หมู่บ้านของฉันถูกเผาทำลายไปต่อหน้าต่อตา

บ้านเกิดที่แสนสงบสุขของฉัน เมื่อเช้าก็ยังอยู่ดีอยู่แท้ๆ แต่ตอนนี้กลับหายไปในชั่วพริบตา

เมื่อเช้า ฉันกับเพื่อนๆ ยังวางแผนเล่นสนุกกันสำหรับคืนนี้อยู่เลย

คุณพ่อคุณแม่ที่ยิ้มให้ฉันพร้อมบอกว่า “ราตรีสวัสดิ์นะลูก”

 

ช่วงเวลาที่มีความสุขพวกนั้นกลับหายไปในพริบตา

 

“ลีน ลูกหนีไปกับแม่นะ เดี๋ยวพ่อตามไปทีหลัง!”

“…พ่อขอโทษนะลูก”

 

“แม่จะอยู่ที่นี่ คอยถ่วงเวลาให้ลูกหนีไปเอง”

“แม่ขอร้องนะ ลีน ให้แม่ได้ปกป้องลูกด้วยเถอะ”

 

ไม่ว่าฉันจะพยายามไขว่คว้าหาทุกคนขนาดไหน ฉันก็คว้าไม่ถึงตัวใครเลยซักคน ไม่ว่าจะคุณพ่อ คุณแม่ หรือเพื่อนๆ ของฉัน

ไม่นะ รอก่อน อย่าทิ้งฉันไปนะ

ฉัน…ฉันอุตส่าห์ได้เจอที่…ที่ที่ฉันควรอยู่แล้วนะ…!

 

“…หา! อา…? ฮะ…ฮะ…”

 

ในบ้านสภาพโทรมๆ โคลงเคลงจวนจะถล่มหลังนึงที่อยู่ในอดีตหมู่บ้านแวมไพร์

ตอนนี้ ฉันกำลังใช้ที่นี่เป็นสถานที่นอนหลับ ก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้น

…อ่า ไม่ไหวๆ ฝันแบบนี้อีกแล้ว

 

นี่ผ่านมาประมาณ 1 อาทิตย์แล้วนับจากที่หมู่บ้านแวมไพร์ของพวกเราถูกทำลายจากพวกมนุษย์

ฉันฝังร่างของเพื่อนพ้องของฉันใกล้เสร็จเรียบร้อยแล้ว และเพิ่งจะฝึกฝนร่างกายยามเช้ามา แล้วในตอนเช้า ฉันก็นอนหลับ… แล้วก็ เข้าวงจรอุบาทนี่ ฉันฝันร้าย สะดุ้งตื่น หลับต่อไม่ได้ ออกกำลังกายเพื่อให้หลับได้ พอเหนื่อยอีกรอบ ก็หลับไป แล้วก็สะดุ้งตื่นฝันร้ายอีกครั้งนึง เป็นอย่างงี้มาทั้งอาทิตย์เลย

เพราะเรื่องนี้ เลยทำให้ฉันมีวงดำรอบตาตัวเองซะแล้ว ทั้งที่เพิ่งจะ 5 ขวบเอง ไม่สิ ถ้ารวมกับชาติก่อน ฉันก็อายุเกิน 20 ไปแล้วสินะ

บางทีคงเป็นเพราะฉันอยู่ในที่เกิดเหตุนี่ล่ะมั้ง ฉันเลยนึกถึงความทรงจำพวกนั้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

 

…แต่ ฉันยังออกไปจากที่นี่ไม่ได้ มันมีเหตุผลอยู่

คำพูดนั่นที่ท่านอิซึสึบอกไว้เมื่อตอนที่ท่านเข้ามาในสติของฉัน

 

“เมื่อเธอได้สติแล้วล่ะก็ ขอให้เธอรออยู่บริเวณนั้นก่อน อีกไม่กี่วันจะมีคนจากทัพจอมมารมารับนะคะ”

 

ใช่แล้ว ฉันรอคนจากกองทัพจอมมารมารับตั้งนานแล้ว

ท่านอิซึสึจัดให้ฉันอยู่กับทัพจอมมาร ได้ยินว่าท่านจะส่งข่าวไปบอกกับ ‘จอมมาร’ ท่านช่างเป็นเทพที่ดีจริงๆ เลยน้า ท่านเป็นเทพที่ช่างต่างจากเทพธิดามิซารี่ที่ถูกบูชาโดยพวกมนุษย์จริงๆ ถึงฉันจะไม่เคยเจอเธอก็จริง แต่ฉันไม่มีวันมีภาพลักษณ์ดีๆ ให้เทพธิดาที่สร้างขยะพรรค์นั้นขึ้นมาหรอก

ซึ่ง นี่ฉันก็รอมาอาทิตย์นึงแล้ว…

 

“…นี่ไม่ช้าไปหน่อยเหรอ?”

 

ใช่ ฉันก็ไม่อยากพูดแบบนี้ แต่นี่มันก็ช้าไปหน่อยน้า

ฉันไม่ได้ยืนในฐานะที่บ่นได้ แต่นี่มันก็ช้าไปแล้วน้า

เวลาเราใช้คำว่า ‘ไม่กี่วัน’ เนี่ย ส่วนใหญ่มันก็น่าจะหมายถึงไม่ 3 ก็ 4 วันหรือเปล่า นี่ฉันเข้าใจผิดไปเหรอ?

ไม่สิ ท่านอิซึสึคงอยากให้เวลาฉันนานซักหน่อย จะได้ฝังคนในหมู่บ้านได้ครบสินะ

แต่อาทิตย์นึงนี่ก็นานไปหน่อยนะคะ ถ้ายังไม่มารับอีก ฉันจะต้องเป็นโรคนอนไม่หลับแน่ๆ เลย

 

ยังไงก็ตาม ฉันก็ไปล้างหน้าเพื่อไล่อาการงัวเงียจากการถูกปลุกให้ตื่นที่เลวร้ายนี่ แล้วก็ออกไปทำกิจวัตรประจำวันของฉัน ฉันหมายถึง… ออกไปเคารพเหล่าผู้ล่วงลับน่ะ

ฉันทำหลุมฝังศพให้เพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์มากกว่า 200 ศพ ทีละหลุม ทีละหลุม ด้วยตัวคนเดียว คือ ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าหน้าตาของหลุมศพในโลกนี้เป็นยังไง เพราะงั้น ฉันก็เลยทำออกมาแบบหลุมศพที่ญี่ปุ่นแบบที่ฉันเคยเห็นในชาติที่แล้วแทน

ฉันทำหลุมศพของคุณพ่อกับคุณแม่ไว้ที่เคยตั้งบ้านของเราอยู่ด้วย ถึงจะไม่มีร่างของคุณพ่ออยู่ในนั้นก็เถอะ ฉันลองตรวจเช็คทั่วหมู่บ้านหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เจอร่างของคุณพ่อที่ไหนเลย สงสัยเจ้านั่นจะพูดความจริง ร่างของคุณพ่อคงถูกเอาไปประจานที่ดินแดนของพวกมนุษย์แล้วจริงๆ

…ให้ตายสิ พอนึกเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร ทำเอาฉันอย่างจะร้องไห้ออกมาด้วยด้วยความหงุดหงิดกับความโกรธที่อัดอั้นนี่ขึ้นมาเลย

 

“…อย่า… อย่าร้องนะ…”

 

ใช่แล้ว เปลี่ยนความรู้สึกนี่ให้เป็นความเกลียดชัง แล้วหันไปใส่เจ้าพวกมนุษย์ซะ

นั่นแหละ พลังของอาชีพพิเศษของฉัน [ผู้ชำระแค้น]

ผู้ชำระแค้นจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบต่อเป้าหมายได้ตามระดับของความเกลียดชังที่ต้องการจะล้างแค้นต่อเป้าหมายพวกนั้น

 

“โอเค วันนี้พอแค่นี้ละกัน เข้าป่ากันเลยดีกว่า”

 

นั่นก็อยู่ในกิจวัตรประจำวันของฉันเหมือนกัน เข้าป่า และก็ฝึกฝน นี่ก็เพื่อเพิ่มสเตตัสของฉัน และฝึกฝนร่างกายโดยไม่ขึ้นกับแค่เลเวล

ฮ่าฮ่า คอยดูเถอะ เจ้าพวกมนุษย์ ฉันจะฆ่าพวกแกให้หมดด้วยกำลังทั้งหมดที่มีเลย

 

ผ่านไปประมาณ 8 ชั่วโมงนับจากที่ฉันเข้าป่าไป ฉันก็กลับมาที่หมู่บ้าน หลังจากออกกำลังมาอย่างหนักหน่วง กับการหยุดพักเป็นช่วงๆ

ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมา ถึงเลเวลของฉันจะยังเท่าเดิมอยู่ แต่สเตตัสของฉันก็ยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถึงจะน้อยมากเลยเมื่อเทียบกับค่าที่ได้จากเลเวลแต่ละทีก็เถอะ แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยล่ะนะ

ด้วยอัตราเร็วประมาณนี้ ถ้าฉันจะเพิ่มเลเวลได้แค่อาทิตย์ละ 1 เลเวลล่ะก็ ฉันก็แค่ฝึกต่อเนื่องไปปีนึง ฉันก็จะได้เลเวลเพิ่มมาประมาณ 52 เลเวล ก็เหมือนกับที่ฉันได้เพิ่มมา 5 เลเวลในตอนนี้นั่นแหละ… ไม่มีเหตุผลเลยที่ฉันจะไม่ทำแบบนี้

 

“…นอนพักซักหน่อยดีกว่า”

 

หลังจากไปเคารพศพกับฝึกร่างกายเสร็จ ฉันก็ไม่เหลืออะไรทำแล้ว

เฮ่อ ฉันคงต้องฝันร้ายอีกแน่เลย… และฉันก็เปิดประตูบ้านเข้าไปอย่างไม่มั่นใจนัก ในใจก็ยังขุ่นมัว

 

“โอ้ มาถึงแล้วเหรอ? ยินดีต้อนรับกลับนะคะ”

“――――――หวา!?”

 

ฉันถอยรูดจากประตูมาอย่างเร็วทันที

…มีแขกปริศนามารอฉันอยู่ในบ้านโทรมๆ หลังนี้ด้วย

ฉันมองเห็นไม่ค่อยชัดในตอนแรก แต่จากเสียงฉันก็รู้ว่าผู้พูดนั่นเป็นผู้หญิง แต่โลกนี้ที่มีเวทมนตร์อยู่ มันคงเป็นเรื่องโง่ๆ ถ้าฉันจะลดการระวังตัวลงแค่เพราะว่าอีกฝ่ายเป็นผู้หญิง… เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน ฉันก็เป็นผู้หญิงนี่นา เด็กผู้หญิงเลยแหละ

ระหว่างที่ฉันเปิดโหมดระวังตัวขั้นสูงสุด ผู้หญิงสวยๆ คนนั้นก็เดินออกมาจากบ้านด้วยท่าทางสบายๆ

เธอคนนี้ดูเหมือนวัยรุ่นไม่ก็ผู้หญิงในช่วงอายุประมาณ 30 นิดๆ ผมบลอนด์ยาวกับรัดเกล้าเล็กๆ ที่ดูน่ารัก แถม… หน้าอกนั่นมันอะไรน่ะ?! ใหญ่พอๆ กับของคุณแม่เลย อะไรกันนะที่ยัดอยู่ในชุดแตงโมนั่นน่ะ?

 

“…ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกเหมือนฉันกำลังโดนล่วงเกินอยู่นะคะ ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแท้ๆ?”

 

…เอ นี่ฉันมัววิจารณ์อะไรอยู่เนี่ย! ถ้าเกิดว่าเขาเป็นศัตรูล่ะ…?

แล้วฉันก็สังเกตเห็นหูที่โดดเด่นนั่น ทั้งยาวและแหลมกว่าหูของมนุษย์ เผ่าพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์แบบนี้ เผ่าพันธุ์ที่โด่งดังตั้งแต่โลกเดิมของฉัน แถมยังในโลกนี้ด้วย เหมือนกับที่เคยเห็นในรูปภาพเลย―――

 

“…เอลฟ์?”

“ถูกต้องแล้วค่า คุณลีน บลัดลอร์ดจากเผ่าแวมไพร์ซินะคะ ถูกต้องหรือเปล่า?”

“ใช่ค่ะ… แต่…”

 

ไม่สิ ทำไมฉันถึงตอบไปตามตรงเลยล่ะ ถ้าพูดถึงเอลฟ์แล้ว ก็คือเผ่าพันธุ์อันดับ 1 (ตามความคิดส่วนตัวและอคติของฉัน) ที่ไม่ใช่มนุษย์ในฮาเร็มของพวกพระเอกชายที่มีพลังโกงๆ จากชาติก่อนของฉันนี่นา!

นี่ถ้าเกิดเธอเป็นพวกเบี้ยของเผ่ามนุษย์ล่ะก็…

 

“ยินดีที่ได้พบกันนะคะ ท่านลีน ฉันชื่อเทียน่า ฟอเรสเตอร์ เป็นไฮเอลฟ์ ผู้บริหารลำดับที่ 3 ของกองทัพจอมมาร ‘แม่ทัพแห่งพงไพร’ มาที่นี่ตามคำสั่งของท่านจอมมารค่ะ”

 

………………………..

 

…อ้อ นี่เธอคือคนที่มารับฉันหรอกเหรอ?