญกับเธอมาก แต่เธอไม่ใช่พี่แท้ๆของลูลู่ ทำไมเขาถึงรู้นะเหรอ ง่ายมาก เพราะลูลู่เป็นคนพูดก่อนหน้านี้ว่า ตัวเองเป็นลูกคนเดียวยังไงล่ะ……….

 

เฟยเฟยที่ถูกลูลู่กอด ก็อดที่จะสายหัวไม่ได้ “ทุกคนเค้ารอเธออยู่นะ แล้วยังมีหน้ามายิ้มระรื่นอยู่อีก….”

 

ลูลู่แลบลิ้นออกมาอย่างน่ารักแล้วหัวเราะคิกคัก ราวกับว่ามันไม่ใช่ธุระของเธอ

 

ตอนนี้ เขารู้ว่ามันเป็นโอกาสเดินออกไป วู่หยานกระชับดาบคุซานางิที่เอว ก่อนจะเดินออกไปจากที่ซ่อน

 

“ใครกัน!!!” เนื่องจากเขาไม่ได้คิดปิดเสียงฝีเท้า   เฟยเฟยกับพวกองครักษ์รีบชักอาวุธของตนเองออกมา แล้วตะโกนใส่ทิศที่วู่หยานอนู่

 

ลูลู่ จ้องวู่หยานด้วยใบหน้ากระวนกระวาย ตามที่ปรึกษากันเมื่อกี้ คือวู่หยานจะให้เธอเดินออกมาก่อน แล้วเดียวตัวเขาจะตามออกมาทีหลัง

 

เธอได้ถามไปว่ามีแผนอะไรงั้นเหรอ? วู่หยานก็ตอบเธอด้วยความมั่นใจเต็มหน้าว่า “ปล่อยเรื่องทั้งหมดให้ฉันจัดการเอง!”

 

นั่นทำให้เกิดเหตุการณ์ปัจจุบันขึ้น วู่หยานคิดจะทำอะไรเธอไม่รู้เลย มันจึงทำให้ลูลู่ค่อนข้างกังวล

 

เฟยเฟย กอดลูลู่แน่น เธอขมวดคิ้วมองไปทางวู่หยานที่ค่อยๆเดินใกล้เข้ามา

 

ถึงแม้จะดูเหมือนมนุษย์ที่ไร้พิษภัย และเธอก็ไม่สามารถตรวจจับปราณหรือพลังเวทจากตัวอีกฝ่ายได้ แต่เฟยเฟยก็ยังระวังไว้ เนื่องจากเธอไม่ต้องการให้ลูลู่เป็นอะไรไปเพราะความประมาทของตนเอง

 

วู่หยานทำราวกับว่าไม่เห็นท่าทางอีกฝ่าย ยังคงเดินเนิบนาบมาอย่างเชื่องช้า

 

เมื่อเดินมาจนระยะห่างระหว่างทั่งสองฝ่ายเหลือ5เมตร วู่หยานถึงหยุด และเปิดฟังค์ชั่นตรวจสอบของระบบ เพื่อประเมินคนพวกนี้

 

โดยไม่นับทั้งสองสาว กลุ่มองครักษ์จะมีประมาณ30คน และมีเลเวล20-29คละกันไป

 

มองไปที่อาวุธในมือของพวกเค้า วู่หยานได้ตัดสินสถานการณ์ องครักษ์พวกนี้เป็นนักรบ เพราะคงไม่มีนักเวทที่ถือดาบ หอก ขวานและอาวุธประเภทอื่นๆ

 

ยิ่งไปกว่านั่น นักเวทเป็นอาชีพที่ค่อนข้างหายาก การศึกษาเวทมนตร์ได้หรือไม่นั่นขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถเป็นนักเวทได้ ดังนั่นสัดส่วนระหว่างนักเวทและนักรบจึงมีประมาณ 1ต่อ100คน จากตรงนี้สามารถรู้ได้เลยว่า การที่ลูลู่สามารถฝึกมาจนถึง นักเวทแรงค์​4 ด้วยอายุเพียง17ปี พรสวรรค์ของลูลู่นั้นสูงมาก

 

ทั้ง30คนเป็นนักรบ​​แรงค์3 สมแล้วที่เป็นถึงตระกูลอันดับหนึ่งของจักรวรรดิไอย์ลูที่ทรงอำนาจ แต่ละคนมีพลังพอที่จะฆ่าเราได้เลย……..

 

ในใจแม้กำลังคิดแบบนี้อยู่ แต่สีหน้าเขายังเรียบเฉยไม่เปลื่ยน

 

เมื่อมองไปทางลูลู่ที่กำลังโดนเฟยเฟยกอด สีหน้าวู่หยานก็เปลี่ยนไปทันที ในใจเขาอุทานออกมาอย่างตื่นตะลึง

 

เฟยเฟย : เลเวล68

 

เชี่ย! แรงค์7เว้ยเฮ้ย!! 

 

วู่หยานยอมรับว่ารอบนี้ตนเองตกใจมาก บัดซบ! ทำไมผู้หญิงที่ดูเบาะบาง และดูเหมาะจะเป็นเมดมากกว่าองครักษ์ บวกกับอายุก็ไม่ได้มากไปกว่าเขาเท่าไหร่ ถึงได้มีเลเวลเกือบจะ70ได้วะ!?

 

ถ้าเป็นลุงแก่ๆใบหน้าเจนโลกเต็มไปตีนกา เขาก็สามารถยอมรับได้ทันที เพราะอายุมากกว่าตัวเองไง แต่ตอนนี้ทำไมถึงมีผู้หญิงที่อายุก็ไม่ได้เยอะกว่าตนเท่าไหร่ ถึงเก่งกว่ามากขนาดนี้ได้!!

 

นี้ตูยังเป็นพระเอกอยู่ใช้ไหม!!?หรือเปลื่ยนคนแล้ว? อ่าาาาาาา!!

 

อนิจจา วู่หยานได้ลืมไปแล้วว่า ลูลู่ที่อายุน้อยกว่าตัวเองก็มีเลเวล35……..

 

ถ้า…..นี่เป็นนิยาย คงไม่ใช่ว่า…มันเป็นชะตาอาภัพที่ตัวเอกมักจะเจอประจำหรอกนะ? 

 

บัดซบ! ตูไม่ต้องการโว้ย!!

 

ในใจตะโกนก้อง ส่วนสีหน้าด้านนอกเขาก็กำลังหรี่ตาล งแล้วเงียบไป

 

“นายเป็นใคร แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี้!”

 

ลุงวัยกลางคนยังคงไม่ลดอาวุธลง ถึงแม้ตัวเองจะไม่รู้สึกถึงภัยอันตรายจากตัววู่หยาน แต่เขาก็ไม่กล้าประมาท

 

เห็นท่าทางทุกคนที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่เป็นมิตร วู่หยานรีบควบคุมอารมณ์ที่กระเจิงไป  ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างนิ่มนวลไปให้ลุง และพูดเบาๆไปว่า…….

 

“ผมก็แค่….ออกมาเดินเล่นๆน่ะ……”

 

สิ้นเสียงเขา องครักษ์ที่กำลังตื่นตัวทุกคน ก็แข็งค้าง

 

ลูลู่หดหน้ากลับไปสบอกของเฟยเฟยด้วยตัวที่สั่นเทาไปหมด

 

‘เธอไม่กล้าพอที่จะมองต่อ…..’

 

‘ถ้ามองอีกครั้ง ตนคง….อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้แน่ๆ…..’

 

เฟยเฟยไม่สามารถรักษาความใจเย็นไว้ได้ จากบรรยากาศตึงเครียดก็ถูกคำพูดเพียงแค่ไม่กี่คำของวู่หยานเป่าทิ้งไปหมด……

 

ตอนนี้เขาไม่รู้จริงๆว่าตัวเองพูดอะไรผิดไป มองหน้าทุกคนด้วยสีหน้างุนงง

 

หรือว่าจะเป็นเพราะ…….กลัวฮาคิราชันย์ของพี่ชายคนนี้?

 

ในหัวได้วิเคราะห์สถานการณ์ ไม่นานนักวู่หยานก็ได้ตัดสินใจที่จะ….

 

พูดแม่งอีกรอบ!

 

“อะแฮ่ม ผมก็แค่….ออกมาเดินเล่นๆน่ะ……”

 

เสียงนี้ได้ปลุกทุกคนขึ้น และก่อนที่จะมีใครตอบสนอง ลูลู่ก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เธอยกหัวขึ้นมา มองไปที่วู่หยาน โดยพยายามทำสีหน้าตายด้าน จากนั้นก็ตะโดนเสียงดังใส่เขาว่า

 

“ตาบ้า!!!!”