ตอนที่ 61 หมีซังตกอยู่ในลูปการเป็นลม เพราะถูกโจมตีด้วยอ้อมกอดของโลลิ @ห้องรวม

[นิยายแปล(WN)] โลลิเฮดช็อต TS shitakara kakurete danjon ni mogutteta boku ga aidoru-tachi ni mi bare shite yūmei haishin-sha ni naru hanashi

ตอนที่ 61 ลิลี่ซังตกอยู่ในลูปการเป็นลม เพราะถูกโจมตีด้วยอ้อมกอดของผม@ห้องรวม

 

“?”

 

หลังจากได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม ผมก็ลืมตาตื่นขึ้นมาพบกับกลิ่นแปลก ๆ

 

เป็นความรู้สึกสดชื่นที่หาได้ยาก แต่ก็เกิดขึ้นได้หากคุณทำสิ่งที่ทำให้คุณเหนื่อยได้มากขนาดนั้นล่ะมั้ง?

 

ที่อยู่ต่อหน้าสายตาที่เปิดกว้างของผม……อาเร๊ะ?

 

“ลิลี่ฉ๊าน……?”

 

“!?!?!?!?”

 

ตอนแรกผมคิดว่าคือรุรุจัง แต่ไม่ว่าจะมองยังไง ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ผมได้ช่วยชีวิตไว้ในดันเจี้ยน

 

“ฟู๊ว ลิลี่ฉ๊านม๊ายเป็นร๊ายใช่หม๊ายคร๊าบ……คู๊”

 

“………………………………!!!”

 

ง่วงนอน

 

จะว่าไปแล้ว ผมก็เคยได้ยินเอมิซังพูดระหว่างที่บิดตัวอย่างทรมานประมาณว่า「การตื่นนอนคือการทำลายล้าง」แต่เห็นได้ชัดว่าร่างกายนี้ ทันทีที่ตื่นขึ้นผมจะรู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อย

 

แถว ๆ นี้แหละที่ทำให้ผมตระหนักได้ว่านี้คือร่างกายของเด็ก

 

ในทางกลับกัน ลิลิ่ซังกลับดูว่างเปล่า……ไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหม? ……ใบหน้าของเธอซึ่งดูไม่มีเม็ดสีนอกจากดวงตา จู่ ๆ ก็กลายเป็นสีแดง

 

“มีไข้เหรอคร๊าบ……สบายดีหม๊าย?”

 

อาจเป็นเพราะผมพึ่งตื่นนอนขึ้นมาเลยยังพูดไม่ชัด จึงพูดเหมือนสาวน้อยมากกว่าปกติ

 

จุดอ่อนเพียงอย่างเดียวของร่างกายนี้คือ การขาดความแข็งแกร่งทางกายภาพและแบตเตอรี่หมดเร็ว……เธอเป็นเหมือนกันหรือเปล่า

 

ยังไงก็ตาม เมื่อง่วงนอนผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย แม้แต่ในตอนที่รู้สึกพยายามหลบหนีอยู่ก็ตาม

 

อาเร๊ะ?

 

อะ、ผม、บินอยู่ในดันเจี้ยน

เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น

 

“ลิลี่ฉ๊าน……?”

 

『อาโน……ฮารุซามะคนนั้นที่ฉันโหยหา、ด้วยรักทางไกลที่จริงจัง……』

 

“เอ๊ะ?”

 

เป็นคำที่ผมไม่สามารถจับใจความได้ในตอนนี้ แต่คุณเรียกหาผมอยู่เหรอ?

 

“……คิ๊ว”

 

“อะ”

 

เธอเพิ่งฟุบลงไปทั้งอย่างงั้น และเอาหัวซุกหมอนของตัวเอง

 

เมื่อมองใกล้ ๆ ดี ๆ แล้วก็พบว่าเธอนอนอยู่บนเตียงข้างกัน

 

เอ๊ะ?

ทำไม?

 

อ้า ไม่สิ เดาว่าถูกพาตัวมาล่ะนะ

แม้จะเป็นเรื่องลึกลับที่ผมได้พักร่วมห้องกับเด็กคนนี้ และยังลึกลับอีกด้วยว่าเป็นเตียงอยู่ข้าง ๆ กัน

 

แต่ผมค่อนข้างจะง่วงนอน ดังนั้นตอนนี้เรื่องเกี่ยวกับเด็กคนนี้เอาไว้ก่อน

 

ที่นี่ที่ไหน……ไม่สิ ก็น่าจะเป็นโรงพยาบาลล่ะนะ

 

ผมมองไปรอบ ๆ ในขณะที่รู้สึกผมที่ฟูกระจายออก

 

ในเวลาแบบนี้ ผมมักจะคิดกับตัวเองเสมอว่า「บางทีควรจะตัดผมได้แล้วน๊าー」

แต่เพราะมันน่ารำคาญก็เลยช่างมันเถอะ

 

ผนังรอบตัวเป็นกำแพงสีขาว เพดานก็ยังเป็นสีขาว และด้วยเหตุผลบางอย่าง เตียงของเราสองคนจึงติดกัน หรือค่อนข้างติดกัน

 

ห้องรวมเป็นแบบนี้เหรอ?

ผม เพิ่งครั้งแรก เลยไม่รู้

 

มะ、ผมเดาว่าพวกผมถูกพาเข้ามาในเหตุการณ์เดียวกัน แล้วก็เพราะพวกผมมีเพศเดียวกัน และคนที่โรงพยาบาลก็คงพยายามทำอย่างมีน้ำใจ เพราะคิดว่าพวกผมรู้จักกัน

 

นอกจากนี้พวกรุรุซังน่าจะเป็นคนพามาด้วย พูดอีกอย่างก็คือ พิจารณาแล้วว่าการให้อยู่กับเด็กคนนี้ไม่มีปัญหา

 

ก็แบบท้ายที่สุดผมก็เอาแต่นอนเน๊

 

อะ หรือว่าบางทีลิลิ่ซังจะเป็นคนขอร้องให้ทำเองล่ะมั้ง?

ไม่สิ ผมรู้สึกได้ว่ารุรุซังเป็นคนที่อุ้มผม……แค่จะด้วยวิธีไหนเท่านั้นเอง

 

จะด้วยวิธีไหนก็ช่าง ก็โล่งอกไปทีที่เด็กคนนี้ปลอดภัยเหมือนกัน

 

……ต้องบอกว่าเด็กคนนี้น่าจะยังเหนื่อยอยู่พอสมควร ถึงได้เผลอหลับไปโดยเอาหน้าจมอยู่กับหมอน ดูท่าแล้วจะหายใจลำบากนิดหน่อย

 

“ขออนุญาต……แตะตัวหน่อยนะครับ”

 

เตียงนอน ผมรู้สึกเหมือนได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถกลิ้งไปมาและเคลื่อนที่ไปมาได้ระหว่างนอนได้ ผมจึงพลิกตัวไปอยู่ข้าง ๆ ลิลิ่ซังแล้วก็ผลักเธอแรง ๆ……อะ หัวหลุดจากหมอนแล้ว

 

“ฟู๊ว。 ……ถึงจะหนักหน่อยแต่ก็ไม่เป็นไร”

 

ผมเห็นว่าเธอคงนอนได้ลำบาก เพราะแบบนั้นเลยตั้งใจที่จะทำให้หงายหน้าขึ้น หัวของเธอหนักอย่างที่ควรจะเป็น

 

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหัวของเธอถึงเอียงแค่เพียงเล็กน้อยขณะที่โดนผลักกลิ้งไปมา

มะ ม๊า ผมก็พยายามอย่างเต็มที่แล้ว……เน๊ะ……?

 

แต่ยังไงก็ตาม พลังเวทมนตร์ของผมหมดเกลี้ยงแล้วจริง ๆ เน๊……นั่นเป็นสาเหตุที่ผมไม่สามารถใช้เพื่อช่วยอะไรได้เลย หรือก็คือผมมีความแข็งแกร่งเท่าสาวน้อย

 

ผมรู้สึกว่ามือที่กำลังยุ่งอยู่ของผมดูเล็กกว่าปกติ

พลังพิเศษที่เรียกว่าเวทมนตร์ได้ถูกใช้จนหมดและหายไปแล้ว

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตอนนี้ผมเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็กธรรมดา

 

หากเดินก็จะล้มลงได้ในก้าวเดียว จะเดินขึ้นบันไดก็ต้องอาศัยราวจับหรือผนัง ขึ้นที่สูงเองก็ไม่ได้เลย และรู้สึกว่าตัวเตี้ย พลังงานต่ำ ต้นทุนต่อหน่วยต่ำ

 

นอกจากนี้ค่าบำรุงรักษายังอยู่ที่ 400 เยนต่อ 1 วัน……ข้าวปั้น 3 อย่างสุดคุ้ม

ถ้าทำอาหารกินเองจะถูกกว่ามั้ยนะ?

 

“อะ――……”

 

ผมจ้องมองเพดานที่ไม่คุ้นเคยอย่างว่างเปล่า

 

โรงพยาบาล

 

ผมจำอะไรได้ไม่มากแต่ ผมใช้อุปกรณ์หลบหนีทำมือเพื่อบินสวนผ่านหลุมที่ตกลงมา แล้วเริ่มรู้สึกง่วงและมึนงง

 

จากนั้นผมก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูเหมือนอาจจะเป็นรุรุซัง แค่นั้นแหละ

 

“น่าเป็นห่วง บินไปแล้วน๊า”

 

พูดไปแล้วก็ช่วยไม่ได้ การพังทลายอาจจะเกิดจากคนที่ห่วงใยเด็กคนนั้นเป็นอันดับ 1 อย่างคำสาปซามะ

 

ไม่มีทางที่เด็กคนนั้นจะไม่เป็นกังวลเน๊……จะให้กอดทีหลังแล้วกัน

 

โดยปกติถ้าบอกไปว่า「เชิญกอดผมได้มากเท่าที่ต้องการเลยครับ」พวกเธอจะอารมณ์ดีขึ้น

ยังเป็นเด็กผู้หญิงกันสิน๊า

 

แต่ ก็โล่งอกแล้ว

 

“คิ๊ว……”

 

ใบหน้าที่แดงก่ำของเด็กผู้หญิงที่นอนอยู่ข้าง ๆ ค่อย ๆ จางลง――ผมจ้องมองใบหน้าของลิลิ่ซังอย่างพิจารณา ยังไงก็เถอะ

 

เด็กคนนี้อาจจะกำลังทดสอบทักษะของตัวเองด้วยความช่วยเหลือจากเหล่าคนที่ทำหน้าที่ล่ามอยู่ บางทีน่าจะเป็นโอเน่ซังโกะที่ดีไม่น้อย

 

ยังไงดี เธอดูดีจริง ๆ ล่ะเน๊ะ

 

แต่สำหรับผม……ไม่ไม่ ฉันยอมแพ้ดีกว่า หากผมไม่คิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้น่ารักกว่า แสดงว่ากำลังมีปัญหาแล้ว

 

ยังไงก็ตาม ผมก็ดีใจที่สามารถช่วยเด็กคนนี้ได้อย่างปลอดภัย

 

……ม๊า อันที่จริงดูเหมือนว่าไม่จำเป็นต้องรีบร้อนมาก็ได้ล่ะ แล้วก็ถ้าผมไม่มาคำสาปของรุรุซังก็คงไม่ตามมาเช่นกัน ดังนั้นทุกอย่างคงจะสงบสุขกว่านี้

 

“กู๊วววว”

 

ง่วงนอน

นอนดีกว่า 

 

ผมรู้สึกง่วงนอนขึ้นมาอีกครั้ง――ผมล้มลง ซุกตัวหาความอบอุ่นใกล้ ๆ ทำเหมือนช่วงที่กำลังจะงีบหลับตามปกติ

 

อาเร๊ะ?

 

ยังไงดี เหมือนจะนุ่มกว่าปกตินิดหน่อย……。

 

 

 

 

『ขอโทษค๊――อะฮี่っ!?!?!?』

 

ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อมา คนที่ตื่นขึ้นมาเป็นรายต่อไปก็คือเธอที่มีชื่อว่า「ลิลลิ่」

 

เธอมีผมสีเงินยาวและดวงตาสีฟ้า และเพิ่งตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เหมือนกับกำลังมีความฝันอันแสนวิเศษ

 

จากนั้นเมื่อเธอก็ลุกขึ้นนั่งด้วยอาการปวดคออย่างประหลาด ทันใดนั้นเธอก็รีบมองลงไปยังจุดที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เล็ก และกลิ่นหอม

 

เมื่อรับรู้ได้ว่านี่คือ「ร่างที่น่ารักของเขาที่เธอไล่ตามมานานหลายปี」――เหนืออื่นใดคือกำลังกอดติดกับตัวเธอแน่น

 

“ฮารุซาม๊า……คิ๊ว”

 

แล้วเธอก็สลบไปอีกรอบ

 

 

 

 

“……ฮาっ!?”

 

คราวนี้เธอกลับมาได้อย่างรวดเร็ว เธอตื่นขึ้นมาอย่างระมัดระวัง และเกือบตายอีกครั้งหลังยืนยันได้ว่า「เขา」ซึ่งรู้จักในชื่อฮารุ กำลังนอนหลับสนิทและหันหน้าเข้ามากอดเธอไว้โดยตรง

 

บางที อาจจะยิ่งกว่าตอนที่ตกหลุมในดันเจี้ยนพร้อมกันเสียอีก

 

『……ทำไม่ได้ทำไม่ได้……ฉันต้องปฏิบัติตามข้อตกลง……』

 

ขณะที่พึมพำเป็นภาษาแม่ของตนเอง เธอก็ค่อย ๆ แกะมือเล็ก ๆ ที่อ่อนนุ่มและเด้งดึ๋งอออกอย่างระมัดระวังพร้อมร่องรอยของความเสียใจอย่างยิ่ง

 

――การติดต่อกับ「เขา」โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นการละเมิดข้อตกลง「ปฐมกาล」

 

『……แต่ครั้งนี้ฉันหมดสติ และเพราะเขากอดฉันเอง』

 

“อุเอะๆๆ……”

 

『อาっ、ลอร์ด――คิ๊ว』

 

 

 

 

『คะ、คราวนี้แหละ』

 

“มุนิ๊วมุนิ๊วมุนิ๊ว……”

 

『อะ、ฝันว่าได้กินอะไรบางอย่าง――คิ๊ว』

 

 

 

 

『พอฝังหน้าของคุณไว้ที่หน้าอกของฉันแบบนี้ก็เหมือนเด็กทารกจริง ๆ คิ๊ว』

 

 

 

 

เมื่อเธอฟื้นคืนสติและตัดสินใจว่า 「ครั้งต่อไปนี้แหละ」เธอก็ลืมตาและเป็นลมเมื่อเห็นใบหน้าอ่อนเยาว์ที่อยู่ตรงหน้าเธอห่างแค่ 30 เซนติเมตร

 

 

 

 

『……สงบลงแล้ว ฟู๊ว……ไม่ได้ผลมากนักนอกดันเจี้ยนเน๊ะ……』

 

เธอถูก KO ด้วยเสน่ห์อันอ่อนเยาว์ของเขา หมดสติ ฟื้นขึ้นมา แล้วก็หมดสติอีกครั้ง เพราะบางสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอ วงจรนี้เกิดขึ้นซ้ำหลายครั้ง

 

ทุกครั้งที่เธอฟื้นขึ้นมา ท่าทางที่สาวน้อยกอดเธอจะเปลี่ยนไปทุกครั้ง เป็นดังวงจรการตกสู่ความรู้สึกใหม่ ๆ ที่เป็นทั้งสวรรค์และนรก

 

แล้ว「ลิลลิ่」ที่เป็น「ลิลิ่ซัง」ก็มองไปรอบ ๆ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสิ่งของส่วนตัวของตัวเองวางอยู่ข้างเตียง

 

――เธอเองหลังจากที่ถูกส่งขึ้นมาถึงยังชั้นพื้นดินโดยสายรัดข้อมือของเขา ก็สลบไปทันที

 

จากนั้นเธอก็หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาและมีข้อความมากมาย

 

ดำเนินงานและเชื่อมต่อกันกับพวกเขาก่อน คำแรกที่พูดคือ

 

『「ประธาน」ซามะ ฉัน、ขอสาบาน。 ฉันยังไม่ได้แตะต้องฮารุซามะแม้เพียงน้อยนิด ดังนั้นได้โปรดขอเพียงเรื่องไล่ออกเท่านั้น! ฉันจะขอรับโทษ ดังนั้นได้โปรด……อะ、ค่ะ。 เอ๊ะ? กล้องวงจรปิด? ……อะ、ค่ะ』

 

เธอเริ่มการสนทนาโดยเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ และเงยหน้าขึ้นมองที่มุมเพดานทันที――แน่นอน เนื่องจากเป็นโรงพยาบาล พวกเขาจึงมีกล้องวงจรปิดสำหรับดูแล

 

――แม้กระทั่งตอนนี้ ผู้คนเหล่านั้นยังมองดูอยู่……ไม่สิต้องแน่นอนอยู่แล้วเน๊ะ……。

 

หลังจากพูดคุยกันสักพัก เธอก็ได้ยินเสียงประกาศอันโหดร้าย「จ๊า เอาไว้พวกเราจะเรียกหาคุณเมื่อเริ่มกลับมาเดินได้แล้ว」……จากนั้นเธอก็โทรหาครอบครัวของเธอ

 

『……ใช่。 เพราะเช่นนั้นไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ、หัวหน้าพ่อบ้าน。 ฝากทักทายโอก้าซามะกับโอโต้ซามะด้วยนะคะ――』

 

“……ลิลี่จัง?”

 

『!?!?!?!? ……ไว้ฉันจะติดต่อกลับไปอีกครั้ง!!!!』

 

เมื่อเธอรีบตัดสายและหันกลับไป ดูเหมือนว่าเขาจะตื่นขึ้นจากเสียงของลิลิ่ ――รูปลักษณ์ของ「ฮารุ」

 

เช่นเดียวกับตอนอยู่ในดันเจี้ยน เขามีผมสีบลอนด์ยาวที่ส่องประกายระยิบระยับท่ามกลางแสงอาทิตย์พันอยู่รอบร่างกาย ดวงตาของเขาที่เป็นสีฟ้าเหมือนเธอกำลังดูง่วงนอน ปากเล็ก ๆ ดูมีสุขภาพดีเหมือนเด็ก ๆ เพื่อประชาชน――เสื้อเชิ้ตแบรนด์ดีและกระโปรงในแบบสบาย ๆ อาจเป็นเพราะเขานอนในท่าที่ไม่ดีนัก เสื้อจึงเปิดออกและเห็นหน้าอกของเขา ได้ชัดเจน และกระโปรงนั้นก็อ้าเผยให้เห็นต้นขาของเขาจนหมด รวมทั้งลูกไม้สีขาวด้านล่าง

 

“คิ๊ว”

 

“อาっ”

 

เป็นลมอีกครั้ง

 

 

 

 

“คู๊”

 

ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้เองก็ใช้พลังเวทมนตร์ของตัวเองจนหมดแล้วเหมือนกัน

ดูง่วงนอนเอามาก ๆ

 

ผมดีใจจริง ๆ ที่สามารถช่วยเธอได้อย่างรวดเร็ว

ก็ลองคิดดูสิ

 

ตอนที่ผมตื่นขึ้นมา ลิลิ่ซังก็เป็นลมไปทันที  ผมเลยช่วยจัดให้เข้านอนอย่างสบายตัว แล้วค่อย ๆ ก้าวลงจากเตียง

 

“ฟู๊วววววว……”

 

หลังจากนอนหลับไปมากผมก็เริ่มตื่นเต้นเล็กน้อย

ก็แบบเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมเข้าโรงพยาบาลล่ะ

อะ ไม่ ผมหมายถึงนอกเหนือจากการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลใกล้เคียง หรือตรวจสุขภาพของบริษัท?

 

ผนังสีขาว กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ และวัศดุแบบอนินทรีย์

 

ถ้าเป็นผู้ชายจะรู้สึกยังไงได้นอกจากความตื่นเต้น

 

……มีเวลาว่างอยู่ ลองออกไปสำรวจสักหน่อยดีกว่า

 

ผมไม่ได้รับยาหยดเข้าทางหลอดเส้นเลือดดำหรืออะไรทำนองนั้น ดังนั้นไม่เป็นไรหรอก

 

แต่เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ผมซ่อนตัวเกือบสมบูรณ์ และเปิดประตูให้สุด――เป็นประตูบานเลื่อนเน๊――ในเมื่อผมว่าง ก็ขอออกสำรวจสักหน่อยน๊า

 

ออกไปเที่ยวธรรมดา ๆ

 

แล้วก็ผมสนใจนิดหน่อยเกี่ยวกับร้านในโรงพยาบาลด้วย

 

 

 

【ความเป็นธรรมชาติของฮารุจังช่างโหดร้าย】

【เด็กคนนั้นก็โหดร้ายมากที่ทำเรื่องอิจฉาอย่างการนอนกับฮารุจัง แต่ก็พ่ายแพ้ไปประมาณ 10 ครั้ง】

 

【ถูกตัอง เกิดเรื่องแบบนั้นล่ะ】

【เกิดเรื่องแบบนั้นน๊า】

【ไม่ยุติธรรม】

【ดีจังน๊า】

【นั่นเป็นกอดจากฮารุจัง……ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุผลนั้น ตอนนี้คง……】

 

【แต่การเคลื่อนไหวนั้นยังคงเป็นการละเมิดกฎไม่ใช่หรือ?】

【กำจัด? กำจัด?】

【การเคลื่อนไหวของเขาเซฟล่ะ。 เพราะไม่ได้ติดต่อฮารุจังเป็นการส่วนตัวในนาทีสุดท้าย】

 

【ในขณะที่หมดสติ ก็กอดกลับโดยไม่รู้ตัว、แต่ช่างน่าเสียดายที่ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่มีสติ เธอพยายามรักษาระยะห่างน๊า、น่าเสียดายมาก】

 

【เหตุผลอันแข็งแกร่ง。 มันไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้】

 

【ชิส์】

【ชิส์(เจตนาฆ่า】

【เน๊、เรามาทำมันกันเถอะ】

【เดี๋ยวก่อน、หลังจากสืบพยาน】

【นั่นสิน๊า】

 

【ว่าไปแล้ว ทำไมถึงแอบถ่ายฮารุจังล่ะ?】

【นี่ไม่ใช่การถ้ำมอง、เป็นการสังเกตติดตามผลล่ะ】

 

【ก็แบบ เพราะว่าฉันไม่สามารถปิดไลฟ์สดของฮารุจังได้、ดังนั้นมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้】

【ถูกต้องที่สุด、นั่นคือสาเหตุที่กล้องเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิดด้วยเหตุผลบางอย่าง】

 

【ทั้งหมดนี้เป็นเพราะฝีมือของโนเนมซามะนั่นล่ะ】

【ไม่ใช่ความผิดของมนุษย์ ดังนั้นพวกเราที่เป็นปฐมกาลก็เซฟเช่นกัน】

【น่าสงสัยจริงว่าทำไมพวกเราถึงเป็นกลุ่มเดียวที่เชื่อมต่ออีกครั้ง】

 

【เป็นแผนการอันชาญฉลาดของโนเนมซามะ】

【ชอบโนเนมซามะที่สุดเลย】

【รักโนเนมซามะที่สุดเลย】

 

【โนเนมซามะ、คุณภาพของภาพจะดีกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ?】

【โนเนมซามะ、ทำไมคุณไม่เจรจากับสมาคมดันเจี้ยนล่ะ? ดูเหมือนว่าเราจะสามารถทำข้อตกลงที่ดีต่อกันได้จริงไหม?】

【การจัดการของโนเนมซามะเริ่มจะยุ่งเหยิง】

 

【แต่ว่า、นอกเหนือจากลิลิ่จังแล้ว ร่างที่เปลือยเปล่าของฮารุจังถือเป็นอาชญากรรมอีกด้วยー】

【จากสิ่งที่ฉันเห็น คุณมีความผิดเท่ากัน?】

【เป็นเช่นนั้นー】

 

【ตอนที่ฉันเห็นฮารุจังแบบนั้น ฉันรู้สึกเหมือนจะทำอะไรก็ได้】

【ความลับสำหรับพวกเราเท่านั้น。 สมบัติสำหรับพวกเราเท่านั้น……】

 

 

 

 

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

 

ขอบคุณมากสำหรับการอ่านตอนที่ 61

 

งานนี้เดิมตั้งใจโพสต์หลายเรื่องพร้อมกัน จากนี้ไปจะโพสต์ประมาณ 3,000 ตัวอักษรวันละครั้ง

ฉันเริ่มเขียนเรื่องนี้เพราะต้องการอ่านเรื่องเด็ก TSไลฟ์สดในดันเจี้ยน(อิทธิพล)

 

“การไลฟ์สดในดันเจี้ยนควรจะได้รับความนิยมมากกว่านี้”

“อะไรก็ได้ อยากเห็นโลลิ TS”

 

หากคุณคิดเช่นนั้น เราจะยินดีอย่างยิ่งหากคุณสามารถเปลี่ยนการให้คะแนนด้านล่างจาก [☆☆☆☆☆] เป็น [★★★★★] และเปิดการแจ้งเตือนสำหรับบทล่าสุดโดยการบุ๊กมาร์ก ฉันยังขอขอบคุณความคิดเห็นที่สนับสนุนและติดตามของคุณ

https://ncode.syosetu.com/n1479ik/61/

 

 

 

 

แปลโลลิคลั่ง 2-3 ตอน ต่อ 1 โลลิเฮดช็อต

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

 

คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ 

{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}

 

ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ

ขอบคุณงับ

 

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

โลลินีทนักแปล

ตอนนี้มีแค่การแปลนิยายที่ทำให้รู้สึกมีชีวิตอยู่จริง ๆ  

พอต้องทำอะไรเยอะ ๆ หนัก ๆ คนเดียวระหว่างเตรียมของไปขายก็เหมือนจะมีอาการหลอนแปลก ๆ เปิดเพลงฟังหรือดูอะไรก็ไม่ช่วย

แต่พอแปลนิยายแล้วรู้สึกสงบ เหมือนได้คุยกับคนที่รูู้สึกว่าใช่ แค่ว่าชอบติดลมแปลยาวๆจนเวลาพักจริงๆหดหาย