ตอนที่ 11 สัญญาเช่า (รีไรท์)

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 11 สัญญาเช่า (รีไรท์)

ตอนที่ 11 สัญญาเช่า (รีไรท์)

ซูเถาคิดไม่ถึงว่าการติดโฆษณาจะได้รับผลการตอบรับดีเช่นนี้ ดีจนเครื่องมือการสื่อสารของเธอแทบระเบิด

เหตุการณ์นี้ทำให้เธอรู้ตกใจจนตัดการเชื่อมต่อทันที และไม่ลืมดึงรายชื่อ 100 คนแรกที่ติดต่อมา แล้วจึงเริ่มลงมือคัดกรอง

ต้องหลีกเลี่ยงผู้ที่ไม่มีงานหรือรายได้ที่แน่นอน เพื่อไม่ให้เกิดข้อพิพาททางด้านค่าเช่าในอนาคต ไม่รับผู้ที่มีประวัติอาชญากรรม ผู้ที่ติดยาเสพติดหรือผู้ที่มีอาชีพพิเศษ ไม่ใช่ว่าเธอเลือกปฏิบัติ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องรับผิดชอบต่อผู้เช่าทุกคน

ถ้าฆาตกรนิสัยเสียแอบเข้ามาทำร้ายผู้เช่ารายอื่น หรือคนติดยายุยงให้คนอื่นก่ออาชญากรรม หรือคนที่มีอาชีพพิเศษชักชวนให้นักเรียนประพฤติตัวไม่เหมาะสม มันคงจะวุ่นวายน่าดู

ในขณะเดียวกันซูเถายังเห็นชื่อของซูเจิ้งชิง ลูกชายคนโตของพ่อเฮงซวยกับภรรยาเก่า หรือพี่ชายต่างแม่ของเธอในรายชื่อนั้น

ซูเถาจำได้ว่าเมื่อปีที่แล้วซูเจิ้งชิงออกเดตกับใครบางคน แต่พวกเขาไม่ได้แต่งงานกันเพราะเขาไม่มีที่อยู่อาศัย หรือว่าเขาต้องการหาห้องเพื่อที่จะได้แต่งงานอยู่กินกับภรรยา

ซูเถาขีดฆ่าชื่อของเขาทิ้งด้วยความเคียดแค้น ตอนเธอยังเด็กซูเจิ้งชิงมักจะรังแกเธอเสมอ เขาเก็บของกินทุกอย่างเพื่อไม่ให้เธอกิน ถ้าเธอไม่ได้ทำประโยชน์

หึหึ

…ยังเหลืออีก 20 คน ซูเถาโทรหาทีละคนและเริ่มถามคำถามอีกครั้ง ครั้งนี้ปัดตกไปสองสามคนที่ตอบคำถามแบบหลีกเลี่ยงและไม่เป็นเชิงบวก

ในที่สุดก็ระบุผู้เช่าได้ 12 คน มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและเด็ก ซึ่งทุกคนดูเป็นผู้บริสุทธิ์และเป็นคนดี

เธอแจ้งให้จัดกระเป๋าและมาที่ประตูเพื่อชำระค่าบัตรผ่านประตูภายในสามวัน

ซูเถารีบเริ่มทำความสะอาดครั้งใหญ่

ตอนนี้มีห้องมากขึ้น ก็มีพื้นที่ส่วนกลางที่เธอต้องทำความสะอาดมากขึ้น กว่าเธอจะทำความสะอาดทั้งหมดเสร็จก็เวลาคล้อยบ่ายแล้ว หลังของเธอปวดร้าวไปหมด

ซูเถาเคยมีความคิดที่จะจ้างคนมาทำความสะอาด แต่ว่า…ลืม ๆ เรื่องนี้ไปก่อนเถอะ ตอนนี้เธอยังไม่รวย ทน ๆ ไปก่อนก็แล้วกัน

ในไม่ช้าผู้เช่ารายใหม่ก็มาถึงเขตเถาหยาง

….

สิงซูอวี่ได้รับคำสั่งจากกองทัพให้มาที่เขตเถาหยางในฐานะผู้เช่าเพื่อสังเกตการณ์

ตอนแรกเธอไม่ได้เต็มใจที่จะมา แต่ผู้ที่ออกคำสั่งเป็นปู่ของเธอและเป็นผู้บังคับบัญชาของเธอด้วย เขาถือว่าเป็นบุคคลที่น่าเคารพนับถือมากที่สุดในฐานตงหยาง

เธอเคยอาศัยอยู่ในอาคารขนาดเล็กสองห้องนอนกับพ่อแม่ของเธออย่างสุขสบายดี แต่เธอกลับต้องแบกกระเป๋าไปอาศัยอยู่ในหอพักรวม

สิงซูอวี่กรอกแบบฟอร์มข้อมูลอย่างไม่เต็มใจ โดยหวังว่าเถาหยางจะไม่เลือกเธอและปล่อยให้โอกาสอันมีค่าดังกล่าวมอบให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยคนอื่น

แต่ใครจะรู้ว่าเธอจะ ‘โชคดี’ เหลือเกินที่ได้รับเลือก

ภายใต้การจ้องมองอย่างเข้มงวดของคุณปู่ เธอต้องลากกระเป๋าไปที่ ‘บ้านใหม่’ เพื่อรายงานตัว

ทันทีที่มาถึงประตู ก็เห็นกำแพงสูงทึบด้านนอกที่มีความสูงอย่างน้อย 3 เมตร หากไม่สามารถบินได้ก็คงไม่มีทางเข้าไปได้

ความปลอดภัยนี้…ก็พอใช้ได้

ในเวลานี้มีคนหกหรือเจ็ดคนมารวมตัวกันที่ประตู ทั้งผู้ชาย ผู้หญิงและเด็ก ยกเว้นสิงซูอวี่ ทุกคนแนะนำตัวและพูดคุยกันอย่างมีความสุข และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านล่วงหน้า

“ว่าไม่ได้นะ มองไปที่รั้วไฟฟ้าของเถาหยางสิมันดีจริง ๆ ปกติแล้วที่ตงหยางจะมีแค่ที่อยู่ของคนรวยและผู้มีอำนาจเท่านั้นที่มีรั้วไฟฟ้า คนธรรมดาอย่างเราไม่มีอะไรแบบนี้หรอก” หลูเทา ชายคนหนึ่งในบรรดาคู่หนุ่มสาวเป็นคนร่าเริงและช่างพูดกล่าว

ภรรยาของเขาพยักหน้าเห็นด้วย มองไปที่เถาหยางด้วยสายตาที่โหยหาชีวิตในอนาคต

จากนั้นคุณป้าวัย 50 ปีก็พูดด้วยอารมณ์สะเทือนใจ

“ใช่ เหตุผลหลักคือค่าเช่าไม่แพง ฉันเคยอาศัยอยู่กับลูกสาวและลูกเขยของฉัน ค่าเช่าบ้านขนาด 30 ตารางเมตรต่อเดือนอยู่ที่ 20,000 เหลียนปังแล้วก็ต้องมีคะแนนสมทบด้วย ลูกเขยคิดว่าคนแก่อย่างฉันไปเบียดเบียนที่อยู่อาศัยของครอบครัวเขา เลยอยากให้ฉันออกไปอยู่ตามลำพัง คงคิดว่าฉันอยากอยู่กับพวกเขามากมั้ง แต่เป็นเพราะฉันหาบ้านที่เหมาะสมไม่ได้…”

คนส่วนใหญ่ล้วนประสบพบเจอปัญหาแบบนี้เช่นกัน

ทุกคนไม่สามารถหาบ้านที่เหมาะสมหรือแม้กระทั่งบ้านที่สามารถอยู่อาศัยได้ ตอนนี้รู้สึกขอบคุณมากที่ได้อาศัยอยู่ในบ้านที่ดีเช่นนี้ในเถาหยาง

สิงซูอวี่ยังคงเงียบ แต่คิดในใจว่าคนเหล่านี้ดูไม่เลวและพวกเขาคงต้องมีรายได้ที่ดีแน่

แต่พวกเขาไม่สามารถหาบ้านที่จะอยู่ในตงหยางได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีสภาพความเป็นอยู่แบบไหน ที่ตงหยางอิ่มตัวมากเกินไปและการจัดการก็วุ่นวายมากขึ้นเรื่อย ๆ

ดังนั้นเถาหยางนี้จึงเป็นเครื่องมือที่ดีในการบรรเทาความตึงเครียดทางบกในตงหยาง

หลูเทาพูดว่า “โอ้ มีแม่บ้านอัจฉริยะด้วย ฮ่าฮ่าฮ่า ค่าเช่าก็คุ้มค่า”

สิงซูอวี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย อืม..มันก็ดูมีระดับอยู่นะ

หลังจากเข้าไปในห้องโถง สิงซูอวี่ก็เห็นโซฟาใหม่ที่สะอาดเอี่ยมอ่อง โต๊ะกาแฟกระจก และแม้แต่ทีวี LCD จอใหญ่

อืม… พื้นที่ส่วนกลางก็ดูสบาย

เธอสงสัยว่าเจ้าของอสังหาฯ ไปพบเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ใหม่เอี่ยมเช่นนี้ได้จากที่ไหน

หลังจากช่วงเวลาก้าวเข้าสู่ยุควันสิ้นโลก อุตสาหกรรมจำนวนมากได้หยุดการผลิต และยิ่งยากที่จะเห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในอีก 20 ปีต่อมา

แม้แต่เฟอร์นิเจอร์ในบ้านของเธอก็ยังถูกขุดออกมาจากซากปรักหักพังแล้วนำมาทำความสะอาดใหม่ แม้จะดูสะอาดแต่ก็ยังมีร่องรอยของความเก่า

“ยินดีต้อนรับทุกคน ฉันชื่อซูเถาเป็นเจ้าของที่เขตเถาหยางนี้ นี่คือสัญญาเช่า พวกคุณสามารถดูก่อนได้”

สิงซูอวี่รู้สึกประหลาดใจเมื่อเธอรับสัญญามาจากซูเถา

เดิมทีเธอคิดว่าเจ้าของเถาหยางเป็นผู้สูงอายุหรือคนวัยกลางคน ไม่คิดว่าจะหญิงสาวอายุน้อยขนาดนี้ เธอดูเหมือนจะยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ

สิงซูอวี่รู้สึกสับสนเล็กน้อย คุณปู่ไม่ได้บอกว่าเจ้าของเถาหยางมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งเหรอ?

ซูเถาเห็นใบหน้าที่งุนงงของเธอ จึงเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง “สวัสดีค่ะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ”

สิงซูอวี่ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว คิดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังซูเถาอาจมีพลังมากและซูเถาเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกผลักดันให้ทำงาน

ซูเถายิ้มอย่างเป็นมิตรและพูดกับผู้เช่าทุกคน

“หากพวกคุณมีคำถามอะไร สามารถถามฉันได้ ปกติฉันอาศัยอยู่ที่นี่และห้องของฉันอยู่ตรงนั้น หลังจากนี้ฉันจะบอกตำแหน่งและสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานของห้องพักให้พวกคุณตามลำดับ”

หลังจากอ่านข้อตกลง สิงซูอวี่พยักหน้าพึงพอใจ ที่เถาหยางมีการจัดการที่ค่อนข้างดี ตัวอย่างเช่น สัญญาไม่อนุญาตให้ใช้พลังวิเศษเพื่อสร้างความโกลาหล ไม่อนุญาตให้ขโมยของและไม่อนุญาตให้ทะเลาะวิวาทหรือต่อสู้กัน

หากต้องการพาคนนอกเข้ามาต้องลงทะเบียนที่ประตู ผู้ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษและหากทำผิดเกิน 3 ครั้งจะถูกไล่ออกจากเขตเถาหยาง

สัญญานี้รับประกันความปลอดภัยส่วนบุคคลและทรัพย์สินของผู้เช่าส่วนใหญ่ในระดับหนึ่ง และง่ายต่อการกำหนดมาตรฐานการจัดการ

สิงซูอวี่รู้สึกดีขึ้น

“เอาล่ะ ทุกคน หลังจากดูเสร็จแล้วก็ตามฉันมา ก่อนอื่นฉันขอแนะนำว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนกลาง พวกคุณสามารถมาพูดคุยแลกเปลี่ยนได้ที่นี่ ทีวีเปิดตลอด 24 ชั่วโมงและนั่นเป็นเครื่องทำน้ำดื่มและดื่มได้ฟรีด้วย”