เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วและเข้าสู่ช่วงหลังเลิกเรียน

วันนี้ก็เช่นเคย อิโอริพาชูไปซึ่งเธอปรากฏตัวหลังเลิกเรียนไม่นาน แต่ฉันกับอายานะตัดสินใจกลับบ้านทันทีเพราะชูบอกเราตอนนั้นว่าวันนี้กลับบ้านก่อนได้

“วันนี้นายอยากไปที่ไหนหลังเลิกเรียนไหม?”

“ไม่ละ ฉันคิดว่าฉันจะกลับบ้านเลย แล้วอายานะละอยากไปไหนมั้ย?”

“ไม่ ฉันอยู่ที่ไหนก็ได้ถ้าฉันได้อยู่กับโทวะคุง”

อายานะกอดแขนของฉันไว้ที่หน้าอกของเธอ

(ฉันถูกดึงเข้าไปแล้วใช่ไหม?)

เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างฉันกับอายานะ

แม้ว่าฉันจะอยากรู้ แต่ฉันยังไม่คิดจะทำอะไรกับอายานะอย่างแน่นอน

อาจเป็นเพราะฉันรู้สึกสบายใจกับสถานการณ์ปัจจุบันของฉันก็ได้

ช่วงเวลาที่อายานะเข้าใกล้ฉัน คือตอนที่ไม่มีคนรู้จักอยู่ รวมถึงชูและฉันดีใจที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเธอ

“……เฮ้ อายานะ”

“มีอะไรเหรอโทวะคุง?”

สายตาของเธอทำให้ฉันคิดว่า “ได้โปรดชวนฉันคุยอะไรก็ได้” พุ่งเข้ามาหาฉัน

มีบางอย่างกระซิบกับฉันว่าฉันควรจะเพลิดเพลินไปกับเธอต่อโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ไม่ต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องยากๆ แต่เพียงเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่เธอมอบให้กับฉัน

ในขณะนั้น ฉันกำลังจะเริ่มต้นคิดประมาณว่า “เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน…”

“…… เอ๊ะ?”

“มีอะไรเหรอ……อะ”

มันเป็นภาพที่ฉันบังเอิญได้เห็น

เรากำลังเดินอยู่บนทางเท้าในเมืองและบนถนนใกล้ๆก็มีรถวิ่งสัญจรไปมามากมาย

มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งโบกมือไปหาเพื่อนของเธอทางอีกฟากหนึ่งของทางม้าลาย

(…..คงไม่หรอกมั้ง?)

มันเป็นฉากที่สามารถมองเห็นได้ทั่วไป

ฉันมองไปที่กลุ่มเด็กที่น่าจะเป็นเป็นของเธอ

ดูเหมือนสิ่งที่ฉันคิดจะกลายเป็นความจริงที่เลวร้ายที่สุด

“เฮ้ย!”

“ระวัง!”

ฉันกับอายานะตะโกนพร้อมกัน

สัญญาณไฟจราจรสำหรับคนเดินถนนยังคงเป็นสีแดง แต่เด็กผู้หญิงเริ่มเดินไปอีกฝั่งของถนน

ฉันวิ่งออกไปและทิ้งอายานะไว้ข้างหลังทันทีที่ฉันรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“อะ เดี๋ยวก่อนโทวะคุง!”

ถึงฉันจะได้ยินเสียงของอายานะแต่ฉันก็ไม่หยุด

ผู้คนรอบตัวฉันเริ่มสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่มันก็สายเกินไปแล้วและมีรถขับเข้ามาหาเด็กผู้หญิงคนนั้น

เสียงแตรดังขึ้นทันทีและดูเหมือนเด็กผู้หญิงหยุดเคลื่อนไหวเพราะความตกใจ

“…..เวรเอ้ยยยยย!”

เมื่อมาถึงจุดนี้ ฉันหมดหวังที่จะช่วยเด็กคนนั้น

ฉันไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ฉันไม่มีเวลาคิดด้วยซ้ำ ฉันพุ่งไปหาเด็กสาวได้ทันเวลาและกอดร่างเล็กๆของเธอไว้

[โทวะคุง!!]

“?!”

ทันทีที่ฉันกอดเด็กสาวไว้ ฉากแปลกๆก็ปรากฏขึ้นในหัวของฉัน

ฉันยื่นแขนออกไปที่ชูที่ตกตะลึง จากนั้น……..

“……!”

สิ่งเดียวที่ฉันสัมผัสได้แม้จะหลับตาอยู่ก็คือเสียงแตรและเสียงเบรก และความปั่นป่วนรอบตัวฉัน แต่ฉันไม่มีเวลาคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

“อ-ไอหนูไม่เป็นไรใช่ไหม!”

คนขับลงจากรถด้วยความตื่นตระหนกและตะโกนเรียกเรา

นึกว่าเขาจะตะโกนใส่เราแต่คนขับดูเข้าใจเหตุการณ์ดี

เหตุการณ์ดังกล่าวมีเสียงดังอยู่ระยะหนึ่ง แต่เนื่องจากทุกคนปลอดภัยแล้ว จึงไม่กลายเป็นปัญหาใหญ่และฝูงชนก็เริ่มลดลง

“ตั้งแต่นี้ไปก็ระวังตัวด้วย โอเคไหม?”

“เข้าใจแล้วค่ะ…… ขอบคุณนะโอนี่จัง!”

“โอ้ ดีมาก”

ฉันมั่นใจว่าถ้าพ่อแม่ของเธออยู่ใกล้ๆ พวกเขาคงจะดุเธอเรื่องนี้แน่ ฉันคิดด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ

“ตอนนี้ทุอย่างโอเคแล้วละ”

ฉันกลับมาที่อายานะด้วยความโล่งใจที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในที่สุดฉันก็ตระหนักถึงความหนักหน่วงของสถานการณ์เมื่อมองดูโดยคิดสักนิด

“…..อายานะ?”

“โทวะคุง……นายไม่เป็นไรใช่ไหม!? นายไม่ได้รับบาดเจ็บ…ใช่ไหม?!”

อายานะกอดฉันทั้งน้ำตา

มันเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมาก และฉันเสียใจมากที่ทำให้อายานะกังวล อย่างไรก็ตามดูเหมือนอาการของอายานะดูไม่ปกติ

“นายยังมีชีวิตอยู่…นายยังมีชีวิตอยู่ ขอบคุณพระเจ้าที่นายไม่ได้รับบาดเจ็บ… ฉันไม่อยากเจออะไรแบบนั้นอีกแล้ว… โทวะคุง… โทวะคุง โทวะคุง โทวะคุง!”

เธอกอดฉันและซบหน้าลงบนอกของฉัน พึมพำกับตัวเองตลอดเวลา

ฉันจะยืนอยู่ที่นี้นานไม่ได้ ฉันจึงวางมือบนไหล่ของอายานะแล้วขอให้เธอถอยออกไปก่อนเพื่อที่เราจะได้เริ่มเดินได้

ฉันไม่มีแผนที่จะไปไหน ฉันจึงตัดสินใจมุ่งหน้าไปยังที่บ้านของฉันทันทีเพื่อทำให้อายานะสงบลง ฉันจะไปบ้านของฉันเพื่อสงบสติอารมณ์ของอายานะ เพราะเธอทำตัวแปลกๆตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

“……………”

ฉันไม่สามารถมองเห็นสีหน้าของอายานะได้เพราะเธอยังอยู่ในอ้อมแขนของฉันและไม่พูดอะไรเลย

ในที่สุดสิ่งต่างๆ ก็ดำเนินไปดังเดิม และเมื่อเราถึงบ้านและเข้าไปในห้อง ในที่สุดอายานะก็ดูสงบลงพอที่จะพูด

“ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะร้องไห้แบบนั้น”

“ไม่เป็นไร มันไม่เป็นไรจริงๆ ฉันทำให้อายานะกังวลเพราะเหตุการณ์นั้น…”

แน่นอนว่าฉันไม่คิดว่ามันผิดที่จะช่วยเด็กคนนั้น

แต่ฉันรู้ว่าฉันเป็นต้นเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้นกับอายานะ และส่วนที่แย่ที่สุดคือฉันไม่ได้คิดอะไรเลยในตอนนั้น

(…… ฉันคิดว่าน่าชื่นชมที่ได้ช่วยเธอ แต่ฉันไม่ได้คิดถึงตัวเองเลย ……และต่อหน้าอายานะที่กำลังโศกเศร้าอยู่…)

หากรถไม่หยุด มีความเป็นไปได้ที่ฉันจะกลายเป็นเนื้อบดต่อหน้าอายานะ และเหนือสิ่งอื่นใด มันคงทำให้แม่ของฉันเสียใจอย่างสุดซึ้งเพราะเธอคอยคิดถึงฉันอยู่เสมอ…

“…… ฉันขอโทษจริงๆ”

ตอนที่ฉันกอดอายานะที่ยังตัวสั่นอยู่ เธอก็เอาแขนโอบหลังฉันแล้วกอดฉันราวกับต้องการความมั่นใจว่าฉันยังอยู่ตรงนี้

(……อ่า มันทำให้ฉันสงบลงจริงๆ เวลาที่ฉันเป็นแบบนี้)

รู้สึกเหมือนว่าเธอเป็นเพียงคนเดียวในโลกนี้ที่ปลอบโยนฉันได้ เธอคนเดียวเท่านั้นอายานะ

ฉันรู้สึกสบายใจมาก แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็มั่นใจว่าได้รับข้อมูลมากมายที่น่าเป็นห่วง

(ภาพที่ฉันเห็นในตอนนั้น……ของโทวะที่พยายามจะช่วยชู คำพูดที่อายานะพูดออกมานั้นหมายความว่าไง)

ขณะที่ฉันกำลังคิดเรื่องนี้อยู่เงียบๆ ฉันก็ได้ยินเสียงในอกของฉัน

“…… ฉันคิดว่าฉันจะเสียนายไปแล้วโทวะคุง”

ฉันฟังเสียงของเธอราวกับว่าเธอพยายามจะขจัดความขมขื่นของเธอออกไป

เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น ดวงตาของเธอแดงและบวม และมันแดงก่ำมากจนฉันเห็นได้ว่าฉันทำให้เธอเสียใจมากแค่ไหน

อายานะยังคงพูดต่อ

“สำหรับฉันโทวะคุงมีความสำคัญมากกว่าใครๆ สมัยก่อนฉันใช้ชีวิตตามที่ได้รับคำสั่งมาตลอด และนายก็เข้ามาจับมือฉันและสอนฉันหลายอย่าง…… ฉันรักนายมาก ฉันรักนายมาก ฉันรักนายมาก!! โทวะ”

“……อายานะ”

เธอบอกฉันว่าเธอรักฉัน และมือของฉันก็กระชับขึ้นขณะกอดอายานะไว้ในอ้อมแขน

แม้ว่าฉันจะไม่ใช่โทวะที่แสดงความรักต่อเธอ แต่ร่างกายของฉันก็เคลื่อนไหวไปเองราวกับได้รับการบอกกล่าว

ราวกับว่าวิญญาณของฉันและวิญญาณของโทวะซ้อนทับกัน และฉันรู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นในตัวฉัน ซึ่งทำให้ฉันคิดว่ามันคือโทวะ

ฉันกอดอายานะต่อไปสักพัก และในที่สุดเธอก็สงบสติอารมณ์ได้และถอยห่างจากฉัน

“ฉันขอโทษโทวะคุง แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกโอเคแล้ว”

“อา ฉันดีใจที่ได้ยินแบบนั้น”

ฉันเอื้อมมือไปลูบหัวของอายานะอย่างเบามือ

ความรู้สึกของผมสีดำอันนุ่มสลวยของเธอให้ความรู้สึกดีมาก และมันทำให้ฉันอยากจะอยู่แบบนี้ตลอดไป

“หืม สมัยก่อน?”

“ใช่……ตอนนั้นเป็นสถานการณ์ที่แตกต่างไปจากตอนนี้โดยสิ้นเชิง แต่มันทำให้ฉันนึกถึงช่วงเวลาที่ฉันพบกับโทวะคุงเจอกันครั้งแรก”

อายานะเริ่มพูด

ราวกับเป็นการหวนนึกถึงวันวาน อายานะเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ โทวะและอายานะพบกันครั้งแรก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่เคยมีการกล่าวถึงในเกมและไม่มีใครรู้มาก่อน

———————————————————————————————————————————————————–

คุยท้ายตอน

ตอนหน้านี้ยาวมากเลยครับแต่ผมก็แปลเสร็จแล้วละ ถึงจะแอบแปลยากมากเลยก็เถอะ

(แหม…แม่ของอายานะก็นะ จะอะไรกับไอชูนักหนา) พออ่านแล้วให้ความรู้สึกอย่างงั้นเลยละครับ

ถ้าแปลตอนอื่นๆเสร็จเร็ว เย็นนี้มาลงตอนต่อไปให้นะครับ(มั้ง??)