บทที่ 11 การเดิมพัน(ต้น)

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 11 การเดิมพัน(ต้น)

ซูอันมองดูกำปั้นที่เล็กและซีดขาวของตนตรงหน้า เริ่มสงสัยว่ากำปั้นเล็กแค่นั้นจะทำอะไรเขาได้

“อันที่จริง ข้าไม่จำเป็นต้องจัดการคนอ่อนแออย่างเจ้าด้วยตัวเองด้วยซ้ำ” ฉู่ฮวนเจาเอ่ยและหันไปผิวปากอีกทางหนึ่ง “เถียนโก่ว มานี่เร็ว!”

ซูอันงุนงง อืม? เด็กสาวตรงหน้ามีผู้ชายมาคอยตามต้อย ๆ แล้วอย่างนั้นเหรอ? ผู้ชายในโลกนี้เป็นอย่างนี้ไปหมดเลยหรือไง?

“กรร…โฮ่ง!”

ทันทีที่ได้ยินเสียงเห่าอันดุร้ายดังมาแต่ไกล ซูอันก็ตระหนักได้ว่าตนเข้าใจผิดไป ‘เถียนโก่ว’ ของอีกฝ่ายหมายถึงสุนัขตัวเป็น ๆ!

แต่หากพูดกันตามตรง นั่นมันชื่อบ้าบออะไรกัน? เหอะ ๆ ดูเหมือนว่าการมีชื่อที่แปลกประหลาดจะเป็นจุดเด่นของคนตระกูลนี้สินะ

ทว่าไม่กี่วินาทีต่อมา รอยยิ้มของเขาก็ต้องหายไป เมื่อสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดตัวพอ ๆ กับเสือเดินเข้ามาด้านใน และดวงตาสีเขียวของมันก็กำลังจับจ้องมาที่เขา

โอเค โดยทางทฤษฎีแล้วรูปร่างของมันดูเหมือนกับหมาก็จริง…แต่นี่มันใหญ่เกินไปแล้ว!

“เด็กดี~” ฉู่ฮวนเจาค้อมตัวลงเล็กน้อยและลูบหัวมันเบา ๆ ขณะที่หางของมันกระดิกไปมาอย่างดีใจกับสิ่งที่ได้รับ

ซูอันกลืนน้ำลายลงคออย่างห้ามไม่ได้ขณะที่สายตายังคงมองไปที่สัตว์ร้ายขนาดใหญ่ตรงหน้า “เจ้าเรียกสิ่งนี้ว่าหมาอย่างนั้นหรือ? !” เลือดที่ติดอยู่ที่มุมปากของมันยังคงหยดติ๋ง ๆ อยู่ด้วยซ้ำ!

ในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่าทำไมเมื่อครู่ตนถึงได้ยินเสียงเคี้ยวอะไรบางอย่างดังมาจากทางด้านนอก

“กลัวหรือ?” ฉู่ฮวนเจาหัวเราะออกมาอย่างน่าสยดสยอง ขณะที่ชี้นิ้วเรียวไปที่ชายหนุ่ม “เทียนโก่ว กัดชายผู้นี้เลย!”

เมื่อได้ยินคำสั่ง สุนัขตัวใหญ่ก็กระโจนเข้าใส่ซูอันทันที เห็นได้ชัดเลยว่านี่ไม่ใช่การกระโจนใส่เหยื่อครั้งแรกของมัน

ซูอันกลัวจนแทบจะเสียสติเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ถ้าถูกกัดเข้าล่ะก็ เราอาจจะต้องเสียแขนไปข้างหนึ่งแน่ ๆ! และสิ่งที่ทำให้เขากลัวที่สุดก็คือ เขารู้ดีว่าโรคพิษสุนัขบ้านั้นอันตรายเพียงใด ใครจะไปรู้กันว่าในน้ำลายของสุนัขตรงหน้าจะมีไวรัสร้ายแรงชนิดไหนบ้าง? แถมโลกนี้ไม่มีวัคซีนกันพิษสุนัขบ้าด้วย ถ้าหากเขาติดเชื้อ เขาต้องตายจบเห่แน่

และนอกจากนั้น สุนัขตรงหน้าก็เพิ่งกินหนูตัวเป็น ๆ ไปด้วย บางทีตอนนี้มันอาจจะมีไวรัสจากหนูด้วยก็ได้!

ร่างกายตอบสนองเร็วกว่าความคิด ซูอันกระโดดหลบเข้าด้านข้างทันที เจ้าสุนัขตัวใหญ่จึงกระโจนเข้าใส่เก้าอี้ที่อยู่ข้างเตียงแทน และในสุดท้าย เก้าอี้ตัวนั้นก็แตกเป็นชิ้น ๆ

พระเจ้าช่วย…ซูอันมั่นใจมากว่าร่างกายของเขาไม่ได้แข็งแรงเท่าเก้าอี้ตัวนั้น เขาเริ่มวิ่งหนี ตอนแรกเขาวางแผนที่จะวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังหลังฉู่ฮวนเจาเพราะนางเป็นคนพูดเองว่านางจะไม่จัดการเขาด้วยตัวเอง…แต่เด็กสาวกลับวิ่งออกไปนอกห้องเสียแล้ว และตอนนี้นางก็กำลังมองดูความโชคร้ายของเขาจากหน้าต่างบานใกล้ ๆ ด้วยใบหน้าดีใจ ซ้ำร้าย นางยังปิดประตูทางออกเอาไว้ด้วย!

ภายในหัวของซูอันในยามนี้ เขากำลังก่นด่าเด็กสาวและคนในตระกูลของนางเป็นพัน ๆ ครั้งขณะที่วิ่งหนีเป็นวงกลมอยู่รอบ ๆ โต๊ะ ซึ่งมันไม่มีทางที่เขาจะวิ่งได้เร็วกว่าเจ้าสุนัขตัวใหญ่นี่อยู่แล้ว ดังนั้นทั้งหมดที่เขาสามารถทำได้จึงมีเพียงสิ่งเป็นวงกลมรอบข้าวของเครื่องใช้เพื่อหนีจากมัน

ยังไงก็ตาม เป็นเพราะขนาดตัวที่ใหญ่มากของมัน ทำให้สิ่งมีชีวิตที่วิ่งไล่ตามหลังเขาอยู่ไม่สามารถมุดลอดใต้โต๊ะมาหาเขาได้ และมันก็เป็นเพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้เขายังปลอดภัยอยู่จนถึงตอนนี้

แต่เนื่องจากร่างกายของเขาอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเมื่อเช้านี้เขาก็เพิ่งถูกฟ้าผ่าใส่ อีกทั้งเมื่อครู่ยังเพิ่งถูกต่อยด้วย หลังจากวิ่งหนีไปสักพัก ชายหนุ่มก็เริ่มรู้สึกราวกับว่าปอดของตนกำลังจะระเบิด ด้านหลังคอรู้สึกถึงลมเย็นยะเยือกราวกับมีอะไรบางอย่างเป่าลมหายใจรดอยู่ไม่ห่าง เวลานี้การวิ่งของเขานั้นเกิดจากแรงใจเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อันที่จริงมันก็ค่อนข้างน่าประหลาดใจแล้วที่เขาสามารถมีสติมาจนถึงตอนนี้ได้ คงต้องขอบคุณการฝึกฝนเคล็ดวิชาวัฎจักรหงส์อมตะที่ฝึกมาก่อนหน้านี้ เพราะมันช่วยเพิ่มพลังกายของเขาเล็กน้อย แต่ปัญหาก็คือเขาเพิ่งเริ่มฝึกฝนมันในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ด้วยเหตุนี้มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสามารถใช้มันเอาชนะสิ่งมีชีวิตตัวใหญ่ขนาดนี้ได้

“เจ้าโง่! เจ้าจะไล่ตามรอบโต๊ะไปเพื่ออะไร? กระโดดข้ามไปสิ!” เด็กสาวที่ยืนดูอยู่ด้านนอกกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ น้ำเสียงที่ชัดเจนและน่าฟังในยามนี้ฟังดูเหมือนกับการพูดของนางปีศาจ

และสุนัขตัวใหญ่ก็ดูเหมือนจะเข้าใจคำพูดของผู้เป็นเจ้านาย มันส่งเสียงครางออกมาก่อนจะกระโจนข้ามโต๊ะและตะเกียกตะกายไปหาชายหนุ่ม

ซูอันยกโต๊ะขึ้น และใช้มันเป็นที่กำบังจากสุนัขตัวดังกล่าว ทว่าหัวใหญ่ ๆ ของมันกลับสามารถทะลุโต๊ะและพุ่งมาหาเขาได้ ต้องขอบคุณที่ร่างกายส่วนที่เหลือของมันยังคงติดอยู่กับโต๊ะ ในขณะที่ตัวของซูอันกำลังนอนอยู่บนพื้นและเตะเข้าที่ท้องของมันอย่างแรง ในวินาทีสำคัญนี้ เขาเค้นเอาแรงทั้งหมดที่ตัวเองมีมาใช้ แต่ความแตกต่างระหว่างพลังนั้นยังมีมากเกินไป หัวของสุนัขตรงหน้าเริ่มเขยิบเข้ามาใกล้เขามากขึ้นเรื่อย ๆ

น้ำลายเหม็น ๆ ของมันกระเด็นเปรอะเปื้อนเต็มใบหน้าของเขา มันยังคงตะกุยโต๊ะอย่างดุร้าย ฉีกกระชากชิ้นไม้ราวกับเป็นกระดาษเปียก จนถึงตอนนี้ บนโต๊ะก็เต็มไปด้วยรูโหว่มากมาย

หัวใจของซูอันเย็นเฉียบเมื่อเห็นว่าเล็บและฟันของเจ้าสุนัขตรงหน้าแหลมคมเพียงใด เราจะต้องถูกเจ้าหมานี่ฆ่าแน่ ๆ ให้ตายเถอะ!

เดี๋ยวนะ…วินาทีนั้นซูอันก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ มีดสั้นฉาบพิษที่เขาเพิ่งได้มา…จากนั้นจึงรีบกดแป้นคีย์บอร์ดตัว ‘B’ เพื่อเรียกมีดสั้นออกมาจากแถบอุปกรณ์ทันที เมื่อสิ่งที่ต้องการปรากฏขึ้นในมือก็เป็นวินาทีเดียวกับที่โต๊ะไม้ไม่สามารถทนต่อการจู่โจมของสุนัขตัวโตได้อีกต่อไป ปากกว้างของสิ่งมีชีวิตตรงหน้าเตรียมกัดลงมาที่เขา…และบังเอิญสัมผัสกับมีดสั้นเข้าอย่างพอดิบพอดี

ด้วยชื่อ ‘เถียนโก่ว’ ดังนั้นมันจึงเป็นธรรมดาที่เจ้าสุนัขตัวโตจะชอบเลียสิ่งของไปทั่ว มันเลียตัวมีดอย่างไม่ทันระวังจนเกิดเป็นรอยแผลขนาดเล็กที่ปลายลิ้น หลังจากนั้น…เรื่องแปลกประหลาดก็เกิดขึ้น อักขระสีดำปรากฏขึ้นทั่วร่าง มันตัวสั่นเล็กน้อยก่อนจะล้มลงกับพื้น ไม่เหลือร่องรอยของการมีชีวิตอยู่อีกต่อไป

“มันตายจริง ๆ ใช่ไหม?” ซูอันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ตอนนี้เขาหมดแรงแล้วจริง ๆ ชายหนุ่มเพียงนอนลงกับพื้น ไม่สามารถขยับตัวได้แม้กระทั่งปลายนิ้ว

“เถียนโก่ว! เจ้าเป็นอะไร? !” ฉู่ฮวนเจาที่ยืนดูอยู่จากด้านนอกมั่นใจเป็นอย่างมากว่าสัตว์เลี้ยงของนางเกือบจะเอาชนะอีกฝ่ายได้แล้ว…แต่หลังจากนั้น จู่ ๆ ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด ด้วยความสับสนจนถึงที่สุด นางรีบวิ่งเข้ามาดูด้านในทันที แต่ทว่าไม่ว่านางจะพยายามปลุกหรือเรียกมันเท่าไหร่ เจ้าสุนัขตรงหน้าก็ไม่ตอบสนองเลยสักนิด

“เจ้ากล้าดียังไงถึงมาฆ่าเถียนโก่วของข้า? !” เวลานี้ นางรู้แล้วว่าสุนัขสุดที่รักของนางได้ตายไปแล้ว และพลันไฟโทสะของหญิงสาวก็โหมลุกไหม้ขึ้นมา

———————————————————————————————

ท่านยั่วยุฉู่ฮวนเจาได้สำเร็จ

คะแนนความโกรธแค้น +233!

———————————————————————————————

ซูอันไม่มีแม้แต่แรงที่จะตอบสนอง แต่เขาก็ได้เก็บด้ามพิษกลับเข้าไปในแถบอุปกรณ์ตามเดิมแล้ว เพราะไม่ว่ายังไงก็ตาม ความปลอดภัยนั้นเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง เขาจะต้องเก็บเรื่องนี้ไว้ให้เป็นความลับมากที่สุดเว้นแต่ว่าจะถึงคราวจำเป็นจริง ๆ เมื่อครู่นี้ ร่างอันใหญ่โตของเถียนโก่วและโต๊ะได้บดบังทัศนวิสัยของหญิงสาวไป นางจึงไม่น่าจะมองเห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“เจ้าจะต้องชดใช้สำหรับที่ฆ่าเถียนโก่ว!” ดวงตาของฉู่ฮวนเจาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ท่านพ่อและท่านแม่ของนางมักจะยุ่งอยู่กับกิจการของตระกูล ในขณะที่พี่สาวก็แทบจะไม่เคยอยู่ที่บ้าน นางจึงไม่มีเพื่อนเล่นมากนัก ซึ่งแน่นอนเถียนโก่วเป็นเพื่อนเพียงอย่างเดียวที่นางมี

ทันใดนั้น ฝ่าเท้าเล็ก ๆ ทว่าดุดันของนางก็เหยียบลงบนร่างของซูอันที่นอนคว่ำอยู่ทันที