ตอนที่ 11 คุณว่าผมยังมีโอกาสอีกมั้ย

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 11 คุณว่าผมยังมีโอกาสอีกมั้ย

อันที่จริง สำหรับหลินเยวียน การทำงานในแผนกประพันธ์เพลงเป็นเพียงการเปลี่ยนสถานที่อ่านหลังสือเตรียมสอบเท่านั้น และคนในแผนกก็ไม่มีใครพูดอะไรเกี่ยวกับพฤติกรรมที่เขาอ่านหนังสือเตรียมสอบอย่างเปิดเผยในที่ทำงานเช่นนี้

ถึงอย่างไรก็จัดว่าเนื้อหาเกี่ยวกับงาน

นักประพันธ์เพลงต้องเพิ่มพูนความรู้ให้ตนเองไม่ใช่เหรอ

แม้ว่าความรู้ที่หลินเยวียนเพิ่มพูนอยู่นั้นจะเป็นพื้นฐานไปสักหน่อยก็เถอะ

หลังจากวันหยุดเสาร์อาทิตย์สิ้นสุดลง หลินเยวียนก็กลับไปที่วิทยาลัย อีกทั้งกลางเดือนพฤศจิกายนก็เป็นช่วงเวลาต้อนรับการสอบของสาขาอย่างเป็นทางการ

ในห้องสอบ

ขณะกำลังแจกข้อสอบ สายตาของผู้คุมสอบก็คมกริบราวกระบี่ “ห้องเรียนมีกล้องวงจรปิด สายตาของฉันดีกว่ากล้องวงจรปิดอีก พวกเธอน่าจะรู้ผลลัพธ์ของการโกงข้อสอบดี”

“…”

ทั้งห้องสอบเงียบกริบ

หลินเยวียนกลับไม่ได้ใส่ใจคำขู่และคำคุยโวชมเชยตนเองของผู้คุมสอบ ยังไงซะเขาอ่านทบทวนมาอย่างเต็มที่ เมื่อกวาดตามองกระดาษข้อสอบที่ได้รับในทันที ก็รู้สึกว่าตนเองมั่นใจเต็มเปี่ยม

เป็นเพราะคำถามข้อใหญ่ข้อสุดท้ายนั้นถามเกี่ยวกับ ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ อย่างที่อาจารย์ในสาขาคาดการณ์ไว้จริงๆ

ขนาดนี้แล้วจะทำไม่ได้ได้ยังไง!?

หลินเยวียนดีใจมาก จรดปากกาเขียนอย่างคล่องแคล่ว

มีเวลาทำข้อสอบหนึ่งชั่วโมง ใช้เวลาไปแค่สี่สิบนาที เขาก็ทำข้อสอบทั้งชุดเสร็จแล้ว รวมไปถึง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ และใช้เวลาอีกสิบนาทีในการตรวจทาน เมื่อหลินเยวียนรู้สึกว่าใช้ได้แล้ว จึงลุกขึ้นยืนส่งข้อสอบ

ชั่วขณะที่เดินออกจากห้องสอบ

อาบแสงตะวันยามบ่าย หลินเยวียนก็ตั้งหน้าตั้งตาคอยกล่องสมบัติแล้ว

ขณะที่หลินเยวียนกำลังตื่นเต้นกับกล่องสมบัติอีกใบ วันนี้เหล่าหลิวผู้จัดการของเฉียนซิงอวี่กลับหงุดหงิดทีเดียว

นั่นเพราะชาร์ตดาวรุ่งวันนี้ ยอดดาวน์โหลดของสองอันดับแรกนั้นเบียดกันเข้ามาแล้ว!

อันดับที่หนึ่ง ‘คือความรัก’ ยอดดาวน์โหลด 225,000

อันดับที่สอง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ยอดดาวน์โหลด 214,000

ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน สตาร์ไลท์เอนเตอร์เทนเมนต์อยู่ๆ ก็ทุ่มเงินโปรโมต ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายก็คือการลากอันดับที่หนึ่งลงจากหลังม้า

ตอนนั้นเหล่าหลิวก็ฉุกใจระแวงอยู่บ้าง จึงนำเรื่องนี้ไปแจ้งกับเฉียนซิงอวี่ทันที ให้รีบเพิ่มการโปรโมต

เฉียนซิงอวี่กลับไม่คิดเช่นนั้น

สองเพลงนี้ห่างไกลกันมาก ถึงแม้สถิติของ ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ จะเพิ่มขึ้นสูงกว่าเล็กน้อย แต่เฉียนซิงอวี่ในฐานะที่เป็นเด็กใหม่กรณีพิเศษ ในใจก็ยังไม่ได้มองว่าตนเองเป็นเด็กใหม่

กระทั่งวันนี้

เมื่อถลึงตาจ้องมองสถิติของ ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ซึ่งพุ่งทะยานสูงขึ้นไม่หยุด ระยะห่างของเพลงทั้งสองหดลงมาเหลือระดับนี้ ต่อให้เป็นคนที่มั่นอกมั่นใจตนเองอย่างเฉียนซิงอวี่ก็ต้องมีใจหวิวกันบ้าง “ทำไมไล่ตามมาเร็วขนาดนี้”

“เพลงนี้ไม่ธรรมดา”

เหล่าหลิวกัดฟันเอ่ย “ไม่เป็นไร เดี๋ยวพวกเราจะประกาศกิจกรรมไลฟ์สดไม่ใช่เหรอ ตอนเธอไลฟ์ก็เรียกแฟนคลับมา ด้วยกระแสของเธอก็น่าจะกลับมาทิ้งห่างได้อีกครั้ง”

“ครับๆ”

เฉียนซิงอวี่ในวันนี้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ต่างกับเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ไม่ใส่ใจ

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง

เฉียนซิงอวี่ก็เริ่มไลฟ์สด

กิจกรรมไลฟ์สดครั้งนี้สิ้นเปลืองเงินมาก บริษัททุ่มกำลังทรัพย์ไปมากมหาศาลเพื่อจัดขึ้นมา จำนวนผู้เข้าร่วมมี

มากพอตัว ไม่ใช่เพียงแค่แฟนคลับ แต่ยังมีผู้คนที่ผ่านไปมาบนแพลตฟอร์มไลฟ์สด สามารถใช้เป็นแพลตฟอร์มโปรโมตที่ดีมากทีเดียว

กล่าวทักทายผู้ชมเสร็จ

เฉียนซิงอวี่ก็เปิดโหมดโปรโมตอย่างตื่นเต้น “เพลงแรกของผม ‘คือความรัก’ ทุกคนฟังหรือยังครับ เพลงนี้อยู่ในอันดับที่หนึ่งของชาร์ตดาวรุ่งนะครับ! เพื่อนๆ ที่ยังไม่ได้ฟัง อย่าลืมไปฟังกันนะครับ ดวงดาว[1]ที่ฟังกันแล้วก็อย่าลืมไปกดดาวน์โหลดเพื่อสนับสนุนซิงอวี่กันนะครับ”

‘สนับสนุนสิ!’

‘ต้องสนับสนุนอยู่แล้ว!’

‘ซิงอวี่สู้ๆ นะ! ดวงดาวจะคอยสนับสนุนซิงอวี่เอง!’

“…”

เมื่อเห็นคอมเมนต์กระสุนส่งกันมาอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เฉียนซิงอวี่ก็คลี่ยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้ก็คงไม่มีปัญหาแล้วล่ะมั้ง

ไม่ จะวางใจไม่ได้

เพลงนั้นของสตาร์ไลท์ไม่ธรรมดาทีเดียว เฉียนซิงอวี่ตัดสินใจคว้าให้มั่น ฉะนั้นในอีกหลายสิบนาทีต่อจากนั้น เขานอกจากจะทำตามกิจกรรม มีปฏิสัมพันธ์กับแฟนคลับและผู้ชมแล้ว ก็คือโฟกัสไปที่การโปรโมตเพลง

แต่ทว่า

ขณะที่การไลฟ์สดเหลือเวลาอีกห้านาทีก่อนจะจบลง จู่ๆ เฉียนซิงอวี่ก็เห็นข้อความหนึ่งเขียนว่า ‘เฉียนซิงอวี่ตุ้บแล้ว’

แอนตี้แฟนจากไหนเนี่ย

ทำไมอยู่ๆ ถึงมาใส่ความให้คนเขาเสียหาย

เฉียนซิงอวี่นึกโมโหอยู่ในใจ

ไม่นานแอนตี้แฟนคนนี้ก็ถูกผู้ดูแลห้องไลฟ์สตรีมแบนไป

ทว่าผ่านไปไม่กี่วินาที ก็มีข้อความกระสุนใหม่โผล่มาอีก มิหนำซ้ำยังมีจำนวนมาก ต่อให้ผู้ดูแลห้องอยากแบนก็แบนไม่ไหวแล้ว

‘เฉียนซิงอวี่ตุ้บแล้ว’

‘หัวตารางชาร์ตดาวรุ่งเปลี่ยนแล้ว’

‘เฉี่ยนซิงอวี่ที่สองแล้ว’

‘โอ้วว ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ โหดมาก’

‘พังแล้ว พังแล้วจ้า’

‘คาดไม่ถึงกันละสิ?’

‘ที่หนึ่งของเธอถูกที่สองพลิกนำแล้ว’

‘…’

เมื่อถึงตอนนี้เฉียนซิงอวี่ถึงได้สติกลับมา ที่แท้คนพวกนี้ก็ไม่ได้แช่งเขา ในข้อความเห็นได้ชัดว่ากำลังพูดถึงเรื่องในชาร์ตดาวรุ่ง

ตุ้บแล้ว?

ฉันกลายเป็นที่สอง?

เขานิ่งค้างอยู่หน้ากล้องทันใด

เหล่าหลิวผู้จัดการรู้ว่า หากยังไลฟ์สดต่อไปจะกลายเป็นหายนะแน่ จึงปราดเข้าไปหน้ากล้อง ยิ้มบางเอ่ย “สวัสดีครับทุกคน ไลฟ์ของซิงอวี่จบลงแล้วครับ!”

เขาพูดพลางให้คนปิดไลฟ์สตรีม

“ฟู่”

เหล่าหลิวทาบอก หันไปมองเฉียนซิงอวี่ แต่กลับพบว่าเฉียนซิงอวี่กำลังเปิดชาร์ตดาวรุ่งในโทรศัพท์ และเห็นข้อมูลใหม่แล้ว

อันดับที่หนึ่ง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ยอดดาวน์โหลด 233,000

อันดับที่สอง ‘คือความรัก’ ยอดดาวน์โหลด 231,100

ตำแหน่งของอันดับหนึ่งหล่นตุ้บไปแล้วจริงๆ อีกทั้งยังเป็นขณะที่เฉียนซิงอวี่กำลังไลฟ์สด

‘พังระหว่างไลฟ์สด’

คำนี้ผุดขึ้นมาในห้วงสำนึกของเหล่าหลิว

เรื่องนี้สำหรับศิลปินแล้วนับว่าชวนให้ปวดใจมากจริงๆ

เขาอ้าปากพะงาบ นึกอยากเอ่ยปลอบใจเฉียนซิงอวี่ซึ่งยังอายุน้อย แต่กลับเห็นว่าสายตาขุ่นมัวของเฉียนซิงอวี่กำลังจับจ้องมายังตน ถามว่า

“เหล่าหลิว คุณว่าผมยังมีโอกาสอีกมั้ย”

ไม่รู้ว่าทำไม เหล่าหลิวถึงรู้สึกว่าอากาศเย็นวาบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ฝืนพูดออกไปว่า “บริษัทไม่น่าจะทุ่มเงินกับเด็กใหม่มากนัก เรื่องนี้จะโทษเธอไม่ได้ ยังไงสิ่งที่ทำได้พวกเราก็ทำไปหมดแล้ว”

……

วินาทีที่สตาร์ไลท์พลิกเอาชนะซาไห่ ทันทีที่ผู้คนในวงการได้รับข่าวนี้ก็พลันถกเถียงกันเซ็งแซ่

“พลิกขึ้นมาแล้ว?”

“โหดสุดๆ ไปเลย!”

“สตาร์ไลท์สุดยอดเลย”

“ปีนี้สตาร์ไลท์น่าจะเป็นเป็นตัวเลือกแรกของบัณฑิตจากมหาวิทยาลัยท็อปๆ”

“ขนาดนี้แล้ว มีเหรอจะไม่ได้?”

“…”

ขณะที่เฉียนซิงอวี่ปีนขึ้นสู่ชาร์ตดาวรุ่งเป็นวันแรก ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าพี่ใหญ่ตัวจริงจะเร้นกายอยู่ในอันดับที่สามซึ่งไม่เตะตานัก

และในแผนกประพันธ์เพลงของสตาร์ไลท์

สายตาของทุกคนล้วนมองไปยังตำแหน่งที่นั่งอันว่างเปล่าริมหน้าต่างพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

เบื้องหน้าของเขาคล้ายกับจะมีภาพอันเลือนรางของ ‘เซี่ยนอวี๋’ ซึ่งกำลังพึมพำท่องตำราเรียนพื้นฐานปีสอง

……

วันต่อมา ระหว่างทางที่หลินเยวียนกำลังเดินไปยังห้องเรียนเพื่อไปดูคะแนนสอบ จู่ๆ ก็ได้รับโทรศัพท์จากจ้าวเจวี๋ย “ยินดีด้วย ได้ที่หนึ่งในชาร์ตดาวรุ่งแล้ว!”

“ผมรู้แล้วครับ”

ตั้งแต่เมื่อวาน ทั้งหอพักและชั้นเรียนมีแต่คนพูดถึงเรื่องที่เพลงของรุ่นพี่ซุนเย่าหั่วชิงอันดับหนึ่งในชาร์ตดาวรุ่งไม่หยุด ต่อให้หลินเยวียนไม่อยากรับรู้ก็คงยาก

“ไม่เลว พยายามต่อไป”

แม้ว่าปฏิกิริยาตอบสนองของหลินเยวียนจะเรียบเฉย แต่จ้าวเจวี๋ยมีประสบการณ์จากครั้งก่อนๆ ครั้งนี้จึงเคยชินแล้ว ดังนั้นเธอจึงแค่ให้กำลังใจหลินเยวียนสองสามประโยคก่อนจะวางสายไป จากนั้นตนเองก็กระโดดโลดเต้นอยู่ในห้องทำงานรอบหนึ่ง

เมื่อถึงห้องเรียน

ทันทีทีกระดาษข้อสอบและผลคะแนนถูกแจกมา ในสมองหลินเยวียนก็มีเสียงจากระบบดังขึ้น “ผลคะแนนติดหนึ่งในยี่สิบห้าอันดับแรกของเซค ยินดีกับโฮสต์ที่ทำภารกิจระบบสำเร็จ!”

จากนั้น เบื้องหน้าหลินเยวียนก็ปรากฏแถบอักษร

[รางวัลภารกิจ: กล่องสมบัติทองแดงหนึ่งใบ]

เมื่อเป็นเช่นนี้ หลินเยวียนก็มีกล่องสมบัติทองแดงซึ่งยังไม่ได้เปิดอยู่สองใบ เขาตัดสินใจเก็บไว้ก่อน ก็เหมือนกับการสะสมเงิน สนุกจะตายไป

เมื่อดูใบคะแนน

ครั้งนี้หลินเยวียนนับว่าทำภารกิจเกินกว่าสำเร็จซะอีก ผลคะแนนของเขาถึงกับเข้าไปอยู่ในอันดับที่ 13 ของเซค!

“เป็นเพราะคำถามเหมาะกับฉันแท้ๆ” หลินเยวียนลอบพึมพำ

ถึงกับสอบเรื่อง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ แจกคะแนนให้หลินเยวียนชัดๆ

แต่เมื่อหลินเยวียนเห็นกระดาษข้อสอบของตนเอง กลับตะลึงงันไป

ข้อสอบส่วนสุดท้าย วิเคราะห์เพลง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ คะแนนเต็ม 20 คะแนน เขากลับได้แค่แปดคะแนน!

ที่คะแนนสอบของเขาสูงก็เพราะคะแนนในข้ออื่นๆ ของเขาสูงมากพอ

ในห้วงสำนึกของเขามีเพลงพื้นหลังดังขึ้นมา

เด็กๆ เอ๋ย…พวกเธอมีคำถามมากมายใช่ไหม…[2]

หลินเยวียนมองไปยังกระดาษข้อสอบของเพื่อนร่วมชั้นข้างๆ อย่างอดไม่ได้ พบว่าคนรอบตัวส่วนมากทำคะแนน

ในข้อ ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ได้มากกว่าสิบคะแนนกันทั้งนั้น นับว่าตนได้คะแนนน้อยที่สุด

หลินเยวียนมองกระดาษข้อสอบของคนอื่น

คนอื่นก็มองกระดาษข้อสอบของหลินเยวียน

ประเด็นก็คือเป็นเพราะปกติแล้วคะแนนของหลินเยวียนไม่ได้โดดเด่น แค่การสอบครั้งนี้กลับติดอันดับที่ 13 ของเซค ทุกคนจึงรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง

“หลินเยวียน สุดยอดไปเลย”

“ช่วงนี้นายอ่านหนังสือตลอด ผลคะแนนน่าตกใจ ได้ที่สิบสามเชียวนะ”

“เอ๊ะ?”

“คำถามด้านหน้าตอบถูกเยอะมาก แต่คำถามเรื่อง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ข้อสุดท้าย คะแนนของนายน้อยจริงๆ นั่นแหละ ไม่งั้นครั้งนี้นายติดที่หนึ่งในสิบแน่”

“น่าเสียดายแฮะ”

“ดูท่านายน่าจะไม่ได้เตรียมข้อนี้มา อาจารย์บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเป็นไปได้มากว่าจะออก ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’”

“นายไม่เข้าใจเพลงนี้เหรอ”

เพื่อนร่วมชั้นเรียนต่างพากันส่ายหน้า รู้สึกว่าเสียคะแนนข้อนี้น่าเสียดาย แถมยังมีคนแนะนำให้หลินเยวียนไปฟังเพลง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ทำความเข้าใจกับสิ่งที่คนแต่งเนื้อร้องและทำนองต้องการจะสื่อ…

รอยยิ้มของหลินเยวียนนิ่งค้างในทันใด

เขานิ่งค้าง จ้องมองกากบาทสีแดงยักษ์ใหญ่ในข้อสอบเกี่ยวกับเพลง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’ ตกอยู่ในภวังค์

ครั้งที่แม้แต่ระบบเองก็ทนดูต่อไปไม่ไหว ถึงกับเอ่ยปลอบหลินเยวียนหนึ่งประโยคอย่างอดไม่ได้ “ข้อสอบข้อนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่าผู่ซู่ก็ไม่เข้าใจเพลง ‘ชีวิตดั่งมวลผกายามคิมหันต์’”

หลินเยวียน “แล้วใครเข้าใจล่ะ”

ระบบ “อาจารย์คนที่ออกข้อสอบไง”

…………………………………….

[1] ดวงดาว เป็นชื่อแฟนคลับของเฉียนซิงอวี่ ถอดความหมายมาจากต้นฉบับว่า ‘ซิงซิง’ จากชื่อของเฉียนซิงอวี่

[2] เด็กๆ เอ๋ย พวกเธอมีคำถามมากมายใช่ไหม มาจากเพลง ‘ฟังคำสอนแม่ (《聽媽媽的話》)’ โดยโจวเจี๋ยหลุน (เจย์ โชว)