ตอนที่ 11 เกือบพิการ
เฉินห่าวถูกตบหน้าอย่างแรง จนแทบล้มลงไปกองกับพื้น
“ไอ้เวรเอ๊ย!!! หน้าตาของแก๊งโกสต์ไรเดอร์ถูกแกทำเสียหายหมด!”
ชายหัวโล้นยกมือขึ้นชี้หน้าเฉินห่าวพร้อมกับกร่นด่า “ถ้าวันนี้หาตัวไอ้คนก่อเรื่องไม่ได้ แก๊งโกสต์ไรเดอร์ของพวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”
เฉินห่าวยกมือขึ้นกุมใบหน้าของตนเองไว้ พร้อมกับจ้องมองลูกพี่หัวโล้นด้วยสีหน้าแววตาที่รู้สึกผิด แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
เขารู้จักอุปนิสัยและอารมณ์ของลูกพี่หัวโล้นดีว่า เป็นคนที่ไม่ยอมเสียหน้าอย่างเด็ดขาด! หากเขาต้องเสียหน้าให้ใครแม้เพียงเล็กน้อย เขาจะกลับไปเอาคืนเป็นสิบเป็นร้อยเท่าทุกครั้ง..
ชายหัวโล้นหันไปจ้องมองเหล่าซานแทน พร้อมกับถามออกไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “บอกฉันมาได้แล้ว.. เวลานี้ไอ้คนที่มันทำร้ายร่างกายลูกน้องของฉันอยู่ที่ไหน?”
“ฉันไม่รู้.. ไม่รู้จริงๆ!!” หลิวเหล่าซานส่ายหน้าไปมา
“ไม่รู้งั้นเหรอ?!!”
ชายหัวโล้นโน้มตัวลงพร้อมกับกำหมัดชกเข้าที่ใบหน้าของหลิวเหล่าซานอย่างโหดเหี้ยม..
“โอ๊ย!!!”
หลิวเหล่าซานกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด และรีบยกมือขึ้นปิดหน้าไว้ เลือดสีแดงสดไหลออกจากจมูกของเขาไม่หยุด แต่ชายหัวโล้นยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น มันยกมือขึ้นจิกผมของเหล่าซาน แล้วลากศรีษะของเขาไป ก่อนจะจับเอาหน้ากระแทกลงกับโต๊ะอย่างป่าเถื่อน
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงหน้าผากของหลิวเหล่าซานกระแทกกับโต๊ะดังสนั่นติดต่อกันถึงสามครั้ง ไม่ว่าใครที่ได้ยินต่างก็ต้องใจสั่นไปตามๆกัน
“คราวนี้จะบอกฉันได้หรือยังว่าไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร? แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน?” ใบหน้าของชายหัวโล้นบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
เวลานี้ใบหน้าของหลิวเหล่าซานเปียกโชกไปด้วยเลือดสีแดงสดที่เพิ่งจะไหลออกมา และที่หน้าผากของเขาก็มีบาดแผลขนาดใหญ่ ผิวหนังบริเวณนั้นเปิดออกมาจนเห็นเนื้อสด สภาพของเขาเวลานี้ช่างน่าสมเพชเวทนายิ่งนัก
“ฉัน.. ฉันไม่รู้..” หลิวเหล่าซานเอ่ยตอบด้วยความยากลำบาก
“หึ.. ยังจะไม่รู้อีกงั้นเหรอ? ได้..” ชายหัวโล้นขมวดคิ้วเข้าหากัน ใบหน้าของเขาเวลานี้ดูโหดเหี้ยมน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม
“ได้โปรดเถอะพี่ชาย!!! ฉันไม่รู้จริงๆ ฉันไม่รู้จักคนที่ไปมีเรื่องกับพี่ชายจริงๆ ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันขอร้อง ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะ!” หลิวเหล่าซานคุกเข่าลงต่อหน้าชายหัวโล้น พร้อมกับเฝ้าอ้อนวอนขอร้องด้วยน้ำเสียงที่เบาแทบหมดแรง
“ลิ้มรสบาทาของฉันหน่อยก็แล้วกัน!!”
ชายหัวโล้นไม่เพียงแค่ตะคอกใส่หน้า แต่ยังยกเท้าขึ้นเตะเสยใบหน้าของหลิวเหล่าซานที่กำลังคุกเข่าอยู่อย่างแรง หลิวเหล่าซานถึงกับหงายหลังล้มลงไปนอนกับพื้น หลังจากนั้นชายหัวโล้นก็ได้ใช้เท้าของมันเหยียบใบหน้าของเขาไว้ด้วย
“ลุงซาน!!”
เสียงร้องตะโกนดังขึ้นจากกลุ่มคนที่กำลังมุงดูอยู่ เฉิงซินเย่วยืนเอามือปิดปากด้วยดวงตาที่แดงก่ำทั้งสองข้าง
ทุกๆวัน หลิวเหล่าซานจะคอยดูแลเธอราวกับลูกหลานคนหนึ่ง หลายครั้งที่ลุงซานไม่ยอมรับเงินค่าบะหมี่จากเธอ และยังคอยบอกคอยเตือนให้เธอตั้งใจเรียนหนังสือให้มาก
คนดีๆเช่นหลิวเหล่าซาน สมควรที่จะต้องถูกคนชั่วยืนใช้เท้าเหยียบใบหน้าอยู่แบบนี้งั้นหรือ? ความยุติธรรมในโลกนี้ยังมีอยู่หรือไม่?
“ฮึ่ม….”
ไฟโทสะรุ่มร้อนพุ่งจากหน้าอกขึ้นสู่ศรีษะของหลินหนานทันที!!
สายตาของเขาเวลานี้ฉายแววเย็นยะเยือกอย่างที่สุด ประหนึ่งปีศาจร้ายที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรก!
ชายหัวโล้นยืนเหยียบหน้าหลิวเหล่าซานอย่างผู้ชนะ หันมองไปรอบตัวพร้อมกับประกาศเสียงกร้าว “ใครที่ดูอยู่แล้วรู้สึกทนไม่ได้ ก็ก้าวออกมาได้เลย แต่รับรองว่าจะมีสภาพไม่ต่างจากหมอนี่แน่..”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนที่อยู่รอบๆ ต่างก็พากันนิ่งเงียบจนหมด ทุกคนต่างก็หวาดกลัว และไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
ทุกคนในที่นี้ล้วนแล้วแต่เป็นชาวบ้านที่หากินอย่างสุจริต มีใครบ้างที่จะกล้าและอยากไปมีเรื่องกับนักเลงหัวไม้พวกนี้?
อีกอย่าง.. นักเลงกลุ่มนี้ก็ได้ยกพวกมากันร่วมยี่สิบคน ขืนก้าวออกไปก็รังแต่จะหาเรื่องใส่ตัวเปล่าๆ!
ชายหัวโล้นแสยะยิ้ม มันหยิบไม้กอล์ฟขึ้นมา และกดลงบนนิ้วมือของหลิวเหล่าซาน พร้อมกับตวาดขึ้นด้วยใบหน้าที่น่าสะพรึงกลัว
“ฉันจะถามแกเป็นครั้งสุดท้าย คนที่ทำร้ายลูกน้องของฉันมันเป็นใคร?”
ระหว่างที่ถามนั้น ชายหัวโล้นก็หักนิ้วตัวเองเสียงดังกร๊อบ เพื่อข่มขวัญผู้คนให้ยิ่งตื่นตระหนกตกใจ และหวาดกลัวมากขึ้น
“ฉัน.. ฉันไม่รู้จริงๆ” หลิวเหล่าซานตอบกลับไปด้วยสีหน้าหมดหวังท้อแท้
“ปากแข็งนักนะ? ได้.. งั้นแกก็เตรียมตัวพิการได้เลย!”
ชายหัวโล้นหงุดหงิดรำคาญใจ และหมดความอดทนที่จะถามต่อ มันยกไม้กอล์ฟในมือขึ้น และฟาดลงไปที่นิ้วของหลิวเหล่าซานสุดกำลัง
แน่นอนว่า.. หากไม้กอล์ฟในมือของมันกระแทกเข้ากับนิ้วของหลิวเหล่าซานแล้วล่ะก็ นิ้วของเขาจะต้องต้องหัก และถึงขั้นพิการอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แน่!
“ว้าย!!” หญิงสองคนที่ยืนมองอยู่ถึงกับกรีดร้องออกมา และรีบยกมือขึ้นปิดตาไว้
“ลุงซาน!!” เฉิงซินเย่วที่ยืนดูอยู่ถึงกับร้องออกมา พร้อมกับร้องไห้ด้วยความตกอกตกใจ
แต่ในเสี้ยววินาทันนั้นเอง เงาดำร่างหนึ่งก็ได้พุ่งออกจากฝูงชนที่กำลังมุงดูอยู่ และไปปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าชายหัวโล้นอย่างรวดเร็ว
ปัง!!
เสียงของไม้กอล์ฟกระแทกเข้ากับบางสิ่งบางอย่าง.. แต่กลับไม่ใช่นิ้วของหลิวเหล่าซาน!
ชายหัวโล้นจ้องมองร่างที่ปรากฏตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ เขาพบว่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญนี้ผอมแห้งแรงน้อย และดูเหยาะแหยะอย่างมาก
แต่.. สายตาของคนผู้นี้กลับดูน่าสะพรึงกลัว และน่าขนหัวลุกที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเห็นมาในชีวิต!
สายตาของคนผู้นี้ประหนึ่งสายตาของสัตว์ป่าที่ดุร้าย และหิวโหยมาเนิ่นนาน แล้วจู่ๆก็บังเอิญพบเจอเหยื่ออันโอชะอย่างหมาป่าตัวใหญ่เข้า..
ดวงตาแดงก่ำราวกับโลหิตคู่นั้น ทำให้ผู้ที่พบเห็นถึงกับใจสั่น และขนหัวลุกได้ในทันที!
แต่สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือ.. คนผู้นี้ถูกไม้กอล์ฟฟาดเข้าที่ฝ่ามืออย่างแรง แต่สีหน้าของเขากลับยังคงเรียบเฉยเป็นปกติ ไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมาเลยแม้แต่น้อย
ผู้คนที่มุงดูอยู่และได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ต่างก็พากันส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอื้ออึงไปหมด และหลายคนที่มาจับจ่ายซื้อของในบริเวณนี้ ก็จดจำได้ว่าชายหนุ่มผู้นี้คือใคร
“พี่หนาน..” เฉิงซินเย่วร้องออกมาด้วยความรู้สึกที่ทั้งประหลาดใจ และดีใจในคราวเดียว
เธอไม่เห็นว่าหลินหนานมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่..
“ไอ้เวรนี่เป็นใครกัน?” ชายหัวโล้นร้องตะโกนถามขึ้นทันที
“ฉันก็เป็นคนที่แกกำลังตามหาอยู่ยังไงล่ะ!” หลินหนานยิ้มกว้างในขณะที่ตอบกลับไป
หลินหนานบิดข้อมือเบาๆ และไม้กอล์ฟในมือก็ถึงกับสั่นสะท้าน ชายหัวโล้นรับรู้ได้ถึงพละกำลังที่แข็งแกร่งอย่างน่ากลัวก็ถึงกับตกใจ มันถึงกับผงะและเกือบทรงตัวไม่อยู่จนแทบล้มลงกับพื้น
หลินหนานอาศัยจังหวะที่ชายหัวโล้นเสียท่านี้ รีบตรงเข้าไปช่วยพยุงร่างของหลิวเหล่าซานให้ลุกขึ้น
“ลุงซาน.. ผมขอโทษ เป็นเพราะผมแท้ๆ ลุงถึงต้องลำบากขนาดนี้!” หลินหนานรีบขอโทษหลิวเหล่าซานทันที
เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากเขาเพียงคนเดียว ไม่เช่นนั้นนักเลงหัวไม้พวกนี้คงจะไม่มาหาเรื่องหลิวเหล่าซานถึงร้านบะหมี่แน่
แต่หลิวเหล่าซานกลับกุมใบหน้าที่บวมเปล่งของตัวเองไว้ และรีบกระซิบบอกว่า “เสี่ยวหนาน อย่าทำอะไรโง่ๆ เธอสู้พวกมันไม่ได้แน่ รีบหนีไปเร็วๆเข้า!”
ในช่วงวินาทีแห่งความเป็นความตายนั้น ไม่รู้ว่าหลิวเหล่าซานไปเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหน เขารีบผลักร่างของหลินหนานจนกระเด็นออกไปทันที
หลินหนานรู้สึกอบอุ่นหัวใจยิ่งนัก!
หลิวเหล่าซานไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเองเลยแม้แต่น้อย แม้กระทั่งถูกชายหัวโล้นซ้อมจนอยู่ในสภาพย่ำแย่ขนาดนี้ เขายังไม่คิดถึงตัวเอง และห่วงความปลอดภัยของหลินหนานมากกว่า
แต่นั่นก็ยิ่งทำให้หลินหนานตัดสินใจที่จะเอาคืนเป็นสิบเท่า!
“คิดจะหนีเหรอ? พวกแกเลิกฝันได้เลย!” ชายหัวโล้นแสยะยิ้มพร้อมกับขยิบตาให้ลูกน้องของมัน
นอกเหนือจากเฉินห่าวแล้ว ลูกน้องอีกร่วมยี่สิคนซึ่งยังอยู่ในวัยรุ่น ต่างก็กรูกันเข้าไปล้อมร่างของหลินหนานไว้ และเวลานี้หลินหนานก็ตกอยู่ในวงล้อมของพวกมัน..
ในมือของพวกมันทุกคนนั้นนอกจากจะมีไม้กอล์ฟและแท่งเหล็กแล้ว บางคนก็ถือเหล็กชาร์ปไว้ด้วย เป็นภาพที่น่าหวาดกลัวและชวนขนหัวลุกอย่างมาก!
“ฉันก็ได้คิดที่จะหนีไปไหนนี่!”
หลินหนานแสยะยิ้ม พร้อมกับใช้เท้าเขี่ยเก้าอี้กลมตัวหนึ่งขึ้นมาจากพื้น ก่อนจะค่อยๆประคองร่างของหลิวเหล่าซานเข้าไปนั่งอย่างระมัดระวัง
แต่เพราะหลิวเหล่าซานได้รับบาดเจ็บไปทั่วทั้งร่าง ระหว่างที่นั่งลงนั้นจึงรู้สึกเจ็บปวดไปหมด จนถึงกับต้องกัดฟันข่มความเจ็บปวดนั้นไว้ แต่ความรู้สึกต่างๆก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอย่างไม่อาจปกปิดไว้ได้
“ลุงซาน ผมจะทวงความยุติธรรมให้กับลุงเอง!”
หลินหนานตบบ่าหลิวเหล่าซานเบาๆ ก่อนจะยืดกายตรง และหันหน้าไปหาพวกนักเลงหัวไม้ ร่างของหลินหนานตั้งตรงดั่งขุนเขา ประหนึ่งหอกที่ปลายพุ่งขึ้นเสียดท้องนภา!
สายตาสงบนิ่งคู่นั้นกวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ร่างของชายหัวโล้น
“ฉันจะคิดบัญชีกับแกเอง!” หลินหนานประกาศกร้าว
น้ำเสียงของเขานั้นไม่ดังจนเกินไป แต่ก็มีพลังที่สามารถแทรกเข้าสู่แก้วหูของทุกคนที่อยู่รอบๆได้ ทุกคนในที่นั้นจึงได้ยินอย่างชัดเจน
ในเมื่อเขาประกาศที่จะทวงคืนความยุติธรรมแล้ว ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามนั้น!
“หึ! ฉันเห็นมาเยอะแล้วไอ้พวกที่ทำเป็นปากเก่งแบบแก สุดท้ายก็ไม่รอดสักราย!” ชายหัวโล้นแสยะยิ้ม พร้อมกับหยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ที่ปาก
ต่อให้เป็นคนตาบอดมอง ก็ย่อมคาดเดาได้ว่าหลินหนานเพียงคนเดียว แต่ต้องรับมือลูกน้องของแก๊งโกสต์ไรเดอร์ทั้งยี่สิบคน ฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ
ต่อให้หลินหนานจะเก่งกาจ หรือว่าแข็งแกร่งมากเพียงใด เขาจะสามารถเอาชนะชายฉกรรจ์พร้อมกันถึงยี่สิบคนได้เชียวหรือ?
นั่นคงจะมีแต่ในภาพยนตร์เท่านั้น!
“พวกแกยืนทำอะไรกันอยู่? ยังไม่รีบจัดการกับมันให้เสร็จๆอีก!” ชายหัวโล้นร้องตะโกนสั่งเสียงดัง
“ลุย!!”
นักเลงหัวไม้ที่ล้อมหลินหนานอยู่ ต่างก็พากันกรูเข้าไปหาเขาทันที แต่ละคนก็ควงอาวุธในมือของตนฟาดเข้าใส่ร่างของหลินหนานอย่างสุดกำลัง