หลังจาากทานอาหารกลางวันเสร็จ พวกเราก็จะตัดสินใตที่จะนั่งพักตรงนี้อีกหน่อย เนื่องจากมันเงียบและร่มรื่นมากๆ
พวกเราตกลงกันได้โดยที่ไม่ต้องพูดด้วยซ้ำ
พูดถึงเรื่องข้าวกล่อง ผมรู้สึกมีความสุขมากที่ได้รู้ว่าชิมิซุซังเอาแซนด์วิชมาให้พวกเราด้วย
พวกเราทุกคนเอาอาหารของตัวเองมาอยู่แล้ว แต่พวกเราก็ดีใจกับความใจกว้างของชิมิซุซัง พวกเราจึงกินแซนด์วิชของเธอย่างมือสุขใจ
ด้วยเหตุนี้แม้ว่าผมกับทาคายูกิจะอิ่มมากจนจุก แต่การได้เห็นรอยยิ้มของชิมิซุซังนั้นก็นับว่าคุ้มค่าแล้วล่ะ
กลับกันซาเองุสะซังมองไปที่ชิมิซุซังด้วยใบหน้าราวกับวันสิ้นโลก เธอจึงคีบลูกชิ้นยื่นมาให้ผมด้วยมือสั่นๆ
ผมจะพยายามไม่ขำก็แล้วกัน ก่อนที่จะผมจะเอาไข่เจียวขึ้นหนึ่งให้กับเธอเพื่อแลกกับลูกชิ้น
ซาเองุสะนิ่งค้างไปสักพักก่อนจะกล่าวขึ้น “นายให้ฉันงั้นเหรอ!” แล้วเธอก็ยิ้มออกมาอย่างเบ่งบาน
ไอดอลสุดสวยซึ่งผมเคยได้แต่ชมเธอบนทีวีตอนนี้กำลังทานไข่เจียวที่ผมให้ไปอย่างอารมณ์ดีสุดๆ
“ทาคุยะวันนี้นายทำงานมั้ย?”
“ไม่อะ ทำไมเหรอ?”
ทาคายูกิกล่าวถามผมขณะที่นั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้
เนื่องจากผมต้องมาทัศนศึกษาผมจึงได้ลางานในวันนี้
“เพราะว่าฉันมาทัศนศึกษาก็เลยไม่มีกิจกรรมชมรมวันนี้น่ะ พวกเราไปคาราโอเกะกันมะ?”
“คาราโอเกะเหรอ? อืม….ถ้านายไปฉันก็ไป”
แคร๊ก!
เมื่อผมตอบตกลงคำชวนของทาคายูกิเสียงบางอย่างหักก็ดังขึ้นข้างๆ
ผม ทาคายูกิและขิมิซุซังกันไปมองต้นเสียงอย่างตกใจ ซึ่งมันก็คือเสียงกิ่งไม้ในมือของซาเองงุสะซังที่หักคามือเธอ
“เอิ่ม ซาเองุสะซัง?”
“อะไรเหรอ? โอ๊ะขอโทษด้วย! ฉันเผลอทำกิ่งไม้หักน่ะ!”
แล้วคุณทำไปเพื่ออะไรล่ะครับ?
ซาเองุสะซังยังคงทำตัวน่าสงสัยขณะที่เธอกล่าวขอโทษพร้อมใบหน้าขวยเขิน
“ฉันไม่เคยไปคาราโอเกะมาก่อนเลยค่ะ…..”
คราวนี้ชิมิซุซังกล่าวเสียงเบา
“อะไรนะครับ? คุณไม่เคยไปเลยเหรอครับ?”
“ค-ค่ะ…..”
“เข้าใจแล้วครับ งั้นอยากจะไปกับพวกเรามั้ยครับ?”
ทาคายูกิกล่าวชวนชิมิซุซังที่ยังคงก้มหน้าอยู่ เธอรู้สึกแปลกใจกับคำชวนซาเองุสะซังก็เหมือนกัน
“จะดีเหรอคะ?”
“แน่นอนครับ! ไปกับพวกเรามันน่าจะดีกว่าไปกับคนอื่นๆใช่มั้ยล่ะครับ?”
“ง-งั้นฉันไป…..ลองดูก็ได้ค่ะ…..”
ผมรู้ว่าคุณคงมีความสุขที่ได้เห็นผมใจเต้นอยู่คนเดียวล่ะสิ
เมื่อได้ยินโน้มน้าวของทาคายูกิ ดูเหมือนเธอจะยอมมากับพวกเราแล้ว แม้ว่าจะยังดูลนลานก็ตาม
ทันใดนั้นผมก็รู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมาได้ ซึ่งก็คือซาเองุสะซังเบิกตาโตจ้องมาที่ผมราวกับพยายามจะบอกอะไรสักอย่าง
ผมรู้ได้ทันทีว่าเธอต้องการสื่ออะไร
—เอาฉันไปด้วยสิ!
ใช่ครับขณะที่พวกเรากำลังคุยถึงเรื่องคาราโอเกะนั้น ทำให้ซาเองุสะซังถูกทิ้งไว้อยู่คนเดียว
ผมจึงเอ่ยชวนด้วยรอยยิ้ม
“ซาเองุสะซังถ้าคุณอยากจะ…….”
“ฉันไปด้วย! ฉันไปด้วย! ฉันไปด้วย!”
ก่อนที่ผมจะกล่าวจบเธอก็ยกมือขึ้นแล้วกล่าวตอบมารัวๆเสียก่อน
ผมรู้สึกตลกจนอดไม่ได้จะถามเธอต่ออีกหน่อย
“แน่ใจเหรอครับ? งั้นคุณช่วยร้องเพลง ” Your own personal servent” ให้ผมได้มั้ยครับ?”
“ได้เลย! ฉันจะร้องให้นายฟังโดยเฉพาะเลย!”
หลังจากเธอตอบคำถามของผม ดูเหมือนเธอจะเพิ่งรู้สึกตัวสินะ
“Your own personal servant”
คือซิงเกิ้ลที่สามของ Angel Girls ที่มีธีมหลักเป็นสาวเมดชุดเดียวกับที่เธอถ่ายให้ผมดูเมื่อวันก่อน
แล้วดูเหมือนว่าซาเองุสะซังจะจำเรื่องเมื่อวันก่อนได้ หน้าของเธอถึงได้กลายเป็นสีแดงและกล่าวว่า “ฉันจะร้องจริงๆนะ”
สมาชิกกลุ่มอีกสองคนหัวเราะออกมากับการสนทนาของพวกเราแม้จะไม่รู้ว่าพวกผมพูดเรื่องอะไรกันอยู่ก็ตาม
ซาเองุสะหันไปมองคนอื่นๆด้วยท่าทางที่สับสนก่อนที่พวกเราจะหัวเราะกันออกมา