ตอนที่ 14 กำหนดการในอนาคต

สุดยอดเซนต์ตัวปลอมแห่งยุค

อารูนน–ซาหวาด!

พบกันอีกครั้งกับสาวงามผู้น่ารักน่าชัง สวะสังคมที่ใครเห็นก็ต้องยืนปรบมือ เอลริสจังเองจ้าา!

ไม่ว่าจะยอมรึเปล่า ชั้นจะแทงทะลุหัวใจของคุณเอง!

แหวะะะ!!!

ยะ…อย่างเ-ี้ยเลย ถึงจะทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบก็เถอะ มันน่าขยะแขยงจนแทบอ้วกเลยล่ะ…ไม่ควรทำเรื่องที่ไม่ชินเลยนั่นแหละ

ต่อให้ตื่นเต้นแค่ไหนก็ไม่ควรทำอย่างนี้สินะ

ถ้ามีใครมองอยู่ล่ะก็ ชั้นคงจะฆ่าตัวตายไปแล้ว

แน่นอนว่าไม่มีใครอื่นอยู่ในห้องชั้นหรอก

ตอนที่นอนชั้นจะกางบาเรียคลุมห้องไว้ ต่อให้เป็นองครักษ์ของชั้นเองก็เข้ามาไม่ได้

นอกจจากนี้ชั้นยังผสมเวทย์กันเสียงเข้าไปด้วย

ทำอย่างนั้นไปทำไม? ก็เพราะว่าถึงชั้นจะโรลเพลย์เป็นเซนต์ก็เถอะ แต่ข้างในก็ยังเป็นตัวชั้นอยู่ดี

น่าเสียดายที่ชั้นไม่สามารถโรลเพลย์ต่อได้ในตอนที่ชั้นหลับอยู่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชั้นจะพูดเรื่องอุดจาดแค่ไหนออกมาตอนที่อยู่ในฝัน

ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ชั้นอาจจะพูดอะไรแบบ “จะโม้กพี่มั้ย” หรือ “หน่มน้ม หน่มน้ม!” ตอนที่ไม่รู้สึกตัว

ต้องเผื่อเอาไว้ว่าชั้นอาจจะถูกแอบมองจากที่ไหนสักแห่งหนึ่ง เวทย์บาเรียเป็นเวทมนตร์แรกๆที่ชั้นเรียนตั้งแต่มาอยู่ในร่างเอลริสได้แค่ไม่กี่วัน

ก่อนอื่นก็ส่องกระจกก่อน ไม่ใช่แค่บำรุงรักษาผิวและผมเท่านั้น ชั้นยังใช้เวทมนตร์บูสต์ค่าความงามเพิ่มอีก 50 เปอร์เซ็นต์

ถ้าจะให้พูดล่ะก็ ผมของชั้นจะดูสลวยเปล่งแสงแบบที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในโลกจริง ทั้งผิวและหน้าก็จะดูกระจ่าง ดูมีออร่า แบบว่ามีออร่าเกิดขึ้นจริงๆ อะไรแบบนั้น

เพราะว่าเนื้อในเป็นตัวชั้น อย่างน้อยเปลือกนอกเลยต้องสมบูรณ์แบบพอที่จะหลอกคนอื่นเค้าได้ ถึงมันน่ารำคาญอยู่หน่อยๆที่ต้องมาดูแลตัวเองอยู่ทุกวันก็เถอะ

ต้องโรลเพลย์เป็นเซนต์มาตั้ง 12 ปีนี่เป็นงานที่หนักเอาเรื่องเลยล่ะ เอาจริงๆชั้นก็ไม่รู้ว่าความจะแตกตอนไหน อยากจะคืนตำแหน่งเซนต์ให้เอเทอร์น่าแล้วไปใช้ชีวิตหลังเกษียนเร็วๆจัง

ถ้าทำได้ชั้นอยากจะอยู่ในบ้านซุงในป่าใกล้ถูเขา นอนเอื่อยเฉื่อยไปวันๆ รับลมธรรมชาติอะไรเทือกนั้น

แต่นั่นเป็นเรื่องในอนาคต เพื่อให้ได้มาซึ่งจุดจบแฮปปี้เอนดิ้ง ชั้นจะต้องวางแผนไว้ให้ดีซะก่อน

อย่างแรก จะมีนางเอกอยู่สามคนที่จะต้องตายในทุกรูทนอกจากรูทตัวเอง

หนึ่งในนั้นคือแม่มด ซึ่งชั้นไม่แคร์ว่าจะตายอะไรยังไง

ปัญหาคืออีกสองคน

คนแรกคือนางเอกรองที่ชื่อ ลีน่า โทมัส จำได้ว่าเป็นขุนนาง ตระกูลวิสเคานต์หรืออะไรนี่แหละ

เธอเป็นเด็กว่าง่าย มีผมสีเขียว จุดเด่นของเธอคือแว่นตา

เธอยังมาพร้อมกับเซตติ้งที่ใช้บ่อยอย่าง”ถ้าเธอถอดแว่นแล้วจะกลายเป็นสาวสวย”อีกด้วย

ที่สำคัญเลยคือเธอคนนี้น่ะสภาพร่างกายไม่ค่อยดี ถ้าไม่ได้อยู่ในรูทตัวเองก็จะโดนตัดทิ้งออกจากเนื้อเรื่องกลางทาง

ในรูทของเธอ จะปรากฏว่าเธอนั้นป่วยเป็นโรคร้ายแรงอยู่ และเพื่อจะช่วยเธอ เวอร์เนลและพรรคพวกจำเป็นต้องหาวัตถุดิบมาปรุงยารักษาเธอ อย่างเช่นแมนดราโกร่า เกล็ดจากปีกมังกร ขนกริฟฟอน พวกตัวระดับบอสๆทั้งนั้นเลย ถ้าเป็นเซฟแรกก็จะหาทางเอาชนะพวกมันได้ยากมาก

แต่ตัวอีเวนต์จริงๆก็แค่หาวัตถุดิบมาน่ะนะ ไม่จำเป็นต้องไปสู้กับพวกบอสจริงๆ ฉะนั้นต่อให้เป็นเซฟแรกก็ยังเล่นรูทนี้ได้ แค่ต้องเตรียมการให้ดีหน่อย

วิธีทำให้เธอรอด…แค่ชั้นไปที่นั่นก็พอแล้วป่ะ?

ไม่อยากจะโม้หรอกนะ แต่เวทย์รักษาของชั้นน่ะคุณภาพดีกว่าพวกยาไม่รู้เท่าไร จนถึงตอนนี้ยังไม่มีอาการเจ็บป่วยไหนเลยที่ชั้นรักษาไม่หาย

สมมติว่ามันไม่ได้ผล…ตอนเหตุการณ์ตัวประกันของฟาร่าซังนี่จำได้ว่ามีมังกรและกริฟฟอนปนอยู่ในพวกปีศาจที่ชั้นจัดการไปด้วย แค่ใช้วัตถุดิบจากพวกนั้นก็ได้มั้ง

โอเค เคสนี้ถือว่าจบปัญหาแล้วหนึ่ง

คนต่อไปคือนางเอกรองที่ชื่อ ไอน่า ฟอกซ์

เธอไว้ผมทรงทวินเทลสีแดง และเธอก็เป็นลูกสาวของตระกูลวิสเคานต์ที่ล่มสลาย

ตระกูลของเธอล่มสลายไปก่อนที่เนื้อเรื่องหลักจะเกิดขึ้น ด้วยฝีมือของเอลริส

พ่อแม่ของไอน่าออกปากออกเสียงในเรื่องเลวๆที่เอลริสทำไว้ เอลริสที่เกิดรำคาญขึ้นมาเลยสั่งให้ทำลายทั้งตระกูลของไอน่า

ด้วยคำสั่งของเอลริส ตระกูลของไอน่าถูกกดขี่และโจมตีสารพัดจนทุกคนในตระกูลตายหมด เหลือเพียงไอน่าที่ถูกส่งไปอยู่ตระกูลอื่น

เป็นอีหอกหักจริงๆนั่นแหละ ยัยเอลริส(ตัวจริง)นี่…

แน่นอนว่าไอน่าแค้นเอลริสอย่างถึงที่สุด และวางแผนจะลอบสังหารเธอ

ไอน่าตั้งใจจะเรียนให้ได้ผลการเรียนสูงๆเพื่อจะได้รับเลือกให้เป็นองครักษ์ และหาโอกาสฆ่าเอลริสซะ

แต่เพราะเอลริสเดินทางมาที่สถาบันอยู่บ่อยครั้งเพื่อทำเรื่องชั่วๆ

ไม่รู้เพราะหมดความอดทนแล้วรึเปล่า เธอไม่รอช้าวางแผนฆ่าเอลริสซะเดี๋ยวนั้นเลย

ตอนที่โดนไอน่าลอบจู่โจม เอลริสร้องอย่างกับหมูโดนเชือด ทำเอาชั้นหลุดขำเลยล่ะ

สุดท้ายแล้วการจู่โจมของเธอก็ถูกสกัดไว้โดยเลย์ล่าที่ทำหน้าที่เป็นองครักษ์ ไอน่าถูกจับและโดนคุมตัวไป มารู้ทีหลังว่าเธอถูกประหาร

แต่อีเวนต์นี้จะส่งผลอย่างใหญ่หลวงกับเนื้อเรื่องในภายหลัง

อย่างแรกก็คือเลย์ล่าที่มาสกัดการโจมตีไว้ เธอรู้สึกผิดและเริ่มจะตั้งคำถามในความเป็นอัศวินของเธอเอง ที่ส่งเด็กที่มีพรสวรรค์อย่างไอน่าไปตายโดยที่เธอไม่เต็มใจ

อย่างที่สองคือในการโจมตีครั้งนั้น ดาบของไอน่าได้สร้างรอยแผลให้กับเอลริส

ทำให้เซนต์ที่ไม่สมควรได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีอื่นนอกจากแม่มดกับตัวเซนต์เองได้รับบาดแผล เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่าเอลริสคือเซนต์ตัวปลอม

เหตุการณ์นี้ส่งผลให้เลย์ล่าเริ่มรวบรวมหลักฐานความชั่วร้ายของเอลริสและทรยศเธอ รอยแผลบนตัวของเอลริสที่ได้จากไอน่ากลายเป็นหลักฐานที่ดิ้นไม่หลุดว่าเธอเป็นแค่เซนต์เก๊

หรือก็คือ ไอน่าเป็นคนที่จะนำไปสู่การลงทัณฑ์เอลริส

….และนั่นคือบทบาททั้งหมดของเธอในรูทอื่นที่ไม่ใช่รูทเธอเอง

เธอคือคนที่จู่โจมเอลริส จากนั้นก็หายไปจากเนื้อเรื่องโดยสมบูรณ์

ในรูทที่เธอเป็นนางเอก เนื้อเรื่องก็จะเป็นแบบเดินจนประมาณครึ่งเรื่อง ความแตกต่างก็คือเวอร์เนลจะให้ความร่วมมือในการจู่โจมด้วย และร่วมกันสู้กับเลย์ล่า

ด้วยความช่วยเหลือของเวอร์เนล ไอน่าสามารถเอาชนะเลย์ล่าได้ และสร้างบาดแผลที่ชัดเจนให้กับเอลริสโดยที่เธอไม่ตาย

หลังจากนั้นไอน่าและเวอร์เนลก็จะหลบหนีไปด้วยกัน และเริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้นในระหว่างหนีจะกลายเป็นความรัก ไม่นานจากนั้นเลย์ล่าก็จะทำการทรยศและเปิดโปงความชั่วร้ายของเอลริส นำไปสู่การลงทัณฑ์เอลริส

ส่วนในโลกนี้…ชั้นไม่คิดว่าไอน่าจะมาโจมตีชั้นแต่แรกแล้วอ่ะนะ

บ้านตระกูลฟอกซ์ก็ยังอยู่ดี แถมชั้นยังไม่ได้ไปทำอะไรให้ใครแค้นด้วย

ก็มีความเป็นไปได้ที่โลกจะบังคับให้อีเวนต์เกิดขึ้น ทำให้ไอน่าคิดแบบว่า “ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ข้าเกลียดท่าน!” แล้วสุดท้ายก็เกิดอีเวนต์ขึ้นอยู่ดี แต่ถ้าเป็นแบบนั้นชั้นก็คงทำอะไรไม่ได้

ต่อให้โดนโจมตีชั้นก็มั่นใจว่าจะไม่เป็นไร แถมถึงเธอโดนจับชั้นก็สามารถพูดให้เธอรอดโทษประหารได้ง่ายๆ

หรือก็คือ ปัญหานี้ก็เรียกได้ว่าคลี่คลายแล้วเหมือนกัน

เอาล่ะ…เหลืออะไรที่น่ากังวลอีกบ้าง?

ถ้าจะให้พูด ก็ยังเหลืออีเวนต์ที่เกี่ยวกับแม่มดอยู่

ในรูทของเกมในโลกเดิม แม่มดดูเหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าเอเทอร์น่าคือเซนต์ เธอจะคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง นำไปสู่ความตายของตัวประกอบจำนวนมาก

แต่…ดูเหมือนว่าในโลกนี้ แม่มดจะไม่รู้ว่าเอเทอร์น่าคือเซนต์ตัวจริง

ถึงฟาร่าซังจะมีโอกาสสามารถฆ่าเอเทอร์น่าตอนไหนก็ได้ที่ชั้นใต้ดิน เธอกลับโดนใช้เป็นตัวประกันเพื่อล่อชั้น(เซนต์เก๊)ให้ไปหา

…สงสัยแม่มดจะไม่ได้ฉลาดอย่างที่ชั้นคิดซะล่ะมั้งเนี่ย?

ถ้าคิดกันตามปกติ ก็ไม่น่าสับสนเซนต์ตัวจริงกับเซนต์เก๊ที่เนื้อในเป็นไอ้สวะได้เลยนะ

คนปกติก็ว่าไปอย่าง แต่แม่มดนี่เป็นขั้วตรงข้ามกับเซนต์ไม่ใช่เหรอ ไม่รู้ได้ไงวะ?

เออ แต่เป็นอย่างนี้ต่อไปมันก็สะดวกกับชั้นมากกว่าล่ะนะ

ถ้าพูดถึงแม่มด…จริงๆชั้นสามารถไปจัดการเธอตอนนี้เลยก็ยังได้

ชั้นรู้ตำแหน่งของแม่มดรุ่นปัจจุบันอยู่แล้ว ถ้าชั้นต้องการ ก็แค่บังคับให้เธอสู้เร็วกว่ากำหนดและจัดการเธอซะ

เพราะว่าชั้นมีพลังความมืดในร่างกาย ต่อให้เวทย์ปกติจะมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อสู้กับแม่มด ชั้นก็ยังสามารถสร้างความเสียหายให้เธอได้ แต่เธอก็สามารถตีทะลุเกราะชั้นได้เช่นกัน

ถ้าเป็นในเกม เวอร์เนลเลเวล 70 สามารถสู้กับแม่มดได้อย่างสูสี

ถ้ามีเอเทอร์น่าอยู่ด้วย ก็จะสามารถเอาชนะแม่มดได้ตั้งแต่เลเวลประมาณ 40

และ…ถ้าใช้เกมเป็นมาตรฐาน สเตตัสของชั้นสูงกว่ากว่าเวอร์เนลเลเวล 99 อย่างเทียบไม่ติด ชั้นสามารถจัดการศัตรูที่เวอร์เนลลำบากที่จะจัดการได้แบบง่ายๆ เจ้าพวกนั้นเจาะผ่านบาเรียของชั้นไม่ได้ด้วยซ้ำ

ถ้าจะพูดก็คือ ถึงชั้นจะสู้กับแม่มดตอนนี้ การโจมตีของชั้นจะ”มีประสิทธิภาพลดลง แต่ก็ยังรุนแรงอยู่ด้วยความห่างชั้นของสเตตัส” และการโจมตีของแม่มดก็จะกลายเป็น “สมควรจะได้เปรียบ แต่สเตตัสห่างกันเกินไป เลยทำดาเมจไม่ค่อยได้” ดูยังไงชั้นก็ไม่มีทางแพ้เลย

ก็ประมาณว่าใช้โปเกมอนประเภทไฟเลเวล 100 สู้กับโปเกมอนประเภทน้ำเลเวล 5

แต่มันมีเหตุผลที่ชั้นไม่ไปสู้ในตอนนี้ เหตุผลที่ชั้นทำแบบนั้นไม่ได้

ถ้าชั้นจะทำ อย่างน้อยก็ขอเห็นฉากจบแฮปปี้เอนดิ้งของเอเทอร์น่าก่อน

ตอนนี้เลยทำได้แค่ไล่ต้อนแม่มดไปก่อน

ในที่สุด กำหนดการของชั้นก็ถูกกำหนดแล้ว

เริ่มจากหาลีน่า โทมัสแล้วใช้เวทย์รักษากับเธอ

ถ้าชั้นอยาก ชั้นก็แค่ให้เลย์ล่าเฝ้าดูไอน่า ฟอกซ์ไว้เผื่อเธอจะคิดโจมตี แน่จริงก็มาดิ

โอเค หมดเวลาคิดแล้ว

สลายบาเรียเรียบร้อย

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านเอลริส”

คนที่เคาะประตูก่อนที่จะเข้ามาในห้องก็คือเลย์ล่าที่ตามชั้นมาถึงโรงเรียนในฐานะองครักษ์

วันนี้ก็เท่เหมือนเคยเลยนะ

ใครมันกล้าเรียกสาวสวยคนนี้ว่าสต๊อกโกะกันฮะ?

ตูเองนี่หว่า

ชั้นเดินตามสต๊อกโกะไปจนถึงห้องเรียน

ทางเดินที่โหวกเหวกจนถึงเมื่อครู่ ทั้งนักเรียนและอาจารย์ต่างหยุดพูดและมองมาที่ชั้น

ฟุฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า รู้สึกดีจริงๆ สรรเสริญชั้นสิ! ยกหัวสูงเกินไปแล้ว เจ้าพวกสามัญชนทั้งหลาย

อ๊ะ นักเรียนส่วนใหญ่ที่นี่เป็นชนชั้นสูงนี่นา กลับกัน ชั้นที่ไม่มีชื่อตระกูลนี่แหละที่เป็นสามัญชน

ยกโทษให้ข้าพเจ้าด้วย หัวตูเองนี่แหละที่สูงไป เอ้าโค้ง

แต่ไอ้แบบนี้ทำให้ชั้นรู้สึกดีจริงๆนะ

ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่ยิ่งใหญ่เลย

มันอาจจะช่วยไม่ได้ที่เอลริส(ตัวจริง)กลายมาเป็นคนที่หยิ่งยโส ก็เล่นถูกเลี้ยงดูมาในสิ่งแวดล้อมแบบนี้นี่นา

ถึงนั่นจะไม่ช่วยแก้ต่างให้เรื่องเลวๆที่เธอทำมาหรอก

ก็น่าคิดนะ ถ้าเอเทอร์น่าถูกเลี้ยงดูมาในสิ่งแวดล้อมแบบนี้ เธอยังจะเติบโตมาเป็นเซนต์ที่จิตใจงดงามอยู่รึเปล่า?

หรือมันจะตรงข้ามกันเลย เอเทอร์น่าอาจจะกลายเป็นทรราชย์ที่เห็นแก่ตัวแบบเอลริสตัวจริง…ก็เป็นได้

มนุษย์เกิดมาก็เป็นผ้าขาวกันหมดทุกคนนั่นแหละ สีจะค่อยๆเปลี่ยนไปอยู่ที่สภาพแวดล้อมที่โตมา สีที่เพี้ยนไปนิดเดียวอาจทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเลยก็ได้

ถ้าลองคิดแบบนั้น…เอลริส(ตัวจริง)อาจจะพอนับได้ว่าเป็นเหยื่อของสถานการณ์ก็ได้

ชั้นเหรอ? ตัวชั้นน่ะมันดำมืดมาตั้งแต่แรกแล้ว เกิดมาใหม่นี่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ไม่ว่าจะผสมสีเข้าไปมากแค่ไหน สีดำก็ยังจะดำอยู่วันยังค่ำ

มาถึงประตูห้องเรียนแล้ว

ก็อยากจะเข้าไปอยู่หรอก แต่ใครบางคนนั่งจุ้มปุ๊กอยู่หน้าประตูทำให้เข้าไปไม่ได้

ตาลุงนี่เป็นใครน่ะ?

“แกกล้าขวางทางท่านเอลริส…”

สต๊อกโกะหัวร้อนจนเกือบจะเข้าไปบวกแล้ว ชั้นต้องรีบเอามือไปขวางไว้ก่อน

โอ้ย หยุดก่อนสต๊อกโกะ การกระทำแบบนั้นมันสำหรับพวกตัวร้ายนะ

แบบที่พวกผู้ติดตามตัวร้ายจะพูดแบบ “แกกล้าขวางทางท่าน XX!” จากนั้นก็เก็บคนที่มาขวาง

จะทำให้ชั้นเป็นตัวร้ายรึไง?

“อาา…ท่านงดงามยิ่งกว่าเดิมเสียอีกเมื่อมองดูใกล้ๆ…กระผมรอวันนี้มาตลอดเลย…วันที่ท่านจะมาที่โรงเรียนแห่งนี้…”

ไม่ดิ ตกลงสูเป็นไผเนี่ย? 

ขนาดมองดูแบบละเอียดแล้วก็ยังจำไอ้หมอนี่ไม่ได้เลย

แต่จริงๆชั้นก็ไม่มานั่งจำพวกตัวประกอบชายอยู่แล้วน่ะนะ

อายุ…ประมาณยี่สิบกลางๆ หน้าตานี่ก็ถือว่าหล่อพอตัว ถึงจะไม่อยากยอมรับก็เถอะ

ตาตี่ จมูกโด่ง หน้ายาวหน่อยๆ

ผมเรียบมัดไว้ด้านหลัง เหลือไม่กี่เส้นทิ้งไว้ตรงหน้าผาก

เค้าใส่แว่นด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนจะเป็นคนฉลาด

หน้าตาเหมือนกับตัวละครที่จะทำทีเป็นมิตรในช่วงเริ่มต้น แต่มาทรยศกันในตอนหลัง

เอ่อ ตกลงแกเป็นใครเนี่ย? คิดว่าน่าจะอยู่ในเกม แต่จำไม่ได้ว่ะ…

ไม่มีทางเลือก ต้องถามสต๊อกโกะผู้พึ่งพาได้ซะแล้ว

ชั้นส่งสายตาให้เธอไปทีนึง เธอดูเหมือนจะเข้าใจและไอเล็กๆ จากนั้นก็ตอบเหมือนไม่อยากตอบ

“คนผู้นี้เป็นอาจารย์ในสถาบันแห่งนี้ ชื่อว่า ซัปเปิ้ล เมนต์ ค่ะ”

อา จำได้แล้ว เป็นตัวละครศัตรูนี่เอง

ใช่แล้ว มีคนแบบนี้ด้วยนี่นา

ชื่อของเขาคือซัปเปิ้ล เมนต์[*Supplement = อาหารเสริม] คนสร้างน่าจะขี้เกียจตั้งชื่อแล้วเหลือบไปเห็นกล่องอาหารเสริมวางอยู่แถวนั้นพอดี เลยหยืบมาเป็นชื่อโต้งๆซะอย่างนั้น น่าจะประมาณนั้นแหละ

ชื่อเล่นในหมู่แฟนเกม ไอ้แว่นโรคจิต อายุ 25 ปี

เขาจะกลายเป็นศัตรูกับเวอร์เนลในแทบทุกรูท แล้วก็โดนกำราบอยู่ทุกรูทไป เป็นวายร้ายตัวประกอบแบบนั้นเอง

เขาเป็นพวกบูชาคลั่งไคล้เซนต์แบบสุดกู่ พยายามยัดเยียดภาพของเซนต์ในจินตนาการตัวเองให้คนอื่นๆ

แน่นอนว่าเอลริส(ตัวจริง)ไม่ใช่เป้าหมายของเขา ดูเหมือนว่าหมอนี่จะรู้ตัวว่าเธอเป็นตัวปลอมแต่เนิ่นๆเลย

เหตุผลก็คือ “สวะแบบนั้นไม่มีทางเป็นเซนต์” อคติล้วนๆแบบนั้นแหละ

ก็ถูกอ่ะนะ

หลังจากที่เอลริส(ตัวจริง)โดนประหาร เขาจะเริ่มทำตัวแอคทีฟ พูดอย่างมีความสุขว่า “ว่าแล้วเชียว ไอ้ตัวแบบนั้นน่ะไม่ใช่เซนต์อยู่แล้ว” และเริ่มออกตามหาเซนต์ที่แท้จริง

ซัปเปิ้ล เมนต์จะเริ่มสตอล์กกิ้งนางเอกที่มีค่าความชอบสูงที่สุดในขณะนั้น จากนั้นก็จะลักพาตัวเธอไป เพื่อเปลี่ยนเธอให้กลายเป็นเซนต์ในอุดมคติของเขา เป็นผู้ชายน่ารำคาญที่จะตายๆไปซะ

แต่เซนต์ในอุดมคติมีตัวตนอยู่แค่ในจินตนาการของเขาเอง

เขาจะไม่มีวันพอใจไม่ว่าเขาจะลักพาตัวใครมาก็ตาม เพราะว่าพวกเธอนั้นแตกต่างจากเซนต์ในอุดมคติของเขา ไอ้เวรนี่จะพูดราวๆว่า “เซนต์ไม่พูดแบบนี้” หรือ “นี่ไม่ใช่เซนต์ที่กระผมตามหา” และพยายามฝึกนางเอกให้เป็นตามที่ตนต้องการ สุดท้ายเวอร์เนลก็จะเข้ามาช่วย จัดการซัปเปิ้ล เมนต์ และสุดท้ายเขาก็ถูกไล่ออกจากโรงเรียน…บทของเจ้าหมอนี่ก็มีเท่านี้แหละ

อีเวนต์นี้จะไม่เปลี่ยนไปต่อให้คนที่เขาลักพาตัวมาจะเป็นเซนต์ตัวจริงอย่างเอเทอร์น่า

ในท้ายที่สุด “เซนต์ในอุดมคติ”ก็ไม่มีอยู่จริงนอกจากในหัวของเขาเอง

ให้คนแบบนี้เป็นอาจารย์ได้ โลกนี้มันเพี้ยนไปแล้วรึไง?

ก็นะ…ถึงจะเป็นแค่วายร้ายตัวประกอบ ก็ควรระวังไว้ก่อนดีกว่า

ถ้าแกทำอะไรแปลกๆล่ะก็ ชั้นนี่แหละจะใช้กำลังลบแกออกไปจากเนื้อเรื่องเองเลย